Inside Dara
“เบลล่า” โต้เมากร่างที่หัวหิน รับดื่มแต่ไม่ได้อาละวาดจนมีปัญหากับโรงแรม

“เบลล่า” แจงข่าวยกก๊วน “หมาก-พรีม รณิดา” เมากร่างที่หัวหิน โรงแรมให้พักฟรียังไม่เกรงใจ เจ้าตัวรับดื่มแต่ไม่ได้อาละวาด พร้อมเผยไปกันหลายคนอาจเสียงดัง คนก็เลยไม่พอใจ ยันความสัมพันธ์กับเจ้าของโรงแรมยังดี อีกฝ่ายยังชวนกลับไปพักอีกเลย ลั่นไม่กลัวภาพลักษณ์เสียเพราะไม่ได้ทำ

กำลังดังอยู่ดีๆ ก็มีข่าวให้ภาพลักษณ์นางเอกแปดเปื้อนซะแล้ว สำหรับนางเอกมาแรง “เบลล่า ราณี แคมเปน” หลังมีข่าวว่าเจ้าตัวแท็กทีมกับพระเอก “หมาก ปริญ” และนางเอกหน้าใหม่ร่วมช่อง “พรีม รณิดา” ไปเมาอาละวาดที่หัวหิน ในวันที่ทั้ง 3 คนไปร่วมงานปาร์ตีช่อง 3 ที่หัวหิน แต่ทั้ง 3 กลับไม่พักที่โรงแรมที่ต้นสังกัดจัดไว้ให้ แต่กลับไปขอเข้าพักฟรีที่อีกโรงแรมหนึ่ง แถมยังขนเพื่อนฝูงไปอีกเป็นโขยง แลกกับการให้ดาราทั้ง 3 อัปรูปลงภาพอินสตาแกรมให้คนละ 3 รูป เท่านั้นยังไม่พอ ยังพากันปาร์ตีเปิดเพลงเสียงดังกันยันเช้าชนิดที่แขกข้างห้องไม่พอใจ พอเช็กเอาต์มีค่าใช้จ่ายเพิ่มกลับโวยวาย และไม่ยอมอัปอินสตาแกรมให้ตามที่ตกลง ต้องโทร.ไปตามหลายครั้ง เบลล่าและพรีมถึงยอมอัปรูปลงให้แค่ 1 ใบ เรียกว่าโดนแฉยับฉาวเละสะเทือนกันทั้งแก๊ง ล่าสุดได้สอบถามเบลล่าเกี่ยวกับวีรกรรมดังกล่าว นางเอกสาวก็ยอมรับว่าไปพักที่โรงแรมจริง มีการดื่มจริง แต่ไม่ได้เมากร่างจนมีปัญหากับทางโรงแรม

“ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าข่าวมาได้ยังไง น่าจะเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า เราก็ยืนยันว่าเราไม่ได้ไปเมากร่างจริงๆ วัตถุประสงค์ที่เราไป คือเราไปงานเลี้ยงของช่อง ก็อยู่กันถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งกว่าจะเคลียร์กันออกมา กลับมามันก็เหนื่อยแล้ว กลับมาก็มีดื่มกันต่อนิดหน่อย ก็ไปทะเล แต่ก็ยืนยันว่าไม่มีเสียงดังหรือว่าโดนตักเตือนอะไร เราอยู่คนละฝั่งกับพวกผู้ชายอยู่แล้ว เป็นสาวๆ นั่งเมาท์มอยคุยกัน ไม่มีไปเมาอาละวาดอะไร จะไปอาละวาดทำไม เรารู้ตัวอยู่แล้วว่าคนต้องจำเราได้ รู้จักเราจะไปทำอย่างนั้นทำไม”

ส่วนที่ข่าวบอกว่านอกจากจะเมาอาละวาดแล้ว ยังพูดจาไม่สุภาพกันเสียงดังลั่น “เบลล่า” ก็ปฏิเสธ

“ไม่มีเลยค่ะ ความจริงเราเองยังทานข้าวกับเจ้าของโรงแรมอยู่เลย เขายังบอกว่าเดี๋ยวว่างๆ ไปพักใหม่นะ มาถ่ายรูปกันตอนกลับก็ยังปกติไม่มีปัญหาอะไรเลย ก็งงเหมือนกันว่าข่าวออกมาแบบนั้นได้ยังไง วันที่กลับเจ้าของโรงแรมเขาก็ยังมาส่งเราอย่างดี ขอบคุณวันหลังมาใหม่”

แม้ข่าวจะทำให้เสียหาย แต่ยืนยันยังไม่มีฟีดแบ็กเท่าไหร่ บอกคนรอบข้างเชื่อมั่นว่าตนไม่ทำแบบนั้น

“ยังไม่มีฟีดแบ็กอะไรเท่าไหร่นะ คนที่รู้จักเราเขาก็ค่อนข้างเชื่อมั่นในตัวเราอยู่แล้วว่าเราไม่ไปทำอะไรแบบนั้นแน่นอน อาจจะด้วยคนมันเยอะ เวลาที่ทำอะไรเขาก็เลยมองว่าเราไปเสียงดังรบกวนคนอื่นเขารึเปล่า อย่างเราไปเล่นบานาน่าโบ้ตกันด้วย อาจจะเสียงดังทำให้เขาไม่พอใจกัน แล้วก็คิดว่าฝั่งทางห้องหมากก็ไม่น่าจะมีเสียงดังอะไรกันด้วย ถ้าเสียงดังจริงเราก็ต้องได้ยินแล้ว”

ภาพรวมข่าวนี้คนอาจมองว่าเราเรื่องเยอะ?

