สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
อย่าโกงระบบ

คือวันหนึ่งย่างเข้าวันใหม่แล้ว เกิดความง่วงพอๆกับความขี้เกียจที่จะทำอาหารเย็นให้ครบ 5 หมู่ ก็คว้าโยเกิร์ตทานกับข้าวโอ้ตซีเรียลเป็นวงกลมเล็กๆใส่ปากเคี้ยงง่ายจะได้ขึ้นเตียงหลับเร็ว แต่ที่ไหนได้ นอนหลับแล้วฝันว่าต่อสู้กับชายร่างกำยำ ผลัดกันรุกผลัดกันแพ้จนตีสี่ ตื่นขึ้นด้วยความเหนื่อย เพราะร่างกายหิวไม่ได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่อย่างสมบูรณ์ ประสาทจึงสั่งให้ความฝันเป็นไปอย่างตื่นเต้นจะได้ตื่นมากินให้ครบตามที่จะต้องสร้างโลหิต ไปเลี้ยงประสาทสมอง ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ ไม่อย่างนั้นกล้ามเนื้อหัวใจไม่มีโลหิตอาจหยุดทำงาน เรียกว่า หัวใจวายตอนนอนหลับ นายแพทย์ Heinman พูดว่า metabolic unhealthy คือกินอาหารไม่ครบและไม่สร้างสุขภาพ อาหารเป็นตัวสื่อสารและส่งข่าวระหว่าง 10 ระบบในร่างกาย ถ้าไม่ครบ 5 หมู่ คือ แป้ง โปรตีน ผักสดผลไม้ เกลือแร่ และน้ำ การประสานงานของระบบก็ไม่สมบูรณ์ เห็นได้จากผู้ที่เขียนกินแค่โยเกิร์ตกับอาหารแห้งที่ไม่มีไวตามินครบ ยังหลับไม่เป็นสุขและหลับไม่ได้ ตื่นขึ้นมาด้วยความเพลียใจและกาย หมอไฮน์แมนใช้ศัพท์ว่า Food is you communication. ถ้าอาหารไม่ครบ ทั้งการย่อย การดูดซึมสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ก็ไม่สมบูรณ์ หัวใจส่งโลหิตไปให้เซลล์ 37 Trillions ลองคำนวณดู ร้อยล้านเป็นหนึ่งบิลเลี่ยน ร้อยบิลเลี่ยนเป็นหนึ่งทริลเลี่ยน แล้วกล้ามเนื้อหัวใจขนาดเท่ากำมือต้องส่งโลหิตไปให้เซลล์ทุกเซลล์ใน 10 ระบบ เป็นเวลาและระยะทางในร่างกายเท่าไหร่ แล้วยังจะโกงระบบ 10 ระบบของร่างกายอยู่อีกหรือ ถ้าไม่รักที่จะมีชีวิตอีกต่อไป 80 เปอร์เซ็นต์ที่หัวใจสร้างเป็นเม็ดเลือดแดง อีก 20 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่กับเลือดแดงเพื่อดำรงชีวิตเซลล์อีก 37 พันล้านเซลล์ ของ 10 ระบบให้ทำงาน ฉะนั้น อย่างโรงระบบ 10 ระบบของร่างกายเด็ดขาด หัวใจต้องสร้างโลหิตจากออกซิเจน เราจึงต้องเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้ปอดเอาออกซิเจนไปสู่ระบบประสาท ซึ่งจะส่งให้ง่วงนอนและควรหลับหลังจากบริโภคอาหารครึ่งชั่วโมง และถ้าอาหารไม่ครบถ้วน ร่างกายก็จะฝันร้ายพยายามปลูกให้เติมอาหารให้ครบถ้วนจึงจะเรียกว่า ป้อน 10 ระบบให้ย่อย ให้ดูดซึมเข้าสู่ระบบประสาทและหลับเต็มอิ่มตามที่ 