สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ความดี 5 อย่างของชีวิต (2)

หน้านี้ดอกซากุระบาน เห็นในทีวีคนไปเดินถ่ายรูปสองข้างทางที่มีต้นซากุระกำลังออกดอกสะพรั่งเต็มสองฟากถนน ผู้เขียนก็มีดอกซากุระสดกำลังบานสะพรั่งอยู่ในแจกันบนโต๊ะอาหาร เมื่อก้มลงสูดดมทีไร ก็มีความสุขเมื่อนั้น เพราะดอกซากุระหอมอ่อนๆรวยริน จากปลายจมูก ส่งไปถึงสมอง ให้เกิดความสุขและซาบซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย แตกต่างกับกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ ซึ่งกลิ่นแรงกว่า กระทบจมูกแรงกว่า ไม่ระรวยกลิ่นสู่สมองเหมือนกับกลิ่นของดอกซากุระ ความสุขไม่ระรวยแบบกลิ่นหอมของดอกซากุระ ซึ่งหอมระรื่มก่อให้เกิดความสุนทรีย์ถึงสมองและซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย คิดถึงคำพูดที่เขาว่า ความสุขเกิดจาก 5 แหล่ง ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส สังเกตจากตอนที่เราดู มาริลีน มอนโร ปรากฏบนจอทีวีแล้วมีความสุข ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็มีเสน่ห์ชวนให้เกิดความสุข ใบหน้ายิ้มแย้ม แค่ขยับขา พาร่างก้าวย่าง หรือเพียงแค่รอยยิ้ม หรือร้องเพลงก็ชวนดูไปหมด ผู้หญิงคนนี้สมเป็นตัวแทนของสตรีเพศในเรื่องของเสน่ห์ แค่เห็นรูปร่างก็สร้างความสุขได้ ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ สวยเซ็กซี่มีเสน่ห์ สร้างความสุขในการได้เห็นไปทุกย่างก้าว อีกตัวอย่างหนึ่ง เวลาดูและฟัง เอลวิส เพรสลี่ย์ แค่ขยับปากร้องเพลงและขยับขา ก็สร้างความสุขในการได้เห็น ได้ยิน และได้ชื่นชมด้วยสายตา น่าฟัง น่าดู ไปเสียทุกจังหวะ เสียงก็สร้างความสุขได้เหมือนกัน เช่น เสียงของ ชรินทร์ นันทนาคร ที่หาคนอื่นแทนไม่ได้ สามารถสร้างความสุขได้ทันทีเมื่อได้ยิน อีกเสียงหนึ่งก็คือเสียงของ รวงทอง ทองลั่นทม คนที่ชอบ คนที่ชอบฟังเสียงของเธอจะรู้เองว่าเกิดความสุขจากการได้ยินเท่านั้น ไม่ต้องให้ครบทั้ง 5 อย่าง คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ก็สร้างความสุขได้

คุณเคยคิดอยากกินอะไร เมื่อได้กิน กำลังเคี้ยว ก็มีความสุขแล้ว นี่คือ ความสุขจากรส ถึงแม้จะทำอาหารไม่เป็น ปรุงไม่ถูก แต่กินแล้วก็สร้างความสุข เพราะอยากกิน ผู้เขียนทำอาหารไม่เป็น อยากกินแกงเขียวหวาน ก็ต้มน้ำกลั่นในกระทะแล้วใบเล็กประมาณ 6 นิ้ว พอเดือดก็ใส่ลูกชิ้นปลา ปลาแซลมอน กุ้งปอกเปลือกแล้ว แช่แข็งไว้ก็ต้องใส่ก่อน แล้วจึงใส่น้ำพริกแกงเขียวหวาน ใส่กะทิผงลงไป คะเนว่าหายแข็งแล้วก็น้ำปลาซีอิ้วเห็ดหอม และฝานน้ำตาลมะพร้าวจากปึกด้วยใบมีดลงไปคะเนให้รสดี แล้วใส่ถั่วแขกยาว 2 นิ้ว ชื่อถั่วอะไรลืมไปแล้ว จากนั้นจึงเติมผักต่างๆ ที่ชอบและมีอยู่ จะได้ไม่เละ กินกับข้าวผัดที่ใส่ไข่ ใส่ถั่วสปลิทพี กับแครอท อร่อยเหาะเลยเชียว เรียกว่า สุขจากการกินแกงเขียวหวาน เมื่อเขามาวัดความดันโลหิต 105/60 ก็กังวลเหมือนกันว่าถ้ามันต่ำเกินไป ไม่เดินไปถึงหัวใจก็จอดแน่

