สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ชีวิตเมืองนางฟ้า

ชีวิตเริ่มต้นเมื่อเริ่มการทำงาน เพราะต้องใช้สรรพคุณทุกอย่างที่มีในตัวเอง ยกตัวอย่างผู้เขียนเริ่มทำงานเมื่อ 60 ปีก่อน ณ วิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งต่อมาเรียกว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกในประเทศไทยก่อตั้งโดย ร.ต.อ.สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ จากมรดก 1 ใน 4 ที่แบ่งระหว่างลูกชาย 4 คน ของโอสถสภาเต็กเฮงหยู อาจารย์เจริญ คันธวงศ์ เป็นอธิการบดี ได้เดินทางเพื่อศึกษาและคัดเลือกมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาสำหรับรับนักศึกษาที่จบแล้วเข้าเรียนต่อปริญญาสูงขึ้น ผู้เขียนทำหน้าที่เลขานุการอธิการบดี และสอนพื้นฐานธุรกิจ เบื้องต้นทุกสาขาเพื่อเตรียมนักศึกษาให้มีทักษะในการเลือกคณะที่ตนเองเหมาะสมและสนใจต่อไปในปีที่ 2 ในการนี้ มหาวิทยาลัยแฟร์เล่ย์ดิคคินสันในอเมริกาได้ส่งศาสตราจาย์มาพิจารณาหลักสูตรต่างๆ ตอนแรกก็นั่งทำงานห้องเดียวกันทั้ง 3 คน ต่อมาก็จำเป็นต้องขยับขยาย ผู้เขียนเลยลาออกไปเริ่มต้นชีวิตการทำงานกับบริษัทต่างๆ ด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ แห่งสุดท้ายคือบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง เนื่องจากทำงานตั้งแต่เปิดบริษัทจนมีชื่อเสียงในบรรดาบริษัทปูนซีเมนต์ทั้ง 3 ได้รับโบนัส 450 หุ้นมาเริ่มต้นชีวิตที่อเมริกา ดร.เจริญ ให้ความเห็นว่ารัฐแคลิฟอร์เนียเหมาะที่สุด ตอนมาใหม่ๆ ได้เพื่อนชาวเยอรมันขับรถพาไปเที่ยวเกือบทั่วแคลิฟอร์เนีย ทั้งเรียนหนังสือและทำงานไปด้วยเกือบ 40 ปี เรียกว่าไม่เคยผจญภัย จนกระทั่งวันหนึ่งเรียกว่าแคลิฟอร์เนียตอนใต้มีฝนตกติดกัน 3 วันแถมลมพายุแรงจัด ต้องตกฝนตากลม เดินกลับไปกลับมาที่สี่แยกเพราะไม่รู้จักทิศทางรถเมล์ และไม่รู้ว่าสานไหนไปทางไหน ถึงขั้นสั่นไปทั้งตัว ขนาดใส่หมวกสักหลาด ใส่เสื้อกันหนาวใส่กางเกงหนัง พับด้วยพลาสติกกันฝนสีเหลืองบางเบาที่พับใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง พอมีรถเมล์สาย 92 คันหนึ่งมาจอดที่ป้าย คนลงหมดทั้งคัน ด้วยความดีใจก็เข้าไปถามคนขับผู้หญิงผิวดำที่กำลังลงจากรถว่า รถอยู่ในบริการหรือเปล่า แทนที่จะตอบแบบมีอัธยาศัยคนไทยว่าอยู่ระหว่างหยุดพัก