สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
หากรู้สักนิด

เรื่องนี้ไม่ใช่นวนิยายของอาเดียว แต่เป็นเรื่องของความรักตัวเองและสุขภาพ ก่อนที่จะมีชีวิตไปรักคนอื่นได้ พูดถึงตอนที่ว่าเราโตแล้ว จะมีชีวิตยืนอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอาหารที่ป้อนร่างกาย ทำนุบำรุงร่างกายด้วยความสามารถนำอาหารไปสังเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มาจากอากาศที่เรานำไปสังเคราะห์มัน ส่วนประกอบอื่นๆ ดูเหมือนไม่จำเป็น แต่ก็ช่วยให้คนมีอายุยืนได้ เปรียบเทียบระหว่างคนอยู่กรุงเทพฯ กับคนอยู่แคลิฟอร์เนีย ไปเมืองไทยถึงจะรู้ว่าทำไมญาติเราที่กรุงเทพฯ ล้มหายตายจากไปรวดเร็วเหลือเกิน คนที่ยังอยู่รอด ก็เป็นเพราะว่าเล่นกอล์ฟเดินในสนามกว้างอากาศดี อารมณ์ดี มีความสุขหลังจากเล่นกอล์ฟ พวกนี้อายุยืนกัน คงมาจากได้หายใจอากาศดี มีอารมณ์ดี และมีความสบายใจ สบายกาย

อาหารที่เราทาน ก็ทานตามที่รู้มาว่าต้องทานอาหาร 5 กลุ่ม คำถามคือร่างกายต้องการแค่ไหน คนอยากผอมก็ลดข้าว แท้ที่จริงร่างกายต้องการอาหารแป้ง จากข้าว หรือเผือกมันถึง 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งหมด นั่นคือไม่ใช่อยากคุมน้ำหนักเลยลดข้าวและ ลดแป้ง เพราะตัวนี้คือพลังงานที่จะเอาไปใช้ในการติดต่อของกลุ่มกล้ามเนื้อ ประสาท และการหลับ และดื่มน้ำบริสุทธิ์ที่มีค่าเป็นกลางช่วยผลิตคาร์โบไฮเดรทสำหรับพลังงาน กลุ่มแป้งที่ควรบริโภคคือแป้งเชิงซ้อน (complex carbohydrate) หรือ Resistant Carb เพื่อป้องกันโรคมะเร็งในกระเพาะถามหา และป้องกันมะเร็งเต้านมได้จากข้าวโพด ข้าวฟ่าง

อีกกลุ่มหนึ่งคือไขมัน เหมือนกับว่าแกล้งให้เราทานมากๆ เพราะ USDA แนะนำว่าอัตราการบริโภคไขมันอาจเป็นไปได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ แต่เราควรมีความรู้สักนิดถึงไขมัน ควรอ่านสลากก่อนซื้อ และเลี่ยงไขมันอันตราย

1. Trans Fat ที่สังเคราะห์เป็น Trans Fatty Acids ตัวนี้ไปเพิ่มโคเลสเตอรอลร้าย ถ้าไปพอกเส้นเลือดสำคัญไปเลี้ยงหัวใจ ถึงขั้นทำให้หัวใจวายตอนหลับสบาย ตัวลด trans fat คือ Omega 3 มีอยู่ในข้าวเหนียวดำ ปลาแซลมอน ทูน่า เทร้าต์ ค็อต

2. Lipid ไขมันตัวนี้ช่วยละลายไวตามินสำหรับการสังเคราะห์ไปใช้ในร่างกาย คือ ไวตามิน เอ ดี อี และ เค

3. น้ำมันพืช จาก น้ำมันแซฟฟลาวเวอร์ น้ำมันเม็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมัน borage น้ำมัน flexseed น้ำมันเหล่านี้มีความดี แต่ผู้ผลิตทำให้เสียความดี ตรงที่ไปผ่านไฮโดรเจนทำให้เป็น trans fat เพื่อไม่ให้เหม็นหืนเมื่อเก็บไว้นานๆ จึงควรเลี่ยงใช้น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธี เรียกว่า hydrogenated oil หรือ trans fat ผู้เขียนเลิกใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร ใช้ผัดด้วยน้ำตามภูมิปัญญาไทย เพื่อเลี่ยงภาวะไข่ขาวรั่ว เมื่อลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมโปรตีนเรียกว่า Albumin ได้ จึงรั่วออกมาพร้อมกับปัสสาวะ แล้วจะเสียดาย กลับไปดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองอีก ยุ่งตาย

