สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
การโภชนา

หัวข้อเรื่องนี้เป็นการพิจารณาคุณสมบัติของอาหารที่จะสามารถแก้ไขอาการไม่พึงประสงค์ของร่างกายและจิตใจ ปรับการประกอบอาหารเป็นมิติใหม่เพื่อบริโภคประจำวันให้คงไว้ซึ่งคุณค่าตามหลักโภชนาการที่ร่างกายสามารถดำรงความเป็นอยู่อย่างแข็งแรง

หลักโภชนาการแยกอาหารตามสาระในการบำรุงร่างกายเป็นสองกลุ่ม คือ

1) ไมโคร
2) แมคโคร

อาหารกลุ่มไมโคร คือไวตามิน เกลือแร่ ส่วนใหญ่ได้จากอาหาร และอาหารเสริม ผู้สูงอายุซึ่งระบบการดูดซึมอ่อนแอ อาจทานไวตามินเม็ด ซึ่งมีส่วนเสีย ตรงที่ร่างกายอาจไม่ขับไวตามินส่วนเกินออกจากระบบอย่างที่เคยคิด การค้นพบว่า ร่างกายสะสมไวตามินส่วนเกินไว้ อาจมีผลเสีย เช่นไวตามินดี ถ้าสะสมมากเกิน ก่อให้เกิดหินในไต หูหนวก ความดันสูง คอเลสเตอรอลสูง แต่ถ้าขาด กล้ามเนื้อไม่มีแรง ชักกระตุก พุงพลุ้ย ไอขึ้นมาทันทีทันได ไวตามินบี 6 ถ้าสะสมมากเกินไปทำให้กล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้ เช่น หวีผม ทานอาหาร ไวตามิน บี 3 ถ้ามากไปจะมีกรดยูริค ก่อให้เกิดเก๊าท์ เลือดออกในลำไส้ตอนแรก ไวตามินอี ถ้ามากไป จะปวดหัว ตาพร่า เพลีย

หน้าที่หลักของอาหารกลุ่มไมโคร ได้แก่สนับสนุนการทำงานของเซลล์เป็นพิเศษ เพื่อแปรรูปอาหารให้เป็นองค์ประกอบทางเคมี ให้เซลล์นำไปใช้สังเคราะห์ หรือใช้งานได้ เช่นโปรตีนแปรเป็นอะมิโนแอซิต ในรูปต่างๆ เช่น คาร์บอน 50-60% ออกซิเจน 25-30% ไนโตรเจน 8-12% ไฮโดรเจน 4-5% ซัลเฟอร์ 4-5% เวลาเราต้มอาหาร เนื้อสัตว์ ถั่ว หรือผัก จะมีฟอง จากแก๊สต่างๆ แคลเซี่ยมเมื่อถูกความร้อนจะจับเป็นตะกอนก้นหม้อ

อาหารกลุ่มนี้ ไม่สร้างแคลอรี่หรือพลังงาน คนสมัยนี้กังวลว่าจะกินอะไร มีแคลอรี่มากน้อยแค่ไหน เพื่อไม่ให้ร่างกายเหลือเก็บไว้ในรูปของไขมัน แคลอรี่ไม่ใช่ตัวอันตราย คนเราต้องการพลังงาน อันตรายอยู่ที่การบริโภคอาหารไร้แคลอรี่ที่มีแต่ไขมัน และน้ำตาล

ไขมัน 1 กรัม มี 9 แคลอรี่ แป้ง โปรตีน 1 กรัม มี 4 แคลอรี่ พลังงานน้อย แต่จำเป็นต้องกินไขมันจากพืชเพื่อละลายไวตามินบ้างตัว เช่นไวตามินดี สำหรับกระดูก ไวตามินอี สำหรับความแข็งแรงของหัวใจ ไวตามินเค สำหรับป้องกันเลือดหยุดช้า ไวตามินบี 1 ป้องกันหัวใจบวม ไวตามินบี 2 สำหรับความชุ่มชื้นของผิวและตา ไวตามินบี 3 ป้องกันเลือดออกในลำไส้เล็กช่วงแรก ไข่แดงมีแคลอรี่สูง 2,000 แต่มีไบโอตินหรือไวตามินเอช ที่ให้ประโยชน์ในการสร้างเส้นผม สร้างเม็ดเลือดแดง ให้ฟลูออไรด์สำหรับฟัน วิธีทำให้ไข่แดงปลอดโคเลสเตรอล คือปรุงไข่แดงจนสุก ดีกว่าทิ้งไปเสียเปล่า ไข่ขาวไม่มีแคลอรี่ ไม่มีพลังงาน แต่สมบูรณ์ด้วยอาหารพอจะสร้างชีวิตไก่ได้ ไข่ปลามี 7,300 แคลอรี่ มีแต่ความแพง ไอสครีมมีแต่ครีมกับน้ำตาล มี 40 แคลอรี่ ไอสครีม 3 ก้อน อาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูง หรือเบาหวาน ทำให้เป็นลมได้

