อยากมีลูก
สดศรี สุริยะฉาย
เรื่องของโกรทฮอร์โมน

ต่อมนายใหญ่ใต้สมองเป็นต่อมที่สำคัญที่สุดต่อระบบการผลิตฮอร์โมนทั้งหมดของร่างกาย ชื่อว่าต่อมพิจุอิทาริ ผลิตโกรทฮอร์โมนเข้าสู่ระบบการหมุนเวียนโลหิต เพื่อสื่อสารให้ต่อมอื่นๆ อีก 6 ต่อม ผลิตฮอร์โมนสำคัญต่อชีวิตทั้งหมด ตั้งแต่แรกเกิดจนเข้าสู่วัยแรกผลิเป็นสาว หรือแตกพานเป็นหนุ่ม เพศหญิงก็เจริญเติบโตเตรียมพร้อมสำหรับการมีทารก เพศชายก็เริ่มมีหนวดมีเครา พออายุ 18 สำหรับเพศหญิง เพศชายอายุ 20 ก็ชะลอการผลิตลง เมื่อถึงวัยกลางคนเพศหญิงเริ่มหมดประจำเดือน เพศชายเริ่มรู้สึกเลือดจะไปลมจะมา คือลดสมรรถนะลง จนกระทั่ง แก่ชราก็ไม่ผลิตอีกแล้ว เพราะไม่ต้องสร้างชีวิตใหม่อีกแล้ว ร่างกายที่แข็งแรงมาก่อนตอนสมัยเด็กก็เริ่มเสื่อมทุกส่วน ตั้งแต่ สมองความจำเสื่อม กล้ามเนื้อไม่มีแรง การทำงานของระบบย่อยอาหาร บกพร่อง ระบบสายตาเสื่อม การได้ยินลดน้อยถอยสมรรถภาพลง หงุดหงิด และอื่นๆ ตามมา

ต่อมพิจุอิทารีมีขนาดเท่าเม็ดถั่ว ตำแหน่งอยู่ใต้ติดกับฐานสมองส่วนล่างด้านหน้า ติดต่อเชื่อมกับแกนสมอง ตรงไฮโปทาลามัสซึ่งควบคุมการเต้นของหัวใจ ด้านหลังเป็นตำแหน่งของต่อมไพนีลซึ่งผลิตเมลาโทนิน สำหรับบอกระบบประสาทให้นอนหลับตามเวลาที่เคยชิน

ต่อมพิจุอิทาริทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย มีระบบประสานงานบอกให้ร่างกายรู้ว่ามีฮอร์โมนจากต่อมอื่นๆ พอเพียงตามที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้หรือไม่ และไม่ให้มากไปฮอร์โมนเป็นตัวสื่อสาระหว่างเซลล์ ในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องข่ายของระบบประสาทที่จะเป็นกระแสไฟฟ้ากระตุ้นการทำงานของสมองกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ฮอร์โมนผลิตจากต่อมพิจุอิทาริจะสื่อสารให้อีก 6 ต่อมทำหน้าที่สำคัญในการผลิตฮอร์โมนอื่นๆ ต่อไป ได้แก่ ต่อมไทรอยด์ ต่อมพาราไทรอยด์สองคู่ตรงต่อมไทรอยด์ ต่อมอะดรีนัลสองต่อมบนของไตสองข้าง ต่อมบนตับอ่อน และต่อมเพศ

ส่วนหน้าของต่อมพิจุอิทาริส่งฮอร์โมนสำคัญอย่างน้อย 6 ชนิดเข้าสู่กระแสเลือด ชนิดหนึ่งคือโปรแลคติน (Prolactin) ซึ่งเป็นตัวผลิตน้ำนมในสตรีเมื่อคลอดบุตร อีกสี่ชนิดส่งไปกระตุ้นต่อมอีกสี่อย่าง คือต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ต่อมเพศชาย (อัณฑะ) และรังไข่ในเพศหญิง ให้ผลิตและปล่อยฮอร์โมนสำคัญต่อร่างกายต่อไป

