สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนเราว่า ควรอยู่ในที่อันประเสริฐเกิดผล ขอให้พิจารณาให้ดี จะเห็นว่าเราสามารถใช้คำสอนในศาสนาพุทธเป็นแนวปฏิบัติกับชีวิตทุกสมัย ทุกวาระ ทุกสถานที่ เริ่มตั้งแต่บ้านที่อยู่ น่าจะเป็นสถานที่ซึ่งไม่ต้องเหมือนบ้านทรายทอง แต่ขอให้ทุกชีวิตในบ้านสามารถดำเนินไปอย่างสงบสุข สามารถประกอบอาชีพตามความต้องการโดยไม่ขัดต่อชีวิตประจำวันไม่ว่าจะทำงานเวลาเท่าไร นอนหลับเวลากี่โมง ก็ขอให้ทำได้ตามประสงค์ ถ้าคุณอยู่ในที่ซึ่งไม่อำนวยได้ตามที่ต้องการ ก็ควรเปลี่ยนที่อยู่ได้
พิจารณามาจนถึงรัฐ ถึงประเทศที่อยู่ คนอเมริกันย้ายรัฐกันมาก เพื่อความสะดวก บังเกิดผลดีต่อรายได้ และต่อชีวิต คนไทยมาอยู่อเมริกา ย้ายรัฐกันมาก เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะร่างกาย ความเป็นอยู่ และรายได้ สหรัฐอเมริกาให้ประโยชน์ต่อชีวิตหลายด้าน เพราะเป็นประเทศใหญ่มหาศาล มีทรัพยากรธรรมชาติ เงินจากภาษี บุคลากรที่มีคุณค่าด้านสมอง และระบบที่มุ่งจะสร้างความเจริญเติบโตให้แก่ท้องถิ่นไปจนถึงความเจริญขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ เราควรจะขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถได้อยู่ในประเทศอันประเสริฐเกิดผลดีต่อชีวิตของเรา และหมั่นศึกษาหาลู่ทางอันจะก่อให้เกิดผลดีต่อชีวิตยิ่งๆ ขึ้น และคำนึงถึงผลดีอันจะมีต่อส่วนรวมพร้อมกันด้วย เพราะการส่งเสริมให้ส่วนรวมเจริญเติบโต เราก็จะสุขสบาย ท้องถิ่นไม่สลายตัวเพราะการทำไม่ดีจากส่วนตัวบุคคล
การทำงานก็เหมือนกัน ถ้าสถานที่ทำงานไม่ประเสริฐเกิดผล ก็ควรหาที่ดีกว่า ให้ผลดีต่อชีวิตดีกว่า เพราะชีวิตจำเป็นต้องดำเนินไปอย่างประเสริฐ จึงจะเกิดผลดีต่ออนาคต
อนาคตที่ดีงามมาจากการสร้างฐานที่ดีจากปัจจุบัน เริ่มจากการวางแผนอนาคตระยะยา สมมุติว่า 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอะไร ทำงานอะไร มีรายได้เท่าใด แล้วแบ่งระยะย่อยลงมาเป็น 6 ปี 3 ปี และ 1 ปี คือปีนี้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายระยะยาว 10 ปีที่ต้องการ การมีเป้าหมายชีวิตช่วยให้ไม่ออกนอกลู่ ลืมตัว ทำความผิด เสียบุคลิกที่วาดไว้ และที่สำคัญที่สุดคือ สามารถเลือกสถานที่อันประเสริฐเพื่อให้เกิดผลตามประสงค์ ทั้งสถานที่เรียน ที่อยู่ คนที่อยู่ด้วย สถานที่ทำงาน และเคาน์ตี้ รัฐ หรือประเทศที่อยู่ ที่จะให้เกิดผลตามแผนอนาคต
ประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีการวางแผนทุกหน่วยงาน ไม่ว่าภาคเอกชน หรือรัฐบาล เราคงจะได้เกี่ยวข้องมาแล้ว หลายคนคงจะต้องไปเลือกตั้ง และทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะนี้จะมีกิจกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพวกเราทุกคนคือ การสำรวจสำมะโนประชากร ปี 2000 (Census 2000) ฟังแล้วไม่น่าสนใจ ไม่เห็นต้องพะวงคอยให้ความสนใจ หารู้ไม่ว่าเรื่องที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับเรา จะมีส่วนในการช่วยให้แผนชีวิตระยะยาว 10 ปีของเราสำเร็จผลขึ้นได้