10 ระบบเสร็จงานแล้ว ไม่อย่างนั้นก็เกิดความเครียด เพราะประสาทไม่ได้สารอาหารจากโลหิตเต็มที่ ดังที่หมอไฮน์แมนเรียกว่า อาหารคือตัวส่งข่าวประสานงานระหว่างเซลล์ เห็นจากตัวอย่างความขี้เกียจปรุงอาหารของผู้เขียน ไม่สามารถหลับต่อไปได้ เพราะประสาทสั่งให้ฝันร้าย จะได้รู้ตัว และตื่นมาทำหน้าที่ป้อนอาหารให้ร่างกายทำงานครบ 10 ระบบ รุ่งเช้าจะได้ขับของเสียออกจากร่างกาย หรือระบายออกทางแก๊สโดยการผายลมหรือเรอ ที่หมอไฮน์แมนเรียกว่า Metabolic Unhealthy ในวิชาการที่เรียกว่า Hope and Healing in Food Medicine หมายถึงว่า ระบบทั้ง 10 ขาดการดำรงไว้ซึ่งระเบียบที่จะสร้างสุขภาพอันดี เราก็พยายามฝากความหวังไว้กับการกินอาหารครบ 5 หมู่ และอาหารดีมีคุณภาพพอที่จะสื่อสารกันได้ในการทำงานประสานกันทั้ง 10 ระบบ ตัวอย่างเห็นได้ง่ายๆ จากการกินโยเกิร์ตกับแป้งแห้งๆ ไม่มีสารอาหารที่เป็นไวตามินครบถ้วน ทำให้ประสาทฝันร้าย พยายามปลุกร่างกายให้ตื่นขึ้นมาเพื่อปฏิบัติต่อร่างกายให้สมบูรณ์ เรียกว่า อย่างโกงร่างกายและการปฏิบัติงานของระบบ ไม่สำเร็จหรอก หรือไม่มีโอกาสทำได้หรอก เพราะหัวใจหยุดเต้น เพียงแค่ไม่มีอาหารไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ หัวใจสร้างเลือดไปส่งสัญญาณการทำงานของสมองไม่ได้ก็ฝันร้าย หรือไม่มีโอกาสได้ฝันอีก เพราะเซลล์สมองขาดน้ำขาดเลือดที่จะส่งข่าวสานถึงกัน จะว่าไปแล้ว Hope and Healing in Food Medicine ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะเป็นการโกงระบบร่างกายของตนเอง แทนที่จะป้อนอาหารครบถ้วนให้เขาทำงานเต็มที่ 10 ระบบ ก็ใส่แค่โยเกิร์ตกับอาหารแห้ง เลยฝันร้ายปลุกขึ้นมาทำข้าวบราวน์ผัดใส่ไข่ ใส่หมูแดง กินกับบลูเบอรี่ และผักกาดหอมจิ้มน้ำสลัดปรุงจากแครอท ให้ครบ 5 หมู่ คือ แป้ง โปรตีน ไวตามินจาก ผักสด ผลไม้ และดื่มน้ำมะพร้าว น้ำส้มคั้น หรือน้ำองุ่นตามด้วยน้ำกลั่น

คนที่รู้ตัวทานอาหารมีไขมันสูงอาจเกิดศัตรูอิสระในร่างกายจากการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงานหรือได้รับอากาศเสียจากสิ่งแวดล้อม หรือ สารพิษจากสารกันบูด ผงชูรส ก็ต้องหาสารที่จะทำลายศัตรูอิสระ เรียกว่า แอนไทออกซิแดนท์ ทำหน้าที่ปล่อยอิเล็คตรอนให้สารศัตรูอิสระจะได้ไม่ไปแย่งอิเล็คตรอนจากเซลล์ดีๆ สารศัตรูอิสระเมื่อได้อิเล็คตรอนก็สมดุล มีความพอเพียง ไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์

