ไวตามินดีเสมือนคนดี ย่อมมีข้อเสีย ก็ต้องพิจารณาให้แน่นอนว่า จะเลือกอาบแดด หรือ จะยอมเป็นฝ้า เมื่อผิวปกป้องตัวเองจากแสงแดดด้วยการสร้างม่านบังแดดบนผิว เรารู้จักไวตามินดีในนามไวตามินแสงแดด และหาได้ง่ายเพียงแค่ตากแดดก็จะสังเคราะห์ไวตามินดีจากโคเลสเตอรอล (7-Dehydrocholesterols) ในร่างกายเป็นไวตามินดีได้เอง และสามารถเก็บไว้ในร่างกาย เพื่อใช้ทำงานช่วยดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสเฟอรัส สำหรับไปใช้ในเซลล์ประสาท คนที่ความจำระยะสั้นหลงลืม ลองคิดดูว่าได้ถูกแดดบ้างหรือเปล่า หรือไม่ก็ลองพิจารณากรดไขมันที่ช่วยบำรุงไม่ให้สมองเสื่อม เช่น โอเมก้า 3 หรือคนที่ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลให้กระดูกบางในวัยสูงอายุก็พิจารณาที่โอเมก้า 6 หรือคนที่มีโคเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก็พิจารณาที่โอเมก้า 9 อาหารที่จะให้ทั้งโอเมก้า 3-6-9 ก็คือข้าวเหนียวดำ เพราะจากรายงานการค้าคว้าของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และศูนย์วิจัยข้างปทุมธานี เขาว่าอย่างนั้น
ความดีของไวตามินดีหรือแคลซิเฟอรอล สำคัญไม่น้อย เพราะสิ่งที่ชะลอความเสื่อมของสมองย่อมมีค่าควรแก่การทานบำรุง ร่างกายได้รับไวตามินดีจากอาหารพวกไข่แดง ตับ ปลา นม เนย น้ำมันปลา นอกจากจะส่งผลต่อระบบประสาทโดยเป็นพาหะนำแคลเซี่ยมและ ฟอสฟอรัสไปสู่ระบบประสาทแล้ว ยังป้องกันมิให้กระดูกเสื่อม จากการสูญเสียแคลเซี่ยมในวัยสูงอายุ จะด้วยสาเหตุของยาหรือวัยก็ตาม เพียงแค่ได้รับแสงแดดพอเพียง ก่อนเวลา 10 โมงเช้าหรือหลังบ่ายสองโมง รังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดดจะทำงานร่วมกับโคเลสเตอรอลสังเคราะห์ให้เป็นไวตามินดี โดยความช่วยเหลือของฮอร์โมนจากต่อมพาราไทรอยด์ คนที่ต่อมพาราไทรอยด์ทำงานไม่สมบูรณ์จะสังเกตได้จากมีอาการเหนื่อย ขาดสมาธิ ร่างกายสะสมน้ำ บวมน้ำ น้ำหนักตัวมากเกินควร
อาการของคนขาดไวตามินดี จะมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก หรือเป็นตะคริว ถึงแม้จะนวดก็ไม่สามารถแก้ที่ต้นเหตุได้ผล เพราะการบำบัดด้วยการนวดเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ไม่ใช่แก้การขาดไวตามินดี นายแพทย์คนหนึ่งสร้างสถานบำบัดร่างกายที่ฟลอริด้า โดยให้มีการนั่งรับแดดเป็นประจำทุกวันเป็นกิจวัตรตามเวลา เป็นวิถีทางหนึ่งในการบำบัด นับว่าประหยัดและได้ผล มีคนเข้ารับการบำบัดจากทั่วโลก
ความดีอีกอย่างของไวตามินดี คือการช่วยสมานแผล บำรุงผิว เหตุที่ฝรั่งจึงชอบอาบแดด และชอบสาวผิวคล้ำ เพราะดูแล้วสุขภาพแข็งแรง อุดมด้วยไวตามินดี ดีกว่าคนตัวซีดที่อยู่แต่ในร่ม แสงแดดสร้างความอบอุ่น ช่วยการหมุนเวียนสูบฉีดโลหิต เลือดเดินทางไปบำรุงเลี้ยงเซลล์ดีขึ้น ไวอะกร้าตั้งต้นความคิดจากการกระตุ้นการเดินทางของโลหิตไปเลี้ยงอวัยวะ ช่วยให้อวัยวะที่เคยขาดการสูบฉีดโลหิตได้รับการกระตุ้น ลุกขึ้นมาทำงานกระฉับกระเฉง ไม่เฉพาะแต่คุณผู้ชายเท่านั้น หลักนี้ใช้กับผู้หญิงเช่นกัน เพราะเป็นหลักธรรมชาติ แถมไม่ต้องกลัวว่าหัวใจจะทำงานหนักในการสูบฉีดโลหิตเกินไป พาลหัวใจวายเสียก่อน หรือต้องส่งโรงพยาบาลทั้งคู่ เรียกว่าบำบัดโดยไม่ต้องพึ่งไวอะกร้า
