สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ชีวิตต้องสู้

เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ เพราะตอนนี้เรียกว่าชีวิตหลายคนต้องสู้จริงๆ ไหนจะสู้กับภัยโรคร้ายในอากาศ ในสังคมจากจิตใจมนุษย์ และต้องสู้กับวัยที่อ่อนแรงไปเรื่อยๆ

ถึงแม้สุขภาพจะดีมา 80 ปี จนเจอกับ 2 ปี ที่หายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเตาแก๊สที่ผู้จัดการที่ตึกไม่ยอมเสียเงินซื้อเตาใหม่เปลี่ยนให้จนมีคนย้ายออกจึงเอาเตาเก่ามาให้ใช้แทน ถึงกับมีอาการเจ็บหัวใจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจไม่รู้ว่าเป็นผลจากแก๊ส แพทย์ด้านประสาทสั่งยาบรรเทาชื่อสแตตินสำหรับลดโคเลสเตอรอล ซึ่งมีผลเสียงข้างเคียงคือทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ นอกจากเดินเหินไม่ปกติแล้ว อาจหลับไม่ตื่นเพราะกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงาน อย่างที่เราเห็นในข่าวคนตายตอนหลับ ก็ชักจะปลงอนิจจัง ความไม่เที่ยวแห่งชีวิต อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด คิดว่า ชีวิตต้องสู้จากสารคดีที่เห็นในทีวี ก็เลยปลงตกว่า กว่าจะสร้างโลกได้ต้องใช้เวลานับพันล้านปี และกว่าจะสร้างชีวิตมนุษย์หลากเผ่าพันธุ์ตามทวีปต่างๆอีกก็ใช้เวลานานโข แถมสร้างพืชสูงเท่าตึก 3 ชั้น ก็ต้องโคจรรอบดวงอาทิตย์อีกนานโข แถมสร้างสัตว์นานาประเภท ทั้งในน้ำ บนบก บนเขา และตามป่าเขาลำเนาไพร ใต้ต้นไม้ บนดิน กลางหิมะ นับว่าผ่านวิทยาศาสตร์ต่างๆอีกมากมาย อย่ากระนั้นเลย เมื่อเรามีชีวิตแล้ว ต้องสู้เพื่อคงชีวิตอยู่ต่อไป

น่าขอบคุณสารคดีทั้งทางทีวี และนิตยสารที่ให้ข้อคิด ว่าชีวิตต้องสู้ ไม่ว่าจะเกิดเป็นมนุษย์ สัตว์ หรือ พืช ก็ต้องพยายามยังชีวิตให้อยูรอดกันทั้งนั้น ยกตัวอย่างได้อ่านเรื่องของชายคนหนึ่งเริ่มขี่มอเตอร์ไซด์ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ได้รับรางวัลชนะการแข่งขันระดับโลกหลายครั้ง พิชิตยอดเขาสูงสุดของโลกไม่รู้กี่แห่ง วันหนึ่งได้รับอุบัติเหตุต้องรักษาในโรงพยาบาลกว่า 3 เดือน ผ่าตัดกว่า 10 ชนิด ออกจากโรงพยาบาล ก็มาขี่มอเตอร์ไซด์อีก เขามีคติว่า ต้องไม่ย่อท้อต่อชีวิต น่าคิดไหม ว่าเกือบตาย ยังไม่ยอมแพ้ต่อชีวิตเลย หรือเรื่องราวของคุณศราวุฒิ พันธุ์วัฒน์ คนไทยที่ตั้งใจมาอเมริกา ซึ่งอยู่ตรงข้ามอีกซีกโลกเลย เริ่มต้นเดินทางจากประเทศไทยเมื่ออายุ 18 ตอนนี้ไม่รู้ยังทำงานที่เดนมาร์คอยู่หรือเปล่า เพราะแต่งงานกับคนไทยมีครอบครัว

เจ้าแกงการูที่ออสเตรเลีย ไม่รู้ภาษาไทยเรียกว่าอะไร มันก็ต่อสู้เพื่อชีวิต ไม่เฉพาะแต่ชีวิตของตัวเองมันหวงชีวิตของแฟนมันด้วย ใครอย่ามาแตะ มันสู้ตาย ทั้งๆที่ขาสั้นกว่าขาหลังมาก มันก็ไม่ยอมแพ้ สู้กันก่อน

