สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ทานเพื่อพลังงานและสุขภาพ

คุณเคยงงบ้างไหมว่า วันนี้จะทำอะไรทานดี อยากจะหาอะไรใหม่ๆ ทำทานดูบ้างก็ไม่รู้ว่าอะไรจึงจะดี ยิ่งคนที่ทำงานนอกบ้านทั้งสามีภรรยายิ่งอยากทำอะไรง่ายๆ แต่อร่อย และได้คุณค่าต่อร่างกาย ก็เราทำงานเพื่อเงิน แล้วทำไมจะไม่ใช้เงินเพื่อสุขภาพของเราเอง เพื่อจะได้มีความสุข มีโอกาสใช้เงินได้นานๆ เล่า และที่น่ายกย่องอีกอย่างหนึ่งก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ที่พลัดบ้านเมืองมาอยู่ที่นี่ทำอาหารไม่เป็นเสียเป็นส่วนใหญ่ พ่อบ้านหลายคนต้องเข้าครัวปรุงอาหาร เพราะแม่บ้านทำงาน หรือช่วยดูแลลูกทำการบ้าน เมื่อพ่อบ้านเข้าครัว จำเป็นอยู่เองต้องดัดแปลงตำหรับอาหารขึ้นมาใหม่ ปัญหาคือทานไปตามแกน หรือได้คุณค่าจากอาหารตามควร

เราเคยรู้ว่ามีพลังงานในร่างกายของเรา อิยิปต์เชื่อว่าร่างกายของเราสร้างจากพลัง 4 อย่างคือ ลม น้ำ ไฟ และดิน จึงสร้างปิรามิด 4 หน้า หน้าหนึ่งมีความหมายต่อพลังงานอย่างหนึ่ง เพื่อเก็บร่างที่ไร้ลมหรือวิญญาณ ไทยเราก็ว่าร่างกายมีธาตุสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อหมดลมหายใจร่างกายก็จะสลายกลับไปสู่ธาตุเดิม ไม่มีไฟอยู่ในตัว น้ำก็แห้งเหือด กระดูกก็เป็นดิน ที่น่าสนใจก็คือ อิหร่านเชื่อว่าร่างกายสามารถได้รับพลังงานจากอาหาร อาหารคือแหล่งของพลังงานแบบร้อน และแบบเย็น พลังงานนี้จีนและญี่ปุ่นเรียกว่า ยิน (Yin) และ แยง (Yang) ร่างกายควรจะมีความสมดุลในรูปของพลังงานทั้งสองนี้ จึงจะสบายกาย ฉะนั้น ถ้าทานอาหารถูก คุณก็สบายท้อง แถมอาหารบางอย่างช่วยแก้โรคได้เสียอีก

นักวิทยาศาสตร์จุลชีววิทยาและพืชสมุนไพร ชาวอิหร่าน Minoo Golnazar เขียนไว้ในหนังสือความลับจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงาม (Nature’s Secrets for Health and Beauty) ว่าพืชประกอบด้วยพลังงานและชีวเคมีที่เราควรรับประทานเพื่อดำรงไว้ซึ่งความสมุดลแห่งสุขภาพร่างกาย จิตใจ และสารเคมีในตัวตน ชาวอิหร่านจะรับประทานสลัดผักสมุนไพรสดและแห้งเป็นประจำทุกวัน ประกอบด้วยพืชที่ไทยเราก็ใช้ในการปรุงอาหารเป็นประจำเหมือนกัน เช่น โหระพา สะระแหน่ ต้นหอม แรดดิช พังพวยน้ำ ผักชี อิหร่านทานอาหารกลางวันหนักกว่าอาหารเย็น ฝรั่งและไทยหนักอาหารเย็น พระดีกว่าเพราะไม่ทานอาหารเย็น อิหร่านทานของว่างหน้าร้อนประเภทแตงกวา มะเขือเทศ เพราะพลังเย็น ของว่างหน้าหนาวคือวอลนัท ขนมปัง และชาชินนามอนเพราะพลังร้อน พอหน้าร้อนชาวอิหร่านจะสะสมพืชที่ให้พลังร้อนสำหรับสร้างความอุ่นให้ร่างกายในหน้าหนาวเพื่อป้องกันหวัดและไข้หวัดใหญ่ เช่น หอม กระเทียม สมุนไพรที่ให้พลังร้อนเขาเชื่อว่า อาหารที่มีพลังเย็นสามารถรักษาไข้ ไข้หวัดใหญ่ เจ็บคอได้ เช่น ส้น มะนาวหวาน หัวกุหลาบ (Rose Hips) กานพลู (Cloves) คนที่ป่วยจากพลังเย็นเช่น ความดันโลหิตต่ำ ท้องร่วง ก็รักษาด้วยอาหารพลังร้อน เช่น ลูกอินทะผาลำ (Dates) ขิง อบเชย (Cinnamon) สะระแหน่ น้ำผึ้ง ฉะนั้น การทานอาหารจึงช่วยสมดุลย์พลังในร่างกาย เช่นคนมีพลังเย็นในตัวควรทานอาหารที่ให้พลังร้อนเพื่อมิให้เสียพลังงาน หรือตัวเย็นลงไปกว่านั้น คนที่มีพลังร้อนควรทานอาหารที่ให้พลังเย็นจะได้สมดุล มินู โกลาซ่ากล่าวว่าคนผิวขาวมีพลังเย็นกว่าคนผิวคล้ำ คนผิวขาวจึงควรเลี่ยงอาหารที่ให้พลังเย็น เพราะจะเสียพลังมากขึ้น ทำให้เพลีย ไม่มีแรงในกล้ามเนื้อ และมีน้ำลายมากในปาก คนประเภทนี้ควรทานอินทะผาลัม ขิง ลูกฟิกซ์ และอบเชย และถ้าคนผิวขาวท้องผูก หรือร้อนใน ปัสสาวะร้อน ควรทานอาหารพลังเย็นเช่น มะนาวหวาน แตงโม ดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดความร้อนใน คนผิวคล้ำไม่ควรทานอาหารพลังร้อน เช่น ขิง อบเชย สมุนไพรร้อน เพราะจะรู้สึกปากแห้ง ไม่มีแรง และท้องผูก และควรทานอาหารพลังเย็นเช่น แตงกวา โยเกิร์ต สปินาช กะหล่ำ