ไขมัน แป้ง โปรตีน 3,500 แคลอรี่ เป็นเป็นไขมันได้ 1 ปอนด์ กินไข่นกกะทาฟองเดียวมี 3,640 แคลอรี่ ก็อาจได้ไขมันที่พุง 1 ปอนด์

น้ำหวาน โซดา ลูกกวาด ไม่มีประโยชน์ น้ำตาลทุกรูปแบบส่งเสริมเซลล์มะเร็ง

มันฝรั่งกรอบ มีเกลือ และบอแรกซ์ เกลือทำให้ร่างกายสะสมน้ำที่กล้ามเนื้อหัวใจ สารที่ทำให้กรอบคือบอแรกซ์ เป็นสารเคมีที่ใช้ทำลายเชื้อโรค เพียงแค่ใช้ไอระเหยของบอแรกซ์กับฟอร์มัลดีไฮด์ ฟอร์มาลินใช้เป็นน้ำยากันเสื่อมคุณภาพ ใช้รักษาสภาพศพ เมืองไทยใช้รักษาผัก แชมพูสระผมที่มีฟอร์มาลินเป็นตัวกันเสีย อาจสะสมที่หนังศีรษะจึงแนะนำให้เปลี่ยนน้ำยาสระผมทุกหกเดือน หรือสระใช้สองยี่ห้องเพื่อล้างกัน

สีผสมอาหารมีไนไตรท์ หรือดินประสิว หรือไนโตรซามีน ในไส้กรอก เนื้อสวรรค์ กุนเชียง อาจก่อให้เกิดมะเร็ง

กลุ่มไมโครจำเป็น ร่างกายได้รับไวตามินและแร่ธาตุ โดยไม่ถูกทำลายจากการหมักดอง ร้อนนาน แช่น้ำนาน ถ้าร่างกายไม่ได้รับกลุ่มนี้ เซลล์ก็ไม่สามารถสังเคราะห์อาหารเป็นอะมิโนแอซิด 22-27 รูปได้ ผมหนึ่งเส้นถ้าไม่ครบ 22 รูปก็เกิดไม่ได้ ร่างกายสามารถสร้างไวตามินได้บ้าง โดยอาศัยแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เล็กตอนแรก เช่นไวตามินบี 1 ชื่อว่าไทอาทิน ช่วยระบบประสาท และพลังงาน กรดแพนโทเทนิค หรือไวตามินบี 5 สำหรับป้องกันตะคริวช่วงท้อง นอนหลับยาก ไวตามินเอชหรือ ไบโอติน ที่ช่วยสร้างเส้นผม สร้างพลังงานจากแป้ง ไวตามินบี 3 ชื่อว่าไนอาซิน ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบี 1 และบี 2 ร่างกายสามารถสังเคราะห์จากสารทริปโดฟานในโปรตีนที่เราบริโภค ผิวสังเคราะห์ไวตามินดี จากคอเลสเตอรอลในผิวหนังเมื่อถูกแสงแดดโดยตรง เรียกว่าไวตามินแสงแดด ท่านชายที่ไม่ค่อยใสขาสั้นออกแดด ขาขาวๆ ระวังจะขาดไวตามินดี

ไวตามินอื่นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ มาจากการบริโภคอาหาร ได้แก่

ไวตามินเอ (เรตินอล) มาจากไข่ นมเนย ผักเขียว ผักสีส้ม เช่นแครอท ฟักทองที่เปลี่ยนเป็นไวตามินเอได้ ถ้าขาดไวตามินเอ สายตาเสื่อม มองไม่เห็นในที่มืด ดาวตาแห้ง กระดูกไม่แข็งแรง สารเคลือบฟันไม่ดี วงการผิวใช้สารผลิตจากเรตินอลในการลอกหน้า

