สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
จิต-วิญญาณ (ต่อจาก เรื่อง "ชีวิต")

จากเรื่องของชีวิต ก็ต้องมีเรื่องของจิตวิญญาณ ที่ท่านพระมหาสุภณใช้คำว่า soul หรือ spirit ซึ่งมีความหมายอย่างเดียวกันคือ ตายแล้วชีวิตอยู่ในรูปของอากาศ เป็นอิสระตามบงการของจิต ฉะนั้นอยากเกิดเป็นอะไรก็ควรคิดไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้นตายแล้วจะพบแต่ความมืด จิตซึ่งแปลว่าผู้อาศัยไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ก็วนเวียนอยู่กับวิญญาณตรงจุดที่ตาย เหมือนหมาและแมวก็ยังมาส่งเสียงให้ผู้เขียนรู้ว่ายังอยู่ในห้อง จนกว่าจะกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ไปเกิดในภพที่สูงขึ้น

ท่านพระมหาสุภณบรรยายธรรมะที่วัดไทยเวลา 18 น. – 20 น. ทุกวันที่ตึกกรรมฐานวันจันทร์ อังคาร ศุกร์ และใต้ถุนโบสถ์ วันพุธ-พฤหัส กับสอนกรรมฐานเวลา 9 น. – 10.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ จนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ท่านมีภารกิจมากมายที่ต้องกลับเมืองไทยเพื่อโครงการสร้างสถานปฏิบัติธรรมนนทวานิชพิมพาราม เลขที่ 1/418 ต.โพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา โทร. 086-679-6155 ซึ่งได้สร้างอาคารเสร็จแล้วหนึ่งหลัง กำลังนำพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่สถานที่และสร้างอาคารที่พักพร้อมห้องครัวสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม และอาคารปฏิบัติการทางแพทย์ยังอยู่ในโครงการ ท่านผู้อ่านที่ประสงค์จะมีส่วนร่วมในโครงการอมตะเพื่อพระพุทธศาสนาและชีวิตของตัวท่านเอง สามารถมีส่วนสร้างและไปเรียนธรรมะที่เมืองไทย ในบรรยากาศสวยงามตามธรรมชาติในพื้นที่กว้าง 20 ไร่ อุทิศโดยคุณพิมพา นนทวานิช ตั้งแต่บัดนี้ แล้วเวลาคุณไปเกิดเป็นเทพบุตรหรือเทพธิดา มองลงมาจากเบื้องบน หรือเสวยสุขณ แดนนิพพาน ก็ยังเป็นสุขที่คุณมีส่วนร่วมสร้างอนุสรณ์สำหรับศึกษาพุทธศาสนาไว้ในแดนมนุษย์ ผู้เขียนตั้งจิตว่าจะใช้ส่วนหนึ่งของกำไรถ้าได้จากการจำหน่ายโกรทฮอร์โมนเข้าสู่โครงการนี้ ถ้าท่านไม่ต้องการใช้เงินส่วนตัวในการทำบุญเลยจะลองตั้งจิตที่จะทำผลกำไรจากการจำหน่ายโกรทฮอร์โมนที่จะตั้งขึ้นในระยะอันใกล้นี้ได้

ความหมายของจิตและวิญญาณ ตามคำบรรยายโดยพระอาจารย์สุภณ มาจากขันธ์ 5 (แปลว่า กองรูป) คือ

1.รูป การติดต่อของร่าง

2.เวทนา ความรู้สึก เช่น ยินดี วางเฉย เศร้า ทุกข์

3.สัญญา คือความจำได้ หมายถึง ประสานกับจิต

4.สังขาร คือการปรุงแต่งจากความคิดซึ่งประสานกับจิต

5.วิญญาณ คือความรู้ที่สั่งสมมาหลายชาติ ทั้งชาตินี้และก่อนๆ

จิตสามารถบงการหรือทำงานร่วมกับขันธ์อื่นๆ ได้ ควรเป็นจิตบริสุทธิ์ ได้รับการศึกษาถึงแนวทางว่าจิตที่ปราศจากกิเลสนั้นคือ ไม่มีความโลภ โกรธอาฆาต พยาบาท หรือให้ร้ายผู้อื่น เพราะเมื่อตายไปแล้วไม่มีร่างเหลืออยู่ ทุกอย่าง กลับไปสู่รูปของดิน น้ำ ลม ไฟ จิตคือผู้อาศัยในสังขารที่มีแต่วิญญาณ

