สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ช่องว่าง

ทันทีที่ปรากฏว่าข่าวยิงกันตายในโรงเรียน โทรศัพท์ก็ดังมาหาผู้เขียนว่า ควรจะมีการตรวจอาวุธในโรงเรียนได้แล้ว ไม่เฉพาะข่าวเด็กชายอายุ 16 ยิงเด็กสาววัย 14 และเด็กชายวัย 16 ตายอีกหนึ่ง กับบาดเจ็บอีก 4 คน ตัวเองอายุ 16 ยิงเข้าขมับยังผงาบอยู่ ต่อมามีข่าวเด็กหญิงอีกคนหนึ่งก่ออาชญากรรมในวัย 14 ทำให้รู้สึกว่าได้เกิดช่องว่างในการเติบโตในสังคมที่เป็นอยู่อย่างแรง ตั้งแต่ บิดามีปืนแต่ไม่ให้คำแนะนำใดๆ ต่อลูกชาย เมื่อพ่อเสียชีวิตได้ 2 ปี ก็เกิดช่องว่างแห่งการเติบโต มารดาก็คงไม่รู้จะสอนอบรมเด็กชายอย่างไร และคงเกิดช่องว่างระหว่างที่เด็กชายกำลังเติบโตต้องการความใกล้ชิด แต่ไม่มีใครให้ เด็กๆก็ได้ความรู้จากทางทีวีที่อธิบายเรื่องปืนต่างๆ และสมรรถนะของมัน คนไทยอยู่ลาสเวกัสบอกว่าปืนที่นั่นขายกระบอกละ 85 เหรียญเอง ตอนเราอายุเริ่มออกจากวัยเด็ก มีความใกล้ชิดกับพ่อแม่พี่ๆแค่ไหนย่อมรู้กันดี ไปโรงเรียนเขาก็สอนวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ครูใหญ่ก็เรียไปตักเตือนถ้าทำอะไรไม่ถูกครรลอง การเจริญวัยที่นี่ไม่มีความใกล้ชิดสอดส่องเลยหรือ ปล่อยให้เด็กหยิบปืนมาเล่นเองหรือ ปล่อยให้เด็กมีความรักตั้งแต่อายุ 14 กันหรือ หึงหวงกันเองหรือ ทั้งๆที่ยังมีอีกยาวในการหาความรัก ขาดวิจารณญาณ ทั้งทางครอบครัว ครูบาอาจารย์และเพื่อนผู้ใกล้ชิดก็ห่างคำแนะนำ เป็นคนสูงอายุก็ได้แค่ร้อง เฮ้อ เสียอนาคต อาจโตเป็นเป็นแพทย์ได้อีก 3 คน น่าจะตั้งต้นการเจริญวัยของเด็กได้แล้ว

สังคมการเจริญวัย แทบไม่มีช่องว่างให้กระดิกตัว กลับจากโรงเรียนทำสวน ช่วยครอบครัวทำงานบ้าน แล้วทำการบ้านไปส่งโรงเรียน ไปโรงเรียนก็คบเพื่อนให้ถูกคนที่ควรคบ ครูก็ควรสอนแนวทางการเจริญความคิดไว้บ้าง โรงเรียนก็ควรมีกฎระเบียบและวิชาที่ส่งเสริมการเจริญวัยไว้บ้าง ตรวจอาวุธบ้างแบบสนามบิน วิชาที่สอนก็ควรแนะแนวทางการศึกษาต่อ ให้เด็กมีเป้าหมายในการสร้างชีวิต กวดขันการเรียนตามทักษะความสนใจของตัวเด็กบ้าง เด็กจะได้รู้จักตั้งเป้าหมายชีวิต และไม่สนใจว่าตัวเองจะอกหักหรือไม่ เพราะนั่นไม่ใช่เป้าหมาย ยังอยู่อีกไกล ไม่ใช่ว่า หาความสุขที่โรงเรียนด้วยการยิงเพื่อนวัยรุ่นตายเป็นระนาว ช่องว่างในการเจริญวัยที่นี่ ควรจะไม่มีความอ้างว้างโดดเดี่ยวขนาดนี้ อย่าว่าแต่วัยรุ่นเลย คนวัยไหนก็เหมือนกัน พร้อมที่จะเลือกทางดำเนินชีวิตประจำวันที่ถูกและควรจะเป็น ไม่ทำลายสังคม หรือ คนรอบตัว หรือพืช และสัตว์

