สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
โกรทฮอร์โมนสร้างร่างกาย

ฉบับที่แล้วเป็นความเศร้าอย่างยิ่งกับข่าวท่านผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ไทยแอล.เอ. คุณวิรัช โรจนปัญญา คนดีของเมืองนางฟ้า บังเอิญผู้เขียนพบโน้ตที่จดไว้ว่า Furosemide (Lasix) ใช้สำหรับหัวใจล้มเหลวที่อาจมีสาเหตุมาจากน้ำท่วมปอด โดยดึงน้ำออกจากปอดขับทิ้งทางปัสสาวะผ่านไต แพทย์ที่นี่คงได้ดำเนินการรักษาชีวิตท่านผู้อำนวยการอย่างสุดความสามารถแล้ว ผู้เขียนได้แต่เสียดายที่ไม่รู้ข่าวการเจ็บป่วย ขอคารวะในความดีความสามารถของท่าน ณ โอกาสนี้

ชีวิตของเราเป็นลักษณะเฉพาะตัวจาก ดี.เอ็น.เอ. ภายในเซลล์ แล้วส่งข่าวสารเพื่อสร้างระบบโดยเนื้อเยื่อหุ้มเซลล์ สื่อสารกันเป็นกลุ่ม แล้วแต่ว่ากลุ่มไหนมีหน้าที่สร้างอะไร เช่นกระดูก กล้ามเนื้อ โลหิต ประสาท ย่อยอาหาร และดูดซึมสารอาหาร ขับถ่ายของเสีย หายใจ สืบพันธุ์ สร้างผิว ทั้ง 10 ระบบภายในร่างกาย สื่อสารกันผ่านฮอร์โมน ตัวฮอร์โมนสร้างจากอวัยวะบางแห่งหลายที่ แล้วส่งเข้ากระแสโลหิต นำไปสร้างการเจริญแห่งระบบและอวัยวะต่อไป ฮอร์โมนนายใหญ่ Master Hormone ได้ชื่อว่า โกรทฮอร์โมน จะสูงสุดตอนอายุเป็นหนุ่มเป็นสาว พออายุได้ 30 ปี ก็ตกลงเกือบ 14 เปอร์เซ็นต์ต่อ 10 ปี เช่นตอนอายุ 20 ปี โกรทฮอร์โมนมีประมาณ 500 ไมโครกรัม (mcg) พออายุ 40 ปีก็ลดเหลือ 200 mcg พออายุ 80 ปี ก็ลดเหลือเพียง 25 mcg การปล่อยสารนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของ ไฮโปทาลามัสที่ให้ฮอร์โมนชนิดหนึ่งสั่งการให้ปล่อยโกรทฮอร์โมน คือเป็น Growth Hormone Releasing Hormone GHRH แปลว่าต้องมีฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกคำสั่งให้ปล่อยโกรทฮอร์โมน คำว่า ฮอร์โมนหมายถึงการคุยกันระหว่างเซลล์ เป็นคำสั่งบงการให้ เซลล์ทำงาน

โซมาโตทรอปส์ (Somatotrophs) คือตัวสั่งการให้ผลิตฮอร์โมน เมื่อแก่ชราก็เสื่อมสมรรถภาพในการปล่อยโกรทฮอร์โมน เพราะมีสารเรียกว่า โซมาโตสแตติน อันเป็นกลไกส่วนหนึ่งของไฮโปทาลามัสที่จะควบคุมให้ผลิตโกรทฮอร์โมนน้อยลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น จากการค้นคว้าทราบว่า ถ้าต้องการให้มีการปล่อยโกรทฮอร์โมน ก็ต้องช่วยให้จุดรับมีความฉับไวมากขึ้น หรือไม่ก็กระตุ้นให้ฮอร์โมน GHRH ขยันทำงานมากขึ้น

ความสัมพันธ์ในการสั่งให้ปล่อยโกรทฮอร์โมนเข้าสู่ระบบในร่างกายเกี่ยวโยงถึงการทำงานของฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งคือ สารปัจจัยแห่งการเติบโตทำหน้าที่เหมือนอินซูลิน (Insulin-like Growth Factor-1 IGF-1) สารนี้สม่ำเสมอมากกว่า จึงถูกนำมาใช้ในการรักษาระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกาย การขาด IGF-1 นานๆ จะก่อให้เกิดการหย่อนสมรรรถภาพในการสังเคราะห์แป้ง อันเป็นบ่อเกิดของเบาหวาน ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการให้โกรทฮอร์โมนบำบัด (HGH Therapy)

โกรทฮอร์โมนช่วยในการนำไขมันออกมาใช้ในรูปพลังงาน ซึ่งเรียกว่า lipolysis และส่งเสริมการนำโปรตีนมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงไร้เซลล์ไขมันที่เรียกว่า lean body mass และยังช่วยให้การปรับภาวะน้ำตาลเป็นไปตามปกติ ช่วยในการเผาผลาญในรูปของพลังงานในร่างกายอย่างสมบูรณ์