ไวตามินอี (โทโคเฟอรอล) มาจากถั่วแห้ง ข้าว ผักเขียว ถ้าขาดจะมีผลเสียต่อตับ หัวใจ กล้ามเนื้อ

ไวตามินบี 2 (ริโบฟลาวิน) ทำหน้าที่เหมือนกับบี 1 อยู่ในเนื้อ นม ไข่ ถั่วแห้ง ข้าว ขนมปัง เห็ด ถ้าขาดตัวนี้ ผิวจะมีปัญหา โดยเฉพาะมุมปากและจมูก ตาสู้แสงไม่ได้

ไวตามินบี 6 (ไพริดอกซิน) ได้จากอะโวคาโด ถั่ว ผักเขียว มันเทศ เนื้อ ไก่ ปลา กล้วย มันฝรั่ง ข้าวชนิดต่างๆ

ไวตามินบี 12 (โคบาลามิน) ได้จากเนื้อสัตว์ ปลา หอยนางรม นม ไข่ ถ้าขาดตัวนี้จะมีอาการคันยิบยับตามมือ เหน็บชา เสียการทรงตัว ปวดตามแขนขา ถ้าไม่กินเนื้อสัตว์หรือผ่าตัดบางส่วนออกจากกระเพาะออก จะเสี่ยงต่อการขาดไวตามินโคบาลามิน

โฟลาซิน อยู่ในกลุ่มไวตามินบีรวม ได้จากการกินผักเขียว ถั่วแห้ง จมูกข้าวสาลี ถ้าขาดตัวนี้ทำให้แท้งลูก เพลีย เม็ดเลือดแดงขยายตัวโตขึ้น สตรีที่กินยาคุมกำเนิดต้องเพิ่มโฟลามิน

แร่ธาตุจำเป็นเช่น แคลเซี่ยม ฟอสเฟอรัส แมกนิเซียม โปแตสเซียม ซัลเฟอร์ เหล็ก ทองแดง สังกะสี โครเมียม เซเลเนียม แมงกานิส โมลิบเดนัม ส่วนใหญ่ได้จากถั่วแห้ง ผลไม้แห้ง นม ผัก ไก่ ไข่ เนื้อสัตว์ โปรแตสเซี่ยมมีในกาแฟ ชา โคโค้ ซึ่งบางทีสาระในการแก้เครียดจาก Polyphenols ช่วยกระตุ้นประสาทจนสูงกว่าปกติ เมื่อหมดฤทธิ์ก็ต่ำกว่าปกติ ทำให้อยากดื่มเป็นนิสัย เซลล์ต้องเสียน้ำออกไปเพื่อละลายกาแฟ

พืชส่วนมากมีแร่ธาตุและสารป้องกันศัตรูอิสระที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ เช่น กระเทียม ป้องกันเกร็ดเลือดมิให้ยึดติดกัน เลือดประกอบด้วยพลาสม่า 80% อีก 20% เป็นเซลล์เลือดแดง 700 ต่อเซลล์เลือดขาว 1 นอกนั้นเป็นเกร็ดเลือดซึ่งช่วยมิให้เลือดออก ให้เลือดแข็งตัวต้องกันเชื้อโรคมิให้เข้าไปในแผล แอสไพรินช่วยให้เกร็ดเลือดอ่อนตัว แอสไพรินเป็นกรด ทานนานๆ อาจมีเลือดออกตามที่ต่างๆ หลีกเลี่ยวปัญหานี้ได้ โดยไวตามินพี ซึ่งมีอยู่ในเปลือกขาวของส้ม ช่วยให้ผนังเส้นเลือดแข็งแรง หมุนเวียนได้ดี

กระเทียม ช่วยลดโคเลสเตอรอลที่เกาะตามผนังเส้นเลือด และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นตัวทำให้เลือดอุดตัน จึงควรใส่กระเทียม ผัด ยำ น้ำพริกหนุ่ม ถ้าจะกินกระเทียมในรูปเม็ดควรปรึกษาแพทย์เสียก่อน โดยเฉพาะ เมื่อใช้แอสไพรินอยู่ พืชที่ใช้คู่กันได้ เช่น ขิง ดีในทางบำบัดข้อเสื่อม ปวดข้อ ปวดเข่า กระดูกบาง ช่วยระบบย่อย