“จริงๆ แล้วเป็นเจ้าของโรงแรมที่ชวนเราไปพัก ทุกวันนี้ความสัมพันธ์กับเจ้าของโรงแรมก็ยังโอเคอยู่ เขาไม่ได้อะไร น่าจะเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า”

ไม่กลัวมีผลกระทบกับภาพลักษณ์เพราะข่าวไม่จริง

“ข่าวมันก็ไม่จริงไง เรารู้ตัวว่าเราไม่ได้ไปทำอะไรแบบนั้น คงเข้าใจผิดกันมากกว่า ไม่มีใครตั้งใจจะมาดิสเครดิตหรอกค่ะ โดนยกแก๊งคนในกลุ่มก็คุยกัน (หัวเราะ) แล้วในแก๊งมีแต่เด็กๆ ทั้งนั้นเลย ผู้ใหญ่ก็มีด้วย ซึ่งเขาไม่ปล่อยให้เราเสียงดังเดือดร้อนจนคนเอาเราไปเมาท์กันอยู่แล้ว”

เผยไม่ได้ปรึกษา “เวียร์” เรื่องข่าว บอกฝ่ายชายรู้ว่าดูแลตัวเองได้

“เรื่องข่าวยังไม่ได้คุยกับพี่เวียร์ ไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้เท่าไหร่ เขาก็รู้แหละว่าเราดูแลตัวเองได้อยู่ เราตอบได้ เราไม่ตื่นตกใจ แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ พี่เขายุ่ง เราก็งานยุ่ง ไม่ค่อยได้เจอกันค่ะ ไม่ค่อยได้คุยเรื่องข่าว เรื่องงานกันด้วยค่ะ (แต่เขาก็จะเป็นห่วงผ่านสื่อตลอดว่าให้เราดูแลตัวเองดีๆ แล้วกัน?) นั่นแหละ แค่นั้นแหละ แต่ไม่มีมาบอกแบบนี้นะ ถ้าพี่เขาสงสัยเดี๋ยวเขาก็มาถามเอง เราคงไม่ได้มาเล่าให้เขาฟัง ที่เขาห่วงเรา เพราะด้วยความที่เราใหม่ด้วย เขาก็ห่วงว่าเราจะรับมือได้ไหม เขาก็กลัวว่าเราจะเครียดเกินไหมรึเปล่า”

เขาค่อนข้างดูแลความสัมพันธ์เราดี จะบอกค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปตลอด?

“ไม่หรอกค่ะ ก็ไม่รีบเนอะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่มีอะไรให้รีบ ขอทำงานก่อนแล้วกัน อย่างเวลาไม่ได้เจอก็จะใช้วิธีแชต อาจจะมีคุยโทรศัพท์บ้างนิดหน่อย”

ส่วนเรื่องที่มีคนจับผิดเอาภาพมาเปรียบเทียบว่าทั้งคู่ใส่หมวกเหมือนกัน แว่นเหมือนกัน ถ่ายรูปวิวเดียวกัน ท่าเดียวกันตลอด “เบลล่า” ก็เผยว่า…

“แหม....มันก็ไม่ได้มีหมวกอันเดียว แว่นอันเดียวกันนะ เรื่องนี้ไม่จริง ซื้อมาต่างหาก อย่างหมวกก็ฝากพี่ผู้จัดการซื้อมา บังเอิญเหมือน แว่นสีแดงก็ได้มา เจ้าของงานมีคนให้มา แต่บังเอิญว่าเป็นยี่ห้อ รุ่นเดียวกัน เราก็ไม่รู้ เขาบอกว่าอันนี้เหมาะกับเรานะ เราเองชอบสีแดงอยู่แล้วเขาก็เลยให้มา แต่ไม่เคยใส่ไปชนกันนะ ไหว้พระทำบุญก็ที่ไปเชียงใหม่ด้วยกัน คนอื่นก็ถ่ายแบบนี้เหมือนกันแหละ”

ปัดฝ่ายชายไม่ได้เปลี่ยนการใช้ชีวิตเพื่อตนขนาดนั้น

“ไม่ได้ถึงขั้นเพื่อเราหรอกค่ะ แต่ด้วยความที่เขาตอนนี้โตแล้ว ไม่ใช่เด็กมาเล่นๆ ไม่กล้าไปบอกหรืออะไรเขาหรอก เราเองก็ยังเด็กกว่าพี่เขา”