สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ขี้ลืมหรือ-ลืมมันไปเลย

คำพูดโดนใจผู้เขียนที่สุดสัปดาห์นี้คือ Forgetful-Forget about it. มาจาก ดร.สตีเวน มาสเล่ย์ ที่เป็นทั้งแพทย์ นักโภชนาการ และบำบัดทางจิตวิทยา บรรยายปาฐกถาชื่อว่า Better Brain Solution ทางโทรทัศน์ช่อง 28-1 หรือ -2 หรือ -3 จำไม่ได้ นี่คือจุดอ่อนที่ผู้เขียนเริ่มเป็น ยิ่งกินยา ก็ยิ่งวิงเวียน เลยลืมกิน ชนิดที่ว่าเดินไปหยิบของแล้วลืมว่าจะมาหยิบอะไร วิธีง่ายๆ ที่จะแก้เริ่มต้นที่อาหาร ยิ่งอาหารไทยด้วยแล้ว ต้อมตามด้วยของหวานทุกทีเพราะมันเผ็ด ลืมของหวานไปได้เลย เพราะน้ำตาลเป็นต้นเหตุให้ความจำเสื่อม ยิ่งเป็นน้ำตาลกับแป้งด้วยแล้ว ยิ่งเป็นต้นเหตุของความแก่ด้วย

อาหารเริ่มต้นที่สลัด 5 สี ประกอบด้วยผักและผลไม้สีเขียว แดง ขาว ม่วง ส้ม เพื่อให้ได้ไวตามินและแร่ธาตุมากขึ้นตามวิธีของแสงแดดที่เรียกว่า phyto phoresis จากธรรมชาติ เช่นผักเคล สปนนาช อารูกูล่า ซึ่งมีสองพันธุ์คือเขียวและม่วง ผักกะหล่ำปลีมีสีขาว และม่วง ซึ่งไม่สนับสนุนให้กินดิบแบบสลัด เพราะได้ความว่าหากเข้าไปผสมกับน้ำย่อยของเราแล้วมีสิทธิ์เปลี่ยนเป็นสารคล้ายไซยาไนด์ จริงหรือเท็จต้องถามผู้ที่ทดลองดู เคยมีลูกศิษย์กำยำแข็งแรงปั่นหัวกะหล่ำปลีดื่มแล้วปวดหัวมาก นั่นเป็นเพียงข้อสนับสนุนคนหนึ่ง หากทำให้กะหล่ำปลีสุกเสียก่อนรสจะหวานขึ้นและไกลจากความเสี่ยงด้วย นอกจากนี้สลัดผักสดควรใส่แอปเปิลเอาแต่เนื้อขาว มะเขือเทศเอาเม็ดออก และแครอทหั่นฝอยยาว นายแพทย์สตีเวน บอกว่าผักผลไม้สีม่วงและแดงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง สรุปได้ว่า คนที่หลงลืมไม่ควรขาดผักผลไม้สด มิน่าล่ะ กินแล้วมีความสุข

เรื่องการปรุงอาหารประจำวัน ผู้เขียนไม่สันทัด แต่ก็แนะนำว่า ควรเลี่ยงการใช้น้ำมัน ถ้าซื้ออาหารทอดบางครั้งบางคราวถือว่าร่างกายพอจะปรับได้ ถ้าต้องทอดประจำวันก็ใช้ภาชนะที่ไม่ติดอาหารชนิดเคลือบทองแดง ห้ามให้อลูมิเนียมในการประกอบอาหารเพราะถ้าซึมในอาหารจะมีผลต่อการติดต่อระหว่างเซลล์ ควรเลี่ยงไปใช้ cooking spray ซึ่งผลิตมาจากน้ำมันพืชคาโนล่า การซึมเข้าไปในอาหารยังน้อยกว่าน้ำมัน โดยมากการปรุงอาหารทางทีวี มันใช้น้ำมันมะกอก ซึ่ง ดร.มาสเล่ย์บอกว่าช่วยลดหัวใจวาย เชื่อถือได้เพราะท่านเชี่ยวชาญด้านโภชนาการด้วย สาเหตุของหัวใจวายมาจากหลายประการ อย่างหนึ่งเพราะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ คนที่เกิดสโตร้คสาเหตุมาจากโลหิตไปเลี้ยงสมองไม่สมบูรณ์ อาจมาจากไขมันพอกตามเส้นโลหิต ทำให้การกระตุ้นทางเดินของโลหิตไม่สมบูรณ์ ไม่ว่ากล้ามเนื้อส่วนไหนถ้าทำงานไม่เต็มที่ก็อันตรายพอกัน ไม่ว่าจะไปสู่หัวใจ หรือสมอง หรือแขนขา ใบหน้าและดวงตา

