สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ศาสตร์จีนเพิ่มอีกหนึ่งเป็น 5 คือมีธาตุโลหะ แต่ละธาตุทำปฏิกิริยาส่งเสริม หรือหักล้างกับธาตุตรงข้าม เช่น ธาตุไฟตรงข้ามกับธาตุน้ำและธาตุโลหะ ไฟจึงดับน้ำ หรือเมื่อมีความร้อนในตัวสูง ก็ทานอาหารที่เป็นธาตุเย็น ธาตุไม้ซึ่งเป็นตำแหน่งของตับ และถุงน้ำดีอยู่ตรงข้ามกับธาตุดินซึ่งตรงกับหน้าที่ของกระเพาะอาหารและตับอ่อน หมายถึงการทำงานประสานกัน กล่าวคือตับปรับสภาวะสิ่งที่รับมาขาดหรือเกินจากกระเพาะอาหาร และตับอ่อนปรับภาวะน้ำตาลที่มาจากการย่อยอาหารที่กินมากไปให้สมดุลย์ ในหลักวิทยาศาสตร์ สรีระวิทยา อธิบายว่าเซลล์สื่อสารซึ่งกันและกันด้วยฮอร์โมน ติดต่อถึงกันในการส่งพลังงาน ขับของเสีย ซ่อมแซม ทำลายเซลล์แก่ สร้างเซลล์ใหม่ กลุ่มเซลล์นี้ ไทยเรียกว่า วิญญาณ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Quark สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องการแสงไม่ว่าจะเป็นแสงอาทิตย์ หรือแสงเทียม ดังที่เขาสามารถทดลองปลูกพืชด้วยแสงเทียมเป็นผลสำเร็จ เราจะพุ่งความสนใจตรงไปที่ ปฏิกิริยาทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Photosynthesis ซึ่งอธิบายในรายงานที่ค้นคว้า เป็นเวลาเกือบสิบปี โดยมหาวิทยาลัยโอกายามะในญี่ปุ่น ว่าบทบาทของแสงต่อสิ่งมีชีวิต ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของโมเลกุล เช่น

1.น้ำ แยกโมเลกุลเป็น ไฮโดรเจน กับ ออกซิเจน (H2O = H + O2)

2.คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ปลดปล่อยโมเลกุลของออกซิเจน (O2) ให้เซลล์นำไปใช้งาน เรียกว่าการหายใจของเซลล์ ก่อให้เกิดการสร้างพลังงานในเซลล์ และสร้างเซลล์ใหม่

3.น้ำ ช่วยสร้างแป้ง (Carbohydrate)

4.แป้ง สร้างปฏิกิริยาให้เกิดพลังงาน ลูกโซ่จากปฏิกิริยาของแสง คือ

Photocatalyst --> ก่อให้เกิดการแยกธาตุ --> เป็น --> ไฮโดรเจน กับ ออกซิเจน

UV --- Visible light 50% --- Infrared

แสงเทียมที่สร้างขึ้น (Artificial Photosynthesis) เป็นจำนวนมหาศาลที่คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน สามารถก่อให้เกิด ไฮโดรเจนพลังมหาศาลที่เราประจักษ์ผลของระเบิดประมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นางาซากิ และฮิโรชิมาทำให้ คนตายครั้งละกว่า 140,000 ราย และที่ไม่ตายก็เกิดผิวหนังพุพอง ตายในภายหลัง

มวลรวมของธาตุโลหะ เป็นส่วนประกอบของโปรตีน ได้แก่ คาร์บอน และ ไนโตรเจน จะมีส่วนสร้างพลัง ไฮโดรเจน (C + N = H)

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เพียงแต่จะอธิบายว่า สิ่งมีชีวิตต้องการแสง และอากาศในการทำปฏิกิริยาเพื่อดำรงชีวิต เป็นผลมาจากความสำคัญของการหายใจ

คนเราหายใจ 18 ครั้งต่อนาที ชั่วโมงละ 1,080 ครั้ง วันละ 25,900 ครั้ง ซึ่งเท่ากับจำนวนปีที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ (จากหนังสือค้นหาวิธีบำบัดโรคด้วยตัวท่านเอง โดย ดร.โรเบิร์ต เซนนี)

การหายใจเอาอากาศที่ดีจะช่วยร่างกายรักษาโรคของตนเองได้ นายแพทย์ ออตโต วอร์เบิร์ต นายกสมาคมมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาได้รับรางวัลโนเบล 2 ครั้ง กล่าวว่า ร่างกายของคนเรารักษาโรคด้วยตนเองได้ทุกอย่าง ตราบใดที่มีออกซิเจนเข้าไปในร่างกายและถ้าการหายใจเป็นไปด้วยดี จะไม่มีทางที่เซลล์จะเป็นมะเร็งได้ เพราะเซลล์มะเร็งเติบโตไม่ได้ในภาวะออกซิเจน เซลล์มะเร็งใช้การหมักเพื่อการเติบโต