เธอกลับตอบกวนประสาทว่า คุณไม่เห็นหรือว่าไม่อยู่ในเซอร์วิส เราถึงขั้นบ่นว่า นี่แหละหนาคนดำ พอดีมีสตรีร่างท้วมชาวตะวันออกกลางคนหนึ่งเวทนาที่ผู้เขียนเดินข้ามถนนไปมาหลายตลบ เข้ามาคุยด้วย มือซ้ายเธอถือร่ม มือขวาโอบกอดผู้เขียนแนบกับตัวอุ่นของเธอ เพราะเธอมีไขมันมากกว่า ขาซ้ายของผู้เขียนก็เลยหยุดสั่น ขาขวายังสั่นอยู่ เธอถามว่าผู้เขียนนับถือศาสนาอะไร ด้วยไหวพริบก็ตอบว่าสมัยฉันยังเด็ก มีสุภาพบุรุษสองคนมาสอนฉันเรื่องพระเยซู เขาขอบที่ศาสนาเดียวกัน เมื่อบอกเขาว่า ออกมาจากโรงพยาบาล Presbyterian ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง นัดรถมารับบ่ายโมงห้าสิบก็ไม่เห็น ถามคนคุมที่จอดรถของโรงพยาบาล เขาให้รอรถเมล์สาย 92 ต่อด้วยสาย 152 เธอบอกว่าไปสายเดียวกัน ก็เลยยืนโอบกอดผู้เขียนให้หายหนาวไปครึ่งซีก นี่แหละไมตรีจิตจากชาวนางฟ้า เมื่อขึ้นรถเมล์ม้านั่งมีติดกันสามที่ ก็ไปนั่งเรียงกันสามคน ผู้เขียนนั่งกลาง มีสุภาพบุรุษอเมริกันร่างสูงนั่งประกบริมสุด เขาคงเวทนาที่นั่งตัวสั่นอยู่ เมื่อสตรีผู้นั้นลงจากรถเมล์ ผู้เขียนก็กล่าวว่าหวังว่าจะได้พบกันอีก เขาตอบว่า หวังว่าเช่นเดียวกัน สุภาพบุรุษที่ขึ้นพร้อมกันมานั่งริมสุดข้างผู้เขียนก็เริ่มเช็คโทรศัพท์มือถือเพื่อดูว่าผู้เขียนจะขึ้นรถเมล์อะไรต่อ และลูกไปหยิบเอารายการรถเมล์สาย 230 ซึ่งผ่านหน้าบ้านผู้เขียนมาให้ เพราะเรารู้จักอยู่สายเดียว เขาบอกว่าเขาพึ่งขึ้นรถเมล์เป็นครั้งที่สองในชีวิต มิน่าล่ะ ถึงเจอผู้เขียนซึ่งไม่สันทัดเรถเมล์เหมือนกัน เรียกว่า เป็นมิตรจิตแห่งเมืองนางฟ้า จากชายชาวอเมริกันคนหนึ่ง เสียดายที่ไม่ให้ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ นานทีจะได้เจอสุภาพบุรุษผู้มีใจกรุณาและให้ความช่วยเหลืออย่างดียิ่ง จนคนที่นั่งข้างหน้าหันมาบอกว่า เขากรุณาต่อคุณมาก ผลสุดท้ายผู้เขียนกลับถึงที่พักราวสามทุ่มเศษๆ หมายความว่าอยู่ท่ามกลางฝนและลมเป็นเวลา 8 ชั่วโมง เมื่อรถเมล์ประกาศว่าถนนต่อไป คือ Sheldon Street ผู้เขียนก็ลง พอดีเห็นป้าย Big Jim’s รู้สึกคุ้นๆ แต่ก็ยังไม่รู้ทิศทางเพราะมืดมิด ต้องตั้งสติเขม้นตามองรอบๆ จึงออกเดินถูกทาง กลัวว่าจะจับไข้ไม่สบายเสียอีก แต่ก็ไม่เป็นอะไร มีแต่บรรดาแมวทั้งหลายรอกินข้าววิ่งกรูกันมาพร้อมหน้า รวมทั้งตัวที่แก่ชราต้องเดินมาไหลโขเพื่อกินนม

