สมัยอยู่เมืองไทย ใครมาอวยพรให้นั่งกินนอนกิน นัยว่ามีความสบายแบบนั้นไม่ชอบเลย เพราะฟังแล้วเหมือนหมดสมรรถภาพ แต่พอสูงวัยไม่รู้จะทำอะไร ก็กินแล้วนอน ตื่นขึ้นมาก็เตรียมอาหารเช้า ทำวาฟเฟิลด้วยเตาที่เป็นแผ่นโลหะพับสองด้าน เสร็จแล้วร้อนๆ ก็ทาน้ำพริกเผา และทาน้ำผึ้งใส่บีฟแฟรงค์ คือเนื้อแท่งย่างนิดหน่อยในเตาอบให้ไขมันส่วนเกินออกไปบ้างและเกรียมหอม มีคนบอกว่ากินน้ำผึ้งช่วยความจำ คงจะจริง เพราะสังเกตว่าผึ้งบินไปเก็บน้ำหวานจากดอกไม้หลายแห่งมันยังกลับรังถูกทุกที ถ้าเป็นผู้เขียนแค่ไปไทยทาวน์เพื่อเรียนทำธุรกิจมีคนไปส่ง ขากลับขึ้นรถเมล์หลงไปหลงมาจนมืด ไม่กล้าลงเพราะปราศจากผู้คน พอผ่านคอสโก้จำได้ ถึงรีบลงแล้วโทรศัพท์บอกให้คนมารับ บอกเขาว่าไม่รู้จะกลับบ้านอย่างไร ด้วยเหตุนี้จึงต้องเรียนจากผึ้งและกินน้ำผึ้งตั้งแต่บัดนั้น เพราะรอยาแก้ความจำเสื่อมไม่ทันการหรอก น้ำผึ้งได้ผลเร็วกว่า

หลังอาหารเช้าก็เอนกาย ตามสูตรสุขภาพดีด้วยหลัก 8 อ. ของหมอเขียว เผอิญมีรายการโทรศัพท์ช่อง 28-3 ถ่ายทำจากญี่ปุ่น ไม่มีการโฆษณา และมีผู้อ่านข่าวคนไทยจากประเทศไทย พูดอังกฤษเสนอข่าวของภาคเอเชีย และเคยมีวงดนตรีของ มร.โจ โดมามาสซ่า ที่มีนักร้องสตรีแต่งชุดไทยสไบเฉียงร้องเสียงโซปราโน่น่าฟัง นักร้องผู้ชายใส่ชุดประจำชาติอินเดียก็มีด้วย และมีนักดนตรีเล่นเครื่องดนตรีอันใหญ่เดี่ยวกับนายวงที่เล่นกีต้าร์คู่กันสองคนได้สนุกมาก คนปรบมือกึกก้องโรงละครแห่งชาติ

ที่น่าสนใจของรายการโทรทัศน์วันนั้น ก็คือเรื่องราวของ Mr.Phil H. Knight อายุ 80 ปี ให้สัมภาษณ์ ตอนที่เขากำลังเริ่มธุรกิจตั้งแต่อายุ 16 เมื่อปี ค.ศ. 1964 โดยคิดทำรองเท้ากีฬายี่ห้อ ไนกี้ โดยได้ความคิดมาจากหนวดปลาหมึกที่มีสุญญากาศสามารถเกาะติดแน่นแม้อยู่กับน้ำ และพื้นยางยังมีความยืดหยุ่นดุจเดียวกับแผ่นวาฟเฟิล น่าสนใจตรงที่ คนที่มีหัวคิดทำธุรกิจ ไม่ว่าอะไรก็เป็นข้อคิดให้เริ่มต้นทำธุรกิจได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะกินจะนอน จะเล่นกีฬา ก็เป็นไอเดียเริ่มต้นธุรกิจได้ทั้งสิ้น ตอนนั้นเขาได้รับเงินสนับสนุนการลงทุนโดย Bank of California โดยมีโรงงานเป็นผู้ร่วมลงทุนที่ญี่ปุ่น สถานที่ผลิตกว้างขวางพอๆ กับสนามฟุตบอล 200 สนาม เขาตั้งใจจะทำตลาดขายที่อเมริกา เริ่มต้นจากสัญลักษณ์ของ Shoe Dog ที่เราเห็นแล้วก็รู้จักกันดีว่าเป็นเครื่องหมายของไนกี้ ตอนนี้ติดตลาดแล้ว ตอนแรก แทบเอาตัวไม่รอด มีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นถอนตัวไปหลายราย หลังจากดำเนินงานได้ 7 ปี ธนาคารแห่งแคลิฟอร์เนียเริ่มประสบปัญหาภายใน และถอนสินเชื่อที่ไม่มีหลักค้ำประกันในการทำธุรกิจ ไหนจะต้องต่อสู้ทางการตลาดกับรองเท้าอื่นๆ ที่ขายติดตลาดอยู่แล้ว เช่น Adidas ไหนจะไม่มีเงินจ่ายค่าอุปกรณ์ในการลงทุน ในที่สุดมีนักธุรกิจญี่ปุ่นคนหนึ่งเห็นว่า Mr.Knight เสนอโครงการธุรกิจทุกครั้งอย่างเต็มความสามารถ ไม่มีสักโครงการเลยที่มาจากความคิดครึ่งๆ กลางๆ หรือมาจากบุคลากรที่เป็น half-hearted people โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ผู้ร่วมงานใหม่ เป็นอดีตนักกีฬาที่ต้องนั่งรถเข็นหลังจากประสบอุบัติเหตุ จึงได้ผลิตอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ ตามมาได้แก่ เสื้อ กางเกง รองเท้า ถุงเท้า ใช้สัญลักษณ์ blue ribbon และ shoe dog ที่เรารู้จักกันดีในรูปแบบสัญลักษณ์ Nike ข้อคิดก็คือ กว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้จะติดตลาดอันดับหนึ่งในอเมริกาได้ ต้องใช้เวลาถึง 50 ปี นั่นคือ คิดจะทำอะไร อย่าทอดทิ้ง และโดยที่เขาเป็นคนไม่มีครอบครัว จึงทุ่มเทชีวิตทั้งหมดให้กับงาน

วันหนึ่ง ประธานบริษัทญี่ปุ่น ชื่อ Mr.Knishicheo Ey ได้กล่าวย้อนหลังไปถึงวันที่มีสุภาพบุรุษคนหนึ่งเดินเข้าสู่ห้องทำงานของเขา ในมือของชายคนนั้นถือเพียงกระเป๋าธุรกิจที่ข้างในเต็มไปด้วยใบเรียกเก็บเงินชำระหนี้เป็นจำนวนเงินถึง $630,000 ประธานบริษัทญี่ปุ่นซึ่ง Mr.Knight เรียกว่า The iceman คนนั้นมองการณ์ไกล ได้พิจารณาถึงจุดแห่งการตัดสินใจให้เงินกู้เป็นระยะเวลา 120 วัน โดยไม่มีหลักค้ำประกัน เพราะเห็นว่า ผลิตภัณฑ์นี้เปรียบเสมือนเครื่องบินที่ได้วิ่งบนรันเวย์มาถึงจุดที่กำลังจะทะยานขึ้นสู่ฟ้าไม่ควรให้น้ำมันหมด ขึ้นเหินฟ้าไม่ได้ นี่คือการคิดของชนชาติญี่ปุ่น ที่มีส่วนสร้างเศรษฐกิจของประเทศจนแข็งแกร่ง ไม่แน่ว่าถ้าเป็นชนชาติอื่น ป่านนี้รองเท้าไนกี้อาจเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกจากจีนสู่อเมริกาไปนานแล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ ชายผู้เป็นต้นคิดผลิตภัณฑ์อายุได้ 80 ปีแล้ว เพียงได้แง่คิดมาจากหนวดปลาหมึกที่เกาะทุกสิ่งติดแน่น และมีความยืดหยุ่นดุจวาฟเฟิล เขากล่าวว่าเพราะตัวเขายังไม่แต่งงาน จึงทุ่มเทชีวิตเพื่อการทำงาน ณ วันนี้ เราคงยอมรับกันว่า ชาวอเมริกันยกนิ้วให้รองเท้าไนกี้เป็นยอดนิยม เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์กีฬาไนกี้ทุกชนิด

อาหารเช้าวันนี้คือ วาฟเฟิลทาน้ำพริกเผาตำรับชาววังคือ มีน้ำมันน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย สอดไส้กรอกเนื้อ ตามด้วยชาดอกคำฝอย (Saf flower) ร้อนๆ เมืองไทยมีสมุนไพรดีๆ และได้ผลต่อสุขภาพ สลากประกอบผลิตภัณฑ์บอกไว้ว่า การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่ากินชาดอกคำฝอยวันละ 1-2 แก้ว สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่พบในคนไข้เบาหวานได้จริง ชาดอกคำฝอยช่วยปรับระดับไขมันส่วนเกินที่เป็นต้นเหตุของโรคหัวใจล้มเหลวได้อีกด้วย สีขอชาดอกคำฝอยน่าดื่มเป็นสีของเกษรดอกไม้สีเหลือง กลิ่นหอมเล็กน้อยชวนดื่ม ยิ่งได้ข่าวว่าคนไทยกลับไปเยี่ยมมารดาที่เมืองไทยเกิดเสียชีวิตเพราะหัวใจวาย อาจเป็นเพราะสมองไม่ทำงานตามกรรมพันธุ์ที่ได้รับมาตามสายเลือด หรือ ดูอย่างนักการเมืองที่เพิ่งเสียชีวิตสัปดาห์นี้ ในอดีตเคยเป็นนักโทษสงคราม ถูกทรมานอยู่เป็นเวลา 5 ปี อาจส่งผลให้สมองเป็นมะเร็งเพราะขาดสารอาหารและสภาวะจิตใจ เขาบอกว่าเริ่มรู้สึกรักประเทศอเมริกาเมื่อต้องพลัดไปอยู่ประเทศอื่น อันนี้ก็เป็นข้อคิด อย่างไรก็ตามรายการโทรทัศน์จากเมืองไทยดูเขียวชอุ่มน่าอยู่ที่ซู้ด

หลังอาหารเช้าก็เอนกาย ให้ได้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของตนเองบ้างเมื่อมีโอกาส