สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
กายกับใจขึ้นอยู่ที่กินกับนอน

เมื่อวานไปตลาดมีเสียงดังจากเด็กสาวคนหนึ่งตะโกนเอากุญแจรถของเธอที่เพื่อนผู้ชายถือครองอยู่ ผู้ชายคนนั้นหน้าตาส่อเค้าไม่น่านับถือและหนีห่างไปรอบๆตลาดพร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ยังดีที่เด็กสาวก็ขอความช่วยเหลือให้คนอื่นโทรศัพท์ให้ตัวเอง การที่จะไว้ใจเพศตรงข้ามที่แข็งแรงกว่านั้น ไม่แน่เสมอไปว่าเขาคือมิตรหรือจะเป็นอันตรายต่อตนเอง โดยเฉพาะในวัยที่ยังไม่มีประสบการณ์ชีวิตเพียงพอที่จะอ่านจิตใจคนออก ก็พึ่งตัวเองไปก่อนดีกว่า ด้วยการกินกับนอนให้ร่างกายสร้างจิตที่มีคุณภาพในการคิดการอ่าน จิตใจของบุคคลอื่นได้ถูกต้องใกล้เคียงกับความเป็นจริง ถึงแม้จะเยาว์วัย ก็พึ่งการศึกษารอบตัวไว้พลางก่อนในระยะที่กำลังเติบโต อย่าไว้ใจคนง่ายๆ ผู้เขียนปรารถเรื่องนี้กับผู้ดูแล เขาเลี้ยงลูกชายคนเดียวโดยลำพัง ลูกชายกำลังเลือกที่จะศึกษาด้านประสาทวิทยา ผู้เขียนเห็นด้วยเพราะเป็นแพทย์สาขาสุดท้ายที่ผู้สูงวัยพึ่งพาได้

การจะไว้ใจร่างกายและจิตใจให้มีความสามารถดำรงสุขภาพดีพอที่จะคิดและดำรงชีวิตอย่างสุขสบายได้ เขาว่ามี 11 ประการได้แก่

1.หลับเป็นสุข

2.ตื่นเป็นสุข

3.ปราศจากฝันร้าย

4.เป็นที่รักของมนุษย์

5.เป็นที่รักของอมนุษย์

6.เทวดาหรือพระเจ้าคุ้มครอง

7.ปลอดภัยจากไฟ ยาพิษ และอาวุธ

8.มีพลังจิตสมดุล

9.มีรัศมีบริสุทธิ์ (aura)

10.ปราศจากการหลงผิด หรือ เชื่อคนผิด

11.บรรลุดินแดนบริสุทธิ์โดยยังมิได้ตรัสรู้


ดำรงตนในชีวิตสายกลางตามภาวะปกติของ การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ที่ประกอบด้วย

1.ความพึงพอใจในความเป็นอยู่

2.ความอดกลั้น

3.ความเพียรพยายาม

4.การประมาณตน


การดำรงชีวิตขึ้นอยู่กับพื้นฐานของการกินอาหารที่ให้คุณค่าต่อร่างกาย ที่สมบูรณ์ด้วย

1.โปรตีน เป็นสายใยหลังของหน่วยโมเลกุลอะมิโนแอซิต ใช้ในการเจริญเติบโตของร่างกายและการทำงานของเซลล์ เป็นหน่วยสร้าง ดี.เอ็น.เอ. DNA (Desoxyribonucleic Acids) ซึ่งเป็นตัวสั่งการให้เซลล์ปฏิบัติการต่างๆ โปรตีนคือส่วนสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ โลหิต น้ำย่อยและโปรตีนเป็นตัวการสร้างคีราตินสำหรับสร้างผม ผิว และเล็บ และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ในการบริโภคอาหารย่อมก่อให้เกิดมีสารศัตรูอิสระ เรียกว่า free radicals ระบบภูมิคุ้มกันทำงานโดยอาศัยโปรตีนคอยอารักขาและจับตาดูสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้ามาทำอันตรายต่อเซลล์ ดังเช่นไวรัส หรือแบคทีเรีย คนที่ขาดโปรตีนจึงเป็นหวัดได้ง่ายๆ

ร่างกายได้รับอาหารที่เรากินเรียกว่า อะมิโนแอซิดจำเป็น (essential amino acids) ได้แก่ เนื้อ ปลา ไข่ นม ผัก ร่างกายสร้างสิ่งพวกนี้เองไม่ได้ ต้องมาจากอาหารที่เราบริโภคเท่านั้น ซึ่งระบบของร่างกายจะนำไปสร้างโปรตีนอะมิโนแอซิดประเภทรองเรียกว่า nonessential amino acids ต่อไป ยกตัวอย่างเช่น อาหารที่เราบริโภคให้อะมิโนแอซิด 10 ตัว ระบบของร่างกายสร้างต่อไปอีก 12 ตัว จึงครบ 19-22 ที่จะนำไปสร้างผม 1 เส้น ถ้าไม่ครบ ก็ไม่สร้างผมขึ้นแทบเส้นที่หลุดร่วงไป ผมก็จะเบาบางลง ถ้าบริโภคอาหารไม่ครบสมบูรณ์

