เดี๋ยวนี้ เงินทองหาซื้อความสุขได้แล้ว แต่บางทีหาความสบายใจยากมาก อาจเป็นเพราะว่าอารมณ์เสียกับรถติด อากาศเป็นพิษ ทำให้หายใจไม่สะดวก แถมร้านรวงก็ไม่สะอาด คนแน่นยัดเยียด ต้องรอคิว รอที่นั่ง เพื่อที่จะเอาเงินไปให้ภัตตาคารทำอาหารใหม่ พอพนักงานเสิร์ฟมาถึง ก็รีบไปต้อนรับแขกคนอื่นๆ ยังไม่มีโอกาสได้ถามไถ่ว่าอะไรอร่อย ชนิดที่ทำเองที่บ้านไม่สะดวก ต้องออกทานนอกบ้าน ดีกว่าทำเอง
ถ้ามีเวลาว่าง คนเราควรนึกถึงสุขภาพจิตของตัวเองก่อนเป็นสำคัญ อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับความเป็นคนมีความสบายใจ รู้จักพักผ่อน คลายอารมณ์เครียด แล้วจะได้ผลหลายประการตามมา เช่น นอนหลับสบาย เวลาคนเรานอนหลับ เป็นช่วงที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนจากต่อมพิจุอิทาริใต้สมองเข้าสู่กระแสโลหิตในระยะ 90 นาทีแรก ฮอร์โมนนี้เป็นฮอร์โมนนายใหญ่จะไปบงการต่อมอื่นๆ อีก 7 ต่อมในระบบฮอร์โมนทั้งหมด ที่เรียกว่าระบบต่อมไร้ท่อ ระบบนี้เป็นระบบชีวิตของร่างกาย เป็นการติดต่อสื่อสารระหว่างเซลล์ทุกเซลล์ให้ทำงานตลอดเวลา โดยเฉพาะในระหว่างที่เรานอนหลับ เซลล์มีโอกาสตรวจตรา ซ่อมแซม และทำนุบำรุงส่วนที่สึกหรอ ทรุดโทรม และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ชราภาพแล้ว ทำให้เราตื่นขึ้นด้วยความสดชื่น มีกำลังวังชา เพราะเรามีเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าตอนก่อนนอน จะสังเกตเห็นได้ว่าถ้าคืนไหนเรานอนหลับไม่เพียงพอกับการสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม เวลาตื่นนอนจะรู้สึกเหนื่อย ไม่มีเรี่ยวแรง เพราะร่างกายไม่สามารถสร้างเซลล์เพิ่มเติมทดแทนเซลล์ที่ทำงานหนักตลอดวันวาน หรือเซลล์ที่มีอยู่ก็แก่แล้ว จะเอาความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าที่ไหนมา ฉะนั้นนอนหลับนี่จึงเป็นส่วนสำคัญของร่างกายมาก ก่อนนอนควรทำอย่างไรจึงจะหลับสบาย
บางคนนอนหลับยาก ควรพิจารณาสาเหตุ ประการที่หนึ่ง ได้มีการกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิตทำให้ร่างกายอุ่นเครื่องพร้อมที่จะพักผ่อนหรือเปล่า บางคนชอบเดินเล่นหลังอาหารในที่อากาศบริสุทธิ์ หลังจากนั้นก็อาบน้ำ แต่ที่สำคัญ ถ้าไม่มีเวลาออกกำลังกายให้เหนื่อย ขอให้อาบน้ำอุ่นก่อนนอนเถอะ หลับสบายทั้งนั้น เพราะน้ำอุ่น โดยเฉพาะจากก็อกผักบัวที่นวดตัว จะกระตุ้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และต้องการพักผ่อนหลังจากได้รับการกระตุ้น