4. Triglycerides มีอยู่ในอาหารที่เราบริโภคเกือบทุกชนิด เป็นตัวแปรของโคเลสเตอรอลชนิดร้าย สร้างมาจากการสังเคราะห์ของน้ำตาลกับกรดไขมัน ของ Monounsaturated fat ในน้ำมันข้าวโพด น้ำมันแซฟฟลอเวอร์ และ Polyunsaturated fat ในน้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า ยิ่งถ้าดื่มอัลกอฮอล์ยิ่งเพิ่มโคเลสเตอรอลมาก ตัว Triglycerides ขัดขวางการสื่อสารของฮอร์โมน เวลาตรวจเลือกประจำปีให้สังเกตปริมาณตัวนี้ไม่ให้เกินพิกัด ควรต่ำกว่า 150 ระหว่าง 150-200 เริ่มขีดอันตราย สูงกว่า 200 ไม่ดี อาหารที่เป็นผลดีคอยควบคุม Triglycerides ได้แก่ ปลาแซลมอน องุ่น ถั่ว สปินาช

5. ให้ระวังอาหารที่มีหน่วยแคลอรี่สูง เช่น ไขมัน 1 กรัม แปรรูปเป็น 9 แคลอรี่ แป้ง 1 กรัมแปรรูปเป็น 4 แคลอรี่ โปรตีน 1 กรัมแปรรูปเป็น 4 แคลอรี่

สรุปแล้ว อัตรา 30 เปอร์เซ็นต์ของไขมันที่ USDA แนะนำให้บริโภค ควรอยู่ในอัตราเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของ saturated fat หรือไขมันสัตว์ และ 20 เปอร์เซ็นต์น้ำมันพืช ฟังแล้วเวียนหัว เพราะน้ำมันพืชก็มีส่วนไม่ดีจากกรรมวิธีการผลิต ที่ดีที่สุดเลิกเสียเงินซื้อน้ำมันพืช เพราะน้ำมันพืชเพิ่มการผลิต cytokines เหมือนเป็นแปรงที่จะปัดสารพิษ แต่สร้างแผลมากขึ้น จึงควรหันมาปรุงอาหารด้วยน้ำ การอบ และการนึ่ง และได้น้ำมันจากถั่วอัลมอนด์แทนเพราะมีแคลเซี่ยม ดื่มแทนนมวัวซึ่งขัดขวางการดูดซึมโปรตีน casaine

เขียนมาถึงกลุ่มที่ 3 ที่ RDA (Recommended Dietary Allowances) แนะนำคือกลุ่มโปรตีน เหลือสัดส่วนอยู่แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินทานเสต็กทุกวัน เพราะได้โปรตีนจากพืชผักธัญญาหารแทน ขอให้ทานเป็นประจำ เช่น ของหวานก็เป็นถั่ว ของคาวก็มีถั่ว นมก็มาจากถั่ว แค่นี้ก็คงได้สัดส่วนโปรตีนเพียงพอ

ทีนี้เราก็ตั้งหน้าทานผักสดผลไม้สด ตามที่เขาสอนมาแต่ดึกดำบรรพ์ หารู้ไม่ว่าผักผลไม้สดถ้ามีโปตัสเซี่ยมสูง มันจะไปทำให้เกิดปฏิกิริยากับโคเลสเตอรอล ก่อให้เกิดนิ่งในถุงน้ำดี ฉะนั้นคนที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูง ก็ต้องทานผลไม้แห้ง หรือผักปรุงแล้ว เหมือนอย่างคนที่ไปตรวจอุจจาระ เขาไม่ให้ทานผักผลไม้สดเป็นเวลา 7 วัน วันที่ 8 วันที่ 9 วันที่ 10 จึงเก็บตัวอย่างอุจจาระไปให้เขาตรวจ นั่งมองผลไม้สดน้ำลายไหลไปหนึ่งสัปดาห์ ก็ดีไปอย่าง คือไม่เกิดหินในถุงน้ำดี จากโปตัสเซี่ยมในผลไม้หรือผัก เขียนมาถึงแค่นี้ในเกรงใจว่า จะโดนปาหลังคาบ้าน เพราะเขียนอะไรกวนน่าเวียนเศียร เอาเป็นว่า รู้ไว้สักนิด เพื่อจะได้ไม่ปัสสาวะบ่อยก็แล้วกัน

