สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
กรดไหลย้อน

เขียนบทความให้หนังสือพิมพ์ไทยมาตั้งแต่สมัยคุณซุปเปอร์แพทเป็น บ.ก. หนังสือพิมพ์ไทย-อังกฤษจนมาถึงไทย เอล.เอ. ไม่รู้ว่ากี่ปีแล้ว ที่รู้คือหมดไส้หมดพุง ไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไร พอดีเพื่อนเก่าที่อยู่แอล.เอ.มานานโทรมาคุย เลยได้มีโอกาสถามเขาว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี เขาให้เขียนเรื่องกรดไหลย้อน ตัวเองก็ไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้พอจะเขียนได้ เลยต้องพึ่ง Harvard Medical School Health Guide ที่อธิบายไว้อย่างกระจ่างแจ้งดีกว่าแพทย์ เพราะหมอไม่ค่อยพูดมาก ให้แต่ใบสั่งยา โดยเฉพาะยาแก้กรดไหลย้อน ดีไม่ดี มีผลข้างเคียงไปกระชับท่อในการส่งอาหารสู่กระเพาะเพื่อกระชับมิให้ส่งกรดย้อนขึ้นมา หรืออีกประการหนึ่ง ผลข้างเคียงต่อการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวนี้ผู้เขียนดูผลข้างเคียงก่อนกินยาเสมอ เป็นต้นว่า ผลข้างเคียงของแอสไพรินอาจก่อให้เกิดแผลหรือมีเลือดออกในกระเพาะ หมอเคยสั่งให้ผู้เขียนกินแอสไพรินแก้ปวดฟัน ดีว่าไม่ได้กินเพราะหายปวดฟันเสียก่อน เข้าใจว่าเลิกกินของหวาน และกลั้วปากด้วยน้ำเกลือผสมบอริคแอซิด และเคี้ยวกานพลู เพราะตอนนั้นมีความรู้รักษาการปวดฟันแค่นั้นเอง ไม่ได้พึ่งแอสไพริน ไม่อย่างนั้นคงต้องไปหาแพทย์โรคหัวใจบ่อยขึ้น ต่อมาอาการเจ็บที่หัวใจก็หายไปเอง สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงของยาอะไรไม่รู้

อาการกรดไหลย้อนเป็นภาษาแพทย์เรียกว่า หัวใจร้อน (heart burn) คงเพราะแสบไปถึงหัวใจตามทางที่กรดจากกระเพาะส่งย้อนขึ้นตามท่อส่งอาหารไปยังกระเพาะ โดยปกติแล้ว ท่อนี้จะปิดเมื่อส่งอาหารเต็มตามกลืน หากกล้ามเนื้อสู่กระเพาะที่เป็นท่อเรียกว่า Esophagus ลงไปตามที่อนี้ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเกิดอาการอ่อนตัว หรือข้อต่อของกระเพาะเสื่อม หรือกล้ามเนื้อที่หูรูดสู่กระเพาะอาหาร เรียกว่า Esophageal sphincter ไม่แข็งแรง หรือไม่ปิด เมื่ออาหารเต็มกลืนเข้ากระเพาะแล้ว กลับอ่อนตัวเสียเฉยๆ ทำให้กรดในกระเพาะซึ่งมีความเป็นกรดสูงถึงอัตรา 3 เรียกว่าสูงมากทีเดียว ถ้าเทียบกับภาวะกรด เริ่มต้นจาก 1 สามารถทำให้ตัวถังรถยนต์เป็นรูได้ ขอให้นึกถึงตารางเทียบความเป็นกรดและด่าง ซึ่งมีตัวเลขด้านหนึ่งเริ่มต้นความเป็นกรดจาก 1 - 7 และอีกข้างหนึ่ง 7-14 ขึ้นไปคือด่าง นับว่าร่างกายของเราสามารถย่อยอาหารได้ทั้งนั้นด้วยความเป็นกรดของน้ำย่อยในกระเพาะ แล้วลองนึกสภาวะที่มันออกมานอกกระเพาะ ผ่านท่อกลับขึ้นมาผ่านอวัยวะต่างๆ ที่เรากลืนอาหารลงไป รวมถึงผ่านหัวใจด้วย มิน่า เขาถึงใช้ศัพท์ว่า heart burn