สิ่งที่บงการการทำงานของอวัยวะและเซลล์ คือฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อเจ็ดชนิดที่สื่อสารการทำงานภายในร่างกายทุกระบบทั้งหมด ร่างกายจะมีฮอร์โมนทุกชนิดสมบูรณ์ก็ต้องพึ่งสมองที่ต่อมพิจุอิทาริให้ผลิตฮอร์โมนนายใหญ่เรียกว่าโกรทฮอร์โมน เข้าเส้นเลือด บงการต่อมอื่นๆ ให้ผลิตฮอร์โมนเต็มพิกัด เช่น ต่อมไพนีล ต่อมไทรอยด์ ต่อมพาราไทรอยด์ ต่อมไทมัส ต่อมอะดรีนัล (หมือต่อมหมวกไต) และต่อมเพศ ฮอร์โมนอีกอย่างหนึ่งที่ต่อมบนตับผลิตอินซูลินออกมาดูแลปรับภาวะน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม คนที่มีโรคเบาหวานก็ต้องส่งเสริมการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน จากตับอ่อน ไม่อย่างนั้นอวัยวะก็ไม่แข็งแรง แล้วอย่าไปโทษว่าหย่อนสมรรถภาพ แท้ที่จริง อยู่ที่ขาดฮอร์โมนสำคัญสำหรับเลือดส่งไปบงการให้อวัยวะทำงานให้สมดุลย์กับความปรารถนาต่างหาก การกระตุ้นฮอร์โมนตัวเดียวนี้ ต้องกระตุ้นมาจากฮอร์โมนนายใหญ่ ซึ่งทำได้โดยการกระตุ้นจากการสเปรย์โกรทฮอร์โมนใต้ลิ้น วันละ 3 เวลา ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 วัน เว้นสองวันต่ออาทิตย์ ร่างกายของเราผลิตโกรทฮอร์โมน ตั้งแต่เริ่มเกิดจนอายุประมาณ 20 ปี ก็เริ่มลดน้อยลง พอเลยวัยกลางคนก็รู้ว่าเริ่มแก่แล้ว วิธีคงสภาพการผลิตโกรทฮอร์โมน ก็โดยการสเปรย์ โกรทฮอร์โมนจากขวดที่เขาผลิดมาจาก ดี.เอ็น.เอ. ของโกรทฮอร์โมน ที่จะไปกระตุ้นต่อมพิจุอิทาริให้ผลิตโกรทฮอร์โมนเองได้ เมื่อเริ่มแก่ตัวจะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดโกรทฮอร์โมนในวัยชรา
ดังที่กล่าวแล้วว่า โกรทฮอร์โมนนายใหญ่ผลิตเข้าเส้นเลือดโดยตรง ไปสั่งงานให้ต่อมไทรอยด์ควบคุมการผลิตฮอร์โมนอื่นๆ อีก ซึ่งก็ต่อเนื่องไปถึงการสนับสนุนให้ร่างกายผลิตไวตามินดี เพราะไวตามินดีจะทำการดูดซึมแคลเซี่ยมสำหรับกระดูกได้สมบูรณ์ก็ต้องอาศัยโคเลสเตอรอลกับฮอร์โมนจากต่อมพาราไทรอยด์ ซึ่งอยู่ติดกับต่อมไทรอยด์ เมื่อแคลเซี่ยมได้รับการดูดซึมจากอาหารเข้าเลือด ไม่ต้องไปแย่งจากกระดูกเพราะภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนตอนแก่ ระบบประสาทเมื่อได้รับแคลเซี่ยมกับฟอสฟอรัสสม่ำเสมอ ระบบประสาทก็ทำงานเป็นปกติ การทำงานของทุกระบบในร่างกายก็จะสมบูรณ์เต็มสมรรถนะ รวมทั้งมีผิวพรรณดี จึงกล่าวได้ว่า ไวตามินดีช่วยบำรุงผิวพรรณ เพราะสืบเนื่องถึงกันไปหมด
ถ้ากระดูกไม่ได้รับแคลเซี่ยมจากการช่วยดูซึมของไวตามินดี หรือขาดแคลเซี่ยม เพราะขาดอาหารที่ให้แคลเซี่ยม และขาดฮอร์โมนจากต่อมพาราไทรอยด์ด้วย แพทย์ก็สั่งยาป้องกันการดูดซึมแคลเซี่ยมจากกระดูกเพื่อแก้กระดูกเปราะบาง โดยสั่งให้ทานยาฟอร์ซาแมกซ์ ยานี้บังคับให้เซลล์ไม่ดึงแคลเซี่ยมจากกระดูก เซลล์ก็เลยดึงแคลเซี่ยมจากเลือด ผลข้างเคียงขอยานี้ก็คือ อาจทำให้หัวใจขาดแคลเซี่ยม หัวใจวายตอนหลับ แพทย์ที่แนะนำให้ใช้ยานี้มองแค่ป้องกันกระดูกเปราะ แต่ไม่ได้หวังว่าจะให้ตายตอนหลับ
