สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ปวด

คำเดียวนี้เกิดกับร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดหัวแม่เท้า อันตรายที่สุดคือปวดหัวใจ อาจถึงตายภายใน 20 วินาที ส่วนคนปวดใจจะตายถ้าไม่แก้ไขภาวะจิต อาการปวดอาจได้รับผลกระทบจากอาหาร เนื่องจากอาหารมี กรดไขมัน triglycerides 95 เปอร์เซ็นต์ เป็นไขมันอิ่มตัว saturated fatty acid มีคอเลสเตอรอลไม่ว่าจากสัตว์หรือพืชผลไม้ ไขมันอิ่มตัวแบ่งเป็นสองประเภท คือ monounsaturated รวมกับโดรเจนสองหน่วย หรือ polyunsaturated รวมกับไฮโดรเจนสี่หน่วย เช่นน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์ม สามเหตุที่ไขมันอิ่มตัวส่งผลเป็นอันตรายถึงชีวิตเพราะประกอบด้วย sterol ซึ่งร่างกายดูดซึมไม่ได้ จึงพอกตามทางเดินโลหิต และทางเดินอาหาร เช่น เนย ผลิตจากนมวัวมีไขมันอิ่มตัว 59 เปอร์เซ็นต์ ไขมันจากเนื้อสัตว์มี 54 เปอร์เซ็นต์ ไขมันจากเนยแข็งตัวในอุณหภูมิห้องปกติ เทียบกับน้ำมันพืชแชฟฟลาว์เวอร์มีไขมันไม่อิ่มตัว 11 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันโอลีฟจากผลมะกอกซึ่งอาหารอเมริกันนิยมใช้ปรุงอาหารมีไขมันอิ่มตัว 16 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นไขมันอิ่มตัว ซึ่งพอกเส้นเลือดและทางเดินของระบบย่อย ทำให้เส้นเลือดแข็งตัวเคลื่อนโลหิตไม่ได้ และการดูดซึมอาหารหลังการย่อยทำงานไม่ได้จึงส่งผลถึงตาย

ที่น่าประหลาดใจก็คือช็อคโกแลตอยู่ในประเภทไขมันอิ่มตัวเหมือนไข่แดง ต่างกันตรงที่ไข่มีสารอาหารสมบูรณ์ ถ้าต้มจนไข่แข็งก็ไม่มีอันตรายจากคอเลสเตอรอลเหลืออยู่ อาหารจากสัตว์ เนย น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม และเนยเหลวสำหรับทำอาหารและเค้ก ส่งผลที่เป็นอันตรายระดับเดียวกับไขมันอิ่มตัวทั้งหลาย

อะโวคาโดนับว่าเป็นไขมันไม่อิ่มตัว เป็นผลไม้สำหรับสลัดที่แพงที่สุดมีไวตามิน 11 ชนิด กับแร่ธาตุ 12 ชนิด จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับถั่วแคชชู ถั่วลิสง น้ำมันโอลีฟ รวมตัวกับไฮโดรเจนสองหน่วย

ถั่วอัลมอนด์ ถั่วพีแคน ถั่ววอลนัท อยู่ในกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัวเหมือนน้ำมันมะพร้าว เนยเทียม น้ำราดสลัด น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันแชฟฟลาวเวอร์ คือรวมตัวกับไฮโดรเจนสี่หน่วย แม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อเส้นเลือดเหมือนไขมันอิ่มตัวแต่ก็มีส่วนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะรวมตัวกับไฮโดรเจนสูง การย่อยสลายให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายลำบากขึ้น

คนที่มีอาการของ vertigo คือวิงเวียน ควรเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลจาก saturated fat เพราะเพิ่มไขมันตามเส้นเลือดสองเท่า ส่วน polyunsaturated fat การค้นคว้ารายงานว่าลดไขมันตามเส้นเลือด ในขณะที่ mono ไม่มีผลอะไร แพทย์แนะนำให้คนที่มีอาการ vertigo งดการบริโภคคอเลสเตอรอลเพื่อตัดปัญหา

