สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ของหวานของคาว

รสหวานมีเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม พืชสร้างทักษะประจำชนิดของมัน เช่น เผ็ด ขม ฝาด มนุษย์ใช้ทักษะต่างชนิดกันเพื่อให้สมดุลในรสอาหาร เช่น เค็ม แก้ขม หรือเกิดคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ต่อร่างกาย เช่น ไวตามินที่เรากินหลังอาหาร โดยมากอาหารไทยมีรสเผ็ดนำ แล้วก็มีแกงจืดแก้ความเผ็ด กินอาหารไทยแล้วยังซู่ซ่าในปาก ก็ต้องตามด้วยของหวาน คือมีอาหารคาวและอาหารหวาน เดี๋ยวนี้ไม่สนแล้ว ว่าจะกินก่อนหรือหลัง อาจกินอาหารคาวแกล้มด้วยของหวานไปด้วยกันเลย เช่น มีกล้วยสุกงอมอย่าทิ้งเสียเปล่า ปอกแล้วปิ้งย่างในเตาอบขนมปัง หั่นเป็นแว่น สำหรับแกล้มอาหารคาวได้อร่อยมาก เพราะรสชาติของกล้วยสุกงอมเมื่อปิ้งย่างหอมๆ ช่วยชูรสอาหารอื่นๆ ได้ดีมีประโยชน์ครบถ้วนสมบูรณ์ในการเคี้ยวครั้งเดียว เสมือนการดูภาพยนตร์มาเฟียสมัยปี 1930 ที่เพิ่งนำกลับมาฉาย พระเอกซึ่งเป็นนักสืบแสดงโดยดรายอดนิยมให้ติดตามดูจนจบ ถามนางเอกว่า เด็กสาวคนที่ถูกขังอยู่กับใคร เธอตอบว่า เป็นลูกสาว และเป็นน้องสาว เล่นเอาผู้เขียนงง คิดไม่ออกว่าจะสัมพันธ์กันได้อย่างไร จนการผูกเรื่องลงเอยที่ว่า พ่อข่มขืนนางเอกซึ่งเป็นลูกสาวตั้งแต่อายุ 15 เมื่อคลอดลูกออกมา ก็มีสิทธิ์เป็นน้องสาวต่อจากเธอ และเป็นลูกสาวของเธอด้วย เพราะคลอดออกมาเอง งงไหม? เรื่องของเรื่อง ไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่า สรุปความได้ว่ามาเฟียสมัยนั้น มีอำนาจสามารถยักย้ายถ่ายเทน้ำประปาเข้าสู่ประโยชน์ส่วนตน แทนที่จะเข้าสู่ประโยชน์ของสาธารณะ เมื่อพระเอกรู้ความชั่วเข้าก็ใช้กำลังแรงของน้ำกำจัดพระเอกเสียให้เหมือนอุบัติเหตุ พระเอกเลยรู้ความตื้นลึกของเรื่องเพราะเพศสัมพันธ์กับนางเอกทำให้เธอไว้วางใจเล่าความจริงให้ฟัง เสมือนเรื่องของหวานของคาวอะไรปานนั้นแหละ

เราจะออกมาสู่เรื่องบรรเจิดแห่งชีวิตดีกว่า เพราะที่เรากินอาหารของหวานของคาวทั้งหลายนั้นร่างกายได้ประโยชน์อะไรบ้าง เขาสอนแต่เล็กๆว่าควรกินอาหาร 5 หมู่ มีแป้ง คาร์โบไฮเดรท โปรตีน เนื้อ หมู ไก่ ปลา พืชผักสีต่างๆ และไขมันดีๆ นอกจากนี้ควรมีไวตามินด้วย อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง ที่ผู้เขียนยกย่องอย่างสูงในการเผยแพร่ความรู้ที่เป็นแก่นสาระที่ทุกคนเติบโตมาควรจะมีอยู่ในสมอง ผู้เขียนยกย่องท่านเป็นระดับปรมาจารย์ ทั้งๆที่ไม่ทราบว่าท่านเคยสอนที่ใดหรือไม่ ประวัติของท่าน คือทำงานในโรงพยาบาล Sacred Heart Hospital รัฐออริกอน 6 ปี โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน จีน ไม่รู้กี่ปี และทำงานองค์กรสหประชาชาติ 27 ปี ท่านเป็นคนแรกที่พูดเรื่องสุขภาพในแนวธรรมชาติและการแพทย์แบบผสมผลาน (Integrated and Alternative Medicine) พื้นฐานการศึกษาของท่านคือ จิตวิทยา โภชนาการ การฝังเข็ม กับการแพทย์อื่นๆ