พอขึ้นเตียงหลังทานข้าวต้มอุ่น หัวถึงหมอนก็หลับ วันรุ่งขึ้นเพื่อนบ้านบอกว่ามากดกริ่งก็ไม่เปิดประตูจะเอาอาหารมาให้ เรียกว่าหลับเป็นตาย มาตื่นตอนไอเพราะแมวที่อยู่ด้วยนอนหลับบนหน้าอก เขาเลยย้ายไปนอนทีหมอนข้างแล้วหลับต่อ ตื่นเกือบเที่ยว เพราะแมวหิวมาปลุก เลยย่างแฮมกับขนมปังพิต้าทาด้วยมันเทศหวานๆ กินแล้วนอนต่อ ปรากฏว่าไม่ป่วยเป็นอะไรเพราะได้พักผ่อนเต็มที่ และมีพลังในร่างกายสะสมไว้

นึกขึ้นได้ถึงวิธีนวดมือนวดเท้าตามหลัก Reflexology เพื่อกระตุ้นอวัยวะภายใน เรียกว่านวดทั้งฝ่ามือและฝ่าเท้า เพื่อให้พลังร่างกายแข็งแรงจากภายใน เริ่มต้นใช้มือขวานวดมือซ้ายก่อน หัวแม่มือขวากดที่ฐานข้อมือซ้าย กดแล้วขยับ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Press move. Press move. จากฐานข้อมือเดินไปจนสุดปลายนิ้วหัวแม่มือ กดที่กลางหัวแม่มือชั่วขณะ แล้วเริ่มใหม่กดจากฐานข้อมือไปหากลางนิ้วชี้ กดกลางนิ้วชี้ชั่วขณะก่อนที่จะย้ายมาเริ่มใหม่ที่ฐานข้อมือกดไปหากลางนิ้วกลาง ทำซ้ำอย่างนี้จนครบ 5 นิ้ว เสร็จแล้วเริ่มใช้หัวแม่มือขวากดที่กลางมือ เรียกว่าตรงเส้นหัวใจ กดอยู่นานนับถึงแปด เมื่อเริ่มกดหัวแม่มือให้หายใจเข้าลึกถึงช่วงท้อง เก็บอากาศไว้ที่ช่วงท้องนับถึงแปด แล้วคลายหัวแม่มือยกขึ้น ต่อมาใช้มือซ้ายทำแบบเดียวกับมือขวา คือ Press move. Press move. อีกจนครบ 5 นิ้ว แล้วหายใจลึกนับถึงแปดที่กลางหัวใจของมือขวา นี่คือการกระตุ้นอวัยวะภายในให้ทำงานแข็งแรง ก่อนหลับ และให้ร่างกายพักผ่อนแต่อวัยวะภายในทำงานระหว่างเราหลับ

ทีนี้มาถึงการนวดฝ่าเท้า ทำเช่นเดียวกับนวดมือ ใช้หัวแม่มือขวากดจากส้นเท้าซ้ายตรงขึ้นไปหากลางหัวแม่โป้งแล้วหยุดพักนิดหนึ่ง ก่อนลงมากดจากส้นเท้าเดินเรื่อยขึ้นไปหานิ้วเท้าที่สอง และทำซ้ำกับนิ้วอื่นๆ ครบ 5 นิ้ว แล้วกดที่กลางสามเหลี่ยมของอุ้งเท้านับถึง 8 ระหว่างหายใจลึก 3 ที แบบเดียวกับที่ฝึกหายใจยาวกับการนวดมือ

นี่คือการนวดปลายประสาทของมือและเท้า ซึ่งจะได้ผลดีสำหรับภาวะที่ร่างกายต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงของอากาศในฤดูที่ร้อนหนาวฝนและลมผสมกันแบบที่เป็นอยู่ เป็นการเอาใจร่างกายภายในมิให้ย่อท้อกับการต่อสู้ภายนอก วิธีง่ายๆนี้ เรียกได้ว่ารักตัวเอง เหมือนที่เรามีไมตรีจิตต่อกันในเมืองนาวฟ้า