ฮอร์โมนอีกอย่างหนึ่งผลิตโดยส่วนหน้าของต่อมพิจุอิทาริ มีชื่อเรียกว่า โซมาโดโทรพิน (Somatotropin หรือ STH) ผลิตโกรทฮอร์โมน ทำหน้าที่ควบคุมขนาดร่างกาย

โกรทฮอร์โมน หรือ STH มีผลต่อเซลล์โดยตรงที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อในระยะกำลังเจริญวัย อีกทั้งควบคุมปริมาณการสังเคราะห์กูลโคส ถ้ามีโกรทฮอร์โมนมากเกินไป ร่างกายจะสูงใหญ่ ถ้ามีน้อยเกินไป ร่างกายจะเล็กแคระ การที่ต่อมพิจุอิทาริไม่ทำงานปกติอาจส่งผลให้เป็นเบาหวาน

ฮอร์โมนอีกสี่ชนิดผลิตโดยส่วนหน้าของต่อมพิจุอิทาริที่มีผลต่อต่อมไร้ท่ออื่นๆ คือ

1.อะดรีโนคอร์ติโคโทรพิน กระตุ้นต่อมหมวกไต

2.ไทรอกซิม กระตุ้นต่อมไทรอยด์

3.ฮอร์โมนกระตุ้นรากผม

4.ลูติไนซิ่ง กระตุ้นต่อมเพศ

ส่วนหลังของต่อมพิจุอิทาริผลิตฮอร์โมนชื่อ แอนไทไดยูเรติค (ADH) และออกซิโทซิน (Oxytocin) ทำหน้าที่รักษาระดับน้ำในร่างกายและควบคุมไตให้ทำหน้าที่ดูดซึมน้ำหรือขับน้ำเข้าสู่กระแสโลหิต และเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นมดลูกให้บีบตัวเมื่อคลอดบุตร ถ้า ADH อยู่ในระดับต่ำประกอบกับมีการขับน้ำปริมาณสูงออกจากระบบโดยไต เรียกว่าเกิดโรคเบาหวานประเภทสอง (Diabetes Type II)

อาการบ่งว่าต่อมพิจุอิทาริผลิตโกรทฮอร์โมนไม่เพียงพอเริ่มปรากฎขึ้นเมื่อ STH และ ADH ถึงขีดยุติการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อตั้งแต่อายุ 20 ถึง 25 ปี โกรทฮอร์โมนจากต่อมนี้ชะลอการผลิตลดลง ส่งผลให้ต่อมอื่นๆ ในระบบผลิตฮอร์โมนลดน้อยลงไปด้วยเมื่อวัยชราขึ้น สิ่งที่บอกเหตุได้แก่ ผิวย่น มีริ้วรอยบนผิว ความจำเสื่อม ผมบาง ขาดความกระตือรือร้น กล้ามเนื้อหย่อนยาน สายตาเสื่อม ผมขาว แรงน้อย มีปัญหาเรื่องผิว น้ำหนักตัวเปลี่ยนเพิ่มหรือลดมากเกินไป แผลไม่สมาน ความสนใจทางเพศหดหาย เพิ่มไขมันในชั้นใต้ผิวเรียกว่าเซลลูไลท์และเริ่มนอนไม่หลับ อาการต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

เพศชายจะเริ่มให้ความสนใจสตรีรุ่นเยาว์ เพื่อชดเชยความสูยเสียความกำยำ และเริ่มสร้างความประทับใจต่อเพศตรงข้าม เพศหญิงจะเริ่มใส่แหวนเพชรเม็ดโตเพื่อเปลี่ยนความสนใจจากร่างกายที่เริ่มทรุดโทรมลง นี่คืออาการที่เกิดขึ้นจากผลลัพท์ของโกรทฮอร์โมนลดลง

