ถ้าเป็นศาสนาพุทธ หัวข้อเรื่องนี้คงเขียนว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประสาทพร ในกรณีที่ความปรารถนาสัมฤทธิ์ผล คุณเคยประสบกับตนเองหรือไม่ว่า เวลาที่คิดอยากได้สิ่งใดแล้วก็สมหวัง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเพียงแต่คิดปรารถนาในใจเท่านั้น ยกตัวอย่าง สมัยผู้เขียนอยู่เมืองไทย ทำไมคิดอยากมาอเมริกา แล้วก็ได้มา คิดอยากเรียนต่อ ก็มีมหาวิทยาลัยเสนอให้ทุกเรียนปริญญาโท และเสนอให้ทุนเรียนต่อปริญญาเอกด้วย แต่เสียดายที่ไปปรึกษาคนอื่น เขาบอกอย่าไปเรียนเลย คงไม่ได้ใช้ทำอะไรหรอก เราก็ไปเชื่อเขา ก็เลยเสียโอกาสเรียนต่อ ตอนนี้เชื่อไว้ก่อนว่า พระเจ้าช่วย ถ้าอยากทำอะไร ก็ทำไปเลย ถ้าเป็นสิ่งดี พระเจ้าช่วย ดูตัวอย่างง่ายๆ อยากเปลี่ยนคนดูแลช่วยงานบ้านก็มีศาสนาจารย์แนะนำมาให้ เมื่อวันอาทิตย์เขาพาไปโบสถ์ สิ่งที่ได้คือความเป็นสุขในอารมณ์อย่างนึกไม่ถึงว่า พระเจ้าช่วยได้ จากอารมณ์อัดอั้นเพราะอยู่บ้านจากโควิดทำให้อารมณ์ไม่ปลอดโปร่งแจ่มใส ฉุนเฉียวง่าย พอได้ฟังศาสนาจารย์บรรยายเรื่องพระคุณแม่ก็เกิดความซาบซึ้งจนน้ำตาไหล และผลที่ได้ คือความสบายใจจากการไปโบสถ์ ได้พบปะผู้คนที่โบสถ์คริสต์เป็นครั้งแรก นี่คือพระเจ้าช่วย
เรื่องที่จะเขียนสำหรับหัวข้อสุขภาพและการบำบัดคงหนีไม่พ้นเรื่องการกินอยู่ เขียนมาหลายสิบปี จนไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไร พอดีเห็นสาระจากสารประจำเดือนชื่อ AARP แนะนำสำหรับการกินอยู่ให้อายุยืนสุขภาพแข็งแรง และดีขึ้น อยากจะถ่ายทอดสู่กันฟัง เผื่อว่าคนอายุยังน้อยจะได้เตรียมร่างกายให้อายุยืนยาวมากขึ้น และมีความแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
เริ่มต้นด้วยการส่งเสริมสุขภาพของสมอง เขาแนะนำให้จัดตารางการยืดเส้นยืดสายประจำวันไว้ ถ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยซื่อสัตย์ต่อตารางเวลาของตนก็หาเพื่อนร่วมด้วยจะได้รักษาเวลาได้ดีกว่าโกงตนเองเพราะมีเรื่องอื่นต้องทำ ผู้เขียนเองไม่มีเวลาออกกำลังกายหรอก มีแต่เวลาที่จะยืดเส้นยืดสายด้วยการเอาอาหารและนมไปเลี้ยงแมวไร้บ้านตรงเวลาทุกวัน ไม่อย่างนั้นแมวจะหิวแย่ บางตัวแก่ชราเดินข้ามถนนมากินปลาทูน่าและอาหารแห้ง ขาดไม่ได้คือนม แล้วเขาก็เดินแอบๆอย่างเจียมสังขารกลับที่อยู่ของตัวเองในบริเวณโรงเรียนฝึกอาชีพตรงข้ามถนนที่ไม่ค่อยพลุกพล่าน พอจะแฝงกายไปมาได้ และถ้าแมวตัวอื่นจะมาแย่งอาหารเขาก็ไม่ว่า เลี่ยงไปโดยดีเพราะเจียมสังขารสู้ไม่ไหว เราก็ต้องแน่ใจว่าเขาได้อาหารทุกอย่างพอเพียงกับวันละหนึ่งมื้อ และมีชีวิตอย่างปลอดภัย บางทีเห็นมีคนขับรถเอาอาหารมาวางให้บริเวณรั้วโรงเรียนด้วย ชีวิตของแมวยามชราก็เป็นอย่างนี้ ดีตรงที่สามารถสร้างความปิติให้แก่จิตของเราได้ทางสมอง
