คนเราบริโภคอาหารอยู่ 5 กลุ่ม ไม่ว่าจะกินอะไร ก็อยู่ในกลุ่มทั้ง 5 นั้น และที่เราไม่ค่อยจะสนใจก็คือว่าอาหารนั้นจะให้ไวตามิน หรือ มีส่วนดีที่ร่างกายต้องการเอาไปใช้งานอย่างถูกวัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็นหรือไม่ เราจึงประหลาดใจบางทีว่า ทำไมคนนี้ถึงมีพุงกลมใหญ่ ทำไมคนนั้นถึงมีกระดูกอยู่นอกเนื้อ ก็น่าจะสนใจต้นตอของสิ่งที่บริโภคเข้าสู่ร่างกายแต่ละคน ทั่วไปแล้ว Dr.Joe Fuhrman เคยพูดถึงสรรพนามของอาหาร 5 กลุ่ม เรียกว่า G Bombs ได้แก่ Greens, Beans, Mushrooms, Meats, Seeds, ตัว O หมายถึง oils ซึ่งเมื่อบริโภคแล้ว อาจสร้างพลังชีวิต กับ พลังลมปราณชีวิต เรียกว่า Mechanical Life Force และ Breathing Meditative Force คำว่า ชีวิต ดำรงอยู่ได้ด้วยการบริโภคอาหาร ที่ง่ายๆ ก็รู้กันว่า มี 5 กลุ่ม ส่วน ไวตามิน มีความจำเป็นหรือไม่ ดี หรือ ไม่ดี ตรงไหน
ชีวิตสมัยยังเด็กของ Dr.Gayloard Hauser ผู้มีชื่อเสียงด้านการบริโภคและการค้นคว้าเกี่ยวกับระบบปัสสาวะ ตอนเป็นเด็ก เคยอยู่ในโรงพยาบาลที่ชิคาโกเป็นเวลานาน เกือบตายเพราะปัญหากระดูกสะโพกเรียกว่า tubercular hip คือเซลล์กระดูกสะโพกขาดประสิทธิภาพในการสร้างเซลล์ใหม่ให้แข็งแรงเป็นปกติ ต้องผ่านการผ่าตัดและการฉีดยานับไม่ถ้วน แพทย์หมดทางรักษาและส่งตัวเขากลับบ้าน ที่อยู่แถบภูเขาสวิสส์ ให้ผู้ปกครองดูแลเด็กชายกันเอง มีชายชราคนหนึ่ง กล่าวแก่ครอบครัวของเขาว่า only living foods can make a living body หมายถึงสิ่งมีชีวิตเท่านั้นจะจรรโลงชีวิตร่ายกายได้ ชายชราผู้นั้นไม่มีความรู้เรื่องไวตามิน แร่ธาตุ โปรตีน หรืออาหารบำรุงที่เรียกว่า nutrients อะไรเลย เมื่อเด็กชายฟังแล้วก็ปฏิบัติตามโดยหนักไปในการบริโภคผักสดผลไม้สดปริมาณมาก คำพูดประโยคนั้น เด็กชายปฏิบัติตามและสามารถรอดชีวิตอยู่ได้จนสำเร็จการศึกษาและมีชื่อเสียงด้านการค้นคว้าเกี่ยวกับระบบปัสสาวะ ดร.เฮาเซอร์ในวัย 90 ปี ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีราบรื่นแข็งแรงที่ภูเขาสวิสเซอร์แลนด์ นับว่าเป็นตัวอย่างอันหนึ่งในการทำนุบำรุงสุขภาพร่างกายด้วยสิ่งที่ดำรงชีวิตมาก่อน ดร.เฮาเซอร์ พูดถึง brewer’s yeast หรือ ยีสต์ที่ใช้หมักเหล้า ว่า มีไวตามินถึง 17 ชนิด เช่นกลุ่มไวตามินบีทั้งหมด กลุ่มโปรตีนอะมิโนแอซิด 16 อย่าง แร่ธาตุ 14 อย่าง และสิ่งที่สำคัญอื่นๆ เช่น มี โปรตีน 36% ในเนื้อวัวมีโปรตีนแค่ 23% ทั้งนี้ วัดจากปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือ 8 กรัม หรือ 22 แคลอรี่