ท่านเขียนหนังสือไว้ 4 เล่น คือ

1.ชีวจิต

2.ชีวิตเริ่มต้นเมื่อ 70

3.มะเร็งแห่งชีวิต

4.กูแน่

ท่านเขียนไว้ในหนังสือชีวิตเริ่มต้นเมื่อ 70 ว่า ไวตามินมีความสำคัญใหญ่หลวงต่อชีวิตอย่างเหลือเชื่อ ประมาณทั้งๆที่เป็นกลุ่มไมโคร ซึ่งแปลว่าเล็กกระจ้อยร่อย เพราะว่าไวตามินเป็นตัวก่อตั้ง (Catalyst) ที่จะแปรสภาพอาหารให้เป็นสารเกิดประโยชน์ (nutrients) และเป็นตัวผลักดัน (Energize) อาหารให้เป็นพลังงานสำหรับร่างกาย และเป็นตัวควบคุม (Regulate) ให้ระบบร่างกายทำงานแต่ละขั้นตอนจนจบ ข้อสำคัญคืออย่าคิดว่า ไวตามินคือยาบำรุง การกินไวตามินให้ถูกต้องและมีประโยชนืที่สูงสุดคือ การกินไวตามินที่มีอยู่ในอาหารนั่นเอง เป็นต้นว่า

ไวตามินเอ ช่วยในการรักษาโรคตาแทบทุกชนิด ช่วยต่อต้านโรคเกี่ยวกับทรวงอก ช่วยให้ผิวหนังสดชื่น เต่งตึง ช่วยกำจัดผิวที่เป็นฝ้า ตกกระ สร้างความเจริญเติบโตของร่างกาย กระดูก ฟัน เล็บ เหงือก ให้แข็งแรง อาหารที่มีไวตามินเอ ได้แก่ น้ำมันตับปลา ตับ แครอท ผักเขียวและเหลือง ไข่ นม เนย ผลไม้สีเหลือง ถ้าป่วยเป็นโรคดังกล่าว ควรใช้ไวตามินเอแคปซูลประมาณวันละ 10,000-25,000 I.U.

ไวตามินบี 1 ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย การย่อยอาหาร โดยเฉพาะพวกแป้ง ช่วยสมอง ระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ และการทำงานของหัวใจ ช่วยแก้เมารถเมาเรือ บรรเทาการเจ็บปวดจากการถอนฟัน ช่วยรักษาโรคงูสวัด (Herpes Zoster) อาหารที่มีไวตามินบี 1 คือ ยีสต์แห้ง เปลือกข้าวรำข้าว ข้าวซ้อมมือ Whole Wheat ถั่วลิสง ผักทุกชนิด นม ถ้าใช้เป็นเม็ดวันละ 100-300 มก.

ไวตามินบี 2 ช่วยการเจริญเติบโตของร่างกาย การทำงานของต่อมเพศ ช่วยผิวหนัง เล็บ ผม ช่วยรักษา โรคปากเปื่อย ลิ้นเป็นแผล ช่วยตาเจ็บ ตามัว ช่วยเปลี่ยนสภาพของแป้ง โปรตีน ไขมัน ให้เป็นประโยชน์ บี 2 มีอยู่ในผักเขียว ปลา ไข่ นม ยีสต์ ตับ ไต อัตราเสริมต่อวัน 100-200 มก.

ไวตามินบี 5 ช่วยรักษาแผล การอักเสบต่างๆ แก้ช็อค แก้เหนื่อยเพลีย แก้การแพ้ยาปฏิชีวนะ มีอยู่ในข้าวซ้อมมือ รำ จมูกข้าว ผักเขียว บริวเวอรี่ยีสต์ โมลาส น้ำตาล ตับ ไต ถั่วต่างๆ ไก่ อัตราต่อวัน 300 มก.

ไวตามินบี 6 ช่วยสร้างโปรตีนและไขมันให้เป็นสารอาหาร เช่น เปลี่ยน Tryptophan ให้เป็น Niacin ช่วยรักษาระบบประสาทและผิวหนังให้เป็นปกติ ช่วยแก้อาเจียน ช่วยชะลอความแก่ แก้อาการปากแห้ง คอแห้ง และอาการผิดปกติของระบบปัสสาวะ ป้องกันและช่วยบรรเทาการเป็นตะคริว เหน็บชา เป็นยาขับปัสสาวะ มีอยู่ในอาหารบริวเวอรี่ยีสต์ รำข้าว จมูกข้าว แคนตาลูป กะหล่ำปลี โมลาส น้ำตาล นม ไข่ ตับ ไต หัวใจ กินเสริมวันละ 300 มก.

ไวตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง สร้างความเติบโต เจริญอาหาร ช่วยระบบประสาท ลดความอ้วน ช่วยการทำงานของสมองและความจำ มีอยู่ในอาหาร นม เนย ไข่ ตับ เนื้อสัตว์ เสริมวันละ 100 มก. ควรเลี่ยงเนื้อสัตว์

ไวตามินบี 15 ช่วยชะลอความแก่ได้ดีมาก แก้ติดสุรา ช่วยลดโคเลสเตอรอล แก้โรคมลพิษ แก้การปวดหัวใจและโรคหืด แก้ตับแข็ง เมาค้าง มีอยู่ในข้าวซ้อมมือ บริวเวอรี่ยีสต์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน อย่างชนิดเม็ดไม่มีใครผลิตขาย ถ้าหาได้ วันละ 150 มก.

ไวตามินบี 17 ช่วยต่อต้านมะเร็ง อยู่ในเม็ดในของแอปปริคอตของแอบเปิล เชอรี่ พีช พลัม เนคตารีน และเมล็ดเงาะ ไม่มีขายในท้องตลาด เพราะการเมืองของบริษัทค้ายาอเมริกัน

ไวตามิน เอช ช่วยให้ผมดกดำ ป้องกันหัวล้าน แก้ปวดกล้ามเนื้อ ช่วยรักษากลากเกลื้อนและโรคผิวหนัง มีอยู่ในข้าวซ้อมมือ ผลไม้ บริวเวอรี่ยีสต์ ตับ ไข่แดง นม กินวันละ 300 มก. ไม่มีขายเป็นเม็ดในตลาด

ไวตามิน ซี ช่วยให้แผลหายเร็ว แผลไฟไหม้ เลือดออกตามไรฟัน ขับปัสสาวะ ช่วยลดโคเลสเตอรอล สร้างภูมิต้านทาน ขับสารก่อมะเร็ง ช่วยระบายท้อง แก้โลหิตอุดตัน บรรเทาหวัด แก้แพ้ มีอยู่ในผลไม้เปรี้ยวทุกชนิด เบอรี่ทุกชนิด ผักเขียว มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ มันฝรั่ง มันเทศ กินวันละ 500 มก. ถ้าป่วย 6,000 มก.

ไวตามินดี ช่วยสร้างไวตามิน เอ ช่วยแยกแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสให้กลายเป็นกระดูก ฟัน และเล็บ ถ้าร่วมกับไวตามินเอ และซี จะช่วยป้องกันหวัด รักษาโรคเยื่อนัยน์ตาอักเสบ มีอยู่ในน้ำมันตับปลา ปลาซาร์ดีน เฮอร์ริง แซลมอน ทูน่า ปลาทะเล นม กินวันละ 1,000 มก. ระวังอย่ากินมากเกินกำหนด จะทำให้คลื่นไส้ ตาบวม ผิวหนังคัน ปัสสาวะขัด ท้องเดิน และทำให้แคลเซี่ยมในร่างกายไปจุกที่เส้นเลือด ตับ ปอด ไต กระเพาะปัสสาวะ

ไวตามินอี ช่วยชะลอความแก่ สร้างความทนทาน ทำงานร่วมกับไวตามินเอ ต่อต้านมลพิษได้ผลดีขึ้น ช่วยละลายการอุดตันในเส้นเลือด ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้น ช่วยแก้แผลเป็นที่หนาๆ ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ ขับปัสสาวะ และลดความดันโลหิต ป้องกันการแท้งลูก ป้องกันตะคริว ไวตามินอีมีใน จมูกข้าว ถั่วเหลือง น้ำมันพืช ยกเว้นน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว บร็อคเคอลี่ บรัสเซลล์สเปราห์ ผักเขียว ผักโขม ข้าวไม่ขัดขาว ไข่ กินวันละ 400 มก.

ไวตามินเอฟ ช่วยละลายโคเลสเตอรอลในเส้นเลือด ช่วยผิวหนังให้เต่งตึง ผมดกดำ ช่วยป้องกันจากรังสีเอ็กซ์ ช่วยเจริญเติบโต ช่วยให้แคลเซี่ยมกระจายสม่ำเสมอ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดความอ้วน มีอยู่ในน้ำมันทุกชนิด (ยกเว้นปาล์มและมะพร้าว) อยู่ในจมูกข้าว เมล็ดฝ้าย เมล็ดทานตะวัน ดอกคำฝอย ถั่วเหลือง ถั่วลิสง วอลนัท ถั่ว Pecan ถั่วอัลมอนด์ อะโวคาโด กินแคปซูลวันละ 150 มก.

เหตุที่ผู้เขียนรวบรวมไวตามินทุกอย่างไว้ในที่นี้ ก็เพื่อเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อผัก และอาหาร คราวหน้าจะพูดถึงแร่ธาตุ เราจะได้รู้ว่าเสียเงินซื้ออาหารเพื่ออะไรบ้าง

หรือดีที่สุด ก็คือหาซื้อหนังสืออาจารย์สาทิส อินทรกำแหงทุกเล่ม จะมีค่ามากต่อชีวิต