การเดินทางของคอเลสเตอรอลตัวร้าย LDL ซึ่งมีถึง 70 เปอร์เซ็นต์ จากตับไปยังจุดรับพิเศษที่เซลล์สร้างขึ้นที่ผนังเซลล์ได้รับการคุ้มกันจาก lipoprotein หรือโปรตีนที่ตับสังเคราะห์ขึ้น ส่งผลร้ายต่อโรคหัวใจ atherosclerosis คือ ผนังเส้นโลหิตแข็งตัวหรืออุดตัน ยิ่งบริโภคคอเลสเตอรอลมากขึ้นตับก็ยิ่งผลิตตัวคุ้มกันมากขึ้น ส่วนคอเลสเตอรอลตัวดี HDL จะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อการออกกำลังระยะยาวเช่น วิ่งมาราธอน นายนาธาน พริติคิน วิศวกร ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมผู้มีอายุยืนที่ซานต้ามอนิก้า แนะนำเข้มงวดยิ่งกว่านั้น คือไม่ควรบริโภคคอเลสเตอรอลเกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ น้อยกว่า 10 แคลอรี ในขณะที่ไข่แดงหนึ่งฟองมีคอเลสเตอรอล 250-275 แคลอรีถึงแม้จะมีสารอาหารครบสมบูรณ์ก็ตาม นโยบายขององค์กรเพื่อสุขภาพสาธารณชนกล่าวว่าไม่ควรบริโภคคอเลสเตอรอลเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ด็อกเตอร์เฟรด เอ. คุเมอรอน แห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยด์ได้ทดลองเพิ่มไข่วันละสองฟองให้กับคนไข้ซึ่งกำลังรอการผ่าตัดหัวใจเป็นเวลา 25-54 วันไม่ปรากฏว่าผลของคอเลสเตอรอลในร่างกายเปลี่ยนแปลง นั่นแสดงว่าการบริโภคของแต่ละคนขึ้นอยู่กับการทำงานของร่างกาย เป้าหมายที่เสนอไว้เมื่อปี 1977 คือ แป้ง 58 ส่วน โปรตีน 12 ส่วน และไขมัน 30 ส่วนเพื่อใช้สร้างฮอร์โมนในการสื่อสาร

นอกจากจะพิจารณาคุณค่าของอาหาร เรายังต้องคำนึงถึงพลังร้อนหรือพลังเย็นของอาหารด้วย ร่างกายของคนเราประกอบด้วยพลัง 4 อย่าง คือ ดิน ได้จากม้าม น้ำได้จากไต ไฟได้จากหัวใจ ลมได้จากปอด ศาสตร์จีนเพิ่มธาตุไม้ได้จากตับ ในแง่ของอาหาร นักวิชาการไทยคือ ใจเพชร มีทรัพย์ รู้จักกันในนามของหมอเขียว รวบรวมข้อมูลไว้ว่า

ลักษณะยินหรือเย็น ให้ดื่มน้ำมากๆ เมื่อตื่น ออกกำลัง อาบน้ำร้อน กินชาขิง ใช้ครีมร้อน เป็นตะคริว ซีด มีเส้นเลือดขอดที่ขา ชาตามมือและเท้า ซึมเศร้า มึน มือเท้าเย็น อาหารที่ควรทานคือข้างกล้อง ข้าวแดง ถั่วดำ ถั่วแดง ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักโขม ชะอม พริก สาหร่าย

ลักษณะหยางหรือร้อน ให้ดื่มน้ำมากๆ อาบน้ำเย็น ดื่มชารางจืด อาหารรสขม ผลไม้ส้ม มะม่วง กล้วยไข่ กระเจี๊ยบแดง ข้าวเหนียว ข้าวแดง ข้าวดำ ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวสาลี เผือก มันเทศ กลุ่มโปรตีน คือ เนื้อ หมู ไข่ ถั่วดำ ถั่วแดง ถ้ามีอาการสะอึก แสดงว่าร้อนที่สันหลัง ถ้าร้อนมากเกินไปอาจถึงชัก โรคที่เกิดจากความร้อนสูงได้แก่ โรคหัวใจ ไซนัส คออักเสบ