กระบวนการนี้ ทำงานโดยตัวปล่อย (Secretagogues) กระทำโดยกลไกมากมายร่วมกับจุดรับในที่ต่างๆ จุดรับที่ต่อมพิจุอิทาริจะตอบสนองต่อคำสั่งของ GHRH และเริ่มปล่อยโกรทฮอร์โมนจากส่วนหน้าของต่อมคือโซมาโตทรอปส์ แต่ได้ทราบแล้วว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โซมาโตสแตตินเป็นตัวขัดขวางตามธรรมชาติก็เพิ่มขึ้น ส่งผลขัดต่อการทำงานของโซมาโตทรอปส์ที่จะปล่อยโกรทฮอร์โมน จึงจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมตัวปล่อยให้ไปทำการขัดขวางการผลิตโซมาโตสแตติน การค้นคว้าได้รายงานว่าสเปรย์อะมิโนแอซิดทางปากคือการส่งเสริมกระบวนการนี้อย่างได้ผล หมายถึงว่าจะระงับการผลิตโซมาโตสแตตินได้ และช่วยให้โซมาโตทรอปส์ทำงานปล่อยโกรทฮอร์โมนได้

จากการค้นคว้ารายงานว่าการใช้เซรั่ม IGF-1 เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ ร่วมกับการให้ Symbiotropin ซึ่งเป็นสารร่วมของโปรตีนเพ็บไทด์ Peptide protein กับสารไกลโคอะมิโนแอซิด Glyco Amino Acid ชนิดเดียวกับสารที่ผลิตจากส่วนหน้าของต่อมพิจุอิทาริ เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ หยุดเว้น 2 วัน ปรากฏผลดีต่อสมรรถนะทั่วไปของร่างกาย ผิว และผม สมรรถภาพทางเพศ การรักษาแผล และภูมิต้านทานดีขึ้น สภาพทางสมองดีขึ้น ประมาณ 21-74 เปอร์เซ็นต์ โดยทั่วไปในร่างกาย และยังแสดงผลที่ดีขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดในรายที่มีโรคเบาหวาน และลดอัตราการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย และทำให้หัวใจและปอดทำงานดีขึ้น ความดันโลหิตดีขึ้น และปรับภาวะหลังหมดประจำเดือนให้ดีขึ้น การค้นคว้านี้จากรายงานชื่อ The Role of Oral Growth Hormone Secretagogues in Anti-Aging Therapy ของนายแพทย์ Mark Ladley, M.D.

ต่อมพิจุอิทาริทำหน้าที่สำคัญเพื่อกระตุ้นต่อมอื่นๆ ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตของร่างกายต่อไป เช่น ส่วนหน้าของต่อมพิจุอิทาริผลิตโกรทฮอร์โมน (STH) ที่จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อในระยะกำลังเจริญวัย ถ้ามีโกรทฮอร์โมนมากเกินไปร่างกายจะสูงใหญ่ ถ้ามีน้อยเกินไป ร่างกายจะเล็กแคระ นอกจากนี้ส่วนหน้าของต่อมพิจุอิทาริ ยังผลิตฮอร์โมนที่จะกระตุ้นการทำงานของต่อมไร้ท่ออื่นๆ เช่น อะดริโนคอร์ติโคโทรพิน กระตุ้นต่อมหมวกไต ไทรอกซิน กระตุ้นต่อมไทรอยด์ ลูติไนซิ่ง กระตุ้นต่อมเพศ และฮอร์โมนกระตุ้นรากผม เป็นต้น ส่วนหลังของต่อมพิจุอิทาริ ผลิตฮอร์โมนชื่อ แอนไทไดยูเรติค (ADH) และออกซิทอกซิน (Oxytocin) ทำหน้าที่รักษาระดับน้ำในร่างกาย และควบคุมการทำงานของไตให้ดูดซึมน้ำหรือซับน้ำเข้าสู่กระแสโลหิต และเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นมดลูกให้บีบตัวเมื่อคลอดบุตร ถ้า ADH อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับมีการขับน้ำปริมาณสูงออกจากระบบโดยไต เรียกว่าเกิดโรคเบาหวานประเภทสอง (Diabetes Type II)