คนไทยมาอยู่ที่นี่นานๆ หลายสิบปี พอกลับไปเมืองไทยกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย เพราะตกสำมะโนครัวไทย เลยไม่มีสิทธิเลือกตั้งสำหรับประเทศไทย ถ้าอยากมีสิทธิเลือกตั้งก็ควรอยู่ในสำมะโนครัวไทยตลอดเวลา
คนไทยมาอยู่สหรัฐอเมริกา ไม่ว่าในสถานะอะไร ฐานะตามกฎหมายถูกต้องหรือไม่ มีสิทธิทำงานตามกฎหมายหรือเปล่า จำเป็นต้องอยู่ในทะเบียนสำมะโนครัวของสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องแถลงที่อยู่อาศัย เพราะต้องอยู่ในสำมะโนครัวของสหรัฐอเมริกาแล้ว ประเทศของฉัน (My Country) ขณะนี้คือสหรัฐอเมริกาแล้ว หมายเหตุไว้ได้เลยว่าบ้านเกิดเมืองนอนอันเป็นที่รักยิ่งของฉันคือประเทศไทย ไม่มีใครสามารถเอาความภาคภูมิใจนี้ไปจากเราได้
จำเป็นนักหรือที่จะต้องทำสำมะโนครัวประเทศสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นคนอยู่ที่นี่คุณต้องมีสำมะโนครัวที่นี่ ประเทศสหรัฐนี้ต้องการวางแผนการศึกษา การบริหารท้องถิ่น การจัดบริการสาธารณะ การขนส่ง การอนามัย การจัดหางาน การจัดสิทธิผลประโยชน์เมื่อตกงาน ออกจากงาน เกษียณอายุ การได้สวัสดิการช่วยที่อยู่อาศัย ไร้งาน ไร้อาหาร ไร้การศึกษา ไร้อาชีพ ไร้พ่อแม่ดูแลลูกน้อย และยามขัดสนสิ้นไร้ไม้ตอกไปตกระกำลำบากในถิ่นสถานบ้านเมืองประเทศอื่น ยามชรา การช่วยเหลือจะตามไปคุ้มครองคุณได้ ยิ่งถ้าคุณมีสถานะเป็นพลเมืองของประเทศนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะประสานงานให้คุณกลับประเทศที่คุณมีสำมะโนครัวอยู่หรือบ้านเกิดเมืองนอนได้
ขณะนี้พลเมืองที่พำนักอยู่ในสหรัฐแยกออกเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ คนผิวขาว (White) คนอินเดียนแดง (Native Indian) คนฮิสแปนิค (Hispanic) คนผิวดำ (African American) คนเอเซียน (Asian) แยกออกเป็นกลุ่มหลักคือ จีน เวียดนาม ฟิลลิปินส์ และอื่นๆ ไม่มีกลุ่มคนไทย เพราไม่ปรากฏจำนวนที่มากพอจะแยกเป็นกลุ่มหลักได้ เลยถูกรวมไว้เป็นกลุ่มเบ็ดเตล็ด ถ้าคนไทยต้องการกลุ่มหลัก ต้องลงทะเบียนสำมะโนครัวให้มากพอ
เดี๋ยวนี้กลุ่มฮิสแปนิคกำลังมีพลังทางการเมือง (Political Clout) เวลาหาเสียงต้องสนใจกลุ่มนี้แล้ว เพราะอาจค่ำบาตรคนที่เคยชนะการเลือกตั้งจากกลุ่มอื่นมาก่อนได้ คนจีนก็กำลังสร้างฐานทางการเมืองเพื่อให้มีความสำคัญ มีเสียงในการบริหารท้องถิ่นมากขึ้น จะได้นำประโยชน์มาให้กลุ่มของตน ถ้าคนไทยมองการบริหารการท้องถิ่นไว้ในอนาคต ก็เลือกเรียน Political Science, Public Administration และวางแผนการทำงานกับรัฐบาล เริ่มแต่การทำงานกับชุมชน เมือง รัฐ และระดับประเทศ มีตำแหน่งที่น่าสนใจ และไม่จำกัดประเทศบ้านเกิดเมืองนอน เช่น การเป็น Foreign Services Officer ทำงานกับ State Department ไปประจำตามประเทศต่างๆ รัฐบาลจะส่งทีมไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เมื่อมีการเปิดสอบ เพื่อเตรียมบุคลากรด้านนี้ล่วงหน้าตั้งแต่ยังศึกษาอยู่