สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
รู้ไหมว่า

เดี๋ยวนี้ ถ้าคุณเดินเข้าไปรับบริการทำหน้าบำรุงผิว เขาอาจจะวัดปรอทอุณหภูมิของผิวหน้าแล้วให้คุณกลืนแคปซูลบำรุงผิว 4 เม็ด พอทำหน้าเสร็จ หรือครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น วัดอุณหภูมิของผิวอีก จะเพิ่มขึ้น และจะเห็นได้ชัดว่ามีเลือดฝาดดีขึ้น อาการปวดศีรษะถ้ามีอยู่ตอนนั้นจะหายไป คุณสงสัยว่า ทานอะไรเข้าไป

ยุคนี้เป็นยุค holistic คือสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย แล้วให้ร่างกายรักษาตัวเอง แคปซูลที่ทานเข้าไปเป็นผลิตภัณฑ์อะมิโนแอซิต หรือโปรตีนตัวหนึ่งในร่างกายเรียกว่า อาร์จินิน (Arginine) มีสรรพคุณหรือหน้าที่ในการสร้างโปรตีนเอนไซม์ สร้างฮอรโมน กล้ามเนื้อ กระดูก ผิว อวัยวะ และอีกหลายอย่าง อะมิโนแอซิตได้ชื่อว่าเป็นตัวกระตุ้นการผลิตโกรทฮอร์โมน คนทั่วไปเชื่อว่าอาหารเสริมอะมิโนแอซิตเพียงพอแล้วในการเสริมการผลิตโกรทฮอร์โมน เพราะราคาถูก กลืนอย่างเดียวไม่ต้องเคี้ยวให้เสียเวลาก็สวยได้ สาวกว่าเดิมได้

อาร์จินินเป็นอะมิโนแอซิตจำเป็นที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องมาจากอาหารที่ทานเข้าไป อาร์จินินช่วยส่งเสริมการผลิตโกรทฮอร์โมน สำหรับบางคนที่อายุ 30-40 ปีที่ไม่ค่อยมีโกรทฮอร์โมนเมื่อเทียบกับคนอายุ 20 ปี คนไขมันน้อยหรือคนเผาผลาญแคลอรี่เร็ว จะไวในการกระตุ้นให้ผลิตโกรทฮอร์โมนมากที่สุด

อาร์จินินกำลังเป็นขวัญใจของนักสร้างกล้าม เพราะช่วยการออกกำลังกายดีขึ้นโดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับไกลซีน (glycine) จะช่วยให้ตับผลิตครีเอติน (creatine) เป็นอาหารเสริมขายดีสำหรับนักสร้างกล้ามอีกตัวหนึ่ง ในการสร้างพลังงานสำหรับการออกกำลังหนักในระยะสั้น

คุณรู้ไหมว่า ร่างกายของคุณมีตัวต่อต้านไม่ให้ผลิตโกรทฮอร์โมน มิน่าเล่า บางคนบอกว่าใช้โกรทฮอร์โมนแล้วไม่รู้ผล เพราะร่างกายตนนั้นเองที่ผลิตสารกักโกรทฮอร์โมนชื่อว่า โซมาโดสเตติน (somatostatin) โกรทฮอร์โมนมีชื่อว่า Somatotropin เลยผลิตเข้าระบบกระแสโลหิตไม่ได้

ข้ออ้างสรรพคุณด้านดีของอาร์จินินมีทั้งเพิ่มการเผาพลาญไขมัน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อคงจะเป็นผลมาจากการกระตุ้นโกรทฮอร์โมนนั่นเอง มีทั้งการขยายต่อมไทมัสและเพิ่มกิจกรรมการต้านทาโรคมากขึ้น มีการต่อต้านมะเร็ง การสมานแผลจากการไหม้เกรียม และบาดแผลอื่นๆ ไวขึ้น ปกป้องตับและขับสารพิษ และเพิ่มการติดลูกในชายสูงขึ้น เนื่องจากมีโกรทฮอร์โมนมากขึ้น และทำให้อาการหมดสมรรถภาพทางเพศทุเลา มีประสิทธิภาพดีขึ้น จากการทดลองโดย 2 ด็อกเตอร์ คือ A.W. Zorgniotti และ E.F.Lizza แห่งวิทยาลัยการแพทย์ที่นิวยอร์ก พบว่าชาย 6 คนจาก 15 คนที่ใช้อาร์จินินวันละ 2,800 มิลลิกรัม เป็นเวลาสองสัปดาห์ เพิ่มประสิทธิภาพการแข็งตัวและสมรรถภาพทางเพศดีขึ้น ผู้ค้นคว้ากล่าวว่าสาเหตุที่อาร์จินินให้ผลดีเพราะมันไปสร้างไนตริคออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการก่อให้แข็งตัวและคงสภาพแข็งตัวนานขึ้น