มาถึงภาวะโลกร้อน ที่ข่าวเด็กหญิงออกมากล่าวว่า ทำไมไม่มีใครคิดแก้ปัญหานี้ตอนนี้ แล้วถ้าเธอมีลูก ทายาทของเธอจะมีชีวิตอยู่อย่างไร เขาเลยให้เธอไปพูดในที่ประชุมระดับโลกเสียเลย รู้สึกว่าจะเป็น World Health Organization หรือUNO อะไรทำนองนี้

มาถึงปัญหาพลาสติกที่เป็นขยะกลาดเกลื่อนโลก รวมไปถึงท้องทะเล ที่สัตว์น้ำลำบากเพราะหลอดพลาสติกไปแยงติดค้างในรูจมูก เขาเลยคิดทำหลอดอลูมิเนียมแทน แต่เราก็รู้ว่าอลูมิเนียมมีพิษเมื่อถูกความร้อนเข้าสู่อาหาร เขาเลยคิดจะทำหลอดจากเหล็กไร้สนิมแทน นัยว่ารสชาติเครื่องดื่มผ่านหลอดเหล็กสมัยใหม่รสดี น่าจะผลิตหลอดเหล็กเป็นอุตสาหกรรมได้ ถ้าเป็นที่ยอมรับในต้นทุน และการใช้สอย ไม่ให้ทิ้งเกลื่อนกลาด เป็นปัญหาโลกในด้านการกำจัด เหมือนเช่นกล่องอาหารทำด้วยโฟมสีขาว เขากำลังแนะนำให้ทิ้งไปหลังจากใส่อาหาร ไม่เหมาะที่จะอุ่นอาหารในกล่องโฟม แม้แต่ตะเกียบ ก็อาจมีการวิวัฒนาการใช้วัสดุอื่นแทน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขยะ เมื่อวานนี้ ผู้เขียนซื้อถาดทำด้วยไม้ชิ้นบางๆอัดต่อกัน แล้วเคลือบมันสวยงามมีสามขนาด ขนาดใหญ่สุดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว ขนาดกลาง 8 นิ้ว ขนาดเล็ก 6 นิ้ว ทาเชลแลคสีน้ำตาล ดูเป็นงานศิลป์ หรือใช้สำหรับอาหารเย็น เช่นปรุงสลัด เสิร์ฟสลัดเฉพาะคน หรือเสิร์ฟอาหารเย็นอื่นๆ เช่นขนมปัง คงไม่เหมาะสำหรับเสิร์ฟซุปร้อนๆ เพราะเชลแลคที่เคลือบอาจเสื่อมสีสันได้ ผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้เป็นงานศิลปะ มากว่าใช้สอย เพราะสวยงามเมื่อต้องตา ไม่อยากเปลี่ยนสีสันและลักษณะที่เขาผลิตขึ้น ผลิตมาจากประเทศจีน เข้าใจว่าเป็นไม้ไผ่ เพราะมีลายไม่สวยงามตามธรรมชาติ ผู้เขียนซื้อมาจากแล็คซี เพราะไปหาตุ๊กตาหัวจุกตัวเล็กๆที่อุ้มถุงเงินถุงทอง นอกจากน่ารักดีแล้ว ยังมีความหมายต่อชีวิตผู้เขียนตอนเด็กไว้ผมจุกโกนรอบศีรษะ เก็บผมยาวไว้ขมวดปมกลางกระหม่อม มีฐานผมล้อมรอบผมจุกประมาณ 1 นิ้ว สมัยนั้นไม่มีใครไว้ผมสไตล์นี้หรอก เด็กๆในชั้นประถมก็ล้อเลียนผู้เขียน ทำเอาไม่อยากไปโรงเรียนอยู่เป็นเดือน พอไปวันแรกครูยังจำชื่อได้ ก็เลยดีใจกลับไปโรงเรียนอีก ณ วันนี้ คิดว่า เด็กที่เคยล้อเลียนผู้เขียน คงไม่มีใครมาอยู่อเมริกาและอ่านบทความนี้หรอก อุตส่าห์ไปถึงแล๊คซี หาตุ๊กตาไม่ได้อีกเป็นเดือน กว่าจะได้ตุ๊กตาหัวจุกมาเป็นของขวัญวันเกิดปีนี้ และนับเป็นปีแรกที่ได้รับลูกโป่ง Happy Birthday เนื่องจากเห็นเด็กเขาถือเป็นพวง เลยบอกให้เขาซื้อให้บ้างสองลูก เท่ากับเริ่มเป็นเด็กใหม่ ต้องพยายามเติบโตต่อไป และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่า ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน มีชีวิตอยู่ก็ต้องสู้ต่อไป จนกว่าจะไม่ตื่น ซึ่งก็กลัวเหมือนกัน