เซลล์แยกเป็น 10 ระบบ แต่ละระบบทำงานเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มประสานงานโดยฮอร์โมนเพื่อให้เซลล์ทำหน้าที่ 4 อย่างคือ 1.กำจัดของเสีย 2.เพิ่มพลังงาน 3.ซ่อมแซม 4.สังเคราะห์อาหาร งานสำคัญของร่างกายได้แก่ การปรับสภาวะน้ำตาลในเลือด โดยร่วมกันทำหน้าที่ระหว่างตับ ไต หัวใจ ม้าม ปอด ถ้าเราสามารถช่วยให้ม้ามทำงานประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าเราจะรับประทานน้ำตาลมากเท่าใด ม้ามสามารถผลิตอินซูลินเพื่อให้พลังงานของน้ำตาลเป็นปกติ สมุนไพรที่ช่วยการทำงานของม้ามได้แก่ ซินนามอน ใบมะรุม มะยม เตย หญ้าหวาน บางโอกาส เรากระแทกร่างกายกับบางสิ่ง ก่อให้เกิดแผ่นโลหิต เรียกว่า platelets หากไปอุดบางส่วนของร่างกาย เช่น ส่วนหน้าของสมอง ทำให้ตาพร่า หูไม่ได้ยินชัด มีเสียงในหู เหงือกอักเสบ ปวดฟัน เป็นโรคไซนัส ถ้าไปอุดส่วนกลางของสมอง ทำให้สูญเสียความจำ ง่วงเหงาหาวนอน ย่อยอาหารไม่ปกติ ถ้าอุดตันส่วนหลังของสมองอาจทำให้เคลื่อนไหวลำบาก การเอกซเรย์อาจไม่พบ ถ้าอุดตันที่ตับจะทำให้ตับไม่สามารถทำงานผลิต lipoprotein ที่จำเป็นต่อระบบได้ ถ้าไปอุดตันที่ม้าน จะทำให้อ้วนเกินขนาด ถ้าน้ำหนักลดอาจเป็นเพราะถุงน้ำดีอุดตันทำงานไม่ได้ ถ้า platelets ไปอุดตันที่ไต จะก่อให้เกิดอาการเพลีย ไวต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าไปขวางทางเดินของระบบเพศจะทำให้เกิดมะเร็งที่อัณฑะและหมดสมรรถภาพทางเพศ ให้ทานโยเกิร์ตกับน้ำมันงา น้ำมันขิง น้ำมันข่า น้ำมันมะรุม ซึ่งผลิตที่จังหวัดอุบลราชธานี

อาหารที่มีคุณค่าในการหักล้างสิ่งที่ไร้คุณค่าเกิดจากระบบภายในร่างกายเป็นสิ่งที่ควรรู้ ผู้ทรงคุณวุฒิได้รวบรวมไว้คือ ด็อกเตอร์อาภรณ์ ศรีพิพัฒน์ ได้แก่

กล้วย ช่วยให้กระเพาะแข็งแรง เสริมโปรตัสเซียมและฟอสฟอรัส อย่างน้อยก็ทำให้ระบบสารททำงานดีขึ้น โปตัสเซียมรักษาระดับน้ำในร่างกาย ขจัดสารพิษป้องกันท้องผูก

ถั่วอัลมอนด์ สร้างแคลเซี่ยม โปรตีน คอเลสเตอรอลตัวดี ควบคุมน้ำตาล ป้องกันหัวใจหวิวจะเป็นลม

แอปเปิล กำจัดสารพิษ และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และสารโลหะหนักจากอาหาร เช่น เมอคิวรี่ และตะกั่วที่จะทำลายเซลล์สมอง และช่วยอาการปวดหัวไมเกรน