ประการที่สอง เมื่อเข้าเตียงนอน ที่นอนอุ่นหรือเปล่า ถ้าที่นอนเย็นเจี๊ยบ ร่างกายเกิดการสะดุ้งแทนที่จะผ่อนคลายจากความอุ่นของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการหมุนเวียนของโลหิต เลยตาสว่างขึ้นมาอีก ต้องเสียเวลากล่อมนอนกว่าจะหลับ ทางที่ช่วยได้คือการมีผ้าห่มไฟฟ้าเปิดไว้ที่อัตราเลข 2 อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ร่างกายกำลังมีเลือดลมอุ่น เข้าสู่ที่นอนอุ่นในระดับอุณหภูมิกำลังเหมาะสบาย ก็สามารถผ่อนคลายต่อไปได้
ประการที่สาม ก่อนนอนมีการทำจิตสะอาด จิตว่างจากความกังวลหรือเปล่า เรื่องนี้อย่าละเลยและมองข้ามไป เพราะส่งผลไปสู่ภาวะจิตขณะหลับด้วย การทำจิตว่างที่ได้ผล คือการสวดมนต์ ไม่มีเวลาก็ไม่ต้องนั่งทำสมาธิขัดสมาธิหน้าพระหรอก เข้าที่นอนอุ่นแล้วก็เริ่มสวดเลย สวดจนจำได้ไม่ต้องเปิดไฟสว่างหรือดูหนังสือสวดมนต์ ความจำและความเพ่งไปสู่บทสวดมนต์จะทำให้จิตว่าง ไม่กังวลคิดถึงบิลล์ วันรุ่งขึ้น สวดในเฉพาะบทที่จำได้ จนยาวถึงขั้นทำให้เข้าสู่ภวังค์หลับได้โดยภาวะจิตว่างบริสุทธิ์ นี่คือการใช้ศาสนาให้เป็นประโยชน์กับภาวะรีบเร่งประจำวัน
ประการที่สี่ หลังจากมีการเตรียมร่างกายให้อยู่ในภาวะผ่อนคลายในความอุ่นสบาย และเตรียมจิตให้ว่าง ให้บริสุทธิ์แล้ว ทีนี้มาพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับ ร่างกายจะผลิตน้ำย่อยชนิดหนึ่งเข้าสู่สมองหลังจากทานอาหารได้ 20 นาที ถ้าสามารถทำร่างกายให้พร้อมที่จะนอนหลับในช่วงนี้ได้จะหลับยาวสนิทไปตลอดคืน และตื่นด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าตอนก่อนนอน ถ้าไม่สามารถหลับได้ในช่วงนี้ ก็ต้องพึ่งนาฬิกาประจำตัวจากต่อมใต้สมอง ซึ่งทำงานตรงเวลาดีกว่าเวลาจากที่ไหนๆ ถ้าฝึกร่างกายให้นอนตรงเวลา จะง่วงนอน และนอนหลับตรงเวลา อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายทำงานตรงเวลามาก คือการสเปรย์ RA-H(GH) โกรทฮอร์โมนสเปรย์ที่ใต้ลิ้นก่อนนอน จะทำให้ร่างกายหลับตรงเวลา ตื่นตรงเวลามาก
ทีนี้ มาพิจารณาอาหารที่เราทานก่อนนอน จะสังเกตได้ว่า ถ้าทานอาหารประเภทสเต็กเนื้อ หมูทอด หรือข้าวเหนียวมะม่วง ร่างกายต้องทำงานในการย่อยสารที่มีเยื่อเหนียวนานขึ้นกว่าจะเดินทางไปสู่ระบบการดูดซึมที่ลำไส้เล็ก ก็เลยไม่สามารถผลิตน้ำย่อยเข้าสู่สมอง ที่ก่อให้เกิดง่วงในระยะดังกล่าวได้ เลยต้องดูทีวี หากิจกรรมทำจนเลยเวลาที่นาฬิกาสั่งให้นอน เลยไ่ม่มีระบบสั่งการให้ร่างกายหลับ ถ้าจะทานอาหารประเภทย่อยยาก ก็กะเวลาในการย่อยมากขึ้น เพื่อประสานกับการทำงานของระบบอื่น โดยมาก เขาถือกันว่าไม่ควรทานหลัง สองทุ่ม และไม่ควรนอนหลังสี่ทุ่ม นี่เป็นเป็นคำแนะนำของการฝึก การป้องกันตัว นัยว่าร่างกายมีประสิทธิภาพในการตอบโต้ทันการดีที่สุด หมายถึงว่าประสาททำงานไว