การต่อสู้กับชีวิต อย่าลืมกินอาหารที่จะช่วยบำรุงชีวิตไว้บ้าง เริ่มต้นด้วยกล้วย สรรพคุณมากมาย บำรุงกระเพาะอาหาร และผลิตสารที่เป็นประโยชน์ เช่นโปแตสเซี่ยม ที่จะปรับภาวะร่างกายให้สมดุล ไม่สูญเสียน้ำมาก ขับสารพิษ ป้องกันท้องผูก และขับกากอาหารให้ปกติ ไม่คั่งค้าง

แอปเปิล มีสารเพคตินที่จะช่วยปรับโคเลสเตอรอลร้าย และขับสารพิษจากตะกั่ว หรือเมอคิวรี่ที่จะทำลายเซลล์สมอง มีสารป้องกันร่างกายมิให้เกิดเซลล์มะเร็ง ฆ่าไวรัสและแบคทีเรีย และช่วยร่างกายมิให้สะสมสารเคมีจากอาหารที่ก่อให้เกิดอันตรายในเด็ก หรือสร้างอาการปวดหัวไมเกรนในผู้ใหญ่

ผักตำลึง ช่วยให้ร่างกายสร้างน้ำดีกำจัดสารพิษ และช่วยตับสลายไขมัน

อะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน Glutathione ช่วยชำระไขมันพอกตามเส้นเลือด ที่เป็นเหตุให้ทางเดินโลหิตอุดตัน ช่วยตับกำจัดสารพิษกว่า 30 ชนิด รวมทั้งโลหะหนักที่เขาใส่ในน้ำประปาเพื่อกันท่อแตก

บีท มีสรรพคุณรอบด้านในการต่อสู้กับโรคร้าย เพราะมีสารเคมีของพืชที่จะช่วยทำความสะอาดโลหิตตับและน้ำเหลือง ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจน และกำจัดสารพิษ ช่วยปรับภาวะกรดหรือด่างในร่างกายให้สมดุล ดีกับคนที่คิดว่ามีกรดไหลย้อนในร่างกาย วิธีปรุงหัวบีททำง่ายๆ ด้วยการปอกเปลือกต้มสุก เติมด้วยส้มแกะเยื่อออกแล้ว อาจซื้อเป็นกระป๋อง เท่านั้นก็ได้รสชาติพอเสิร์ฟเป็นสลัดเครื่องเคียงกับอาหารอื่นๆ

ดอกกะหล่ำ มีสารต่อต้านมะเร็ง ช่วยร่างกายกำจัดคอร์ติโซลที่ร่างกายผลิตเวลาเกิดอารมณ์เศร้า ช่วยกระเพาะอาหารกำจัดแบคทีเรีย พืชตระกูลนี้ประกอบด้วย กะหล่ำปลีที่ควรปรุงสุกไม่ควรรับประทานดิบ เพราะจะไปผสมกับน้ำย่อยอาหารกลายเป็นสารคล้ายไซยาไนด์เข้าไป ดอกกะหล่ำช่วยตับกำจัดพิษในระบบ

บลูเบอรี่มีสารปรับสภาวะความไม่สมดุลขอบระบบน้ำในร่างกาย มีสารคล้ายแอสไพรินตามธรรมชาติ และมีสารพิษที่จะขจัดสารพิษในระบบปัสสาวะ สรรพคุณนี้หาได้จากผลทับทิม

กระเทียม เวลาคุณทานสลัดมะละกอ หรือที่เรียกว่าส้มตำ เขาใส่กระเทียมเป็นกลีบ ถ้าเคี้ยวกลืนได้จะช่วยกำจัดแบคทีเรียและไวรัสในโลหิตและทางเดินอาหาร

สาหร่ายทะเล หรือพืชทะเล สามารถกำจัดคลื่นไฟฟ้า เช่นโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ ไมโครเวฟ ซึ่งอาจทำอันตรายก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง เช่นเดียวกับโลหะหนักทั้งหลาย ควรกินสาหร่ายทะเลเป็นประจำทุกมื้อเหมือนแมวบีบี้ของผู้เขียน ที่กินแบบอาหารญี่ปุ่นคือห่อปลาทูน่าด้วยสาหร่ายใส่ปากเขา

แฟลคซีด เป็นเม็ดถั่วมีสรรพคุณให้โอเมก้า 3 เช่นเดียวกับปลาแซลมอน ช่วยบำรุงความจำ ผู้เขียนหายปวดหัวเข่าเพราะกินปลาแซลมอนที่สูงด้วยโอเมก้า 3