ผักตำลึงช่วยขจัดสารพิษ ช่วยตับสลายไขมัน อะโวคาโด มีสาร glutathione ทำหน้าที่สำคัญในการขจัดสรเคลือบผนังเส้นโลหิต ช่วยตับในการทำลายโลหะหนักและสารเคมีอันตราย

หัวบีท ประกอบด้วยไวตามินและแร่ธาตุที่จะป้องกันโรค ทำโลหิตให้บริสุทธิ์ ช่วยในร่างกายได้รับออกซิเจนดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็รักษาภาวะเป็นกรดหรือด่างในร่างกายให้สมดุล สำหรับผู้ที่มีกรดไหลย้อน

พืชผักประเภทดอกกะหล่ำ หรือที่มีใบเลี้ยงสี่ใบ มีสารต้านมะเร็งสูง ช่วยมิให้ร่างกายผลิตคอร์ติโซลเมื่อมีความเครียด ช่วยรักษาระบบย่อยอาหารให้สะอาด ช่วยกระเพาะอาหารให้ปราศจากพิษจากแบคทีเรีย และป้องกันอากาศเสียมิให้เป็นพิษ

ผลบลูเบอรี่มีสารต้านการเผาผลาญเกินอัตรา ที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัว ด้วยมีสารคล้ายแอสไพริน และป้องกันระบบปัสสาวะอักเสบ

กระเทียมสามารถทำลายแบคทีเรียและพยาธิในระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยทำความสะอาดให้โลหิตและลำไส้

ส้มโอ มีเพคตินช่วยลดคอเลสเตอรอลมิให้แข็งตัวตามเส้นเลือด และกำจัดโลหะหนักมิให้ขัดขวางการทำงานของระบบ และช่วยทำหน้าที่ป้องกันมิให้เซลล์เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะที่กระเพาะอาหารและม้าม

เห็นกระเปาะ มีไฟเบอร์สูง ทำหน้าที่ดูดซึมคอเลสเตอรอลตัวร้าย มีไวตามินซี ช่วยขจัดสารพิษ ป้องกันท้องผูก

แครอท ประกอบด้วยเบต้าและอัลฟ่าคาโรทีนซึ่งจะแปรเป็นไวตามินเอ เมื่อร่างกายต้องการ มีสารป้องกันสารพิษ ป้องกันอากาศเสีย รักษาสุขภาพระบบประสาท สายตา ป้องกันมะเร็ง ช่วยระบบหายใจ

กุ๊ยฉ่าย เป็นยอดพืชที่ทำหน้าที่ให้โลหิตสะอาด และรักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ

ทับทิม ได้ชื่อว่าเป็นยาโบราณ ที่สามารถบำบัดการอักเสบและอาการปวด มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ที่จะทำลายสารพิษจากแบคทีเรียและไวรัส

แฟลคซีด สูงด้วยกรดไขมัน เช่น โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบสมอง ช่วยความจำ ดีสำหรับหัวใจและการป้องกันโรค

มะนาว ดีที่สุดในการทำความสะอาดตับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดื่มกับน้ำอุ่นตอนตื่นนอน หรือใส่โยเกิร์ตและน้ำผึ้งเพื่อป้องกันภูมิแพ้ ป้องกันเบาหวาน

สาหร่าย มีรายงานจากมหาวิทยาลัยแมคกีลล์แห่งมอนตรีออลว่า สาหร่ายสามารถทำลายคลื่นอันตรายที่สะสมในร่างกายจากรังสีวิทยุ โทรศัพท์ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และไมโครเวฟ เพราะสามารถสร้างมะเร็ง โดยสาหร่ายจะเกาะติดกับคลื่นเหล่านี้รวมทั้งสารโลหะหนักทั้งมวล นอกจากนี้สาหร่ายยังอุดมด้วยโปรตีนและแร่ธาตุมากมาย