สมัยนี้ ไม่ต้องวิตกต่ออาการเสื่อมโทรมต่างๆ เหล่านั้นแล้ว เพราะมีโกรทฮอร์โมนอยู่ในขวดแทนต่อมพิจุอิทาริแล้ว เพียงแต่สเปรย์ใต้ลิ้น หลังตื่นนอน ก่อนทานอาหารเช้า 30 นาที พอบ่ายสองโมงก็สเปรย์อีก 3 ทีใต้ลิ้น หลังทานอะไรแล้วครึ่งชั่วโมง พอก่อนนอนหลังแปรงฟันเสร็จเรียบร้อย 30 นาที ก็สเปรย์อีก 3 ทำอย่างนี้ สัปดาห์ละ 5 วัน เว้น 2 วันไม่ต้องสเปรย์ ต่อมพิจุอิทาริเริ่มผลิตโกรทฮอร์โมนเองได้แล้ว เพราะได้รับการกระตุ้น สัปดาห์ต่อไป ก็สเปรย์อีก 5 วัน คอยดูว่าร่างกายเดือนแรกมีความกระฉับกระเฉงขึ้น นอนหลับดีขึ้น มีแรงมากขึ้น เดือนที่สอง กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ย่อยอาหารดีขึ้น น้ำหนักลดลงเพราะไขมันถูกกำจัดเป็นพลังงาน เดือนที่สามสภาวะจิตใจดีขึ้น ผมดกขึ้น มีอารมณ์เพศ กล้ามเนื้อขยายตัวโดยเฉพาะถ้าออกกำลังกายด้วยอาการเหล่านี้เพิ่มขึ้นในเดือนที่สี่ และเดือนที่ห้า สะโพกบนที่เคยพอกด้วยไขมันลดหายไป ไม่มีไขมันพอกตามที่ไม่ควรจะมี ผิวมีสีสันดี เดือนที่หก เป็นระยะที่น่าตื่นเต้น เซลลูไลท์หายไป สายตาดี อารมณ์ดี ต้านทานหวัดได้ดี อาการปวดนั่นปวดนี่หายไป แผลเก่าหาย ผมหงอกกลับดำเป็นสีธรรมชาติ โคเลสเตอรอลลดลง ความดันโลหิตเป็นปกติ ภูมิต้านทานสูงขึ้น อาการของโรคทุเลาลง

ดร.แดเนียล รุดแมน ได้ทดสอบใช้โกรทฮอร์โมนในกลุ่มผู้สูงอายุระหว่าง 61 ถึง 81 ปี ในปี 1989 พบว่าไขมันหายไป 14 เปอร์เซ็นต์ 8.8 เปอร์เซ็นต์มีรูปร่างกล้ามเนื้อชัดขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนการดำรงชีวิตประจำวันหรือออกกำลังกาย

ถ้าบางคนมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่นมีอาการหัวใจเต้นแรงขึ้น ปวดศีรษะกระเพาะอาหารไม่ปกติ เพราะการปรับภาวะร่างกายที่เกิดขึ้น ก็ลดการสเปรย์เป็นวันเว้นวัน หรือวันละเพียงสองครั้งก่อนนอน และหลังตื่นนอน พยายามอย่าแปรงฟัน หมากฝรั่ง กาแฟ หรือ ทานอาหารเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนและหลังการสเปรย์โกรทฮอร์โมน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

รุ่นเบบี้บูมเมอร์ก็จะไม่พบกับอาการข้างเคียงของประจำเดือนหมด ไม่รู้แก่หรือหลงลืมมีอย่างเดียวที่ไม่แนะนำให้ใช้ คือถ้ายังอยู่ในวัย 18 ถึง 20 ปีที่กระดูกยังไม่ยุติการเติบโต เพราะจะหยุดไม่อยู่ ถ้าสงสัยว่าเด็กไม่เจริญเติบโตตามวัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาข้อมูล และมีโกรทฮอร์โมนสูตรสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันปัญหาการไม่เจริญวัยตามความเหมาะสม เช่น หวังว่าโกรทฮอร์โมนสำหรับเด็ก จะช่วยส่งเสริมให้เด็กสูงขึ้นอีกประมาณสองนิ้ว