อาการบ่งว่าต่อมพิจุอิทาริผลิตโกรทฮอร์โมนไม่เพียงพอเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อ STH และ ADH ถึงขีดยุติการเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อตั้งแต่อายุ 20-25 ปี โกรทฮอร์โมนจากต่อมนี้ชะลอการผลิตลดลง ส่งผลให้ต่อมอื่นๆ ในระบบผลิตฮอร์โมนลดน้อยลงไปด้วยเมื่อวัยชรามากขึ้น สิ่งที่บอกเหตุได้แก่ ผิวย่น มีริ้วรอยบนผิว ความจำเสื่อม ผมบาง ขาดความกระตือรือร้น กล้ามเนื้อหย่อนยาน สายตาเสื่อม ผมขาว แรงน้อย มีปัญหาเรื่องผิว แผลไม่สมาน ความสนใจทางเพศหดหาย เพิ่มไขมันในชั้นใต้ผิวที่เรียกว่าเซลล์ลูไลท์ และเริ่มนอนไม่หลับ อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน เพศชายจะเริ่มให้ความสนใจสตรีรุ่นเยาว์ เพื่อชดเชยความสูญเสียความกำยำและเริ่มสร้างความประทับใจต่อเพศตรงข้าม เพศหญิงจะเริ่มใส่แหวนเพชรเม็ดโต เพื่อเปลี่ยนความสนใจจากร่างกายที่เริ่มทรุดโทรมลง นี่คืออาการที่เกิดขึ้นจากผลลัพธ์ของโกรทฮอร์โมนลดลง

เดี๋ยวนี้อะไรก็ใช้สร้างจากระบบวิศวรรม (Genetically bio-engineered) ไม่ว่า อาหาร สัตว์ หุ่นยนต์ ในเมื่อจุดมุ่งหมายต้องการกระตุ้นการผลิตโกรทฮอร์โมนที่ต่อมพิจุอิทาริใต้สมอง คำตอบก็คือ สร้างสารนี้ขึ้นมาด้วยระบบวิศวกรรมซิ เพราะอะไรก็ใช้ระบบนี้สร้างขึ้น เหลืออย่างเดียวก็คือสร้างคนที่ประธานาธิบดียังกระตุกรั้งไว้ก่อน เพื่อดูให้ชัดเจนถึงผลดีผลเสีย แค่มีฝาแฝดก็สร้างปัญหาให้คนแฝดพอแล้ว

สมัยนี้ไม่ต้องวิตกกังวลต่ออาการเสื่อมโทรมต่างๆ เหล่านี้แล้ว เพราะโกรทฮอร์โมนอยู่ในขวดแทนต่อมพิจุอิทาริแล้ว ในเมื่อจุดมุ่งหมายต้องการกระตุ้นการผลิตโกรทฮอร์โมนที่ต่อมพิจุอิทาริใต้สมอง คำตอบก็คือ สร้างสารนี้ขึ้นมาด้วยระบบวิศวกรรมซิ เนื่องจากเป็นสารเคมี ก็เอาไปบวกกับวิชาการชีวเคมีทางวิศวกรรมซิ นั่นคือความสำเร็จในการสร้างโกรทฮอร์โมนขึ้นมา เรียกว่าโคลนนิ่งตัวโปรตีนของโกรทฮอร์โมนด้วยกรรมวิธีสมัยใหม่เข้ามาอยู่ในขวดได้สำเร็จ มีอยู่สองแบบคือ แบบไปเพาะสร้างเซลล์มีความบริสุทธิ์ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และแบบกระตุ้นจุดรับของต่อมใต้สมองโดยตรง มีความบริสุทธิ์ 95 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่สเปรย์ใต้ลิ้น หลังตื่นนอน ก่อนทานอาหารเช้า 30 นาที พอบ่ายสองโมงก็สเปรย์อีก 3 ทีใต้ลิ้น ก่อนนอน 30 นาทีหรือหลังอาหารเย็น 30 นาที ก็สเปรย์อีก 3 ที ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 5 วัน เว้น 2 วันไม่ต้องสเปรย์ เมื่อสเปรย์ใต้ลิ้นแล้ว ซึมซาบไปสู่จุดรับที่ต่อมพิจุอิทาริใต้สมอง เริ่มกระตุ้นการผลิตโกรทฮอร์โมนขึ้นมาอีกโดยตรง แล้วส่งไปกระตุ้นต่อมอื่นๆ ให้ผลิตฮอร์โมนปัจจัยแห่งการเติบโตอื่นๆ ทำงานเพื่อความเติบโตใหม่อีก

ผู้เขียนจำหน่ายโกรทฮอร์โมนเมื่อ 30 ปีก่อน เดือนละไม่ต่ำกว่า 200 ขวด คงเคยเห็นบทความและโฆษณากันมาแล้ว เดี๋ยวนี้กำลังกลับไปให้ความสนใจโกรทฮอร์โมนอีก อย่างน้อยก็เพื่อชะลอวัยและช่วยความทรงจำที่เริ่มไม่เหมือนก่อน และต้องการบำรุงสมองไว้เท่าที่จะทำได้ ท่านคิดว่าน่าสนใจไหม