สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

หัวข้อเรื่องนี้ เริ่มด้วยการหัดเป็นคนมีความเมตตาต่อผู้ยากไร้ แปลว่า เกิดมาแล้ว ควรมีจิตเมตตาต่อสรรพสัตว์และบุคคลทั่วไป จะช่วยให้จิตเป็นสุข คิดอะไรก็สว่างจรรโลงจิต เช่น เมื่อผู้เขียนเห็นแมวไร้บ้าน กินอาหารอย่างหิวเต็มที่เพราะเป็นเวลาหลายชั่วโมงกว่าจะได้กินมื้อเย็น ไม่เหมือนแมวบีบี้ที่ผู้เขียนเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เขาจะร้องเหมียวๆ ว่าหนูหิวจ้า ผู้เขียนก็ห่อซูชิด้วยสาหร่ายทะเลม้วนทูน่าที่เปิดกระป๋องใหม่ หอมหวล ป้อนใส่ปากเขาทันทีที่เขาร้องหิวแล้วจ้า เมื่อเห็นเขามีความสุข จิตของเราก็พลอยเป็นสุขไปด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นบางคนที่เรียกผู้เขียนว่าหมา เพราะให้อาหารแมวไร้บ้าน ได้ยินแล้วก็ปลงสังเวช ในจิตไร้ความเมตตาของบางคน

กรุณา แปลว่า จิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อบุคคลผู้ยากไร้ เช่นว่า ผู้เขียนเห็นเด็กวัยรุ่นเดินผ่าน เครื่องแต่งตัวแบบไร้บ้าน ก็ยกกล่ององุ่นที่สมาคมไทยเอามาแจกให้เขาไป ดูเขามององุ่นอย่างมีความสุข เราก็เป็นสุขไปด้วยที่เห็นคนอื่นมีความสุข บุญนั้น ช่วยให้มีคนหยิบยื่นแจกของให้ผู้เขียนอยู่เสมอ เช่น อาหารร้อนๆมาส่งก่อนเที่ยงสำหรับมื้อกลางวันทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์อาทิตย์ นอกจากมีอาหารประจำสัปดาห์ให้กินทั้งอาทิตย์อีกโสตหนึ่ง เรียกว่า อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับ ก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัย สู่แดนดิน

มุทิตา แปลว่า เห็นผู้อื่นได้ดีก็มีความยินดีด้วย อย่าไปอิจฉาตาร้อน แล้วเราจะเป็นสุขในใจ เพราะความมุทิตาจิต หลายคนอาจทำยาก ลองฝึกดู แล้วจะรู้ว่า จิตมุทิตาเป็นอย่างไร

อุเบกขา แปลว่า ความอดกลั้นวางเฉยไม่ดูหมิ่นผู้อื่น เมื่อเขาประสบเคราะห์หามยามร้าย อย่าซ้ำเติม ยื่นมือช่วยให้เขาพ้นทุกข์ เท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่ดูหมิ่นเหยียดหยามมากขึ้น แล้วจะรู้เองว่า ช่วยให้จิตของเราสงบเยือกเย็นเป็นสุขได้อย่างไร

เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นปรัชญาง่ายๆ ทำไม่ยาก ที่องค์พระศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ได้บำเพ็ญเพียรเป็นเวลา 6 ปี และได้หลักธรรมคำสอนต่างๆมาสอนพวกเรา เราเรียกท่านว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยความที่ท่านบรรลุธรรมอันประเสริฐ ทรงตรัสรู้ ทรงเห็นชาติปางก่อน จำได้แม้กระทั่งชื่อของญาติในแต่ละชาติกำเนิด นี่คือ ผลของการตรัสรู้ หลังจากที่ทรงบำเพ็ญเพียรเป็นเวลา 6 ปี

