สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
เลี่ยงการผ่าตัด

คนเรามีอายุสองวัยตามศัพท์ภาษาไทยว่าไว้ คือเจริญวัย กับสูงวัย วัยอย่างอื่น เช่น วัยฉกรรจ์ วัยแรกรุ่น วัยดึก เป็นภาษาบรรยายวาระแห่งความเป็นอยู่เท่านั้นเอง ฉะนั้นจึงเป็นการง่ายที่จะบำรุงรักษาสองวัยที่บัญญัตินั้น มีอยู่เพียง 3 อย่างที่จะทำนุบำรุงวัยทั้งสองเหมือนกัน ได้แก่ อาหาร การออกกำลังกาย การนอนหลับ

เรารู้ตั้งแต่เด็กว่า อาหารต้องมี 5 หมู่ คือ แป้ง โปรตีน ผัก ไวตามิน และไขมัน ซึ่งเราก็กินตามนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ที่น่าสนใจคืออาหารอะไรที่จะมุ่งไปบำรุงสมองมากที่สุดในสองวัยนี้ ไม่ว่ากำลังเติบโตหรือกำลังแก่ชรา เพราะเรารู้ทันทีว่าอยากจะสนทนากับใครบ้างในสองวัยนี้ วัดได้จาก คุณภาพของสมองของคนที่เรากำลังพูดด้วย บางทีเราเรียกว่าพลังจิต ที่ใช้คำนี้เพราะลึกซึ้งจากการที่เราสังเกตคู่สนทนาแล้วว่ามีความอยากจะคุยต่อหรือไม่ อยากจะเลิกคุยหรือไม่ หรืออยากจะเลิกคบตลอดชีวิตหรือไม่ มงคล 38 ประการแห่งชีวิตประการหนึ่งคือ ไม่คบคนพาลเป็นมิตร หมายถึงว่า คุยด้วยแล้วก็รู้ทันทีว่าคนนี้ไม่มีค่าอะไรที่จะคุยด้วยต่อไป เพราะอะไรหลายอย่าง เช่น ไร้ความคิดที่ถูกต้อง คือนอกจากไม่มีพื้นฐานทั้งด้านในโรงเรียน และนอกโรงเรียนแล้ว ยังไม่มีความคิดที่ก่อให้เกิดความสว่างแห่งปัญญาคือการคิดที่ถูกต้องเสียอีกด้วย

อาหารที่น่าสนใจคืออาหารอะไรจะไปบำรุงสมองให้ทำงานได้ดีในสองวัยคือเจริญวัย กับชราวัย ด็อกเตอร์สตีเวน มาสเล่ย์ (Dr.Steven Masley) กล่าวปาฐกถาเรื่องการบำรุงสมอง (Better Brain Solution) ว่ามีอาหาร 6 กลุ่มที่จะไปบำรุงสมองได้แก่ 1.ผักเขียว 2.โอเมก้า 3.น้ำมันมะกอก 4.เบอรี่ต่างๆ 5.ช็อกโกแลต 6.กาแฟและชา

น่าสนใจว่าอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อรักษาคุณภาพการทำงานของสมองตามที่ด็อกเตอร์มาสเล่ย์พูด ได้แก่ของที่เราชอบ เช่น โดนัท และไอศกรีม ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็เพราะว่าเป็นอาหารที่ทำให้ผู้เขียนเป็นราษฎรเต็มขั้น คือ มีรถหวอนำไปโรงพยาบาลฉุกเฉิน ได้แก่ ไอศกรีมกับแกงเขียวหวาน อันนี้ยกมาเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น อาจมีความจริงหรืออาจเป็นเพราะไวรัสก็ได้

ที่น่าสนใจคือตัวแมกนีเซียมที่จะส่งช่วยความดันโลหิต และป้องกันมิให้เกิดสารเคลือบผนังเส้นโลหิตอันจะนำไปสู่สโตรค ที่จะมีผลต่อสุขภาพระยะยาว เช่น แขนขาอ่อนแรง ขาครึ่งซีก หน้าหรือปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ตามองไม่ชัด ปวดศีรษะเฉียบพลัน เวียนหัว หรือวูบ อาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาทันที เพื่อป้องกันมิให้เกิดซ้ำ อาหารที่มีแมกนิเซียมสูงได้แก่ ข้าวไม่ขัดขาว เมล็ดฟักทอง เต้าหู้ ปลาฮิลิบุต ปลาแมคเคอเรล ถั่วดินนัว ถั่วอัลมอนด์ ขนมปังข้าวสาลี ผักสปินนาช ถั่วฝักยาว

ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือโรคที่เรียกว่า โรคไม่ติดต่อ (Non-Communicable Diseases) อาจมาจากการขาดสารอาหารที่ 30 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยประเภทนี้ไม่มีอาการบ่งบอกล่วงหน้า แต่อาจมาจากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ การทำงานแข่งกับเวลา ภาวะคอเลสเตอรอลสูงในเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ความอ้วน ความเครียด ขาดการออกกำลังกาย และสูบบุหรี่ ในรายที่หายใจไม่สะดวก แน่นเหมือนมีอะไรมาบีบรัดหรือกดทับหน้าอก คลื่นไส้ เหงื่อออก ถ้ามีสารเคลือบเส้นโลหิตไปสู่หัวใจสูง อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงาน และไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทางออกที่น่าจะปฏิบัติตั้งแต่วันนี้คือ การรับประทานอาหารที่สมบูรณ์สำหรับการทำงานของกล้ามเนื้อทุกส่วน ตั้งแต่หัวใจ แขน ขา จะเป็นตัวส่งข่าวให้สมองรับรู้ว่า เราขาดการบำรุงอะไรต่อกล้ามเนื้อ สมอง หัวใจ และขาดพลังแห่งชีวิตด้านไหนบ้าง เพราะอาหารให้พลังต่อชีวิต ทั้งในด้านหยิน และหยาง คือให้ทั้งความอบอุ่นของร่างกาย และประสานงานให้เซลล์ติดต่อกันโดยไม่ขาดสาย

เคยแนะนำสูตรน้ำสมุนไพรนานมาแล้ว เรียกว่าคลอโรฟิลล์สดจากพืช เพราะพืชได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ไปสร้างสารที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต เห็นได้จาก เมื่อมีคนทำลายสมุนไพรแก้ปวดของผู้เขียนจนย่อยยับ และทิ้งซากให้ตากแดดเหี่ยวแห้ง ยังสามารถต่อชีวิตได้อีกจากราก

สูตรน้ำดื่มสมุนไพรเรียกว่าน้ำคลอโรฟิลด์ ประกอบด้วย หนึ่งอย่างหรือหลายอย่างของพืชต่อไปนี้

1.ใบย่านางเขียว 5-20 ใบ

2.ใบเตย 1-3 ใบ

3.ใบบัวบก ½ - 1 กำมือ

4.หญ้าปักกิ่ง 3-5 ต้น

5.ใบอ่อมแซบ ½ -1 กำมือ

6.ผักบุ้ง ½ -1 กำมือ

7.ใบเสลดพังพอน ½ -1 กำมือ

8.หยวกกล้วย ½ -1 คืบ

9. ก้านกาบหอย 3-5 ใบ

โขลกให้ละเอียด หรือขยี้ ผสมกับน้ำเปล่า 1-3 แก้ว กรองผ่านกระชอน ดื่มน้ำ ½ -1 แก้ว วันละ 2-3 ครั้ง หรืออีกสูตรน้ำผักที่หาได้ง่ายโดยซื้อจากตลาดดังนี้

1.เซลเลอรี่ 2 ก้าน

2.แตงกวาลูกใหญ่ ¼ ผล

3.พริกระฆังเขียว (หรือแดง) ½ ผล

4.มะระลูกใหญ่ ½ ผล

5.แอปเปิลเขียว 1 ผล ปอกเปลือก

ทุกอย่างเข้าเครื่องปั่น แยกกาก ดื่มเฉพาะน้ำทันทีที่เสร็จ อาจดื่มตอนเช้า หลังอาหาร หรือตอนเที่ยง หลังอาหารเที่ยง จุดประสงค์เพื่อให้มีการชำระสารพิษ และอำนวยสารอาหาร ก่อนที่ร่างกายจะได้รับสารพิษจากอากาศหรืออารมณ์ หรือพิษจากปุ๋ยและสารเคมี

ประโยชน์ที่ได้รับคือ เซลเลอรี่ส่งเสริมให้เจริญอาหาร ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นโลหิต ลดน้ำหนัก ลดนิ่ว ทำให้ฟันแข็งแรง ส่งเสริมอวัยวะการย่อยและการทำงานภายใน

แตงกวาช่วยสร้างความบริสุทธิ์ของโลหิต ลดความดันโลหิต ลดการกระหายน้ำ ช่วยปัสสาวะ ลดการอักเสบ เพิ่มการสังเคราะห์สารอาหาร