อาร์จินินน่าจะได้ผลในการเพิ่มปริมาณโกรทฮอร์โมน โดยเฉพาะก่อนอายุ 50 ปี คุณอาจทานอะมิโนแอซิตทั้งกลุ่มเป็นอาหารเสริม อย่างเช่นที่นักสร้างกล้ามใช้ คือ อาร์จินินร่วมกับ ออร์นิทีน ไลซีน และกลูตามิน วิธีทานคือ 2-5 กรัม ในขณะท้องว่าง ก่อนออกกำลังกาย หรือก่อนนอน ข้อเสีย คืออาจทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ วิธีเลี่ยงคือเริ่มแต่น้อย แล้วค่อยเพิ่มมากขึ้น

ออร์นิทีน เป็นอะมิโนแอซิตที่ไม่ได้จากอาหาร อาจสร้างขึ้นจากอาร์จินินโดยระบบของร่างกายเอง ออร์นิทีนมีประสิทธิภาพและราคาเป็นสองเท่าของอาร์จินิน จากการทดลองใช้ L-arginine 5-10 กรัม ร่วมกับออร์นิทีน 2.5 – 5 กรัมในขณะท้องว่าง ก่อนนอน ก่อให้เพิ่มโกรทฮอร์โมนได้

ไลซีนเป็นอะมิโนแอซิตได้จากอาหาร มีผลในการเสริมสร้างกระดูก ความสูง และเพศ จากการทดลองที่มหาวิทยาลัยแห่งโรม โดยนักค้นคว้าชื่อ A. Isidori, M.D. พบว่าชายอายุระหว่าง 15-20 ปี หลังจากใช้ ไลซีน 1,200 มิลลิกรัม ร่วมกับ อาร์จินิน 1,200 มิลลิกรัม ก่อให้เกิดการผลิตฮอร์โมนแห่งความเติบโตและพลังงานมากขึ้นโดยทั่วไป แต่จากการทดลองแห่งอื่นที่ใช้ไลซีนและอาร์จินิน กับผู้สูงอายุ ไม่ปรากฎว่าเพิ่มโกรทฮอร์โมนและ IGF-1 แต่อย่างใด แต่ถ้าเพิ่มปริมาณเป็นไลซีน 6 กรัม และอาร์จินิน 6 กรัม อาจจะได้ผล แต่ก็ก่อให้เกิดอาการข้างเคียง ทำให้ท้องเสีย และปัญหาระบบทางเดินอาหาร ส่วนการแก้ปัญหาความชราด้วยไลซีนและอาร์จินินนั้น อาจเนื่องมาจากการผลิตโกรทฮอร์โมน

กลูทามีน เป็นอะมิโนแอซิตที่มีอยู่มากมายในร่างกาย แต่มีเงื่อนไขว่าผลิตไม่ได้ถ้าร่างกายอยู่ในภาวะเครียด กลูทามีนเป็นตัวเร่งโกรทฮอร์โมนตัวใหม่ ที่น่าจะขอบคุณผู้ค้นพบในปี 1995 คือ โทมัส ซี เวลเบอร์น แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์แห่งรัฐหลุยเซียน่า เมืองชรีฟพอร์ท และได้มีการค้นคว้าเพิ่มเติม ปรากฎว่ากลูทามีน เสริมการสังเคราะห์อาหาร และเพิ่มพลังในกล้ามเนื้อ สร้างภูมิต้านทาน เติมสาร DNA เพื่อการแบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่ ล้วนแต่เป็นผลงานของโกรทฮอร์โมนทั้งสิ้น จากผลการทดลองในกลุ่มคนอายุ 60 ปีจำนวน 33 คนที่ใช้กลูทามีน ปรากฏว่าไม่ป่วยไข้ โคเลสเตอรอลลดลง ความดันโลหิตลดลง และน้ำหนักตัวเหมาะสมกับรูปร่าง คนที่มีกลูตามีนต่ำ มักเป็นโรคปวดตามข้อ เบาหวาน โรคหัวใจ ในขณะที่คนมีกลูตามีนสูงสุขภาพดี