คำว่า heart burn หรืออีกนัยหนึ่ง upset stomach เป็นอาการของ gastroesophageal reflux เกิดจากเมื่อสภาวะความเป็นกรดของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไม่อยู่ในกระเพาะสำหรับทำการย่อยอาหาร แต่หูรูดไม่ปิดเลยทำให้กรดไหลกลับขึ้นตามท่อ ไปตามทางเดินอาหารที่ส่งลงไป นึกภาพไหมว่าทารุณแค่ไหนที่เราควบคุมระบบไม่ได้ เพียงเพราะกล้ามเนื้อหูรูดไม่ปิด ทำอย่างไรจะแก้ไขอาการนี้ได้

เนื่องจากเราออกกำลังกล้ามเนื้อหูรูดกระเพาะอาหารไม่ได้เหมือนกล้ามเนื้อแขนขา วิธีแก้ก็คือย่ากินอาหารมากเกินควรในมื้อหนึ่ง อย่างที่ผู้เขียนสวาปามเพราะอยากให้น้ำหนักเพิ่ม

อย่าเสพของแสลง เช่นแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อย่ากินแอสไพริน ยาไอบูโปรเพ่น ยานาพรอคซิน ลดการบริโภคอาหารที่กรดสูง เช่น น้ำผลไม้ มะเขือเทศ อาหารมัน กาแฟ

กินอาหารอย่างสบายอารมณ์ อย่าเอนกายหรือนอนทันทีหลังกินอาหาร คือยืนล้านจานทำความสะอาดโน่นนี่เสียหน่อยค่อยเอนกาย หรือรอสัก 2-3 ชั่วโมง

อย่าออกกำลังกายหลังกินอาหาร เพราะการออกกำลังกายจะดึงโลหิตมาจากการใช้งานย่อยอาหาร

ถ้ายังมีปัญหาจากอาหารไม่ย่อยเป็นปกติสมบูรณ์ ให้ปรึกษาแพทย์โดยตรง เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อกลืนอาหารลงสู่กระเพาะ ท่อจะเปิดทางให้อาหารเข้าสู่กระเพาะเฉพาะคำกลืนแล้วปิด ในกรณีของ GERD คือ Gastroesophageal reflux disease แสดงว่ากลุ่มกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ปิดทางเพื่อป้องกันการย้อนกลับหลังจากกลืนอาหารลงสู่กระเพาะไม่สามารถทำงานอย่างแข็งขัน คืออ่อนตัวเปิดทางโดยปราศจากการกลืนอาหารใดๆ ลงสู่คำคอและกระเพาะ เป็นเหตุให้กรดในกระเพาะอาหารย้อนขึ้นสู่ทางเดินอาหาร เกิดอาการระคายเคืองและร้อน ที่ไม่สบายจนถึงกับ Heart burn โดยเฉพาะเวลานอนหลับ ความปวดแสบอาจลามไปถึงคอและแขน ซึ่งเป็นอาการของหัวใจวาย GERD อาจส่งผลไปสู่อาการ Sore throat และอาการไอเป็นระยะ หรือรู้สึกคล้ายมีก้อนอะไรติดคออยู่เสมอ คนอ้วนหรือคนมีครรภ์จะรู้สึกมากเพราะมีน้ำหนักที่ช่วงท้องสูง

การแก้อาการพวกนี้ อาจใช้แคปซูลขิง ทานหลังอาหาร เพื่อช่วยดูดซึมกรด

หรือท่าน licorice root extract เป็นเม็ดหลังอาหาร เพื่อช่วยดูดซึมกรด หรือทานก่อนอาหารและก่อนนอน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะ licorice root บางชนิดอาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูง

หรือทานเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมน้ำ 1 ถ้วย

หรือทานของขม เช่น gentian root, worn wood, golden seal เป็นแคปซูล หรือเป็นน้ำสกัดจากพืชเหล่านี้ก่อนอาหาร

หรือดื่มชาจาก catnip, fennel, chamomile กับ marshmallow root

หรือการฝังเข็ม

หรือการลดภาวะเครียดเช่น สมาธิ biofeedback, hypnotherapy และโยคะบางท่า

ภาวะกรดไหลย้อน หรือ heart burn ถ้าทิ้งไว้จะเป็นแผลเป็นที่ท่ออาหารและทางเดินหายใจ ซึ่งลำบากในการกลืน หรือเรียกว่า Barrett’s esophagus ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของมะเร็ง

เป็นคำแนะนำของนายแพทย์ Jaques Van Dam, M.D. PHD. Brigham and Women’s Hospital, Harvard Medical School