ผลไม้ของชอบที่มีโปตัสเซี่ยมสูง ได้แก่ กล้วย ส้ม พรุน ลูกเกต แตงโม แอปริคอด แคนตาลูป ฟิกซ์ ส้มโอ แตงไท พีช

โปรตีนที่มีโปตัสเซี่ยมสูง คือถั่วแห้ง ปลา เนื้อ เนยถั่วลิสง ไก่

ผักที่มีโปตัสเซี่ยมสูง คือ อะโวคาโด หน่อไม้ แครอท เห็น มันฝรั่ง ผักสปีนาช มันเทศ มะเขือเทศ

ขอบชอบทั้งนั้น ถ้าสามารถควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลได้ ก็ทานของพวกนี้ได้ ไม่ต้องห่วงนิ่วในถุงน้ำดี หรือไม่ก็ทานยาไทยจากหญ้าหนวดแมวคุมนิ่วในถุงน้ำดีอีกที หรือไม่ก็ศึกษาจักระ ออกกำลังจักระรักษาที่ตรงถุงน้ำดีดัวพลังจักระ หรือไม่ก็ดื่มน้ำคั้นใบรางจืด แก้สารพิษที่จะก่อตัวเป็นนิ่ว หรือไม่ก็สวดมนต์อธิฐานขอให้หินสลายตัวออกมา

เรื่องรู้สักนิด ดูเหมือนว่าจะไม่นิดหน่อยแล้ว ต้องมีความรู้รอบตัวพอควร เช่นเรื่องกรดยูริคแอซิต จากการทานเนื้อสัตว์มีปีก ทานเครื่องในสัตว์ ทานผักที่มีกลิ่นฉุน ทานข้าวกล้อง มีสาร purine สูง ก่อให้เกิดโรคเก๊าท์ ปวดข้อ ถ้าพอกที่ตา ทำให้โลหิตไปเลี้ยงประสาทตาน้อย ก็เกิดเยื่อตาอักเสบ ต้องลอกออก หรือไปพอกที่เส้นเลือดปอดก็ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และอาจทำให้หัวโต ภูมิปัญญาไทยบอกว่า วิธีบำรุงหัวใจใช้ว่านหอมแดง

การพอกของแคลเซี่ยมตามที่ต่างๆ ในเส้นเลือด ให้วัดจาก การแสกนแคลเซี่ยม ซึ่งทำโดยอัลตร้าซาวด์ ถ้าระดับอยู่ที่ศูนย์ อัตราการพอกของแคลเซี่ยมต่ำ อัตราที่ 2-3 อัตราโคเลสเตอรอลไว้ใจได้ อาจต้องใช้ยาคุมในอนาคต อัตราที่ 10 ต้องระมัดระวังอาหาร ออกกำลังกาย และใช้ยาคุม

ยาที่เราเคยได้ยินชื่อว่าคร่าชีวิตของไมเคิล แจ็คสัน ชื่อโปรโพฟอล ใช้เพื่อขยายเส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจ โดยมากใช้สองวันหลังจากการผ่าตัด ใช้ได้ไม่เกิน สองสัปดาห์ หรือสองเดือน อาจก่อให้เกิดภาวะการไม่ทำงานของอวัยวะภายในหลายอย่างพร้อมกัน และอาจถึงเสียชีวิต เพราะผลข้างเคียง เนื่องจากระบบหายใจไม่ทำงาน

หากรู้สักนิดมาถึงแค่นี้ ก็น่าจะมีชีวิตอันรื่นรมย์ไปได้อีกหลายปี ขอให้มีอารมณ์ดี มีความสุขเป็นใช้ได้