ชาวบุลกาเรียและชาติอื่นยอมรับว่า โยเกิร์ตเป็นอาหารที่ดีสำหรับช่วยให้อายุยืน โยเกิร์ต 1 ถ้วย ประกอบด้วย นม ที่จะให้พลังงาน 7% โปรตีน 17% นอกนั้นเป็นแคลเซี่ยม 50% อีก 30% เป็นไวตามินบี 2 หรือ ริโบฟลาวินที่เพียงพอสำหรับบำรุงร่างกายประจำวัน จากการทดสอบพบว่า เด็กที่บริโภคโยเกิร์ตเติบโตดี ถ้าคุณต้องการให้เด็กมีร่างกายแข็งแรงก็ลองพิจารณาผลการทดสอบในอดีตนี้ ถ้าเด็กมีร่างกายเติบใหญ่เกินไปก็ควรหลีกเลี่ยงเสีย
อีกอย่างคือ wheat germ ชนิดผง ที่เขาให้หมักสุราหรือเบียร์ มีไวตามิน บี 1 บี 2 บี 6 กับไนอะซิน เพียงครึ่งถ้วยสำหรับเติมซีเรียลร้อนหรือเย็น จะส่งเสริมการสร้างโปรตีน มีไวตามิน อี ซึ่งจะช่วยบำบัดอาหารของหัวใจไม่ปกติ ใช้ชนิดไม่ปรุงสุกจะดีที่สุด และเก็บไว้ในตู้เย็นเมื่อเปิดฝาแล้ว
ไขมันบางทีก็ได้รับกาต่อต้าน แต่เลี่ยงไปใช้ชนิดน้ำมันจากพืชแทน จะช่วยป้อนพลังงานให้กับการเคลื่อนไหวร่างกาย ดร.เกย์ลอร์ด เฮาเซอร์ กล่าวว่า อาหารที่มีไขมันบ้างจะช่วยรักษาพลังงาน เพราะย่อยช้ากว่าอย่างอื่นและดูดซึมช้ากว่าอาหารทั่วไป ซึ่งดีสำหรับคนต้องการดูแลน้ำหนักตัว เพราะกระเพาะทำงานย่อยช้ากว่าอย่างอื่น
นมผงไม่มีไขมันสัตว์และมีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่าง ทั้งโปรตีน แคลเซี่ยม ริโบฟลาวินหรือไวตามิน บี 2 อาจจใช้ผสมกับเครื่องดื่ม หรือแป้งทำขนม นมผงสำเร็จรูปบางชนิดอาจมีส่วนประกอบที่แพทย์ไม่แนะนำให้ใช้เพราะอาจก่อให้เกิดเสมหะ คนไข้บางคนที่แพทย์ห้ามดื่มนมผง และหันไปบริโภคผักผลไม้สดจะดีกว่า
อาหารอีกอย่างเรียกว่า เลซิทิน Lecithin (Linoleic acid) ซึ่งบางทีมีความสำคัญต่อร่างกาย เพราะถ้าขาดสารนี้ จะก่อให้เกิดการรั่วของเซลล์และเซลล์มีชีวิตไม่ได้ เลซิทินสร้าง myelin คือโปรตีนไขมันที่จะห่อหุ้มประสาทของร่างกาย รวมทั้งข้อไขสันหลัง ถ้าบกพร่องจะสร้างความเสียหายแก่แผ่นที่ห่อหุ้มประสาทหรือไขข้อกระดูกสันหลังในที่สุดจะส่งผลต่อประสาทไม่ปกติหรือส่งผลสู่อาการง่อย และอาจเป็นช่องทางว่าโรค atherosclerosis มาจากปริมาณของเลซิทินตกต่ำ
บางที อาการที่เกิดกับระดับอายุต่างๆกัน เช่น สูญเสียความจำ เมื่อให้เลซิทินปริมาณ 30 กรัม ความทรงจำดีขึ้นเกือบ 25% และอีกในกรณีหนึ่ง ควรรับประทานแคลเซี่ยม เพื่อปรับความสมดุลของฟอสฟอรัสมากเกินไปในเลซิทิน