หัวหอม ป้องกันสารศัตรูอิสระ ควรเป็นเครื่องเคียงประกอบอาหาร เช่น ยำ ต้มยำ ผัด เจียวไข่ แกง น้ำพริกหนุ่มจากหอมเผา พริกชี้ฟ้าเผา เอาเมล็ดออก ปรุงด้วย ซอสถั่วเหลืองเห็ดหอม น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ จิ้มด้วยผักฟริสซี่ สีขาวมีใบแฉกเล็กๆ เมื่อแช่น้ำใส่น้ำแข็ง สัง 1 นาที จะกรอบอร่อย แม้แต่โคแก่ที่กำลังเคี้ยวหญ้าอ่อนก็อดอิจฉาไม่ได้ ดีกว่าใช้ผักต้มราดกะทิที่เรากินจนคอเลสเตอรอลสูง

อาหารส่งเสริมกระดูก ได้จากแคลเซี่ยม ไวตามินซี ไวตามินดี ไวตามินเค ได้จากพืชตระกูล Cruciferous ซึ่งป้องกันมะเร็งได้ด้วย เช่น ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปม ถั่ว เมล็ดพืช นัท ผลไม้แห้ง

อาหารกลุ่มแมคโคร จำเป็นต้องได้รับการย่อยโดยน้ำย่อยหรือเอนไซม์เสียก่อน เพื่อที่เซลล์จะนำไปแปรเป็นอะมิโนแอซิดสำหรับสร้างเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ แมคโครมี 3 กลุ่มคือ โปรตีน แป้ง และไขมัน

โปรตีน มีสองระดับ ชั้นหนึ่งได้จากเนื้อสัตว์ ชั้นสองได้จาก ถั่ว เมล็ดพืช นัท ผัก โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไก่ ปลา ไข่ หรือนม ให้อะมิโนแอซิดที่จำเป็นสมบูรณ์ตามที่ร่างกายต้องการ ยกเว้นเจลาตินผลิตภัณฑ์จากโปรตีนสัตว์ขาดอะมิโนแอซิดจำเป็นสองตัว คือ ทริปโดฟานกับไลซีน ฉะนั้น การบริโภคเจลลี่อย่างเดียวก็ไม่ได้ประโยชน์ครบ

โปรตีนจากสัตว์บางชนิดขาดสารที่จะแปรเป็นอะมิโนแอซิดจำเป็นสำหรับการเติบโต เช่นปลาบางชนิดพร่องเมทไทโอนิน นมมีโปรตีนชื่อ Casein แต่ขาด Arginine ซึ่งเป็นตัวหนึ่งของโกรทฮอร์โมนเพื่อการเติบโต

โปรตีนจากผัก พร่องสารจำเป็นบางชนิด ถ้าบริโภคอย่างเดียวจะไม่ได้อะมิโนแอซิดครบถ้วน การทานสลัดผักสด จึงนิยมใส่ผักหลากชนิด มีทั้งผัก Frizzie ผัก Spinach ผัก Romaine ผักชีซึ่งมีคุณค่าทางยาและโภชนาการตั้งแต่รากถึงเมล็ด น้ำสลัดเช่น Light Caesars รสเปรี้ยว ก็โรย Wholesome Fruits and Nuts ยี่ห้อ Kirkland จาก Costco ถั่วหลายอย่างแก้ความเปรี้ยว และลูกเกตหรือลูกแครนเบอรี่ให้ความหวาน เป็นความสุขว่าเคี้ยวของมีประโยชน์ ควรทานสลัดผักสดสองเวลา เพื่อการระบายอย่างน้อยสามเวลา

ซุปถั่ว 17 ชนิดให้โปรตีนหลากหลาย ซื้อได้จาก Trader Joe’s ดื่มน้ำเป็นชาถั่ว เมื่อต้มเดือดใหม่ หลังจากถั่วเปื่อยก็เติมใส่ก๋วยเตี๋ยวเป็นโปรตีนเสริมกับลูกชิ้นปลาหรือเนื้อ ซุปถั่วกินแทนต้มพะโล้ขาหมู ที่เราชอบขับรถไปสรรหากินขาที่หรือขาหน้าที่เมืองไทย

อะมิโนแอซิด 9 ชนิด ที่จำเป็นต้องบริโภคคือ methionine, threonine, tryptophan, isoleucine, leucine, lysine, valine, phenylalanine