ในแง่วิทยาศาสตร์ เซลล์ทำงานประสานกันเป็นกลุ่ม มีการสื่อสารระหว่างเซลล์ด้วยฮอร์โมน เรียกว่า quark การติดต่อสื่อสารของกลุ่มเซลล์เปรียบเสมือนการทำงานของจิตและวิญญาณ ร่วมกันทำหน้าที่เป็นระบบ ร่างกายมีทั้งหมด 10 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบกล้ามเนื้อ 2.ระบบกระดูก ทำหน้าที่เพื่อการเคลื่อนไหว 3.ระบบย่อยอาหาร 4.ระบบหายใจ 5.ระบบการเดินโลหิต 6.ระบบอวัยวะเพศ ทำหน้าที่ให้พลังงงานและกำจัดของเสีย 7.ระบบสมอง 8.ระบบความรู้สึก 9.ระบบต่อมไร้ท่อ ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนสำหรับการติดต่อสื่อสาร และ 10.ระบบการสร้างชีวิตใหม่ เพศชายและเพศหญิงคือระบบเพศ

ระบบทั้งหมดในร่างกายทั้ง 10 ระบบนี้ทำงานร่วมกันเหมือนจิต ซึ่งประสานกับวิญญาณ หรือบอกวิญญาณว่าได้ย่อยอาหารหรือไวตามินนั้นๆ ให้แล้ว ให้เอาไปใช้งานในระบบตามต้องการของ quark ได้เลย ถ้าอาหารหรือการย่อยหรือการสื่อสารขาดตอนในแต่ละช่วงของการสื่อสาร อาทิมีสารอลูมินั่มจากภาชนะหุงต้มติดไปกับอาหารจะไปสกัดกั้นการสื่อสาร การสร้างโปรตีนให้ครบหน่วย หรือการส่งสัญญาณในระบบวิญญาณก็ไม่สมบูรณ์ ที่เราเคยเห็นและรู้จักกันในนาม autism แต่จะมีระบบเด่นอื่นๆ ที่ได้รับการสื่อสารและสารอาหารครบสมบูรณ์ ก็กลายเป็นอัจฉริยะในด้านอื่นๆ แทน เช่นจะมีภาพยนตร์กึ่งสารคดีเกี่ยวกับแพทย์ลักษณะนี้มาให้ชมทางช่อง 7 วันที่ 25 กันยายนนี้ พวกเราควรติดตามดูว่าเวลาอะไรและเรื่องราวเป็นอย่างไร

ตอนผู้เขียนยังเด็ก มีประสบการณ์จากเรื่องจิตวิญญาณของจริง บุคคลคนหนึ่งสมัยยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้เตรียมตัวที่จะตาย ไม่เคยศึกษาธรรมะ เกิดตายกะทันหัน วิญญาณจะมาเข้าฝันบุคคลที่เขาเป็นห่วง อย่างจะเอาไปอยู่ด้วยในภพที่เขาเป็นอยู่ และมาร้องไห้ทำให้เราได้ยินเสียงของเขา เราท่านซึ่งเป็นคนธรรมดา ไม่ได้ฝึกสมาธิแก่กล้าให้สามารถมองเห็นวิญญาณเป็นรูปร่างได้ก็เรียกว่าถูกผีหลอก แท้ที่จริงคือวิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้ว มาเข้าฝันเพื่อจะเอาคนที่เขาห่วงไปอยู่ด้วย ดีว่าตื่นขึ้นเสียก่อน ไม่ทันตายตามไป แต่เราทุกคนก็สามารถได้ยินเสียงร้องไห้ของวิญญาณที่มาหา นั่นแสดงว่า จิตสามารถบงการวิญญาณให้แสดงออกตามที่รู้สึกได้คือเวทนาและสัญญา แม้ไม่มีรูปเหลืออยู่ในขันธ์ 5 แล้ว อันนี้ให้ข้อคิดกับผู้อ่านเราท่านได้โขอยู่ ว่าตอนยังมีชีวิตอยู่ควรทำอะไรไว้บ้าง อย่างน้อยก็ควรศึกษาธรรมะไว้บ้าง เพื่อตั้งโปรแกรมจิตให้ไปถูกทิศทางที่ต้องการ หรือให้ถึงนิพพาน ไม่ต้องพบทุกข์จากการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีก ขณะนี้มีโอกาสที่จะได้ฟังพระสงฆ์ที่สามารถนำทางเราได้ก็ควรไปฟังไว้ ก่อนจะเกิดความเสียดายเมื่อตายแล้ว รู้อย่างนี้ไปฟังท่านสุภณบรรยายธรรมะเสียเถิด