2.แป้ง คือตัวสังเคราะห์เป็นน้ำตาลเพื่อพลังงาน แยกเป็น 3 ประเภท ประเภทที่หนึ่งเป็นน้ำตาลธรรมดาจากของหวาน น้ำผึ้ง ผลไม้ แบ่งเป็นน้ำตาลสังเคราะห์ซูโครส sucrose ได้แก่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย น้ำตาลจากผลไม้ฟรัคโตส (fructose) น้ำตาลจากนม (lactose) และน้ำตาลในเลือด (glucose) ประเภทที่สองคือแป้งที่มาจากผัก ข้าว ซีเรียล ขนมปัง มันฝรั่ง ก๋วยเตี๋ยว ประเภทที่สาม คือไฟเบอร์มาจากเซลลูโลส ดีสำหรับช่วยการย่อย อาหาร เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ้ต รำข้าว ถั่ว แครอท ข้าวโพด แป้งเมื่อรวมกับโปรตีนจะสร้างสารเคมีเรียกว่า mucopolysaccharides หรือ glycosaminoglycans ซึ่งทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวตึง

3.ไขมัน ใช้สำหรับเป็นพลังงาน เรียกว่าเป็น Lipids บางอย่างก็อยู่ในอาหารที่เราบริโภคสำหรับสุขภาพที่สมบูรณ์ เพราะไวตามินบางอย่างสลายตัวในไขมัน เช่น เอ.ดี.ซี. และไวตามินเค.

Lipids ใช้ในการสร้างฮอร์โมน สร้างผิวรอบนอกของเซลล์ ซึ่งสำคัญมากเพราะมีสภาพเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นเส้นที่คอยกวาดเอาอาหารเข้าสู่เซลล์ และระบายของเสียออกจากเซลล์ คนที่ดื่มน้ำลูกยอโนนิ จึงมีสุขภาพแข็งแรง เพราะมันไปเสริมผิวรอบนอกของเซลล์ให้ทำหน้าที่ดีขึ้น

ร่างกายของเราสร้างไขมันได้จากแป้งและโปรตีนเมื่อร่างกายมีความต้องการ แต่ร่างกายสร้างไขมันประเภท linoleic acid ไม่ได้ ต้องบริโภคจากอาหารที่เป็นน้ำมัน เช่น น้ำมันจากดอกทานตะวัน ข้าวโพด ถั่วเหลือง แซฟฟลาวเวอร์ โบราช และ แฟลคซีด

ไขมันประเภท triglycerides เป็นส่วนประกอบหลักในอาหารที่เป็นไขมันแข็ง เช่น ไขมันจากสัตว์ เช่น มันหมู เนย เรียกชื่อเป็นประเภทไขมัน saturated fat แปลว่าเป็นกรดไขมันที่มีไฮโดรเจน ไขมัน unsaturated fat คือไขมันที่ไม่อิ่มตัวในไฮโดรเจน เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า เกาะติดกับไฮโดรเจนหน่วยเดียว เรียกว่าเป็น monounsaturated fat ถ้าเกาะติดกับไฮโดรเจนหลายหน่วย เรียกว่า polyunsaturated fat ไขมันให้พลังงานเรียกว่า แคลอรี่ หนึ่งหน่วยของไขมันให้พลังงาน 9 แคลอรี่ หนึ่งหน่วยของแป้งให้พลังงาน 4 แคลอรี่ ร่างกายเก็บหน่วยแคลอรี่ส่วนเกิดที่ไม่ใช้งานไว้ในรูปไขมัน 3,500 แคลอรี่เก็บเป็นไขมัน 1 ปอนด์ ไขมันที่เพิ่มโคเลสเตอรอลร้าย เรียกว่า Trans fatty acid ลดการผลิตฮอร์โมนเรียกว่า Prostaglandin ที่จะไปสั่งการทำงานของร่างกายที่จะขยายหลอดเลือด และก่อให้เกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และมะเร็ง กล่าวกันว่า omega 3 fatty acids สามารถลดโรคหัวใจ

ร่างกายของคนเราควรเก็บแคลอรี่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์จากไขมัน และน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จากไขมันอิ่มตัว ที่เหลือควรเป็นแคลอรี่จาก Polyunsaturated fat หรือ monounsaturated fat ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ อาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว ฟาสต์ฟูด สเน็ค ครีม พวกนี้ให้ไขมันสูง ควรบริโภคให้น้อยลง

แป้ง โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุ และน้ำ ได้จากการบริโภคอาหารหลากชนิด และรักษาน้ำหนักตัวให้เป็นกลางไม่อ้วนหรือผอม หลีกเลี่ยงไขมันอันตราย น้ำตาล และเกลือ


การบริโภคมีหลักอยู่ว่า

1.กินอาหารหลากประเภท

2.รักษาน้ำหนักตัว

3.หลีกเลี่ยงไขมัน น้ำตาล และเกลือ อย่าให้มากเกินไป

4.พยายามบริโภคสายใยจากผักและพืชให้เพียงพอ

5.พยายามระงับการดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มไร้คุณค่า

6.บริโภคอาหารประเภทนม 2-4 แก้ว

7.บริโภคโปรตีนจากเนื้อ ถั่ว

8.บริโภคอาหารแป้งที่ให้คุณค่า

9.ลดการบริโภคน้ำมันและไขมัน ไขมันชนิดดี HLD เกาะติดไขมันโคเลสเตอรอล LDL และพาไปกำจัดเสีย ในขณะที่ไขมันร้าย LDL พาโคเลสเตอรอลไปสู่หัวใจและเป็นผลให้เกิดหัวใจวาย