แป้ง ที่สำคัญที่สุดเรียกว่ากลูโคส เป็นแหล่งพลังงานใหญ่ของร่างกาย ตับจะเปลี่ยนกลูโคสเป็นไกลโคเจนเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อ เมื่อใช้งานไกลโคเจนเปลี่ยนเป็นพลังงาน คนที่ไม่มีแรง อาจพิจารณาตรงนี้ หรือตับไม่ทำงาน ขาดสังกะสี ทางเดินโลหิตบกพร่อง

แป้งมาจากอาหาร 3 กลุ่มคือ

1.แป้งธรรมดา (simple carbohydrate) มาจากน้ำตาล (table sugar or sucrose) น้ำตาลผลไม้ (fruit sugars or fructose) น้ำตาลนม (milk sugars or lactose)

2.แป้งซับซ้อน (complex carbohydrates) มาจากพืช ผัก ธัญญาหาร ข้าว

3.แป้งสายใย เซลลูโลส ร่างกายมนุษย์ไม่ได้สร้างน้ำย่อยสำหรับย่อยสายใยนี้ การตกค้างในลำไส้ใหญ่ก่อให้เกิดท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่

ไขมัน มีทั้งชนิดดีและร้าย ไขมันคือ lipids ช่วยสร้างฮอร์โมน ซึ่งเป็นตัวสื่อสารระหว่างเซลล์ และสร้างความชุ่มชื้นทั่งไป เช่นความชุ่มชื้นของผิวปาก ช่วยสร้างผิวเนื้อเยื่อ ผิวเซลล์ และดูดซึมไวตามิน เอ ดี เค และอี ไขมันร้าย fats มาจากไขมันสัตว์ สัตว์มีเปลือกเช่นกุ้ง ไขมันร้ายช่วยรักษาความอบอุ่นภายในร่างกาย ขับออกทางเหงื่อ

เราควรบริโภคไขมันอิ่มตัว (unsaturated fat) เช่น น้ำมันข้าวโพด ซึ่งไม่จับตัวเป็นก้อนเมื่อเข้าตู้เย็นอย่างน้ำมันอื่นๆ ไขมันอื่มตัว (saturated fat) จากเนื้อสัตว์ เนย กะทิ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู โดยเฉพาะคนที่ไวตามินดีต่ำ ไขมันหมักกับน้ำตาลทำให้บูดเกิดเซลล์มะเร็ง เพราะเซลล์มะเร็งเติบโตจากเชื้อหมัก ไม่สามารถเติบโตในที่มีออกซิเจน คนเราต้องการออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายให้เพียงพอ เซลล์จึงจะแข็งแรง การออกกำลังควรมีออกซิเจน การสูบบุหรี่เป็นการขัดขวางการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย เพราะนิโคตินเคลือบถุงอากาศ แก๊สผ่านเข้าปอดไม่ได้ เซลล์ขาดออกซิเจน ก็ตายลุกลามเป็นเซลล์มะเร็งปอด นิโคตินเคลือบกรอบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม หนามาก ขัดไม่ออก เห็นแล้วคงเลิกสูบบุหรี่

เอนไซม์ใช้เป็นน้ำย่อยสำหรับสังเคราะห์อาหาร น้ำย่อยในน้ำลายย่อยกลุ่มแป้งหลังจากที่ฟันบดให้เล็กลงแล้ว น้ำย่อยในกระเพาะคือ กรดไฮโดรคลอริค และเปปซิน ช่วยย่อยโปรตีน น้ำย่อยไขมันได้แก่ น้ำดีจากตับ และไลเพสจากตับอ่อน ส่งมาที่กระเพาะและมีน้ำย่อยไขมันเพิ่มเติมในลำไส้เล็กตอนแรก ไมโครวิลลิในลำไส้เล็ก ทำการดูดซึมโปรตีน น้ำตาล และไขมัน เข้าเส้นเลือดฝอย ตับทำงานร่วมกับไตกำจัดสารที่ไม่จำเป็น แต่คนบริโภคเข้าไป เช่น แอลกอฮอล์ ผงชูรส โดยได้รับคำสั่งมาจากฮอร์โมนชื่อ เอดีเอช ผลิตโดยต่อมไฮโปทาลามัสใต้สมอง ไตผลิตฮอร์โมนอีก 2 ชนิด คือ rennin ทำงานเมื่อความดันโลหิตและเกลือต่ำ อีกชนิดหนึ่งชื่อว่า erythropoietin ทำหน้าที่สร้างเลือดแดง คนที่เลือดข้น หรือเม็ดเลือดแดงมากเกินอัตรา อาจพิจารณาลดการบริโภคอาหารที่สร้างเม็ดเลือดแดง เช่น ปลา เนื้อสัตว์ นม หันไปบริโภคอาหารที่ไม่สร้างเม็ดเลือดแดง เช่น ไข่ขาว ถั่ว นัท มะม่วง มะนาว ถั่ว 17 ชนิดถุงเดียวมีข้าวโอ๊ต ข้าวฟ่าง และถั่วมากมายพอที่จะสร้างอะมิโนแอซิดได้สมบูรณ์ ถุงหนึ่งแบ่งใช้ได้ 2-3 ครั้ง เรียกว่าบริโภคโปรตีนทุกวัน