แพทย์ทางตะวันออกกลางแนะนำว่าควรทานอาหารที่มีความสมดุลในพลังงาน เพราะตับมีแนวโน้มในการสะสมพลังร้อนทำให้เกิดโรค เช่นถ้าอาหารมีพลังร้อนสูงเกินไป เช่น อบเชย พริก จะสะสมพลังร้อนไว้ที่ตับ ทำให้เกิดสิว จุดด่างดำหรือฝ้า ปากแห้ง หรือความคิดผิดปกติอื่นๆ ในกรณีเช่นนี้ ตับควรได้รับการฟอกทำลายพลังร้อนด้วยอาหารพลังเย็น เช่น แดนดีลอน (Dandelons) เป็นพืชดอกสีเหลืองที่เราถอนทิ้งจากสนามหญ้าเป็นประจำ แท้ที่จริงรับประทานเป็นสมุนไพรได้ นอกจากนี้พืชที่ให้น้ำมันหอม เช่น กุหลาบ หรือ ดอกส้ม สามารถแก้ความปวดตอนคลอดบุตรได้ ถ้าใช้นวดที่ขมับและหัวไหล่ระหว่างคลอด และอาจต้มกุหลาบให้ไอระเหยระหว่างคลอด เพื่อคลายความกระสับกระส่าย และความเจ็บปวด อเมริกันเริ่มใช้น้ำมันหอมหรือบรรจุสมุนไพรเป็นหมอน ทำให้ฝันดี

อาหารที่ให้พลังร้อนที่คนไทยเรารู้จักดี ประเภทผักผลไม้และเครื่องดื่มได้แก่ พริกระฆังเขียว พริกไทยดำ ผักกาดขาว บรอคเคอรี่ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ แตงไทย แตงแคนตาลูบ ถั่วปากอ้า ลูกกีวี มะม่วง หัวหอม กระเทียม ขิง มะละกอ ผักชีฝรั่ง ถั่วลิสง ฟักทอง เม็ดฟักทอง แรดดิช กะหล่ำแดงหรือม่วง งา เม็ดทานตะวัน วอลนัท ข้าวสาลี ไวน์ ช็อกโกแลต อบเชย โกโก้ กาแฟ อินทะผาลัม ถั่วปากอ้า ลูกกีวี มะม่วง องุ่น

เนื้อสัตว์ที่ให้พลังร้อนประเภท ได้แก่ ไก่ ตับไก่ หอยลาย ไข่ นมแพะ เนื้อแกะ กุ้ง

อาหารที่ให้พลังเย็นประเภทผักผลไม้และเครื่องดื่ม ได้แก่ แอปปริคอท บลูเบอรี่ เบอรี่ดำ เซลเลอรี่ ผักชีไทย แครนเบอรี่ แตงกวา แดนดีล่อน มะเขือ ส้มเกรพฟรุท ถั่วเขียว มะนาว ถั่วเล็นทิล เนคทารีน ข้าวโอ๊ต ส้ม พืช พลัม มันฝรั่ง รูบาร์บ รูทเบียร์ เบอรี่เปรี้ยว ผักขม สตรอเบอรี่ มะนาวหวาน ชา ข้าว บุหรี่ มะเขือเทศ แตงโม โยเกิร์ต

เนื้อสัตว์ที่ให้พลังงานเย็นได้แก่ เนื้อวัว ตับวัว นมวัว เป็ด ปลา

อาหารที่ให้พลังเป็นกลาง ไม่ร้อน ไม่เย็น ได้แก่ อัลฟัลฟ่า อัลมอนด์ แอปเปิล ตัววัวอ่อน แครอท ถั่วแดง ลูกแพร์ ลูกพลับ (Persimmon) สควอช ซุคินี เนื้อกระต่าย ปลาเซลมอน ไก่งวง เนื้อลูกวัว (Veal)

หน้าหนาวนี้ ขอแนะนำอาหารทำง่าย เหมาะกับอากาศ ได้แก่ซุบหัวหอมเนื้อเอ็นแบบไทยๆ วิธีทำ ตั้งหม้อใส่น้ำบริสุทธิ์ ประมาณครึ่งแกลลอน หั่นหัวหอม (Brown onion) ที่ซื้อมาจากตลาดตอนนี้ราคาถุงละ 99 เซ็นต์ มีประมาณ 10 หัว ใส่หม้อพร้อมกับพริกไทยขาว หัวซีอิ้วปรุงรส ซื้อเนื้อสันเอ็นประมาณ 2-3 ปอนด์ หั่นขวางบางพอต้มแล้วเปื่อยง่าย เมื่อน้ำเดือดเทใส่หม้อ ต้มจนหัวหอมและเนื้อเปื่อย ทานร้อนๆ กับข้าวกล่อง อร่อยไปหลายมื้อ ยิ่งอุ่นยิ่งเปื่อย ไม่ต้องทำซุปไปหลายวัน แก้หวัดที่กำลังระบาดได้ดีนักแล เวลานอนทาน้ำมันยูคาลิบตัสไว้ที่หมอนด้วย จะช่วยฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียและไวรัสในอากาศ


(อ่านต่อฉบับหน้า)