ดอกเตอร์เมเมท ออซ แนะนำให้ทานอาหารอุดมด้วยแคลเซี่ยม ดีกว่าทานแคลเซี่ยมชนิดเม็ด ถึงแม้ว่าจะทานร่วมกับไวตามินดี เขาไม่ได้อธิบายข้อสนับสนุนคำกล่าวนี้ แต่จากการพิจารณาถึงข้อเสียของไวตามินดี ก็อาจจะเห็นข้อสรุปได้บ้าง
ข้อเสียของไวตามินดี ถ้าร่างกายสะสมไวตามินดีมากเกินไป อาจเป็นพิษ เช่นสร้างนิ่วในถุงน้ำดี วิธีสลายหินในถุงน้ำดี ถ้าไม่ทานยาไทยที่ทำจากหญ้าหนวดแมวก็ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน แกว่งสารส้ม สัก 21 วัน บางกรณีที่แพทย์ผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกไปอาจทำให้การย่อยไขมันไม่สมบูรณ์ ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น น่าจะคิดถึงการบำบัดด้วยเร็คคี้และจักระ พร้อมทั้งสมาธิจิต ประกอบด้วย
สิ่งที่ทำลายไวตามินดีคือน้ำมันแร่ เราไม่ใช้น้ำมันแร่ในการปรุงอาหาร อาจใช้น้ำมันแร่เป็นตัวหลักในการผสมน้ำมันสำหรับบำรุงผิว แต่ผิวก็ดูดซึมได้เช่นกัน น้ำมันบำรุงผิวจึงควรใช้น้ำมันจากเมล็ดองุ่น ผสมน้ำมันกุหลาบ น้ำมันดอกมะลิ เป็นต้น
ข้อสังเกตว่าขาดไวตามินดี นอกจากจะมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก อาจมีอาการ ไอขึ้นมาทันทีทันใด มีลักษณะลงพุง พุงพลุ้ย
ถ้ามีไวตามินดีมากเกินไป การตรวจปัสสาวะจะบอกว่ามีแคลเซี่ยมในไต หรือหินในไต ความดันโลหิตสูง โคเลสเตอรอลในเลือดสูง และหูหนวก
การถูกแดดโดยตรง ไม่ใช่สิ่งดีเสมอไป เพราะนอกจากผิวจะแก่ก่อนวัยแล้ว ยังทำให้ผิวสร้างการป้องกันตัวเอง ระบบโครงสร้างผิวมีสีต่างๆ คือ ดำ น้ำตาล แดง และเหลือง แสงอุลตร้าไวโอเลตที่รุนแรง และอีกฝั่งหนึ่งของแสงสีรุ้ง เรียกว่า อินฟราเรด สามารถกระตุ้นให้ผิวรวบรวมสีดำ และสีน้ำตาลมาป้องกันมิให้แสงอินฟราเรดแซกซึมลงไปสร้างฝ้า เราจึงเห็นสิ่งที่เป็นจุดดำปรากฎบนผิว การป้องกันฝ้าก็โดยการเลี่ยงการแทรกซึมของอินฟราเรด หรือแสงแดดโดยตรงระหว่าง 10 โมงเช้า – บ่ายสองโมง หรือทาครีมป้องกัน หรือใส่หมวก กางร่ม หรืออยู่ใต้ต้นไม้ที่กรองแดด อีกวิธีหนึ่งก็คือขัดผิวด้วยผงขัดจากข้าวชนิดต่างๆ เรียกว่า ผงขัดหน้าโปรตีน ใช้หลังจากการทำความสะอาดเครื่องสำอาง จะช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มเพราะสารกาบ้า (GABA) ช่วยให้เซลล์เลื่อนสู่ชั้นบนถูกขัดออกไปเร็วขึ้น เป็นการส่งเสริมให้ผิวสร้างเซลล์ใหม่แทนที่เซลล์ซึ่งหมดสภาพแล้ว ให้หลุดลอกไป ผิวจะได้สดใสใหม่เสมอ ผงขัดหน้าโปรตีนมีส่วนประกอบของแคลเซี่ยมซัลเฟต ไดแคลเซี่ยมฟอสเฟต เกลือ ไททาเนียมไดออกไซด์ ไวตามินอี ไวตามินบี 12 ไนอะซิน รำข้าว ไวตามินบี 1 ไวตามินบี 2 ไวตามินบี 6 ข้าวสาลีออร์แกนิค น้ำย่อยจากมะละกอ เพตินจากแอปเปิล โปรตีนจากพืชสีเขียว โปรตีนจากข้าวสาลี สาหร่าย บาร์เล่ย์ คลอโรฟิลด์จากเคลป์ ข้าวโอ๊ด นม เป็นต้น