ท่านได้ทรงมีพระเมตตา สั่งสอนธรรมะ คือหลักธรรมเพื่อปุถุชนจะได้ปฏิบัติตาม และมีความสุขอันยั่งยืนในชีวิต ผู้เขียนเองได้มีประสบการณ์ที่ยากนักจะปรากฏขึ้นอีก เมื่อพระอาจารย์ไพบูลย์ นิสัยสุตานุยุติ บอกว่าจะส่งดวงแก้วมาให้ผู้เขียน ในขณะที่จิตของท่านเป็นสมาธิ และผู้เขียนเริ่มเรียนการปฏิบัติสมาธิที่ตึกกรรมฐานวัดไทย ผู้เขียนไปนอนที่ตึกกรรมฐานตามระเบียบของการเรียนสมาธิ และพระอาจารย์จะตื่นมาสอนตอนตีสี่ เมื่อท่านสั่งว่า จะส่งดวงแก้วมาให้ผู้เขียนทางสมาธิ รับให้ได้นะโยม ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่า ดวงแก้วนั้นเป็นอย่างไร เมื่อพระอาจารย์ สวดมนต์จบแล้วก็เข้าสู่สมาธิ ผู้เขียนก็ทำสมาธิจิตว่าง สักครู่หนึ่ง ก็ปรากฏดวงแก้วสีเงินที่ตาข้างซ้ายมีประกายมีประกายระยิบระยับสีเงินพุ่งขึ้นสูงสู่ฟ้า ที่ดวงตาขวาปรากฎดวงแก้วสีทองมีประกายสีทองพุ่งขึ้นสูง ที่กลางหว่างดวงตาทั้งสอง ปรากฏองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงจีวรสีเหลือง พระบาททั้งสองย่างก้าวดุจทรงดำเนินอยู่ พระหัตถ์เยื้องกรายตามจังหวะย่างก้าวของพระบาท ชายพระจีวรโบกพริ้วสไวตามสายลม ภาพทั้งหมดมิได้เกิดในมโนของผู้เขียนจากความคิดขึ้นเอง แต่เป็นไปตามกระแสสมาธิแห่งดวงจิตว่างของพระอาจารย์ไพบูลย์และผู้เขียนเอง ตามตำนานกล่าวว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จเยี่ยมนรก โลกในยามหนึ่ง คือประมาณ 3 ทุ่ม ยาม 2 คือสองยามจะเสด็จเยี่ยมสวรรค์ ยาม 3 คือประมาณตีสี่จะเสด็จสู่โลกมนุษย์ นั่นคือ เป็นเวลาเดียวกับที่ผู้เขียนกำลังเข้าสมาธิอยู่กับพระอาจารย์ไพบูลย์

ปรากฎการณ์นี้ไม่เคยมีพระอาจารย์ใดกระทำอีก และมิได้เกิดขึ้นอีกเลย เป็นปรากฎการณ์ครั้งเดียวในชีวิต ซึ่งประทับใจลืมมิได้ จะเป็นผลแห่งความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา หรือไม่ ผู้เขียนตอบไม่ได้ และพระอาจารย์ไพบูลย์เองก็อาจจะไม่เคยส่งดวงแก้วให้ศิษย์ผู้ใดแล้วเห็นองค์พระศาสดาปรากฎมาให้เห็นในห้วงสมาธิ หากท่านใดจะลองฝึกจิตให้เพียบพร้อมด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แล้วเกิดภาพในห้วงสมาธิ เป็นอย่างไร กรุณาเล่าสู่กันด้วย

ศาสนาอื่นจะสอนสมาธิหรือไม่ ผู้เขียนตอบไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นหรือเรียนในศาสนาอื่นใด นอกจากศาสนาพุทธเท่านั้น แต่ก็หวังว่า หากทุกคนมีจิต เต็มพร้อมด้วยความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ก็อาจจะมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังบ้างเมื่อสำรวมจิตเข้าสู่สมาธิ

สมาธิ คือ อย่างไร สมาธิ คือการทำจิตว่าง ไม่คิดอะไร โดยปกติแล้ว ประสาทของคนไม่อยู่นิ่ง จะติดต่อถึงกันอยู่เสมอด้วยข่าวสาร เช่นการฝันในภาวะหลับสนิท หรือการคิดคำนึงอยู่ตลอดเวลาเมื่อตื่น ไม่เชื่อลองทำจิตว่างดูซิ ว่าจะว่างได้เพียงใด

การทำสมาธิ ทำอย่างไร ผู้เขียนก็ไม่ใช่พระสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญในการทำสมาธิ ทางที่ดีปรึกษาพระสงฆ์ดีที่สุด หรือผู้ที่เคยบวชเรียนในศาสนาพุทธจะรู้วิธีกันทุกคน การทำจิตแน่วแน่อยู่กับสิ่งหนึ่ง แล้วทำจิตว่าง ไม่คิดถึงอะไร คือเป้าหมาย อย่างน้อยๆ ก็เริ่มสร้างจิตเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ไปพลางก่อน ก็แล้วกัน การมีระเบียบแห่งการทำความสะอาดจิตใจ แล้วฝึกไม่คิดอะไร น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นอย่างอื่นต่อไป ก็รักษาจิตให้บริสุทธิ์เข้าไว้ เป็นดี