ระหว่างการทานอาหารก็ควรมีบรรยากาศดีๆ ประกอบกันไป เพราะจิตควบคุมการทำงานของประสาท การย่อยอาหารทำงานด้วยตนเอง โดยระบบประสาทอัตโนมัติ ถ้าจิตสบาย การย่อยจะนำอาหารที่ดี เป็นประโยชน์ซึมเข้าเส้นโลหิต และตับจะเติมสารแร่ที่ต้องการ เพื่อเดินทางไปเลี้ยงซ่อมแซมเซลล์ในระหว่างที่นอนหลับได้เต็มที่
ระหว่างนอนหลับ ร่างกายมีระบบ metabolism ที่ทำงานทั้งทำลายเซลล์เก่าหมดสภาพ และใช้อาหารไปในการซ่อมแซมสร้างเซลล์ใหม่ โดยเฉพาะเซลล์ผิว ถ้านอนไม่เพียงพอ จะปรากฎริ้วรอยย่นบนผิว และขอบตา ทาครีมแล้วก็ยังไม่หาย ต้องเปลี่ยนเวลานอนให้ครบตามที่ร่างกายต้องการ
การทานอาหารควรหาโอกาสไปพักผ่อนกับบรรยากาศดีๆ ด้วย ไหนๆ ก็จะทานอาหารก็ทานอย่างมีความสบายใจ ปราศจากเสียงเด็กร้อง ความจอแจวุ่นวาย และผู้คนแน่นขนัด ปล่อยอากาศเสียให้เราเคล้าไปกับการหายใจเข้าสู่ปอดด้วย คนที่ไปทานอาหารด้วยก็มีส่วนทำให้สบายใจอีกโสดหนึ่ง ถ้าไปกับคนที่เราพอใจกับการสนทนาด้วย ยิ่งดีขึ้น
ภัตตาคารริมน้ำเป็นสถานที่ซึ่งยอมรับกันว่าทำให้เกิดความสบายใจระหว่างทานอาหาร เพราะร่างกายและจิตผ่อนคลายกับการดูท้องฟ้า และแสงสียิ่งช่วยได้มากขึ้น เนื่องมาจากธาตุสี่ของร่างกายประกอบด้วยดิน น้ำ ลม ไฟ ภาวะจิตสอดคล้องกับบรรยากาศรอบตัวทำให้เกิดความรู้สึกว่าอยู่ในความอบอุ่นสบาย ภัตตาคารริมน้ำที่ ควีนส์เบย์ ลองบีช จัดว่าครบด้วยประการทั้งปวง มองออกไปนอกหน้าต่าง มีท้องน้ำสงบนิ่ง แสงสีจากอาคาร และไฟประดับสวยงามโรแมนติค ตกหลุมรักคนที่ไปด้วยเอาง่ายๆ อาหารก็เป็นอาหารไทยๆ และที่เราคุ้นเคย สั่งตามชอบได้ ราคาก็ไม่ถึงกับทำให้นอนไม่หลับ เหมือนกับไปทานอาหารริมทะเลหรือในเรือที่อื่นๆ ผู้คนก็ไม่แออัด มีความสงบใจ คุยกันก็หนุงหนิงได้พอได้ยิน ทานอาหารแล้วจะฟังเพลง ก็มีคาราโอเกะให้หย่อนใจ อีกหน่อยก็มีดนตรี แต่ต้องนัดกันก่อน ภัตตาคารนี้ยังมีห้องโถงให้ประกอบพิธีแต่งงาน การจัดประชุมกลุ่มเล็ก หรือ การจัดเลี้ยงระดับ 300 คน และเหมาะสำหรับการนัดคู่รักไปสองต่อสองอีกด้วย จะจัดพิธีหมั้น พิธีแต่งงาน ก็เชิญบาทหลวง หรือทำพิธีรดน้ำได้ และการต้อนรับแขกเมืองทำได้ที่นี่อย่างเหมาะสมยิ่ง
ภัตตาคารริมอ่าวควีนส์เบย์ที่ลองบีช ชื่อว่า Naga Restaurant ทางไป ใช้ฟรีเวย์สาย Fwy 710 South Exit left on Broadway, Cross Magnolia Bridge onto Queensway Bay and stay on the right lane, make a U-turn along the loop back to the restaurant. Naga Restaurant is at 600 Queensway Bay, Long Beach, Tel. (562)436-2247