วิธีที่จะดำรงชีวิตให้มีความสมดุล เกิดความสุข ทำได้ง่ายๆ ด้วยการส่งเสริมการเดินทางของน้ำเหลืองที่อยู่บนของผิว เรียกว่า Lymph เป็นน้ำใส มาจากภาษาลาติน ว่า Limpidus แปลว่า Clear น้ำเหลืองไม่มีสีเหลืองอย่างภาษาไทยเรียก เพียงแต่อยู่ระหว่างเส้นโลหิตฝอยซึ่งสีแดง เลยไม่รู้จะเรียกอะไร เรียกว่าน้ำเหลืองก็แล้วกันเพราะไม่มีสี ทำหน้าที่สำคัญในการเป็นสาระของชีวิต บ่งบอกลักษณะเฉพาะตัวเรียกว่า DNA เป็นที่ยอมรับกันว่า สามารถบำบัดข้อบกพร่องของการไม่สบายได้ โดยการเคลื่อนน้ำเหลืองไปยังจุดที่บกพร่องอยู่ การจัดการให้น้ำเหลืองสามารถเคลื่อนที่ได้ อาจทำเป็นวงกลม ทำเป็นทางยาว หรือกดแล้วหยุด กดหยุดเรียกว่าปั๊ม สมมุติว่า คุณใช้มือใช้เท้ามาทั้งวัน ก่อนหลับก็เพียงแต่กดหยุดจากข้อมือเดินทางไปสู่ปลายนิ้วทุกนิ้ว ทั้ง 5 นิ้ว แล้วก็กดตรงกลางระหว่างเส้นชีวิตกับเส้นหัวใจบนมือ พร้อมกับหายใจลึกเข้าสู่ปอด อัดไว้นับถึง 8 แล้วหายใจออก กดแล้วหายใจลึกนับถึง 8 ซ้ำอยู่ 3 ครั้ง ทั้งสองมือ คือกดหยุดแล้วเดินจากข้อมือสู่ปลายนิ้วครบ 5 นิ้ว แล้วหายใจลึกอัดไว้ในช่องท้องนับถึง 8 อยู่ 3 ที ก่อนจะย้ายไปทำมืออีกข้างหนึ่งเช่นเดียวกัน หรือทำเช่นเดียวกันกับฝ่าเท้าทั้งสองข้าง กดจากส้นเท้าถึงปลายนิ้วแต่ละนิ้วแล้วกดที่จุด 3 เหลี่ยมของฝ่าเท้า เรียกว่าจุดหัวใจตามศาสตร์การนวดปลายประสาทที่มือและที่เท้า เท่านี้คุณก็หายเหนื่อย หายเมื่อยมือหรือระบบฝ่าเท้าจากการใช้งานนาน ก่อนหลับก็สวดชินบัญชรอีกหนึ่งจบเท่านั้น ร่างกายก็รักษาตัวเองได้ เพราะมีสมาธินอนหลับอย่างสุขี

ระบบน้ำเหลืองยิ่งใหญ่มากต่อร่างกาย มีเซลล์ถึง 26 พันล้านเซลล์และตัวทำลายเชื้อโรคจากโพรงกระดูก ทำหน้าที่ป้อนสารแห่งชีวิต และป้องกันภัยแห่งโรคที่จะทำร้ายชีวิตเซลล์ เรามีระบบป้องกันตัวเองจากสองแห่ง ได้แก่ โปรตีน กับ เซลล์ เซลล์นี้ก็ได้รับความช่วยเหลือจากน้ำเหลืองและพลาสม่า นอกจากช่วยบำบัด ป้องกัน และรักษาอาการผิดปกติแล้ว ยังช่วยระบบเลือดให้ปราศจากการอุดตันตามผนังโลหิต