ไนอาซิน เป็นอีกตัวหนึ่งที่บางทีคนเรียกว่า ไวตามินบี 3 หรือนิโคตินิค หรือนิโคตินาไมค์ ไนอาซินเร่งการผลิตโกรทฮอร์โมน จากการทดลองที่ฉีดไนอาซิน 200 มิลลิกรัม เข้าเส้นเลือด สามารถเพิ่มโกรทฮอร์โมน 8 เท่าในเวลา 2 ชั่วโมง แต่ไม่ปรากฏว่าได้ผลในรายที่น้ำหนักตัวของคนนั้นสูงกว่าอัตราที่ควรจะเป็นเกินกว่าหนึ่งเท่าหรือเท่าครึ่ง เพราะความอ้วนสกัดกั้นการผลิตโกรทฮอร์โมน

ไนอาซินได้ชื่อว่าเป็นไวตามินอายุวัฒนะ เพราะได้มีการค้นคว้าใช้กรดนิโคตินิค 7-8 มิลลิกรัม สามารถให้ผลดีกว่ายาอื่นๆ ที่มีสรรพคุณในการลดโคเลสเตอรอล สามารถบำบัดโรคที่คร่าชีวิตคนอายุ 70 ปีขึ้นไปเช่น โรคทางเดินโลหิตอุดตัน มะเร็ง และสาเหตุอื่นๆ ไนอาซินช่วยแก้อาการกล้ามเนื้อ ลดไขมันโคเลสเตอรอล ช่วยความจำในวัยกลางคนและสูงอายุ

ไวตามินที่กล่าวมานี้เป็นรายงานของนายแพทย์โดแนลด์ แคลทซ์ เห็นว่าน่าจะเป็นการประดับความรู้รอบตัว ก่อนซื้อยากและไวตามินต่างๆ พอสมควร ที่น่าสนใจก็คือ วงการแพทย์ก้าวเข้ามาในธุรกิจเสริมสวยแล้ว เรียกว่าเป็นยุคล้ำวิทยาการ

สมัยนี้คนเราตื่นตัวขึ้น พยายามเป็นอิสระจากการหาหมอเยียวยา ขอให้แข็งแรงด้วยสุขภาพของตนเองไว้ก่อน ใครว่าอะไรดีก็สรรหามาทาน ใครว่าออกกลังแบบไหนดี ก็ลองหมด ตั้งแต่จ๊อกกิ้ง วิ่งทน จักรยาน โหนบาร์ ยกน้ำหนัก ดึงสปริง ว่ายน้ำ มวยจีนไทซี ท้ายสุดผสมโยคะกับเต้นแอราบิค ก็ยอมหมด ทั้งกีฬาในร่ม นอกร่ม ท้ายสุดมาลงเอยที่ว่า กินอะไรก็เป็นอย่างนั้น นั่นคือสุขภาพสะท้อนมาจากอาหารที่ใส่ปากใส่อง คือพิถีพิถันในการรับประทานมากขึ้น อย่างอื่นๆ ก็ชักจะขี้เกียจทำ คงจะพอรักษาสุขภาพอันแข็งแรงไว้ได้บ้างกระมัง

และก็แปลกที่คนเราทานไวตามินกันเป็นกำมือก่อนอาหารหลังอาหาร ไม่เคยฉุกคิดเฉลียวใจว่า ถ้าทานไวตามินซ้ำซากไปนานๆ มักจะสะสมเป็นโทษเมื่อเกินความต้องการของร่างกายบ้างไหม ที่รู้ๆ กัน ไวตามินเอ ถ้าสะสมมากเกินไปในร่างกาย มีโอกาสหัวล้านได้เหมือนกัน เพราะอาจทำให้รากผมบวม ผมก็ร่วงมาก หรือถ้าทานไวตามินบี 6 ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจสะสมก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้อไม่ทำงาน หรือไวตามินซีมากเกินไปอาจก่อให้เกิดนิ่วในไต ไวตามินอีมากเกินไปในร่างกายก็อาจมีผลเสียต่อคนความดันสูงหรือคนที่มีโรคหัวใจ

