สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ไอ-ไอ จาม-จาม

หน้านี้ เลี่ยงการเข้าฝูงคนได้เป็นปลอดภัยที่สุด ยิ่งมีข่าวเกี่ยวกับ Corona Virus คร่าชีวิตคนในเมืองจีนลามไปประเทศไทยด้วยแล้ว ยิ่งคิดหนักว่าจะไปดูหนังหรือขึ้นรถเมล์หรือเปล่า พยายามค้นดูว่าไวรัสตัวนี้มีอาการอย่างไรก็ไม่มีแหล่งไหนบอกไว้ เข้าใจเอาเองว่าคงเกี่ยวกับทางเดินโลหิตสู่สมองจึงได้มีอันตรายถึงชีวิต วันจันทร์เป็นวันหยุดด็อกเตอร์มาติน ลูเทอร์คิง เลยมีโอกาสได้ฟังปาฐกถาของเขา เขาให้ศัพท์สูงคมคายน่าคิดน่าฟัง เขาบอกว่าได้รับจดหมายจากผู้คนมากมาย แต่ที่จำได้คือจดหมายจากเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ เขียนถึงเขาว่า เธอดีใจที่ด็อกเตอร์คิงไม่จาม I am glad that you did not sneeze. คงเป็นเพราแพทย์เตือนเขาไว้ว่าไม่ให้จาม เพราะจะกระเทือนบาดแผลถูกแทงที่หน้าอก หลังจากปาฐกถาให้อมริกายุติสงครามเวียดนามเพื่อความสงบสุขของราษฎรผู้ยากไร้ในประเทศนั้น ไม่ว่าเขาจะพูดที่ไหนต่อมา เขาพูดเสมอว่า เขาจำจดหมายฉบับเดียวที่เด็กหญิงเขียนบอกว่าดีใจที่เขาไม่จาม และเขาก็ดีใจที่เขาไม่จามเพราะยังมีชีวิตอยู่มาพูดในวันนั้นได้ แต่ในที่สุด เขาก็ตายเมื่ออายุเพียง 39 ปี

กลับมาสนใจเรื่องไอเรื่องจาม เพราะอากาศเย็นโดยเฉพาะตอนกลางคืน สงสารบรรดาแมวไร้เจ้าของต้องมีชีวิตอยู่กับความหนาวเย็นตอนกลางคืน แมวของผู้เขียนนะหรือ นอนอุ่นสบายอยู่บนเตียงหลังกินซูชิปลาทูน่าที่ป้อนให้ถึงปาก เพราะไม่อย่างนั้นกินลำบากเนื่องจากห่อด้วยสาหร่ายทะเลเป็นคำ หน้านี้ถึงแม้จะเก็บผ้าห่มขนฟูไปแล้ว เพราะนึกว่าอากาศร้อนจะมาถึง ก็ต้องทนกับอากาศเย็นไปพลางก่อน ไอไอจามจามไปตามเรื่องของอากาศเย็น ก่อนนอนก็ต้องพันคอด้วยผ้าฝ้ายและหยดน้ำมันยูคาลิปตัสที่ผ้าพันคอ จะได้สูดดมแก้ไอตอนหลับ ยาแก้ไอของไทย เป็นยาน้ำผสมมะขามป้อม หลังจากแปรงฟันแล้วก็กลืนลงคอให้ชุ่ม หลังอาหารแล้วก็กินแคลเซี่ยมหนึ่งเมด็สำหรับคนสูงอายุกระดูกบาง ถ้าต้องการป้องกันไข้หวัดเพราะไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ ก็กินยาน้ำชื่อ Robitussin หาซื้อได้ที่ร้านยาซีวีเอส CVS ทั่วไป การใช้มือบำบัดตามจักระต่างๆ ก็ใช้วิธีวางมือตรงจุดนั้นๆสัก 3 นาทีก่อนหลับ และสวดมนต์เป็นสมาธิเพื่อให้การบำบัดด้วยจักระได้ผลยิ่งขึ้น ผู้อ่านทั่วไปสามารถวางมือตามจักระที่เกี่ยวข้องกับอาการของโรคที่ต้องการบำบัดได้เช่นกัน ไม่ยากเย็นอะไร เป็นต้นว่า