การเดินทางของระบบน้ำเหลืองทำได้จาก

1.เส้นโลหิตฝอย

2.หน่วยรวบรวมเบื้องต้น

3.หน่วยรวบรวมหลัก

4.คลังน้ำเหลือง

การเดินทางของน้ำเหลืองมีหลักว่า เดินทางออกระดับเดียวกับที่เข้าไปทดแทน การเดินทางทำได้ 2 วิธี

1.เคลื่อนจากจุดหนึ่งสู่อีกจุดหนึ่ง

2.การดูดซึม

หลักการคือว่า การเดินทางออกต้องเท่ากับการแทนที่ของน้ำเหลืองนั้น การกดจุดเพื่อเคลื่อนน้ำเหลืองทำได้ 4 วิธี คือ

1.โดยการเคลื่อนตัวของหลองดโลหิตย่อย

2.โดยแหล่งดูดซึมน้ำเหลือง

3.โดยแหล่งกักน้ำเหลือง

4.โดยคลังน้ำเหลือง

มีหลักอยู่ว่า น้ำเหลืองจะไหลออกทางเดียวเท่านั้น น้ำเหลืองออกจึงจะเท่ากับน้ำเหลืองเข้า

หลักสำคัญ ก็คือว่า ถ้าผนังหลอดโลหิตฝอยเกิดหนาขึ้น การเคลื่อนตัวยากขึ้น น้ำเหลืองก็เดินทางไปสู่จุดที่บกพร่องเพื่อทำการบำบัดยากขึ้น โรคก็ไม่ได้รับการรักษา เราก็ช่วยด้วยการเคลื่อนน้ำเหลืองด้วยวิธีปั๊ม คือกดแล้วเคลื่อน หรือเลื่อนการลูบไล้ด้วยนิ้วหรือฝ่ามือ หรือด้วยลูกกลิ้ง อุปกรณ์ที่เหมาะสม โดยมากก็ใช้นิ้ว หรือฝ่ามือ เพราะง่าย และสะดวก โดยน้ำเหลืองจะสามารถเคลื่อนตัวไปตามจุดทั้ง 4 ดังกล่าวแล้วได้สะดวกขึ้น

การบำบัดการอักเสบเฉพาะจุดก็ทำได้ด้วยวิธีนี้ เพราะสามารถนำโปรตีนไปเลี้ยงเซลล์ได้ เมื่อเซลล์แข็งแรง ก็คุยกับอีกเซลล์หนึ่งได้ ช่วยกันทำงานได้ ทุกเซลล์ก็แข็งแรง การเจ็บป่วยก็ได้รับการบำบัด จากการเคลื่อนที่ของน้ำเหลืองไปสู่จุดที่บกพร่อง ความเจ็บ ความล้าหลังในการเจริญเติบโตก็ปราศนาการด้วยเหตุง่ายๆ ที่มีน้ำเหลืองไปหล่อเลี้ยง

เชื่อไหมว่า กว่าจะสร้างชีวิตมนุษย์ ต้องคิดเป็นสมการว่าชีวิตต้องการอะไร รักษาตัวเองได้อย่างไร เพียงแต่เรารู้วิธีในการดำรงชีวิต และรักษาตัวเองได้ อย่าไปเสียเวลาทำลายชีวิตของสรรพสิ่งรอบตัว รักษาชีวิตพืชและสัตว์ไว้ เพราะพวกนี้ให้อาหารทั้งทางร่างกาย และจิตใจที่จะบำบัดชีวิตของตัวคุณเอง