หมอมาสเล่ย์พูดถึงอาหารที่ประกอบด้วยโอเมก้า-3 ที่เรารู้กันว่า Polyunsaturated fatty acids หรือไขมันไม่อิ่มตัว เป็นชนิดมีโครงสร้างเซลล์หลายชั้น นับว่าแข็งแรง เลยจัดว่าค่อยยังชั่ว ไม่ร้ายนัก เพราะเยื่อหุ้มเซลล์ช่วยส่งเสริมการติดต่อกันของเซลล์ ทำให้ไม่เกิดการแข็งตัวในเส้นโลหิต ไม่เกิดทุพพลภาพ หรือเซลล์มะเร็งเหมือน saturated fat หรือไขมันจากสัตว์ หรือเนยแข็ง

ใครจะคิดว่าอาหารที่บางคนเลี่ยง เช่น กาแฟ และชา กลับเป็นสิ่งที่หมอมาสเล่ย์พูดว่าควรดื่มวันละ 2 - 4 ถ้วยต่อวัน เพราะสารที่อยู่ในเม็ดกาแฟชื่อว่า flavonoid ช่วยการสูญเสียความจำให้ช้าลง พิสูจน์จากที่ผู้เขียนไม่ดื่มกาแฟ เลยหลงลืม ฉะนั้นอย่าโทษวัยอย่างเดียว เพราะอาหารคือสิ่งเสริมสร้างร่างกายและสมอง ถึงแม้จะดื่มชาเขียวได้ผลตอนสูงวัยบ้างก็ยังไม่ทันการ เรื่องนี้ หมอมาเล่ย์บอกว่าผู้หญิงจะได้ผลมากกว่าผู้ชาย

อาหารที่ควรเลี่ยงเรียกว่ากลุ่มที่มีความหวานและแป้งสูง เพราะจะเพิ่มน้ำตาลในเลือด ถึงแม้จะเพียงเบาหวานเริ่มต้น แต่ก็ทำให้เกิดดื้อหรือมีปฏิกิริยาต่อต้านอินซูลินที่จะเป็นตัวคอยควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ทางที่ดีจำกัดการบริโภคผักผลไม้รสหวาน เช่น สับปะรด หันไปหาถั่ว หรือช็อกโกแลตแทน

อีกอย่างหนึ่งที่ด็อกเตอร์มาสเล่ย์แนะนำแต่คนเราไม่ค่อยใส่ใจ คือการออกกำลังกาย ซึ่งแนะนำเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือใส่ใจเรื่องอาหาร อันดับสามคือระวังเรื่องการบริโภคน้ำมัน อันดับสี่คือระวังเรื่องความเครียด เพราะทำให้การทำงานของสมองอ่อนล้า อันดับห้าคือให้บริโภคถั่วหรือช็อกโกแลตสีคล้ำ อันดับหกคือรักษาสุขภาพของสมองโดยเลี่ยงสารที่จะเป็นอันตรายต่างๆ ตั้งแต่ ปุ๋ยเคมี แอลกอฮอลล์ บุหรี่ เป็นต้น

สรุปเรื่องนี้ เห็นจะง่ายมาก คือน้ำตาลเป็นต้นเหตุให้ความจำเสื่อม พิสูจน์แล้วด้วยตัวเอง เช่น การรับประทานของหวานหลังอาหารเย็นทุกครั้ง ทำให้เสียความทรงจำเร็วขึ้น เห็นได้ตอนที่บริโภคไอศกรีม ต่อจากแกงเขียวหวาน ถึงกับต้องเรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน ไม่รู้ว่าเพราะไวรัสหรืออะไรกันแน่ที่ทำให้ท้องเดินและอาเจียนพร้อมกัน นี่ดีว่าทานสลัดผักทุกวัน ทานช็อกโกแลตเป็นประจำ ก็ยังไม่ช่วย เห็นทีจะเป็นตามหัวข้อเรื่องนี้ คือ ขี้ลืมหรือ-ลืมมันได้เลย ขนาดจะไปเลือกตั้ง อ้าว วันนี้เพิ่งเป็นวันจันทร์นะ ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง เห็นไหมว่าลืมขนาดไหน สวัสดี