แอนไทออกซิแดนท์ที่มีขายเมื่อก่อนนี้ ผลิตจากไวตามินซี ไวตามินอี เบต้าคาโรทีน เซเลเนียม และโอพีจีผลิตจากเม็ดองุ่น หรือเปลือกสน ซี่งมีขนาดโมเลกุลใหญ่ และให้ปริมาณอิเล็คตรอนแก่สารศัตรูอิสระเพียงหนี่งหน่วย ที่เหลือกลับกลายเป็นสารศัตรูอิสระอย่างอ่อนๆ จนกว่าจะได้รับความสมดุลจากอิเล็คตรอนที่พอเพียงปริมาณกัน เท่ากับว่าเจ้าตัวที่เราส่งเข้าไปฆ่าศัตรูตัวร้าย กลับเข้าพวกศัตรูไปเสียฉิบ ร้อนถึงแพทย์ต้องหาอัศวินขี่ม้าขาวตัวใหม่มาปราบศัตรูอิสระให้ราบคาบเป็นหน้ากลอง โดยนายแพทย์แพทริค ฟลานาเกนท์ หรือ Dr.Patrick Flanagen สามารถค้นพบว่า ไฮโดรเจน ซึ่งเป็นหน่วยอะตอมที่เล็กที่สุด เบาที่สุด มีปริมาณอิเล็คตรอนสูงเป็น 2 เท่า สามารถฆ่าสารศัตรูอิสระได้มากตามที่ต้องการ โดยการเข้าประกบกับสารศัตรูอิสระทำให้มันสมดุล หมดฤทธิ์ที่จะไปดึงอิเล็คตรอนและความชื้นจากเซลล์ ก็จะสามารถส่งผลให้ร่างกายสามารถสร้างกำลัง ความแข็งแรง และปลอดจากโรคภัยได้เต็มปริมาณอาหารที่เราป้อนเข้าไป นอกจากนี้ ยังทำปฏิกิริยาก่อให้เกิดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ซิลิกา โปตัสเซี่ยม แมกนีเซี่ยม ไฮโดรเจน และน้ำ ทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ผิวชุ่มชื้น ไม่แก่ก่อนวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่ไวรัสโคโรน่าดำรงชีวิตด้วยการแย่งน้ำไปจากเซลล์ของมนุษย์ และวัคซีนที่ผลิตออกมาทำมาจากไวรัสโคโรน่า จึงมีผลข้างเคียงที่เรียกว่า blood clot เพราะเจ้าตัวไวรัสแย่งน้ำไปจากเซลล์โลหิต สารต่อต้านศัตรูอิสระตัวนี้ชื่อว่า ไมโครไฮดริน (Microhydrin) เป็นเม็ดที่ใช้รับประทานแบบอาหารเสริม หรือไวตามิน ตัวประกอบคือ ไฮโดรเจน ที่สามารถให้ปริมาณอิเล็คตรอนสูงเป็นพิเศษ (Hydride) จึงขนานนามอัศวินม้าขาวตัวนี้ว่า ไวตามินเอช หรือเป็น Super Antioxidant ตัวใหม่ ที่อาจป้องกันปัญหาเลือดอุดตันจากวัคซีนบางตัวได้ แทบจะไม่มีผลข้างเคียง เพราะเป็นตัวส่งเสริมเซลล์ที่จะป้องกันการสูญเสียน้ำจากการแย่งของไวรัส ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดถึงศาสตร์แห่งการผลิตไวตามินเสริมนี้หรือยัง เพราะการค้นพบนี้ค่อนข้างจะนานมาแล้ว คงนึกกันไม่ถึงในขณะนี้ ถ้าใครอยากลองหาซื้อไวตามินเอชจากร้านขายยา หรือสอบถามโรงพยาบาล ว่าเขาจะสนใจผลิตไหม หรือหาซื้อได้ที่ไหน ก็ส่งข่าวมาบอกกันบ้าง ผู้เขียนคนหนึ่งละ จะหาทางเลือกนอกเหนือจากวัคซีน