ความสุขจากการสัมผัส ถ้าไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ด้วย ก็หาทางสัมผัสสิ่งมีชีวิตอะไรสักอย่าง เช่นต้นไม้ใบหญ้า แต่มีเจ้าบีบี้ เขาจะมานอนข้างซอกแขน เอาเท้าหน้านวดแขนให้เรา พอเห็นเราหลับเขาก็ไปนอนปลายเท้าหรือนอนที่เตียงเขา เป็นการสัมผัสที่ได้ผลในการสร้างความสุขได้ดีอย่างหนึ่ง หรือมิฉะนั้น ก็นวดมือด้วยหัวแม่มืออีกข้าง เริ่มต้นจากข้อมือ ขยับหัวแม่มือไปตามทางสู่นิ้วหัวแม่มือ แล้วกลับมาเริ่มกดใหม่ จากข้อมือ กดแล้วขยับไปสู่กลางนิ้วชี้ แล้วกลับมาเริ่มที่ฐานข้อมืออีก กดแล้วขยับเรื่อยไปถึงกลางนิ้วกลาง แล้วเริ่มใหม่กดเลื่อนหัวแม่มือมาเริ่มกดจากฐานข้อมือแล้วขยับไปถึงกลางนิ้วนาง แล้วเลื่อนหัวแม่มือมาเริ่มกดจากฐานข้อมือแล้วเดินไปถึงกลางนิ้วก้อย เมื่อครบการกดทุกนิ้วแล้ว ก็ให้เลื่อนหัวแม่มือมาเริ่มกดฝ่ามือ ระหว่างเส้นวาสนากับเส้นหัวใจ เมื่อกดพร้อมการสูดหายใจเข้ายาวเต็มปอด แล้วยกหัวแม่มือขึ้นพร้อมหายใจออกยาวนับ 1 2 3 4 5 6 7 8 ช้าๆ เพื่อระบายลมออกจากปอดให้หมด ก่อนหายใจเข้าเต็มปอดอีก แล้วหายใจออกช้าๆ นับถึง 8 อีกเรียกว่า ทำ 3 ครั้ง เพื่อบริหารปอด ช่วยให้มีอากาศหมุนเวียนในระหว่างนอนหลับได้ดี หลับสบาย หลับยาว

เรามีหนทางสู่ความสุขแล้ว คือ 1.จากรูป เช่น ดู มาริลีน มอนโร หรือรูปภาพที่เรารักเช่นรูปหมาแมวหรือแฟน 2.จาก รส คือกินของที่อยากกินสมใจอยากแล้ว 3.จากกลิ่น คือการดมดอกไม้หอม หรือใส่น้ำหอมประพรมบนหมอน 4.จากเสียงคือการฟังเพลงคนที่ชอบ เช่น เอลวิส เพรสลีย์ หรือ ชรินทร์ นันทนาคร หรือ รวงทอง ทองลั่นทม 5.จากสัมผัส คือการนวดมือ แล้วทำจิตสงบ ให้หลับอย่างเป็นสุข เต็มเวลาที่ต้องการ

อย่าลืมว่า ร่างกายของเรา ต้องมีการบำรุงร่างกาย ด้วยอาหารที่มีคุณค่าต่อเซลล์ เพื่อให้เซลล์สื่อสารกันได้ในขณะที่เราไม่ทำงาน ร่างกายภายในทำงาน ทั้งจิต และอวัยวะ การบริโภคอาหาร การพักผ่อนนอนหลับการคิดในระบบประสาท และการออกกำลังกล้ามเนื้อ เป็นส่วนสัมพันธ์กันของความสุขทั้ง 5 ประการดังกล่าว ความรู้เรื่องสุขภาพเป็นความรู้พื้นฐานของความสัมพันธ์ภายใน จะมีสุขภาพร่างกายดี อาศัยบำรุงด้วยอาหารดี มีจิตความคิดดี มีความสุข หมั่นดูแลสุขภาพ วัดความดันโลหิต ระดับปกติ อยู่ระหว่าง 120/80 ความดันโลหิตของผู้เขียนวันนี้ อยู่ที่ 105/60 ก็ไม่พอในนัก แต่ก็ยังดีกว่าสูงกว่าระดับปกติ

การทำจิตของเราให้มีความสุข เป็นกิจวัตรที่มองข้ามไม่ได้ หลักง่ายๆ ของผู้เขียนก็คือ เมื่อเห็นสิ่งรอบตัวมีความสุข เราก็เป็นสุขไปด้วย สิ่งรอบตัว ได้แก่ คน สัตว์ ต้นไม้ ภายถ่าย ของประดับ ตุ๊กตา หรืออ่านหนังสือที่ก่อให้เกิดความสุขได้ เช่น วิทยาการ หลักธรรม ที่สำคัญ เห็นจะได้แก่เรื่องของการทำจิตว่าง เพราะภาวะจิตว่าง สามารถส่งถึงหรือติดต่อกับบุคคลที่อยู่ไกล หรือ สิ้นชีวิตไปแล้วได้ ดังเช่น ที่ผู้เขียนเคยประสบว่าคนเคยรู้จักที่กลับไปอยู่เมืองไทย ไม่นาน ญาติเขาส่งข่าวมาบอกการเสียชีวิต ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่ผู้เขียนคิดถึงเธออยู่พอดี ว่าหายเงียบไป

ฉะนั้น การทำงานของจิตเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะกินอะไร จะทำอะไร ถ้าภาวะจิตไม่มีความสงบสุข จะไม่สามารถดำรงสุขภาพอันดีได้ ทั้งจิต และร่างกาย ดังเช่น ในกรณีที่ผู้เขียนกำลังทำสมาธิ เรียกว่า จิตไม่คิดอะไร สามารถเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำลังทรงพระดำเนินอยู่ โดยพระบาทกำลังก้าวย่าง และพระหัตถ์เคลื่อนตามจังหวะก้าวของพระบาท เป็นการเห็นในภาวะที่จิตไม่คิดอะไร คือสมาธิจิตว่าง ที่เรียกว่าเป็นจริงตามที่เห็น ก็เพราะชายพระจีวรโบกพริ้วตามสายลม

เรื่องจิต เป็นเรื่องธรรมชาติ เกินการบังคับบัญชาของความคิด เราอาจได้ยินคำว่า จิตสัมผัส ส่งถึงกันได้ระหว่างบุคคล 2 คน หรือ เราอยากได้อะไร แล้วก็ได้กินตามที่อยาก เพราะอะไร ลองคิดดู ว่าจะทำจิตให้มีความสุขเป็นพื้นฐานก่อนได้หรือไม่ แล้วจะรู้ผลที่ตามมา อย่างน้อย ก็มีความสุขพื้นฐาน 5 ประการไว้ก่อน จาก รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส