สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ความรู้

ความรู้ไม่จำเป็นต้องจบปริญญา สมัยอยู่เมืองไทยเมื่อก่อนนี้ ยังแปลกใจว่าทำไมคนที่เรียนจบปริญญาโทจากอเมริกาต้องมาขอให้เขียนจดหมายเป็นภาษาอังกฤษให้ ทั้งๆ ที่ตัวเองเรียนภาษาอังกฤษจากการหัดร้องเพลงฝรั่งเช่นของเอลวิสเท่านั้นเอง ตอนทำงานเป็นนักโฆษณาของบริษัทดีทแฮล์มก็ใช้ภาษาอังกฤษกับฝรั่ง ตอนทำประชาสัมพันธ์ให้บริษัทไทย ก็เขียนข่าวแจกข่าวเป็นภาษาอังกฤษ เรียกว่า มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำ จนภาษานี้อยู่ในชั้นกระดิกหูใช้การได้ อะไรที่ต้องการให้แตกฉานก็หมั่นใช้ ตอนมาอยู่อเมริกา 3 ปีแรก ไม่ได้พูดภาษาไทย ไม่ได้กินข้าว พูดกับแมวก็ต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ จนถึงขั้นฝัน ก็เป็นภาษาอังกฤษ พอเริ่มปีที่ 2 ก็สอนเป็นภาษาอังกฤษ มีคนหนึ่งบอกว่าฟังไม่ออก เราก็บอกว่า ไอพูดภาษา British English ยูพูด American English ซึ่งเขาไม่แน่ใจ ว่าเป็นความผิดของใคร แท้จริงมันอยู่ที่ Mentality ในการเหยียดคนเอเซียนมากกว่า ถ้าเรายอมให้ดูถูกได้ เขาก็ข่มเอา ถ้าเราแข็งเสียอย่าง เรามีใบอนุญาตจากรัฐและจากวิทยาลัย เขาก็คิดอยู่ จนเรียนจบไม่เห็นว่าอะไรอีก แสดงว่าคนไทยที่มาอยู่ที่นี่ จะมาแก้ตัวว่า ไอนอดสปีคอิงลิช ฟังไม่ขึ้น ถ้าต้องการให้แตกฉานภาษาอังกฤษ ก็ต้องดูละครภาษาอังกฤษ ดูภายนตร์พูดอังกฤษ หรืออ่านบรรทัดที่เขียนบนจอเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย จะได้รู้ว่ามันออกสำเนียงอย่างไร แล้วจดจำเป็นประโยค เอาไว้พูดว่า ในกรณีนี้ ต้องพูดอย่างนี้ จะช่วยให้พูดภาษาอังกฤษโดยความจำ ไม่แปลคือคิดเป็นภาษาอังกฤษที่จำไว้ แล้วพูดออกมาเลยเป็นประโยค พร้อมทั้งมารยาทที่ถูกต้อง

ความรู้มาจากหลายแหล่ง อาจได้จากไปงานเทศกาล รู้ว่าสงกรานต์หมายถึงการเริ่มศักราชใหม่ จากเอกสารขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยให้ความรู้ว่า แม่น้ำโขงตั้งต้นยาวไกลจากธิเบต ผ่านจีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา ไปออกทะเลที่เวียดนาม จีนฉลาดกว่าเพื่อนสร้างอ่างเก็บน้ำและกักน้ำไว้ใช้ในประเทศของตน จนน้ำโขงแห้งขอด คนที่กระทบจะต้องร้องเรียนให้มีการปล่อยน้ำ ให้สายน้ำโขงมีน้ำที่ยุติธรรมกับอีกหลายประเทศด้วย ใครว่าจีนฉลาด มองการณ์ไกล อีกมุมหนึ่งตรงกันข้าม เพราะมีประจักษ์พยานหลายอย่าง เช่น อเมริกาเรียกร้องให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำ เขาก็ทำหูทวนลมไม่รับรู้ เพราะเขาส่งสินค้าออกมาตีตลาดโลกได้ง่าย ถ้าค่าแรงถูก คนไทยในอเมริกาต้องการปรับค่าแรงขั้นต่ำให้สูงอีกหน่อยอาหารไทยอาจราคาแพงเกินกระเป๋าผู้บริโภค ที่สินค้าจีนครองตลาดโลกได้ง่าย เพราะราคาต่ำ และสินค้าพังเร็ว จะได้ขายอีกบ่อยๆ คนไทยเวลาซื้อของไปฝากคนไทยเขาชอบของที่แมดอินยูเอสเอ เพราะมีมาตรฐานคุณภาพสูง อัตราแลกเปลี่ยนของเงินจีนเขาก็ได้เปรียบ ตลาด 99 เซ็นต์ขณะนี้ เป็นยอดนิยม แทบปิดตลาดอเมริกัน

พูดถึงแม่น้ำโขง ที่ไม่ใช่สุรา ต้องขอขอบคุณความรู้จาก ททท. ที่รวบรวมไว้ว่า เราสามารถไปชมได้ถึง 4 เส้นทาง คือ

สายที่ 1 จากกรุงเทพฯ ผ่านลาว ไปจีนที่คุนหมิง โดยทางไฮเวย์ 1,200 ก.ม. จากกรุงเทพฯ ขึ้นเหนือสู่ชายแดนไทยที่เชียงของ ผ่านลาว 5 เมือง ก่อนไปเชียงรุ้งของจีนแล้วต่อไปยังคุนหมิง เชื้อสายไทยมาจากไทลื้อและสิบสองปันนาของจีนหรือเปล่า เห็นชื่อไทยและสิบสองปันนาในจีนแล้วสงสัย ต้องไปหาความรู้จากประวัติศาสตร์เพิ่มเติม

สายที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไปแม่สายเข้าที่ขี้เหล็กของพม่า ระยะทาง 1,500 ก.ม. โดยไฮเวย์ แวะเชียงตุงของพม่าและเข้าเชียงรุ้งของจีน ต่อไปคุนหมิง

สายที่ 3 ระยะทางน่าจะสั้นกว่า 1,500 ก.ม. โดยไฮเวย์จาก กรุงเทพฯ ไปยังภาคอิสาน ที่หนองคายก่อนข้ามโขงเข้าเวียงจันทน์ไปจบที่หลวงพระบาง ของลาว

สายที่ 4 จากรุงเทพฯ ไปมุกดาหาร ข้ามไปลาว สุวรรณเขต เข้าเวียดนาม ผ่านอีก 4 เมืองรวมทั้งตานัง เส้นทางสายนี้ น่าจะให้มีล่องตามลำน้ำโขง ลงมาทางใต้สิ้นสุด ที่เมืองโฮว์จิมินท์ สงสัยเป็นเพราะระบบการปกครองของเวียดนามไม่อำนวย ก็ไม่รู้ เขาเลยจัดเส้นทางการเดินเรือตามลำน้ำโขง เป็น 2 เส้นทาง ดังนี้

ล่องเรือตามลำน้ำโขงเส้นที่ 2 จากเชียงแสนของไทย ใช้เวลา 8 ชั่วโมง ผ่านลาวและชายแดนกัมพูชา ไปเชียงรุ้งของจีน

ล่องเรือตามลำน้ำโขงเส้นที่ 2 จากเชียงของสุดเขตไทย เข้าลาว ไปสุดที่หลวงพระบาง

คำว่า “เชียง” นัยว่าเป็นชื่อต้นของ 7 หมู่บ้านของพม่าสมัยก่อน แบ่งเขตกันจนหลายเชียงมาอยู่ในเขตของไทย

ถ้าจะใช้ทางเรือจากพม่าเพื่อไปซื้อของปลอดภาษีที่เกาะดอนเส้า แล้วมีทางเรือระยะยาวต่อไปยังคุนหมิงของจีนก็ได้

หรือเดินทางโดยรถไฟ ต้องใช้พาสปอร์ต เพราะข้ามเขตไทยเข้าลาว และอาจแวะไปเวียดนาม เริ่มจากเชียงรายซึ่งเป็นจังหวัดสุดแดนไทย ไปยังแม่สาย ไปดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ เข้าลาว ผ่าน หลายเมืองที่มีทิวทัศน์และมีสะพานมิตรภาพข้ามไปฝั่งลาว มีตลาดอินโดไชน่าที่เมืองมุกดาหาร สินค้าราคาถูก และสถานที่ท่องเที่ยว กับอุทยานน่าชมมาก เส้นทางนี้น่าสนใจที่สุด

เส้นทางรถไฟที่สั้นกว่านี้ เริ่มจากกรุงเทพฯ เมื่อถึงหนองคายแล้วข้ามเข้าลาวที่ทำนะเลียง แล้วไปเวียงจันทน์

ขณะนี้ ญี่ปุ่นกำลังแพร่ความรู้อย่างได้ผล ทำให้คนเห็นภาพแล้วอยากไปเที่ยว เขาส่งเสริมความอยากนี้ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ NHK 28-4 ที่แพร่ความรู้สารพัดทั้งทักษะในความคิดริเริ่ม วัฒนธรรม และการนำชมแหล่งท่องเที่ยวที่เห็นแล้วน่าไปทั้งๆ ที่ดินแดนมีแต่เกาะ สถานีโทรทัศน์นี้ ผู้อำนวยการเคยไปทำเรื่องเมืองไทย คนติดตามมาก เพราะให้ความรู้ ไม่มีโฆษณา น่ารำคาญ

แหล่งความรู้มาในหลายรูปแบบ คุยกับผู้มีความรู้ก็ได้ วันหนึ่งไปสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ที่วัดไทยลอสแองเจลิส ได้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของคน มีทั้งที่พยายามทำความดี แต่คนเห็นว่าไม่ดี ก็คนที่พยายามให้คนคิดว่าดีแต่ไม่เป็นเช่นนั้นก็มี

ความรู้ที่จะเอาตัวรอด นับว่ายอดที่สุด ไม่ได้หมายถึงความรู้ในการตลบความจริงให้เป็นที่เดือดร้อนผู้อื่น แต่อยากจะเน้นที่ความรู้เรื่องที่จะไม่เจ็บป่วยง่ายๆ เช่นว่า คนมีโคเลสเตอรอลสูง โปแตสเซี่ยมจากพืชผักผลไม้สดอาจไปทำปฏิกิริยาก่อให้เกิดหินนิ่วในถุงน้ำดี เปลี่ยนมาทานผลไม้สดที่ให้วิตามิน ซี. ดีกว่า เพราะช่วยให้ผิวไม่ย่น หรือรับไวตามินดี จากแสงแดด ที่ไม่สร้างอันตรายถึงขั้นก่อให้ผิวป้องกันตัวเองโดยเกิดฝ้า เช่น ผิวส่วนที่เคยหรือควรอยู่ในร่มเสมอ ถ้านอนหลับยาก สมองจะผลิตฮอร์โมนที่ทำให้ง่วง ประมาณ 20 นาทีหลังอาหาร ถ้ากลัวน้ำตาลที่จะส่งผลให้เป็นเบาหวาน ก็อย่าทานข้าวแล้วเข้านอน เพราะข้าวเปลี่ยนเป็นน้ำตาลง่ายกว่า ควรทานซุปถั่ว 10 ชนิด ที่ให้ไวตามินและโปรตีนหลายอย่างพร้อมกัน ไม่มีโคเลสเตอรอล โปรตีนที่หาง่ายที่สุดก็คือไข่ขาว และไม่ควรทอด เพราะเรามีความรู้เรื่องน้ำมันพืชผ่านไฮโดรเจนที่เรียกว่า Hydrogenated Oil ว่าเป็นอันตรายต่อผนังลำไส้ ไม่ดูดซึมโปรตีน น้ำตาลยิ่งเพิ่มการอักเสบมากขึ้นต่อผนังลำไส้

ออกซิเจนสำคัญมากต่อระบบร่างกาย ต้องเก็บออกซิเจนไว้ในห้องตอนมีแสงแดด พืชจะสังเคราะห์ Photosynthesis ให้คาร์บอนไดออกไซด์ในห้องปลดปล่อยออกซิเจนให้พยายามเดินหรือนั่งตามต้นไม้ตอนกลางวัน อย่าอยู่ใต้ต้นไม้ตอนกลางคืน มันไม่โรแมนติค มีแต่คาร์บอนไดออกไซด์ที่ต้นไม้สังเคราะห์ออกมาจากโปรตีน ที่มีคาร์บอน 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอื่นๆ เป็นออกซิเจน ไนโตรเจน และซัลเฟอร์