จักระที่ 7 คือที่ตั้งของสมองหรือส่วนบนของศีรษะ มีต่อมไพนีลอยู่ด้านล่างของสมองก้อนใหญ่ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการพูดอยู่ที่ส่วนหน้า การคิดหาเหตุผล อยู่ถัดไปส่วนบน การเคลื่อนไหวอยู่ด้านบนของสมอง ถัดไปที่มีหน้าที่เกี่ยวกับไหวพริบหรือสติปัญญาอยู่ส่วนบนสุด ถัดไปคือศูนย์แห่งภาษาและการใช้คำพูด ด้านหลังของสมองส่วนบนทำงานเกี่ยวกับการเห็น ศูนย์รวมการทำงานเพื่อการได้ยินอยู่ส่วนข้างล่างสุดของสมองก้อนใหญ่อันบน คนที่ได้ยินไม่ถนัดน่าจะลองวางมือทั้งสองไว้บนศีรษะทั้งสองข้างตอนบน ปลายนิ้วมือพบกันเหนือศีรษะ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นแหล่งที่ทำงานของสมองก้อนใหญ่ที่ทำงานเพื่อการได้ยินไปยังประสาทหูสองข้าง จะเห็นได้ว่า ธรรมชาติได้สร้างสมองเพื่อประสานงานกับหน้าที่ต่างๆ ทั่วร่างกายไว้พร้อมสรรพ เพียงแต่ร่างกายรู้วิธีบำรุงรักษาสมองให้มีความสามารถทำงานได้เต็มความสามารถ ด้วยการกินอยู่และพักผ่อนให้เพียงพอ เรียกว่า จักระที่ 7 คือการทำงานของสมองส่วนบนทั้งหมด ถ้ามีอาการปวดศีรษะ หรือไม่สบายเป็นปกติตามแหล่งใดแหล่งหนึ่งดังกล่าว ก็วางสมองมือไว้ ณ จุดนั้นระยะหนึ่งพร้อมกับสมาธิเพื่อส่งจิตไปทำงาน ณ จุดที่มีปัญหานั้นๆ นอกจากนี้ จักระที่ 7 ยังคลุมการทำงานไปยังกล่องเสียง คนที่เป็นหวัดไอ และจาม จึงพูดอู้อี้เพราะกล่องเสียงขาดพลัง ก็วางสองมือไว้ที่หลังศีรษะส่วนบน สมองคือการทำงานที่สำคัญที่สุด มีหน้าที่ส่งภาวะด้านประสาทไปยังความรู้สึกต่างๆทั่วร่างกาย ทั้งร้อน หนาว การเห็น การได้ยิน การรู้รส การได้กลิ่น การเจ็บปวด แล้วประสานกับการเคลื่อนไหวไปยังกล้ามเนื้อส่วนที่เกี่ยวข้องกัน หรือทำงานพร้อมกันทั้งสองระบบ เช่นไอและตัวงอ หรือไอและฮัดเช้ยเพื่อเอาเจ้าตัวไวรัสแปลกปลอมทิ้งออกนอกร่างกาย เราจึงทั้งไอและจาม ประสาทสมองก็คิดว่า ถึงเวลาควรให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นเพื่อยุติอาการดังกล่าวได้แล้ว

จักระที่ 6 อยู่ด้านล่างของสมองส่วนใหญ่บนศีรษะ เป็นต่อมใต้สมองด้านหน้า ขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่ว เรียกว่าต่อมพิจุอิทาริ ทำหน้าที่สำคัญใหญ่เกินขนาด เพราะจะส่งผลถึงการเจริญวัยว่าจะตัวใหญ่เป็นยักษ์หรือตัวเล็กแคระไม่รู้จักโตก็อยู่ที่การผลิตฮอร์โมนตรงต่อมนี้ นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อการนอนหลับ เช่นวัยสูงอายุ หลับไม่สมบูรณ์ หรือนอนไม่เต็มอิ่ม หรือหลับยาก ตรงข้ามกับบางคนที่ขึ้นรถเมล์ก็หลับแล้ว นอกจากนี้ฮอร์โมนจากต่อมนี้ยังส่งผลต่อภาวะเบาหวาน ไม่ใช่ชิมดูแล้วไม่ต้องซื้อน้ำตาลใช้ปัสสาวะแทนได้หรอก แต่เรียกว่าภาวะเบาหวาน เนื่องจากขาดฮอร์โมน Antidiuretic Hormone (ADH) ผลิตโดยไฮโปทาลามัส ซึ่งอยู่ใกล้กับต่อมพิจุอิทาริ แล้วส่งต่อไปให้ต่อมพิจุอิทาริเพื่อประสานงานกับไตในการผลิตปัสสาวะหรือขับปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดปัสสาวะบ่อย หรือหิวน้ำบ่อย หรือร่างกายขาดน้ำแล้วแต่กรณีของอาการแห่งโรคที่บ่างออกเป็น diabetes insipidus คือ ปัสสาวะบ่อย หรือ diabetes mellitus คือ ขาดอินซูลิน หรือขาดเซลล์ที่จะทำหน้าที่ประสานงานกับอินซูลิน ทุกเซลล์ในร่างกายต้องการน้ำตาล โดยเฉพาะน้ำตาลกลูโคสเพื่อผลิตพลังงาน ฮอร์โมนอินซูลินช่วยเซลล์ขับกลูโคสจากเลือด ในกรณีของ diabetes mellitus เกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอหรืออีกกรณีหนึ่งเซลล์ของร่างกายต้านทานประสิทธิภาพของอินซูลิน ที่ไม่อยากเอ่ยถึงคือกรณีของมะเร็งที่ต่อมพิจุอิทาริซึ่งคนใจบุญโดยทั่วไปคงไม่เกิดขึ้น ยกเว้นคนที่ใจทรามทั้งหลายย่อมรู้ตัวเองดีว่าทำความเสื่อมไว้ให้แก่ชีวิตสัตว์และพืชบ้างหรือเปล่า ย่อมได้รับความเสื่อมแก่ตนเองถึงที่สุดเช่นเดียวกัน จักระที่ 6 นี้จึงส่งผลไปสู่การทำงานของต่อมสำคัญที่อาจโยงไปสู่เบาหวานประเภทที่ 1 คือ การโจมตีเซลล์ที่ผลิตอินซูลินหรือเบต้าเซลล์ของตับอ่อนทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่พอ เบาหวานประเภทที่ 2 คือประสิทธิภาพในการทำงานกับอินซูลินอ่อนตัวลงเกิดขึ้นเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ของอาการเบาหวานทั้งหมด โดยปกติเมื่อเซลล์ประสานงานกับอินซูลินจะส่งสัญญาณให้นำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ เมื่อต้องทำงานมากขึ้นเป็นเดือนเป็นปีหลังจากเกิดอาการต่อต้าน ส่งผลให้ตับอ่อนเหนื่อยอ่อนในการผลิตอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง เป็นการเริ่มต้นของเบาหวานประเภท 2 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกับคนอายุเกิน 40 ปี คนอ้วนเกินน้ำหนักตัวเป็นกันเกือบ 3 ใน 4 คน อาการตกทอดตามสายเลือดก็มีมากกว่าเบาหวานประเภท 1 เชื้อสายอัฟริกัน แมกซิกัน และอเมริกันเผ่าดั้งเดิมเรียกว่า Native American มีความเสี่ยงต่ออาการเบาหวานประเภท 2 มาก

เบาหวานที่เรียกว่า Gestational diabetes ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเมื่อตั้งครรภ์แต่เป็นปกติ เมื่อคลอดบุตรแล้วก็เป็นได้ แต่ก็อาจกลับเป็นอีกภายหลังก็มี

อาการเบาหวานมีต่างๆ กัน เช่นปัสสาวะบ่อย หิวน้ำ หรือร่างกายขาดน้ำเพราะปัสสาวะถี่ และอาเจียร ที่อันตรายของเบาหวานประเภท 2 เรียกว่า Hyperosmolar coma ซึ่งเพลีย สับสน ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือทางแพทย์ทันท่วงทีอาจถึงโคม่า

อาการปัสสาวะบ่อยและกระหายน้ำ เกิดจากปริมาณกลูโคสในเลือดสูง กลูโคสดึงน้ำออกจากเนื้อเยื่อของร่างกายเข้าสู่เลือด ไตได้รับข่าวนี้ก็ผลิตปัสสาวะมากขึ้น ทำให้ปัสสาวะบ่อยและอาเจียน โดยเฉพาะคนที่กินยาแก้อาการเบาหวาน เกิดกรดสูงในเลือด อาจลามไปถึงหมดสติและถึงแก่ชีวิตถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือทัน ถ้าตรงกันข้าม คืออ่อนเพลียหรือเบื่ออาหารเพราะเซลล์ขาดกลูโคสเพราะยาบำบัด ส่งผลให้ไตสามารถกำจัดสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการ ร่างกายก็เพลียและสับสนรวมทั้งไม่อยากกินอาหาร ยุ่งกันไปหมด เรื่องของเรื่องนี้ แค่หาแพทย์ให้ทัน อย่าไอ-ไอ และ จาม-จาม อยู่อย่างเดียว มันคนละเรื่อง กลายเป็นเรื่องถึงชีวิตก็ว่าได้