พริกระฆัง ทำให้ตับกำจัดสารพิษ ชำระมวลพิษในลำไส้ใหญ่ ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง กำจัดจุดด่างดำ ลดการบวมและฝี ช่วยให้ปอดทำงานสมบูรณ์ขึ้น

มะระ ลดการอักเสบ การกระหายน้ำ เจริญอาหาร ชำระสารพิษ ลดการบวมและฝีหนอง ลดการตะครั่นตะครอ บำรุงสมอง ทำให้จิตวิญญาณสมบูรณ์ ตาแจ่มใส

แอปเปิล ช่วยให้การทำงานของกระเพาะแข็งแรง ย่อยสารอาหารดีขึ้น ลดการปวดกล้ามเนื้อ ลดภาวะซึมเศร้า ลดการบวม การขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยให้ผิวดี

สูตรน้ำผักนี้ ถ้าทำได้เป็นประจำก็ดี เพราะโชคดีที่คนอยู่แคลิฟอร์เนียมีแดดจัด พืชผักสมบูรณ์ ลดความร้อนของร่างกายอีกทางหนึ่ง ดื่มแล้วสบายตัวเพราะไม่มีสารพิษสะสม สังเกตได้จากผิวและผม อีกอย่างหนึ่งก็คือกินผักผลไม้เป็นประจำทุกมื้อ มีแกงจืดประกอบด้วยหัวผักกาดขาวและดอกกะหล่ำ หรือผัดขนมหัวผักกาดที่ให้วิธีทำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผลดีต่อร่างกายเสมือนเป็นยา อาจทำน้ำซุป แกงเลียง แกงอื่นๆ ที่ปราศจากกะทิ กินอาหารจากย่อยง่ายไปสู่ย่อยยาก เท่านี้ก็ผ่านฤดูร้อนที่แสนโหดได้อย่างสบาย

เขียนมาจนจบ ยังไม่เข้าเรื่องตามหัวข้อที่ตั้งไว้เลย ว่าจะเลี่ยงการผ่าตัดได้อย่างไร ก็จะได้คำตอบเดี๋ยวนี้ว่า อาหารดีมีประโยชน์ต่อระบบภายใน ส่งผลต่อการทำงานของร่างกายโดยรวม จะเลี่ยงการผ่าตัดไปได้ทุกชนิด ตั้งแต่ผ่าตัดลิ้นหัวใจ ผ่าตัดหัวเข่า ผ่าตัดอะไรอีกสารพัด ผู้เขียนเห็นคนเดินด้วยไม้เท้าทราบว่ามีประวัติปวดหัวเข่า แพทย์ก็ให้ยารับประทาน ยังไม่หายปวดหัวเข่า ก็ฉีดยาแก้ปวดหัวเข่า ยังไม่หายปวดก็ผ่าตัดหัวเข่า นี้คือครรลองการบำบัดรักษาหัวเข่าให้หายปวดทางแพทย์ ถ้าเราไม่ต้องการผ่าตัดหัวเข่า ก็แก้ปวดด้วยทาสมุนไพรทำด้วยกัญชาผสมแอลกอฮอล์ พันผ้าทอด้วยแร่เงินทอกับไนล่อน แร่เงินจะส่งกระแสไฟฟ้าขั้วบวกผ่านถุงที่ใส่วัสดุกระจายความร้อนเรียกว่า Heat pack ไปยังหัวเข่าตอนนอน พอตื่นความปวดก็ปราศนาการ ประกอบด้วยกินยาที่แพทย์สั่งด้วยเพื่อสำทับว่าห้ามปวดนะ แล้วก็ดื่มสมุนไพรที่เป็นชาแก้ปวดด้วย เท่านี้ก็สบายหายปวด หายความกลัวผ่าตัด คนที่ปวดหัวใจก็ลองใช้การดื่ม การกิน การคิด เป็นยาแก้ปวดไปก่อน อาจไม่ต้องผ่าตัดหัวใจก็ได้นะ เผลอๆ ใช้การรักษาด้วยจิตสมาธิ ยังสามารถช่วยให้เด็กติดถ้ำอยู่รอดโดยปราศจากอาหารได้ถึง 6 วันกว่าเชียวนะ เพื่อนผู้เขียนผ่าตัดหัวใจวันพุธ หัวใจออกจากร่างตรงกำหนดนัดหมายที่จะพบกับผู้เขียนทุกวันศุกร์เวลา 4 โมงเย็นครึ่ง เพราะเขาเป็นคนตรงต่อเวลามาก แม้แต่จิต เพียงคิดก็ไปแล้ว