การที่สมองจะทำงานดี ก็ต้องได้รับการบำรุงทางอาหาร ที่ขาดไม่ได้คือกินผักผลไม้สดเป็นประจำคือกินหลังอาหารทุกมื้อ หรือกินพร้อมกับอาหารหลักด้วย เช่น บลูเบอรี่ หรือ สับปะรด สามารถหยิบใส่ปากระหว่างกินแกล้มน้ำพริกอ่องผักสดได้สบายมาก เพราะรสหวานของบลูเบอรี่แกล้มรสเผ็ดได้ดี จากการค้นคว้ากล่าวไว้ว่า ลูกบลูเบอรี่สีคล้ำมีสรรพคุณในการต่อสู้กับการอักเสบต่างๆรวมทั้งป้องกันการทำงานของสมองด้วย ถ้ากินบลูเบอรี่วันละถ้วยสัก 6 เดือนจะช่วยลดอันตรายต่อโรคหัวใจ 12-15 เปอร์เซ็นต์ จากการค้นคว้าโดย American Journal of Clinical Nutrition หรือถ้าไม่หยิบบลูเบอรี่ใส่ปากระหว่างแกล้มน้ำพริกอ่อง ก็กินกับโยเกิร์ตตอนเช้าหรือเวลาที่อากาศร้อนก็อร่อยดี แล้วจะติดเป็นนิสัย คือ กินผลไม้กับอาหารหลัก
นอกจากเน้นการกินผักผลไม้ ก็อาจดื่มชาจากใบไม้ เช่นใบย่านางปั่น ซึ่งช่วยให้ผู้เขียนหายเจ็บหัวใจ จนติดเป็นนิสัยพอเปิดตู้เย็นทีไรก็ดื่มน้ำคั้นใบย่านาง บางประเทศอย่างศรีลังกาเขาปลูกพืชทำชากว้างใหญ่สุดตา และต้องรู้ว่าใบไหนแก่ได้ที่ แล้วก็ต้องชิมรสดูว่าใช้ได้ ก่อนจะผลิตเป็นชาเขียวออกจำหน่าย เราก็อาจจะดื่มชาเขียวจากใบไม้ที่ปลูกในสวน เช่น ใบย่านาง ใบแป๊ะก๊วย ใบเตย ใบผักชี ใบรางจืด นอกเหนือจากการกินผักสด เช่นดอกกะหล่ำผัดไข่โรยหน้าข้าวบราวไรซ์ สารจากดอกกะหล่ำจะช่วยดูแลมะเร็งเต้านมนอกเหนือจากอะโวคาโดที่ราดหน้าข้าว โยเกิร์ตแก้วมลพิษ ชาแก้สมองวายเฉียบพลัน หอยนามรมแก้ความจำเสื่อม กะหล่ำปลีแก้มะเร็งเต้านม
การดูแลภาพที่วารสาร AARP แนะนำไว้ทั้งหมด มี 60 ประการ อย่างหนึ่งก็คือ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ผู้เขียนคิดเอาเองว่า วันหนึ่งมี 24 ชั่วโมง ทำงาน 8 ชั่วโมง ภารกิจ 8 ชั่วโมง เช่น ขับรถไปทำงาน ทำสวน และออกกำลังกายรวม 8 ชั่วโมง พักผ่อนนอนหลับอย่างน้อยก็ 1 ใน 2 ของวัน คือประมาณ 8 ชั่วโมง ถ้ามากกว่านี้ก็อาจสันหลังยาว
เขาแนะนำว่า ควรซื้อหรือทำอะไรไหมในชีวิตบ้าง ผู้เขียนใช้วิธีดูสารคดีทางทีวีช่อง 28-3 หลังสองยามเพื่อได้อะไรใหม่ๆประดับความรู้ เช่นการทำงานของหัวใจ เป็นอวัยวะสำคัญที่สุด ขาดไม่ได้ในร่างกาย ต้องรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง ทำงานสม่ำเสมอ หยุดเต้นไม่ได้ บำรุงหัวใจด้วยการกินอาหารบำรุงสุขภาพ กินตามเวลา นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ จะได้คิดทำยานอวกาศออกไปดาวอังคารแล้วบินกลับได้อย่างปลอดภัย เหมือนเช่น อีลอน มัสค์ เราอยู่โลกนี้ก็กินเม็ดทานตะวันเพื่อป้องกันเนื้อเยื่อปอดถูกทำลาย ไวรัสโคโรน่าหายใจเข้าทางปอด ทำลายปอด โลหิตก็ไม่มีคุณภาพดีพอที่จะส่งไปเลี้ยงหัวใจให้ทำงานตามปกติได้ เราจะต้องสร้าง autoimmune หรือ การป้องกันสุขภาพด้วยสารสร้างขึ้นเองในร่างกายได้ ด้วยอาหารที่ดี ได้รับแสงแดดและออกซิเจน รู้จักการนวดด้วยปลายนิ้วทั้ง 4 จุดส่วนล่างของกราม เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำลาย นวดประมาณ 10 ครั้ง จากใต้กราม ถึงกระดูกบ่า คนสูงอายุ ควรแปรงฟันทำความสะอาดปากตอนตื่นเช้า คนทั่วไปก็แปรงฟันก่อนเข้านอน ที่ดีที่สุดก็คือรักษาความสะอาดของช่องปากอยู่เสมอ เพื่อเสริมคุณภาพของน้ำลายให้สร้างสาร IgA factor X ไว้สำหรับต่อสู้ไวรัสโคโรน่าเมื่อเข้าสู่ร่างกายทางลมหายใจเข้าสู่ปอด ทำให้อาการเริ่มแรกคล้ายเป็นหวัด ยาแก้หวัดที่ควรมีไว้ประจำบ้าน เช่น Nyquil จิบเมื่อมีอาการคล้ายหวัด แล้วนอนหลับพักผ่อน ถ้าปวดศีรษะก็กินปลา หรือขิง ช่วยลดการอักเสบ การปวด ถ้าไอก็กินพริกแดง เช่นเนื้อยัดไส้พริกระฆังสีแดง ใช้เนื้อสำเร็จรูปซื้อจากคอสโคเรียกว่า Beef Barbacoa ไม่มีมันปรุงสำเร็จรูปแล้วเพียงแต่ผสมผงสำหรับทำน้ำจิ้มสะเต๊ะก็วางในพริกระฆังแล้วนึ่งจนสุกก็หวานอร่อยแล้ว ถ้านอนไม่หลับก็กินน้ำผึ้ง ถ้าหายใจขัดก็กินหัวหอมแดง วิธีง่ายๆก็คือกินเมี่ยงคำจะได้กินพืชคุณภาพดีหลายอย่าง ถ้าต้องการป้องกันมะเร็งปอดก็กินส้ม ผักเขียว ซึ่งประกอบด้วยคาโรทีนจะช่วยแก้ได้ ถ้ากระดูกบางกินสับปะรดซึ่งมีแมงกานีสจะช่วยบรรเทากระดูกเสื่อม เช่นเดียวกับกินปลาแซลมอน ทุน่า ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ถ้ากระเพาะอาหารไม่ปกติ ตอนเช้าก็กินกล้วย เพราะมีโปแตสเซี่ยมจะช่วยปรับภาวะความดันสูงจากเกลือได้ ถ้ามีภาวะจิตตกก็เปลี่ยนบรรยากาศโดยการไปโบสถ์วันอาทิตย์ ได้ผลอย่างที่ผู้เขียนประสบ นอกจากกินอาหารดังกล่าวแล้วอย่าลืมกินถั่วแห้ง เช่น พิชตาชิโอ ซื้อติดประจำโต๊ะอาหารไว้ การค้นคว้ารายงานว่า คนสูงอายุ 55-80 ปี มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อย่างเช่นผู้เขียนกำลังเจ็บหัวใจขณะที่พิมพ์อยู่นี้ ถ้ากินถั่วไม่ต่ำกว่าสัปดาห์ละ 3 วัน จะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจน้อยลง 30 เปอร์เซ็นต์ เขาว่าให้ซ่อนสเน็คจากซอกโกแลต เปลี่ยนเป็นผลไม้แทน เพราะมักจะกินของโปรดจนติดเป็นนิสัย นอกจากนี้ เขาให้คนเราเลิกติดนิสัยเช็ครายการโทรศัพท์ที่คนโทรมาหาวันหนึ่ง 90 ครั้ง และควรปิดทีวีสักหนึ่งวัน ไปทำกิจกรรมอื่นที่สนุกสนานเสียบ้าง อย่าลืมติดต่อเพื่อนเก่าๆด้วย จะได้อารมณ์ปลอดโปร่งดี ยาสำหรับโคโรน่าเท่าที่จดชื่อไว้ มี Hydroxysuloloquine และ Remedisivier ไปโรงพยาบาลฉุกเฉินจะปลอดภัยกว่า เพราะการดูแลหัวใจกับปอดเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิต ผู้เขียนเคยเจอไวรัสเมอร์ส หรือ ซาร์ส แล้วร้องได้อย่างเดียว ไอ๊ย่า อั๊วซี้เลี้ยว ถ้าไม่ได้รถพยาบาลเปิดหวอนำไปโรงพยาบาลฉุกเฉินก็ไม่มีบทความแล้ว