สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ความแตกต่างระหว่างแบคทีเรียกับไวรัส

มีชาวอังกฤษที่ติดโควิดเดินทางเข้าประเทศไทย โดยกินยาคุมอาการไข้และอุณหภูมิไม้ให้ปรากฏ นักท่องเที่ยวทั้ง 4 ได้เดินทางท่องเที่ยวไปจัดหวัดต่างๆทั่วไป เช่น ราชบุรี เชียงใหม่ ตลาดน้ำ เชื้อโควิดสายอังกฤษมิได้ปรากฎและผ่านด่านตรวจเพราะยาคุมอาการไข้ แต่การแพร่เชื้อได้ระบาดทั่วประเทศไทย หลังจากที่องค์การอนามัยแห่งโลกเคยยกย่องว่าประเทศไทยให้ความร่วมมือกันดีสามารถควบคุมมิให้ไวรัสโควิดแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ ก็กลายเป็นว่าเมืองไทยมีโควิดระบาดแพร่หลาย แถมประเทศเพื่อนบ้านเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีประชาชนลักลอบเข้าเมืองไทย ก็ยิ่งนำโรคระบาดของโควิดเข้าประเทศไทยสูงขึ้นด้วยความที่ประเทศไทยน่าอยู่ พลเมืองอัธยาศัยไมตรี การรักษาพยาบาลฟรี ผลก็คือไทยตกอันดับประเทศปลอดโควิดไปแล้วในปัจจุบัน จะได้ข่าวการเสียชีวิตของพลเมืองไทยจากโควิดในระยะนี้อยู่เสมอ

ความแตกต่างระหว่างการระบาดของเชื้อโรคจากแบคทีเรีย และผลร้ายจากการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของไวรัสโคโรน่านั้น การแพร่ระบาดของไวรัสสูงกว่าแบคทีเรียมาก เพราะไวรัสโคโรน่ารู้วิธีการปรับเปลี่ยนเยื่อหุ้มเซลล์ของไวรัสอย่างแนบเนียนตามสายพันธุ์ที่แปรเปลี่ยน และเราตั้งชื่อให้ใหม่เสมอ แบคทีเรียไม่มีการปรับเปลี่ยนเซลล์ให้ทันกับภูมิต้านทานของร่างกายมนุษย์เหมือนไวรัส เราจึงบำบัดอาการของโรคที่เกิดจากแบคทีเรียได้ตรงจุด ด้วยยาที่คิดค้นไว้และมีขายอยู่ จึงรักษาอาการเจ็บป่วยจากแบคทีเรียได้

แบคทีเรียมี 3 สายพันธุ์ จัดตามลักษณะรูปร่างของเซลล์แบคทีเรีย ที่จะก่อให้เกิดโรคตามสายพันธุ์นั้นโดยเฉพาะ กล่าวคือ

1.รูปกลม Cocci แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์คือ

Staphylococci ก่อให้เกิดหนอง เป็นฝี อยู่รวมเป็นกลุ่ม เรามักเห็นผิวหนังเป็นฝีเป็นหนองอยู่เป็นกลุ่มตามผิวหนัง

Streptococci ก่อให้เกิดหนองอยู่เป็นสายยาวตามผิว ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองในลำคอ และอาการโลหิตเป็นพิษ

Diplococci เป็นอาการอักเสบเป็นคู่ ก่อให้เกิดอาการไข้ เช่น นิวมอเนีย

2.รูปสั้นเป็นแห่ง เรียกว่า Bacilli มักจะแพร่หลายในอาการของกรามยึด ไข้ไทรอยด์ วัณโรค และโรคในลำคอเรียกว่า Diphtheria

3.รูปเกลียว Spirilla เป็นแท่งขดเป็นวง อาจแบ่งตัวเป็นหลายกลุ่ม เช่น โรคซิฟิลิส ที่เกิดติดต่อจากการร่วมเพศ

การแพร่กระจายของแบคทีเรียอาจเป็นได้หลายแบบ ชนิดกลมแบ่งตัวเองได้และเคลื่อนไหวในบรรยากาศ ในฝุ่นละออง หรือในวัสดุที่มันอาศัยอยู่ ส่วนแบคทีเรียชนิดแท่ง และเกลียว จะเคลื่อนที่โดยใช้ขนนำทางเรียกว่า flagella หรือ cilia และสามารถเคลื่อนไหวในของเหลวได้ การแพร่พันธุ์เป็นไปได้เมื่อมีอาหารสมบูรณ์ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์แบคทีเรีย และถ่ายเทของเสียออกจากเซลล์ หรือสืบพันธุ์ได้ต่อไปในที่อบอุ่น มืด และสกปรก ก็จะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้น หรือเก็บตัวโดยสร้างเกราะคุ้มกันเซลล์ตัวมันเองเมื่อขาดสภาวะที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์

เมื่อแบคทีเรียเจริญถึงขั้นแพร่พันธุ์ก่อให้เกิดการอักเสบเป็นหนองแล้วลามไปทั่ว เช่น วัณโรค ไข้หวัด ผิวเป็นหนองอักเสบเป็นกลุ่ม และการอักเสบที่เรียกว่าไวรัส การอักเสบก่อตัวจากมือสกปรกติดเชื้อ แผลเปิด ผิวมีหนอง มีน้ำมูกในจมูก และน้ำลายเหนียวข้นในปากแล้วบ้วนตามที่สาธารณะทำให้แพร่เชื้อแบคทีเรีย