การย่อยในกระเพาะและลำไส้เล็กยาว 20-25 ฟุต ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง กว่าจะเสร็จจากลำไส้ใหญ่ อีก 5 ฟุต เป็นเวลา 12 ชั่วโมง หลังทานอาหารประมาณ 20 นาที สมองจะผลิตฮอร์โมน ทำให้ง่วง จะนอนหลับได้ดี แต่อย่านอนราบเร็วเกินไป

ปัญหาจากการย่อยอยู่ที่ความเหนียวหนืดของน้ำมันจากการทอด ข้าวเหนียว ของดอง เมื่อหมักหมมกับน้ำตาล เกิดการบูดใสลำไส้ใหญ่ แพทย์แนะนำให้มีการตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่ทุก 2 ปี

คนเรารู้ดีว่า อาหารอะไรเป็นแหล่งของดี และของอันตรายต่อสุขภาพ ที่เกิดปัญหาเพราะความสุขในการบริโภคต่างกน ติดกระบวนการปรุงอาหารตามวิธีเดิม และไม่รู้ว่าอาหารขาดอะไร เกินอะไร วิธีจะป้องกันปัญหาก็คือการผสมผสานอาหารหลากชนิด แทนที่จะต้มข้าวโพดก็ใช้วิธีปิ้ง ใช้ลูกชิ้น หรือ Frank ไขมันน้อยกว่าเนื้อสัตว์ ผัดถั่วลันเตา ซึ่งมี แพทนโทเททิคแอซิด แก้ตะคริวที่ท้อง ปวดกล้ามเนื้อ แทนที่จะใส่กุ้งเพราะมันกุ้งสีแดงสวยน่ากิน แต่มีคอเลสเตอรอลสูง ก็เปลี่ยนเป็นใส่ข้าวโพดสด กับ mixed vegetables มีเม็ดถั่วต่างๆ ถั่วฝักยาว แครอท แล้วเติมมะเขือเทศสด อุดมด้วยสารไลโคปิน (lycopene) กำจัดศัตรูทำลายเซลล์ ผัดใส่กระเทียม หัวหอมสด ซอสถั่ว เมื่อยกเสิร์ฟ บีบน้ำส้มคั้น รสเปรี้ยวหวานพอดีและไวตามินครบ ถั่วมี lysine กับ tryptophan ขาดโปรตีนสำคัญชื่อ methionine ซึ่งมีในข้าวโพด เมื่อรวมกันก็ได้โปรตีนเหมือนกินสเต็ก

การเป็นมังสวิรัตขึ้นอยู่กับว่า ร่างกายแข็งแรงพอเพียงหรือไม่ หรือกินตามชอบ เช่น Strict Vegetarians หรือ Vegans กินแต่ผัก Ovo-vagetarians กินผัก ไข่ Pesco-vegetarians กิน ผัก ปลา Pollo-vegetarians กินผัก ไก่ Lacto-vegetarians กินผัก นม

สิ่งสำคัญต่อสุขภาพคือน้ำดื่ม มี 3 สภาพ ได้แก่ น้ำอ่อนมีสภาพเป็นกรด เป็นฟอง มี cadmium ที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและเป็นมะเร็ง ปล่อยให้ไหลเพื่อให้ท่อสะอาดเสียก่อน น้ำกระด้างไม่เป็นฟอง มีสารแคลเซี่ยม ดีต่อหัวใจ น้ำที่แพทย์โกรทฮอร์โมนแนะนำให้ดื่มคือน้ำกลั่น Distilled water สภาพเป็นกลาง เซลล์สามารถใช้งานได้ทันที


ผู้เขียน สดศรี สุริยฉาย จบปริญญาโทจาก School of Human and Health Services, California State University, Long Beach จบปริญญาตรีจากคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย