สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
หน้ากากเงิน

เรื่องนี้เป็นเรื่องแร่เงิน กับพลังไฟฟ้าในผิวของคนเรา ไม่ได้เสียดสีสังคมเงินตราอย่างที่คิดกัน คุณเคยรู้สึกบ้างไหมว่า ทีกับแฟนที่เราชอบละก้อ อยากจะใกล้ชิดอิงแอบเสียดสีเสียร่ำไป แต่ถ้าเป็นคนที่เราเรียกว่าไม่ถูกกันละก้อ เหมือนมีอะไรดีดให้ออกห่างตลอดเวลา ก็น่าแปลกที่ผิวของเรามีกระแสไฟฟ้า ที่ทำงานกับระบบเซลล์ หมุนเวียนไปกับระบบน้ำในร่างกาย เมื่อได้รับการกระตุ้นก็จะสามารถทำงานตามคุณสมบัติของแร่ธาตุและวัตถุประสงค์ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติได้

การค้นคว้าทางวิชาการแพทย์กล่าวว่า ปกติผิวของคนเรามีพลังไฟฟ้า พลังนี้จะแปรสภาพหรือเสื่อมสภาพเมื่อถูกขัดขวางหรือผิวชั้นล่างได้รับความกระทบกระเทือนจากสารที่ใส่เข้าไปหรือติดเชื้อโรค มีแร่ธาตุบางชนิดจะทำงานกับกระแสไฟฟ้าในผิว ก่อให้เกิดผลดีบางประเภท

เมื่อวางแผ่นเงินบนผิว กระแสไฟฟ้าในผิวจะได้รับการปรับให้คืนสภาพเป็นปกติหรือมากขึ้นกว่าเดิม ก่อให้เกิดพลังไฟฟ้าในผิวที่สามารถให้ผลดีต่อการลดอักเสบในผิวชั้นล่างและสมานผิวในชั้นของทางเดินโลหิตและเซลล์ไขมันลึกลงไป ทำให้รอยย่นเรียบตึงขึ้น ผิวที่เคยหย่อนยามเสื่อมจะแน่นขึ้น และลดเซลล์ไขมันในผิว อีกทั้งจะสมานผิวที่ถูกทำลายจากเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว กลิ่นและโรคติดเชื้อบนผิวหนัง

การใช้แร่เงินให้เป็นประโยชน์ต่อผิวและร่างกาย มีมาสองพันปีแล้ว เชื่อกันว่าแร่เงินสามารถ ป้องกันโรคได้ ชาวโรมันใช้ซิลเวอร์ไนเตรทในการบำบัดโรค (นอกเหนือไปจากการใช้เป็นยาย้อมผม ให้มีสีสันเป็นเงางาม) มีข้อเขียนเกี่ยวกับผลดีของการทดลองใช้แร่เงินในภาวะไร้อากาศ ในปี 1800 มีการค้นพบผลดีในการใช้แร่เงินทำลายเชื้อโรค ได้ผลสำเร็จในการใช้แร่เงินรักษาแผลในกระเพาะอาหาร รักษากระดูกร้าว และรักษาหนอง ศตวรรษที่ 19 มีการใช้แร่เงินป้องกันแบคทีเรียในการบำบัดของแพทย์ ปี 1852 มิสเตอร์ เจ. แมเรียน จิมส์ แห่งอะลาบามา รายงานถึงความสำเร็จอย่างสูงในการใช้แร่เงินสมานแผลผ่าตัดระหว่างช่องคลอดกับทวารหนัก สาเหตุที่การทดลองได้ผลสำเร็จสูง ส่วนหนึ่งมาจากสมัยนั้นยังไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะทำลายเชื้อโรคอย่างปัจจุบัน แร่เงินจึงเป็นแร่ธาตุเด่นที่ให้ผลดีในการรักษาและบำบัดการติดเชื้อ ปี 1881 มิสเตอร์คาร์ล ครีด พบความสำเร็จและเป็นผู้นำในการใช้ซิลเวอร์ไนเตรทเจือจางในการรักษาโรคตาที่เป็นผลเนื่องมาจากเชื้อโรคโกโนเรีย และมีผู้นำไปใช้อย่างแพร่หลายนับจากนั้น มิสเตอร์วอน เนเกลี่ และคณะค้นพบจากการค้นคว้าในปี 1893 ว่า การที่แร่เงินสามารถป้องกันการติดเชื้อโรคและมีความคงตัวทางแร่ธาตุสูงเนื่องมาจากไออ้อนอิสระของแร่เงินนั่นเอง เขาตั้งศัพท์พิเศษเรียกว่า “obligodynamic” แปลว่าพลังแห่งแร่เงินถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของไออ้อนบวก จากผิวโลหะเมื่ออยู่ในภาวะเปียกน้ำ

ในศตวรรษที่ 20 วงการแพทย์ใช้แร่เงินมากขึ้น นายแพทย์วิลเลี่ยม ฮาลสเตด บิดาแห่งการผ่าตัดสมัยใหม่ เริ่มการใช้แผ่นเงินสมานแผล แพทย์อีกท่านหนึ่งชื่อด็อกเตอร์ อัลเบิร์ต เบนส์ ผลิตยาประกอบด้วยโปรตีนแร่เงินเรียกว่า อากีรอล (Argyrol) จำหน่ายได้มากกว่าสิบล้านเหรียญในปี 1910 แร่เงินที่ทำเป็นแผ่นเริ่มถูกนำมาใช้รักษาโรคติดเชื้อในโพรงกระดูกเป็นครั้งแรกตอนต้นปี 1970

ด็อกเตอร์เบคเกอร์ ด็อกเตอร์มาริโน และด็อกเตอร์สปาดาโรเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับการนำไออ้อนของแร่เงินมาใช้ในการบำบัดการติดเชื้ออย่างจริงจัง ในการค้นคว้า พบว่า ไนล่อนที่เคลือบด้วยแร่เงิน ไม่ใช่ตัวสำคัญ หากเป็นไออ้อนของแร่เงินต่างหากที่มีบทบาทสำคัญในการปล่อยกระแสไฟฟ้า

ปี 1985 ด็อกเตอร์อัลวาเรซที่มหาวิทยาลัยแห่งไมอามี่เริ่มใช้ไออ้อนบวกแร่เงินเคลือบไนล่อนในการรักษาแผล ด็อกเตอร์ชู และด็อกเตอร์แมคมานิสที่ฐานทัพฟอร์ทแซมฮูสตัน ทำการศึกษาถึงกระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากแร่เงินเคลือบไนล่อนในการบำบัดผู้ป่วยที่ถูกไฟไหม้

ปี 1982 – 1986 ด็อกเตอร์อัลไบรท์และด็อกเตอร์มาริโนทำการค้นคว้าเกี่ยวกับไออ้อนบวกของกระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากผ้าไนล่อนเคลือบด้วยแร่เงินเพื่อบำบัดแผลเรื้อรังในมนุษย์

ปี 1984 ด็อกเตอร์ฟลิคค์ เริ่มพัฒนาแผ่นผ้าไนล่อนเคลือบแร่เงินในการศึกษาของเขาที่มหาวิทยาลัยแห่งเวอร์มอนต์ การศึกษาด้านนี้เป็นเวลา 15 ปี ทั้งการใช้แผ่นไนล่อนเคลือบแร่เงินโดยมีกระแสไฟฟ้าและไม่มีกระแสไฟฟ้าช่วยจากภายนอก ในการรักษาแผลชนิดต่างๆ ได้คำตอบว่าแผ่นไนล่อนเคลือบเงินสามารถทำงานปล่อยไออ้อนบวกโดยไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าช่วย รักษาแผลได้ผลดีมาก ความจริงการไม่ใช้กระแสไฟฟ้าช่วยจากภายนอก แผ่นไนล่อนเคลือบแร่เงินปล่อยกระแสไออ้อนได้ 15 ยูแกรมต่อมิลลิกรัมเงินในเวลา 24 ชั่วโมง ถ้ามีกระแสไฟฟ้าช่วยจะปล่อยออกประมาณ 30 ยูแกรมในหน่วยเงินและเวลาเท่ากัน จากการค้นคว้าส่งผลให้เกิด “หน้ากากเงิน” ที่นำมาใช้ในการบำบัดรักษาผิวในสถานเสริมสวยและสปาชั้นสูง รวมทั้งใช้ในการบำบัดรักษาของแพทย์ด้านผิว แพทย์ผ่าตัดเสริมสวย และการนวดเพื่อการบำบัดร่างกาย

ผิวที่สุขภาพดีเป็นปกติทั่วไปจะมีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปมาบนผิวชั้นบน (transepithelial potential TEP) หรือเรียกว่ามีพลังไฟฟ้าที่ผิวชั้นบน (epidermal battery) ซึ่งก่อตัวโดยระบบการถ่ายไออ้อนอิสระระหว่างเซลล์ ก่อให้เกิดการบำบัดรักษาเซลล์หรือสร้างเซลล์ขึ้นที่ผิวชั้นบน นายแพทย์ฟรีเดนเบิร์กและบริกคอน รายงานเรื่องการถ่ายทอดไออ้อนนี้ในปี 1966

ขณะนี้หน้ากากเงินได้ถูกบรรจุเข้าในรายการเสริมสวยบำรุงผิวแล้ว ผลที่ได้คือไร้รอยย่น อาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อคลายไป และรักษาการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดสิว และบำรุงประสาท