การหายใจมีการหายใจลึกถึงช่วงท้อง (Abdominal breathing) เมื่อออกกำลังกายกับการหายใจแค่ปอด (Shallow breathing) เมื่อนอนหลับ การทำสมาธิหายใจแผ่วจนแทบไม่รู้สึก แต่ก็สามารถนำเลือดไปเลี้ยงสมองได้มากกว่าปกติ เพราะการสมดุลย์ของการหายใจ

อาจารย์ศุภกิจ นิมมานรเทพ สอนการออกำลังกายประกอบการหายใจช้าหรือเร็ว เรียกว่าวิชาบู๊ตึ้ง กับเส้าหลิน ช่วยให้การเจ็บป่วยอ่อนแอและโรคหัวใจของท่านหายได้ วิชาการหายใจนี้ ได้รับการถ่ายทอดมาจากอาจารย์จีนในมหาวิทยาลัยสมัยร้อยปีแล้ว

การฝึกหายใจ ให้ยืนบนสนามหญ้าที่มีน้ำค้างและแสงแดดอ่อนตอนเช้า เพื่อให้ครบธาตุสี่ จาก น้ำ ลม ไฟ และดิน และเป็นการดึงเอาไฟฟ้าสถิตย์ในร่างกายลงสู่ดิน ดีสำหรับผู้ที่ทำงานกับเครื่องอิเล็คโทรนิคมากๆ จะได้ไม่มีสายล่อฟ้าในตัว ดังเช่นข่าวคู่บ่าวสาวแรกแต่งงานจากเมืองไทย มาฮันนีมูน ถูกฟ้าผ่าตายทั้งคู่ตอนยืนอยู่ที่โขดหินกลางขุนเขาแกรนด์แคนย่อน และนักโต้คลื่นถูกฟ้าผ่าขณะอยู่ในน้ำทะเล

วิชาเร็คคี้และการบำบัดด้วยจักระที่ผู้เขียนสอนอยู่ที่ โรงเรียนผู้ใหญ่เมืองเบอร์แบงค์ เริ่มขึ้นในวันที่ 6 กันยายนนี้ เริ่มต้นด้วยการฝึกสมาธิ เพื่อสร้างพลังจิต จากนั้นจะมีการฝึกการหายใจ รวาม 6 ชุด ซึ่งมีวิชาบู๊ตึ๊งกับเสาหลินของอาจารย์ศุภกิจด้วย

ชุดที่ 1 บู๊ตึ๊ง คือการออกกำลังการหายใจพร้อมกับยกมือขึ้นลง และทรุงลงนั่งแล้วยืนขึ้น และการบังคับลมหมายใจแรงสู่ช่วงท้องเพื่อระบายขับของเสียในลำไส้ เมื่อร่างกายไม่น่านำของพิษเข้าระบบ เซลล์ก็มีคุณภาพในการดำรงสถานะการทำงาน

ชุดที่ 2 เส้าหลิน คล้ายบู๊ตึ๊ง แต่เป็นการออกกำลังการหายใจสำหรับเพศหญิง มีการใช้กล้ามเนื้ออกด้วยการออกแรงที่แขน

ชุดที่ 3 ไทซี เป็นการออกกำลังพื้นฐานด้วยการแกว่งแขนเป็นวงกลม พร้อมกับการหายใจที่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ สม่ำเสมอ และทำการย่างก้าวอย่างช้าๆ

ชุดที่ 4 ออกกำลังจักระ ร่างกายมีศูนย์พลังงานเรียกว่าจักระอยู่ 7 ตำแหน่ง การออกกำลังจักระพร้อมกับการหายใจที่ได้จังหวะช่วยให้การทำงานของระบบภายในสมดุลย์ ร่างกายก็จะบำบัดตนเอง เมื่อมีอากาศที่ดีคอยป้อนระบบ จักระที่อยู่เหนือศีรษะเป็นการดึงพลังจักรวาลและพลังจากเทพเข้าสู่ร่างกายเป็นพลังฮาร่า ของตัวเรา

ชุดที่ 5 เดินสมาธิ เป็นการทำจิตสมดุลย์หรือจิตว่าง เพื่อให้หายใจสม่ำเสมอนำอากาศที่ดีเข้าร่างกาย แพทย์กล่าวว่าเมื่อจิตเข้าสมาธิจะมีเลือดไปเลี้ยงสมองเพิ่มขึ้น

ชุดที่ 6 ยกน้ำหนัก 5 ปอนด์ เป็นการผนวกการหายใจกับการออกกำลังกล้ามเนื้อ ด้วยเครื่องมือเป็นการออกสำหรับคนที่ต้องการเล่นกล้ามด้วย

การฝึกการหายใจควรทำหลังตื่นนอนเช้า ก่อนอาหาร แล้วอาบน้ำ ทานอาหารเช้า นมอัลมอนด์ และโปรตีนจากแซลมอนเบอร์เกอร์ กับมันฝรั่งแผ่นหรือ ลูกกลอนย่างในเตาอบ ไม่ใช้วิธีทอด เพื่อไม่บริโภคน้ำมันใดๆ โดยไม่จำเป็น