ประโยชน์ของการฝึกสมาธิ เรียกว่าอภิญญา 5 ประการ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจว่าฝึกสมาธิแล้วได้ประโยชน์หรือไม่ ยังมีโอกาสเรียนกรรมฐานกับพระอาจารย์สุภณตอนนี้ ผู้เขียนใช้วิธีง่ายๆ สอนชาวต่างชาติในการทำสมาธิเพื่อส่งพลังจิตไปรักษาตัวเองและผู้อื่น เรียกว่พลังเร็คคี้ ในชั้นเรียนชื่อว่า Healing with Reiki and Chakra เรียนวันเสาร์ 1.00 -3.00 น. ค่าเรียน $110 ที่เบอร์แบงค์ Burbank Adult School 3811 W.Alien Ave. Burbank CA 91505 Tel.(818)558-4611 เริ่มวันที่ 9 กันยายนนี้ ผู้เขียนยกตัวอย่างประโยชน์ของการฝึกสมาธิให้กับคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ว่าสมาธิสามารถสร้างพลังจิตได้ 5 เรียกว่าอภิญญา ดังนี้


อภิญญา 5 ประการ

1.อิทธิวิถี แสดงฤทธิ์ทางกาย

2.เจโตปริญญาณ กำหนดกระแสจิตผู้อื่นได้

3.ทิพยโสต การได้ยินเสียง หูทิพย์

4.บุเพนิสาสะนุสติญาณ ระลึกชาติได้

5.ทิพจักขุ นัยน์ตาทิพย์ มองการณ์ไกลได้

เรื่องราวต่างๆ ในพุทธศาสนาในอดีตกาลจึงไม่ใช่นิทาน แต่เกิดจากการสะสมฝึกปฏิบัติสมาธิจนจิตเกิดอภิญญาหรือความสามารถในการมองการณ์ไกล เห็นสิ่งที่คนธรรมไม่สามารถเห็นได้ หรืออ่านจิตใจผู้อื่นได้ หรือตัดโลหะได้ โดยเฉพาะพลังจิตที่สะสมข้ามชาติข้ามภพด้วยแล้ว ย่อมเกิดเป็นอภิญญา แม้ฝรั่งชื่อ Mr.Mesmer ยังสามารถสั่งทางจิตให้สิงโตตัวผู้ทำร้ายสิงโตตัวเมีย ซึ่งแทบไม่ปรากฏ เรียกว่า Mesmerism เราท่านยังไม่ได้ฝึกจิตแก่กล้าขนาดนั้น ก็ใช้ประโยชน์เพียงแค่สั่งทางจิตไม่ให้คนอื่นแย่งที่จอดรถไปเสียก่อนเราเป็นใช้ได้ มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน นั่นคือการฝึกสมาธิให้เห็นผลทันตา

อย่าลืมว่าจิตไปกับวิญญาณ เป็นผู้อาศัยของวิญญาณ คิดอย่างไรก็ได้อย่างนั้น คนไทยเรียกว่า อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่ในหมู่มิตรให้ระวังวาจากฝรั่งเรียกว่า Be careful of what you are thinking. It might happen to you.