ไวรัสมีขนาดเล็กมาก สามารถเจริญเติบโตจากพืชหรือสัตว์รวมทั้งเจริญเติบโตจากเชื้อแบคทีเรีย สามารถทะลุสิ่งกีดขวางเช่นภาชนะจานแก้วได้ เราจึงเห็นได้ง่ายๆจากการติดไข้หวัด และที่เห็นอยู่ก็คือการแพร่ของไวรัสโคโรน่า ที่มีการปรับสายพันธุ์ตามความสามารถในการดำรงอยู่เพื่อรอดชีวิตของไวรัส การบำบัดรักษายังไม่ปรากฏ เราจึงทำได้ในขณะนี้ก็คือการป้องกัน ด้วยการใส่หน้ากากไม่หายใจเอาไวรัสเข้าทางจมูก กินอาหารปรุงสุกร้อนใหม่ เพราะไวรัสทนความร้อนเกิน 85 องศาไม่ได้ ไวรัสอาจอยู่ทนบนพื้นหรือราวบันไดถึง 8 ชั่วโมง เราก็ไม่ควรสัมผัสสิ่งที่ผู้อื่นจับต้อง

ความแตกต่างระหว่างไวรัสกับแบคทีเรียก็คือ ไวรัสมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการแทรกตัวเข้าไปกินอาหารในเซลล์ ทำให้เซลล์ขาดน้ำขาดอาหารและตาย ง่ายๆที่สุดก็คือ การหายใจเอาไวรัสเข้าสู่ปอดทำให้ปอดขาดความชื้นเพียงพอในการทำงานส่งอากาศที่มีคุณภาพสู่สมอง ก็ไม่สามารถกรองเลือดหรือสร้างเลือดที่มีคุณภาพตามที่เซลล์ต้องใช้งาน เซลล์ยุติการติดต่อก็ยุติการสื่อสารระหว่างเซลล์ ทำให้การสร้างระบบร่างกายเป็นไปไม่ได้ ร่างกายของการประสานงานสร้างการดำรงชีวิต

ที่เห็นง่ายๆจากอันตรายของไวรัสโคโรน่า ก็คือโปรตีนที่หุ้มเซลล์ไวรัสสามารถปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของมันเองในการที่จะแย่งสารจากเซลล์ของมนุษย์ที่มันเข้าไปแฝงอยู่ ไม่ปรากฏว่า สัตว์เป็นพาหะนำไวรัสโคโรน่า สัตว์ยังมีโชค หรืออย่างน้อย ร่างกายของสัตว์มีอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่ไวรัสโคโรน่าจะรอดสภาพอยู่ได้

การปรับตัวภายในเซลล์ของไวรัสโคโรน่านั้นน่าพิศวงที่สิ่งซึ่งเล็กกว่าแบคทีเรียยังมีชีวิตอยู่ได้จากการปรับตัว เราที่เป็นมนุษย์เรียกว่ามีสมรรถนะในการปรับตัวปรับความเป็นอยู่ ควรรักษาตัวให้รอดจากการคุกคามของภัยจากไวรัสได้ อย่างน้อยก็ด้วยการป้องกันรักษาทางการหายใจเอาอากาศเข้าร่างกาย การรักษาทำลายสิ่งสกปรกที่เราจับต้อง ไม่ใช่ด้วยมือที่จะใช้หยิบอาหารหรือสิ่งของ ควรสวมถุงมือปกป้องความปลอดภัยของเซลล์ภายในของเราเองเป็นเบื้องแรก จากนั้น ก็ระมัดระวังในการติดต่อกับบุคคลภายนอกตัวเราเอง แมวของผู้เขียนไม่ยอมให้คนแปลกหน้าเข้าห้องที่อยู่ แม้แต่คนดูแล แมวก็ไม่ให้เข้ามา ยาที่จะใช้รักษาโคโรน่าชื่อว่า Hydroxysuloloquin อาหารที่เรากินก็ควรมีส่วนช่วยการปกป้องด้วย เช่น

ใบบัวบก ช่วยถอนพิษร้อน ชะลอความแก่ ซ่อมแซมเส้นเลือดฝอย เลือดไหลเวียนดี บำรุงสมอง ผ่อนคลายความเครียด ควบคุมระดับความดันโลหิต

เม็ดทานตะวัน ช่วยชะลอความแก่ของผิวหนังที่จะเสริมภูมิคุ้มกันภายนอก ไวตามินอีสำหรับชะลอสมองเสื่อม บำรุงสายตาป้องกันต้อกระจก เพิ่มการต้านทานการติดเชื้อ ช่วยลดไขมันในเลือด

แอปเปิลช่วยให้ประสาทดี ลดการปวดกล้ามเนื้อ ระบบขับถ่ายเป็นปกติ

มะระช่วยบรรเทาอักเสบ ลดสารพิษ บำรุงสมอง บำรุงประสาท สายตาดี

แตงกวา ช่วยให้เลือดบริสุทธิ์ ลดความดัน บรรเทาอาการอักเสบ เพิ่มระบบสังเคราะห์ต่างๆ

เซลเลอรี่ ลดไขมันในเลือด ลดความดัน ลดน้ำหนัก กำจัดนิ่ว ทำให้ฟันแข็งแรง ระบบย่อยเป็นปกติ