แร่ธาตุที่น่าสนใจ เช่น แมงกานีส (Manganese) เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้น้ำย่อยทำงานดูดซึมสารอาหารที่ลำไส้เล็กเข้าสู่ระบบทางเดินโลหิต ช่วยรักษาระดับฮอร์โมนเพศ และช่วยชะลอความชรา ที่สำคัญช่วยการสังเคราะห์แป้ง โปรตีนเพื่อใช้ในการสร้างกระดูกและระบบประสาท

สังกะสี (Zinc) เป็นส่วนประกอบของอินซูลิน ฮอร์โมนสำคัญที่จะปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ช่วยกำจัดแอลกอฮอล์และสารพิษ ช่วยป้องกันตับไม่ให้เป็นอันตรายจากาสารพิษ ช่วยกำจัดตะกั่วจากมลพิษในอากาศและน้ำที่มากับท่อ กำจัดสารแคดเมี่ยมที่มากับท่อกัลป์วาไนซ์ และช่วยให้การใช้วิตามินในร่างกายสมบูรณ์ขึ้น

เซเลเนี่ยม (Selenium) ช่วยทำงานกับไวตามินอีในการพัฒนาทางเพศและการติดลูก ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งในลำไส้ใหญ่ ปอด ทวาร กระเพาะปัสสาวะ หลอดลม ผิว ตับ ลูกหมาก และมะเร็งของรังไข่ จากการทดลองพบว่าคนที่เสียชีวิตจากมะเร็งที่ปอดมีสารเซเลเนี่ยมน้อยมาก ประโยชน์ที่สำคัญของเซเลเนี่ยมคือช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระ (free radicals) ซึ่งเป็นยอดปรารถนาของทุกคน สมัยก่อนเราต้องทานไวตามินสกัดจากเมล็ดองุ่นเพื่องานนี้

ทองแดง (Copper) ช่วยการสร้างเม็ดเลือดแดงและการนำออกซิเจนไปสู่เซลล์ อุดมด้วยเอนไซม์ในการใช้โปรตีนให้เป็นประโยชน์ ช่วยสร้างสีผิว และผม ถ้าขาดสารนี้มักเพลียแรงน้อย

โครเมี่ยม (Chromium) เป็นตัวสำคัญในการผลิตอินซูลิน และการปรับภาวะน้ำตาลในเลือด ถ้าขาดสารนี้จะทำให้การปรับภาวะน้ำตาลไม่สมดุล ก่อให้เกิดโรคเบาหวาน และโรคน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia)

ฟอสฟอรัส (Phosphorus) เป็นสาระสำคัญที่มีอยู่ในเซลล์ทุกเซลล์ เพื่อทำงานกับสารเคมีทุกชนิดในร่างกาย เพื่อใช้โปรตีน แป้ง ไขมันให้เป็นประโยชน์ในการซ่อมแซมเซลล์และสร้างพลังงาน ช่วยการพัฒนาโครงกระดูก ฟัน และการทำงานของไต ตลอดจนการทำงานของระบบประสาท

โปตัสเซี่ยม (Potassium) ช่วยการสื่อสารประสาท การกระชับตัวของกล้ามเนื้อ และการปล่อยฮอร์โมนออกสู่ระบบร่างกาย เป็นผู้ช่วยของต่อมไทรอยด์ในการรักษาระดับน้ำในร่างกาย ช่วยรักษาการเต้นของหัวใจ คนที่หัวใจไม่ปกติคงต้องจำกันไว้ สารนี้จะออกมาตอนท้องเสีย และปัสสาวะ กับเหงื่อออก ถ้าสะสมสารนี้มากเกินไปก็ไม่ดีทำให้ไตวายได้ แต่ถ้ามีโปตัสเซี่ยมสูง ไปทำงานกับโคเลสเตรอลสูงเข้า อาจก่อให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี ถ้าตรวจปัสสาวะพบเลือดปนอยู่ก็สันนิษฐานได้เลย