ทีนี้เราคิดต่อไปว่า ถ้าเราฝึกสมาธิแล้ว เกิดเห็นอะไรที่ไม่ได้คิด พระอาจารย์สุภณสอนถึง นิมิตว่า มี 3 อย่างคือ 1.นิมิตในบริกรรมขณะสมาธิ 2.นิมิตติดตา และ 3.นิมิตเทียบเคียง จากประสบการณ์ที่ผู้เขียน (ผู้มิใช่ นักสมาธิแก่กล้า) เคยเห็นนิมิตขณะที่พระอาจารย์ไพบูลย์ นิสัยสุตานุยุติ แห่งวัดตากฟ้า จ.นครสวรรค์ สั่งให้ผู้เขียนรับดวงแก้วสีทองเล็กๆ ที่ท่านส่งมาให้ทางสมาธิ พร้อมกำชับว่ารับให้ได้นะโยม ผู้เขียนก็ตั้งจิตเป็นสมาธิทั้งๆ ที่รับดวงแก้วอย่างไรนั้นไม่รู้สิ่งที่เห็นในสมาธิปรากฏ ณ ดวงตาข้างซ้าย คือแสงสีทองพุ่งประกายสูงขึ้นไป คงมาจากดวงแก้วสีทองเล็กๆ ที่ท่านส่งมาให้ทางสมาธิขณะที่ท่านสวดมนต์ ดวงตาข้างขวาปรากฏเป็นดวงแก้วสีเงินมียอดแหลม ขนาดพอเหมาะจะเห็นลักษณะรูปร่างดวงแก้วได้ติดตา มีประกายสีเงินระยิบระยับพุ่งขึ้นสูง ตรงหว่างคิ้ว ปรากฏ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะมีรังสีที่เรียกว่า aura รอบพระเศียร นี่คือสิ่งที่ท่านพระอาจารย์สุภณ บอกว่า นั่นเป็นนิมิต เพราะไม่ได้คิดเอาเอง แต่เกิดขึ้นเองในสมาธิ และติดตาจนบัดนี้ นิมิตนี้เกิดขึ้นได้เร็วมาก แม้ในบุคคลผู้ที่ไม่ใช่เซียนสมาธิอย่างผู้เขียน ฉะนั้นท่านผู้อ่านไม่ต้องท้อใจว่าไม่เคยฝึกสมาธิ ไม่เคยเรียนสมาธิ จะไม่ได้รับนิมิต เพียงแต่ขอให้เป็นผู้มีจิตบริสุทธิ์ ปราศจากโลภ โกรธ หลง ไม่อาฆาตพยาบาทคิดร้ายต่อผู้อื่น มีศีลอย่างน้อย 5 ข้อ คือ แบ่งปันให้ทาน ไม่ฆ่าสัตว์โดยตั้งใจ ไม่หลงในกาม ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่เสพย์สุราสิ่งเสพติด หรือศีล 8 ข้อ เพิ่มในวันพระอีก 3 ข้อ คือ 6.ไม่เคี้ยวกินอาหารหลังเที่ยงวัน 7.งดเว้นการดูละครฟ้อนรำ พรมน้ำหอม 8.ไม่นั่นนอนบนฟูก คิดไปๆ มาๆ เราๆ ท่านๆ ก็อาจรักษาศีล 8 ได้ไม่ยาก

อย่าลืมว่าจิต ต้องบริสุทธิ์ เพราะจิตเป็นผู้อาศัยวิญญาณไปในที่ต่างๆ ถ้าไม่อย่างนั้น จิตหลงทาง ไม่สามารถไปสู่นิพพานได้ เสียเวลาไปใช้กรรมหนึ่งชาติ เพราะจะต้องสะสมอีกหลายชาติ ก่อนจะไปนิพพานได้ อย่างน้อยชาตินี้ไม่มี ราคะ โทสะ โมหะ เป็นการฝึกเบื้องต้น ก็พอจะเตรียมจิต-วิญญาณ ไปได้ถูกทาง