ไวตามิน เอ วินิจฉัยโดย Dale Alexander ว่า ถ้ามีผิวหนัง แสดงว่าขาดไวตามินเอ นอกจากนี้ อาจมีความแห้งตลอดทั่วไปในร่างกายด้วย เพราะเมื่อมีปัญหาสุขภาพจะแสดงออกที่ผิวก่อนอื่น วิธีบริโภคให้ได้ไวตามินเอ เช่น น้ำมันตับปลาคอต จะบำรุงทุกส่วนภายในร่างกาย หรือ วิธีง่ายๆ ก็ บริโภคนมบ้างเล็กน้อย หรือ น้ำส้มคั้น ก็ได้ ดื่มก่อนอาหารสักหนึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหารสัก 4 ชั่วโมง น้ำมันตับปลาคอตจะเสริมไวตามินดี วิธีบริโภคน้ำมันตับปลาคอต เนื่องจากรสชาติไม่ชวนบริโภค ก็หาซื้อชนิดที่เขาปรุงแต่รสพอจะบริโภคได้ ขอให้แน่ใจว่ามีความสด และเก็บไว้ในตู้เย็นหลังจากเปิดแล้ว
ไวตามินซี นับว่ามีสรรพคุณบำรุงสุขภาพมากมาย บำบัดเกือบจะทุกโรค รวมทั้ง โรคหัวใจ สโตร้ค และการปวดตามข้อ และป้องกันรักษาโรคหวัด โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนฤดูเป็นความชื้น จากความเย็นและฝน ไวตามินซี สามารถบำบัดโรคทางเดินหลอดลม ซึ่งญาติของบางคนต้องอยู่โรงพยาบาลเป็นสัปดาห์เพราะอาการป่วยตอนเริ่มฤดูหนาว ไวตามินซีสามารถใช้ได้เมื่ออากาศเริ่มเปลี่ยนเป็นความเย็นและชื้น หลังจากที่ทุกคนเริ่มเชื่อ ก็ไม่มีใครต้องเข้าโรงพยาบาลอีก Mildred Carter ผู้เขียนหนังสือ Healing with Your Fingertip, Body Reflexology ใช้วิธีทำให้เม็ดไวตามินป่นเสียก่อนโดยบดระหว่างกระดาษสะอาด หรือซื้อชนิดที่เป็นผง ผู้เขียนนิยมบริโภคส้มหลังมื้ออาหาร นอกจากจะเป็นการล้างคอแล้ว ยังมีความเชื่อมั่นว่า ร่างกายจะสามารถต้านทานเชื้อโรคหรือไวรัสได้บ้างเป็นนิจสิน และหลังจากพบว่ามีอาการเจ็บตรงหัวใจ ก็รับประทานแคลเซี่ยมเม็ดหลังอาหารเย็น อาการเจ็บหัวใจก็สลายไป ยังมีอยู่ก็คือ การเดินเหินไม่แข็งแรง อาจล้มได้ง่ายไม่ว่าจะไปข้างหน้าหรือหงายหลัง ต้องมีความระมัดระวังเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ
นอกจากนี้ กระเทียมก็มีสรรพคุณที่ไม่ควรมองข้าม ได้รับสมญาว่าเป็นพืชมหัศจรรย์ ใช้กันมานับพันปี ในหลากเผ่าพันธุ์ ชาวอียิปต์และฮิบรูโบราณ นับว่า กระเทียมมีคุณค่าทางอาหารอเนกอนันต์ เช่นไวตามิน เอ บี ซี และ ดี ถึงแม้เราจะได้ตามินดีจากแสงแดด แต่กระเทียมมีสารเคมีอย่างอื่นๆ สูง ที่จะไปกระตุ้นการทำงานของตับ ไต ช่วยกำจัดพยาธิในเด็กและสัตว์เลี้ยง และช่วยบำบัดอาการอักเสบของไขข้อ กระเทียมมีสาร Bioflavonoid ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อใช้ยา lecithin ซึ่งปัจจุบันเขาจะผลิตยาทั้งสองนี้ไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ ผู้ที่เสพกระเทียมสดเป็นประจำ สามารถลดระดับความดันโลหิตให้ต่ำลงได้
ไวตมินดี เราเชื่อว่ามาจากแสงแดดสังเคราะห์ หรือ จากน้ำมันตับปลาคอต เราอาจได้รับไวตามินดีจากกระเทียมสดด้วย