สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ความสงบ

ความหมายแห่งชีวิตเห็นทีจะมีว่าเป็นความสุข กับ ความสงบ เราจะไม่พูดถึงความทุกข์ เพราะไม่มีความหมายอะไรต่อชีวิต เราท่านที่นับถือคำส่งสอนแห่งศาสนาพุทธ หรือศาสนาอื่นใดก็ตามไม่มีผู้ใดสนับสนุนให้มีความทุกข์เป็นแน่ เราจึงควรรักษาความหมายแห่งชีวิตเพียงแต่ให้ชีวิตมีความสุข หรือชีวิตมีความสงบเป็นใช้ได้ ผู้เขียนเคยตื่นมากับความสุขอย่างใสสะอาด ต้องเพียรหาข้อสนับสนุนว่ามาจากอะไรเป็นเบื้องต้น มาจากอาหาร หรือการนอนหลับเพียงพอ หรือการไม่มีความกังวลใดๆ ท้ายที่สุดสรุปเอาเองว่าคงมาจากบรรดาแมวไร้เจ้าของหลายตัวส่งความรักมาให้เรา ทำให้จิตเรามีความสุข ต่อมาได้ข้อสนับสนุนจากนักบำบัดทางจิตวิทยากล่าวว่า ความเมตตาก่อให้เกิดความสุข จบเสียทีกับการค้นหาต้นตอแห่งความสุขเพราะได้หลักฐานทางจิตวิทยาจากผู้ศึกษาด้านนี้ครบถ้วนแล้วว่า เพราะเรารู้สึกเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลายนี้เอง สมองจึงผลิตฮอร์โมนเรียกว่าเอนโดรฟินก่อให้เกิดความสุข แถมท้ายนิดหนึ่งว่า หากคิดร้าย เซลล์สมองจะอักเสบ ที่เรียกว่า inflammation ทีเดียว เปรียบดังว่าเราติดเชื้อจากสนิมเข้าเส้นเลือดเกิดอักเสบถึงวางวายได้

เมื่อเร็วๆนี้ได้ความรู้จากบทความของคุณเชอรี่ กระแสร์ญาณ เกี่ยวกับการใช้หินเซเลไนท์ Selenite crystal ซึ่งก่อตัวมาจากแร่ซัลเฟตมารักษาพลังและสร้างความสมดุลในตัวเรา ผู้เขียนมีหินนี้อยู่ก็ลองปฏิบัติตามด้วยการถือหินนี้วนรอบตัวรอบศีรษะ ด้วยความเชื่อมั่นว่าต้องเกิดผลดีทางจิต ไม่อย่างไรก็อย่างหนึ่งแน่

ทีนี้มาถึงอีกประสบการณ์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาให้คำแนะนำแก่ผู้เขียนว่า ให้ออกกำลังกาย รดน้ำต้นไม้ อะไรพวกนี้ จะเบนความสนใจออกจากตัวเราไปสู่ชีวิตของธรรมชาติ ซึ่งตรงกับที่ ดร.มาสเล่ย์ สตีเวนส์ เคยปาฐกถาโทรทัศน์ว่า วิธีให้สมองทำงานดีขึ้น ได้แก่ บัญญัติ 6 ประการกล่าวคือ

1.เป็นสมาชิกออกกำลังกาย ถ้าไม่สะดวก ก็รดน้ำต้นไม้ไปพลางๆ

2.อาหารที่ประกอบด้วย โอเมก้า 3 ได้แก่ น้ำมันมะกอก ช็อกโกแลต และผักเขียว และถั่วแห้ง กับไวตามินดี จากแสงแดด ไวตามินบี 12 จากเนื้อแดง ปลา ไข่ นม

3.เลี่ยงสารฆ่าแมลงในพืชผักผลไม้

4.เลี่ยงความกดดัน ที่เรียกว่า stress ซึ่งผู้เขียนได้ประสบการณ์ว่าเป็นตัวนำไปสู่ depression พาให้เกิดอาการหลงลืม

5.dark chocolate มีสารช่วยก่อให้เกิดความสุข บรรเทาอาการในข้อ 4

6.ดื่มกาแฟหรือชา 2-4 ถ้วยประจำวัน ผู้เขียนเลี่ยงกาแฟ ใช้ชาเขียวประกอบด้วย รางจืด ใบจีจุ๊กไฉ่ และใบย่านาง ผลที่ได้รับก็คือ อาการปวดเข่าหายไป อาการเจ็บหัวใจก็ห่างไป โดยกินยาไทยเรียกว่า ยามณีรัตน์โอสถ เบอร์ 56 ซึ่งแก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย แก้ไอ ขับเสมหะ และบำรุงหัวใจ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามียานี้อยู่

ทีนี้มาถึงอาหารตัวสำคัญ ที่เดี๋ยวนี้โรงเรียนประถมมัธยมในแคลิฟอร์เนียห้ามเสิร์ฟน้ำที่ประกอบด้วยน้ำตาลแล้ว คงจะมองไปสู่อนาคตไม่ให้เด็กรุ่นนี้เติบโตขึ้นพร้อมกับปัญหาสุขภาพที่รัฐบาลต้องเยียวยา นั่นหมายถึงว่า น้ำดื่มหลังอาหารที่ผู้เขียนดื่มเป็นประจำ ต้องหวานถึงจะเรียกว่าจบรายการ ต่อไปนี้เมื่อหมดแล้วเลิกซื้อใหม่ได้เลย

พล่ามมาเสียยาว จุดประสงค์ของหัวข้อบทความนี้ เกิดจากการได้ไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดไทยแอล.เอ. เพื่อนผู้มีอุปการะคุณจองเก้าอี้ให้ตรงกับพระประธาน นั่นคือ พนมมือมองพระประธาน แล้วสวดมนต์พระสงฆ์ตั้งแต่ทุ่มครึ่งถึง สองยาม ตีฆ้อง โมง ย่างเข้าศักราช 2019 เป็นเลขดี ก้าวหน้าดังเลข 9 ตลอดเวลา 5 ชั่วโมงกว่านั้น ผู้เขียนไม่ได้คิดถึงอะไร ไม่ได้อยากลุกไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งปกติต้องเป็นทุก 15 นาที ใจนั้นจดจ่ออยู่กับหนังสือสวดมนต์ตรงหน้า และเงยหน้ามองพระพักตร์พระพุทธรูป แล้วสวดตามพระสงฆ์ 9 รูปซึ่งทำงานหนักมากในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พระสงฆ์สวดมนต์เพราะมากมีเอื้อนน่าฟัง ผู้เขียนรู้ความหมายตามตัวหนังสือบ้างเพราะเคยเรียนภาษาบาลีสมัยอยู่มัธยมแปด เลยเข้าใจความหมายของคำที่สวดได้พอสมควร ในขณะที่สวด และสวดจบแล้วนั้น จิตมีความสงบชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนับได้ 70 กว่าปี นั่นคือความสงบที่เป็นหัวข้อบทความนี้ หมายถึงว่า เป็นความสงบที่เราทุกคนควรได้ความสงบนี้ไว้เป็นความหมายแห่งชีวิต เอาไว้ประดับชีวิต ไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ตามในขณะนี้ ความสงบนั้นเป็นอย่างไร ผู้ที่ประสบได้ไว้จะรู้เองเมื่อเวลาโกรธ ให้หวนคิดหาความสงบนั้นจะช่วยได้ เพราะความโกรธ ไม่ได้มาจากตัวเราเอง แต่เราระงับความโกรธได้ ด้วยภาวะความสงบของตัวเอง นึกขึ้นมาให้ได้ถึงความสงบที่เราประสบ จะช่วยให้ความโกรธมลายหาย

บทความสุขภาพและการบำบัดประจำปีใหม่แห่งความก้าวหน้านี้ อยู่ที่ว่าทำอย่างไรจะให้เกิดความสงบ ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้จิตเกิดความสงบ นั่นคือ จิตมุ่งอยู่อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นตอนก่อนนอน ก็ทำจิตสงบ โดยการท่องบทสวดมนต์ชินบัญชรซึ่งยาวพอสมควร เป็นการทดสองความจำ และหลับง่าย เพราะจิตสงบ อีกวาระหนึ่งที่จิตสงบได้ ก็คือตอนกรวดน้ำ มีบทกรวดน้ำที่เราท่องอยุ่เสมอ เช่น ขอกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เจ้าที่เจ้าทาง บิดามารดา นาย...นาง... และเอ่ยชื่อบุคคลต่างๆ ที่ควรแก่การอุทิศส่วนกุศลให้ สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าทำร้ายโดยตั้งใจหรือมิได้ตั้งใจก็ดีขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น เลิกอาฆาตจองเวรจองกรรมต่อกัน สัตว์ทั้งหลายที่ยังมีชีวิตอยู่ขอให้ปลอดจากภัยอันตราย ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ปราศจากความทุกข์ มีความสุข เท่านี้ก็เรียกให้จิตสงบได้พอสมควรเพราะต้องคอยจำว่าจะพูดอะไร

อย่าลืมว่า ชีวิตนี้จะมีความหมาย ถ้ามีความสุข และความสงบ เชื่อหรือไม่ ลองทำดู