Inside Dara
"โม-มนชนก" เสิร์ฟบทบาทใหม่ในละครดาร์กคอมเมดี้เรื่อง "วงศาคณาญาติ"

ขอเลือกความสุขก่อน! เพราะประสบการณ์ในการใช้ชีวิตกับหลากหลายเรื่องราวที่ได้พบเจอ ทำให้วันนี้ นางเอกสาว “โม–มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ” เลือกอยู่กับความสุขปัจจุบัน ทั้งในมุมการทำงาน หลังเก็บเกี่ยวการเดินทางด้านการแสดงเติบโตเป็นนักแสดงอิสระฝีมือดีเป็นที่ยอมรับกับการได้รับบทบาทที่ท้าทาย รวมทั้งการใช้ชีวิตและประสบการณ์ความรักที่ผ่านมา พาให้ “โม–มนชนก” เติบโตคัดสรรสิ่งที่ใช่ มีสติ รู้จักปล่อยวางมากขึ้น และเป็นตัวเองได้อย่างมี “ความสุข” สมชื่อ “MOMON happygirl” ที่เธอใช้เรียกตัวเอง

กับงานแสดง “โม” ได้รับบทบาทที่หลากหลาย ส่วนใหญ่ได้พิสูจน์ฝีมือในพาร์ตดราม่า แต่ล่าสุดเป็นผลงานท้าทายฝีมือนางเอกสาว “โม–มนชนก” กับการเสิร์ฟบทบาทใหม่ในละคร ดาร์กคอมเมดี้เรื่อง “วงศาคณาญาติ” ทุกวันเสาร์–อาทิตย์ ทางช่องอมรินทร์ทีวีเอชดี 34 ละครเล่นใหญ่ เต็มไปด้วยเหล่านักแสดงคับคั่งทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่และชั้นบรมครู ขนกันมาคืนกำไรให้แฟนละคร ผลิตโดย CHANGE2561 นับเป็นละครรูปแบบใหม่ กล้าฉีกกฎเดิมๆ หยิบเรื่องราววุ่นๆกับการเปิดพินัยกรรมสุดป่วนของตระกูลยักษ์ใหญ่ ที่มาพร้อมปัญหาเรื่องเยอะ ชวนเสียสติ ดูแล้วแฝงไปด้วยแง่คิดและความบันเทิง ทำให้คนดูทั้งปาดน้ำตา และหัวเราะแก้มแตกไปพร้อมๆกัน

งานนี้ “โม” รับบท “พิมพ์” อัปเวลเป็น เจ๊ดัน ประกบพระเอกออร่ากระจาย “บลู–พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ” เล่าถึงบทบาทนี้ว่า ส่วนใหญ่คนเห็นโมเล่นแต่ดราม่า เรื่องนี้โมอยากลองทำงานกับคนเยอะๆดู บท “พิมพ์” เป็นคนสู้คน ตามหาความจริง มันยากมากๆเราต้องเหมือนเป็นตัวเปิดของเรื่องเป็นตัวตั้งรับแรงกระแทก และร่วมงานกับพี่ๆนักแสดงที่แต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดา โมไม่เคยร่วมงานกับนักแสดงเยอะแบบนี้มาก่อน สถานการณ์ที่ตัวละครเป็นมันไม่ได้ตลก ทุกคนมีความต้องการของตัวเองเลยเกิดความวุ่นวาย แต่คนดูจะรู้สึกสนุกและตลกไปกับเรื่องราวนั้น มีฉากรวมนักแสดงออกอากาศ 5 นาที ถ่ายทำ 6 ชม. วุ่นวายแต่สนุก โมได้เก็บเกี่ยวแนวคิดจากทั้งรุ่นใหญ่และเด็กรุ่นใหม่ที่เอามาใช้ในการแสดงและในชีวิตประจำวันได้ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับชีวิตทุกคนได้ ทุกคนมีญาติพี่น้องครอบครัวเชื่อว่าคนดูเข้าถึงได้ง่าย ส่วนการทำงานกับน้อง บลู–พงศ์ทิวัตถ์ น้องน่ารักมาก เค้าใสมาก ไม่ว่าอะไรก็จะยิ้มตลอด เป็นพลังบวกในกองถ่ายจริงๆ เป็นสีสันในกอง ก่อนเปิด กล้องได้มีการเวิร์กช็อปทำความรู้จัก โมก็บอกเค้าว่าเต็มที่ไปเลย น้องตั้งใจมากและทำการบ้านมาอย่างเต็มที่ ส่วนฉากเลิฟซีนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เพราะมัวแต่ตามหาพินัยกรรมกันอยู่

เป็นนักแสดงอิสระในวันที่เติบโต “โม” เผยว่า ด้วยบทบาทคาแรกเตอร์และแพลตฟอร์มที่หลากหลายขึ้นทำให้มีบทให้โมเลือกในสิ่งที่อยากเล่น และท้าทายความสามารถ “ความสุข” ของการเป็นนักแสดงในวันนี้ที่เติบโตขึ้น โมเผยว่ามีความสุขตลอดเวลาที่ทำงานเพราะเป็นสิ่งที่ชอบ ชอบทำงาน ชอบไปกองถ่าย ชอบไปถ่ายละคร ได้ค้นหาคาแรกเตอร์ นี่ล่ะคือสิ่งที่ชอบพาร์ตของการเป็นสาวโซเชียล ทั้งยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ขยับมาเล่น Tiktok ที่แฟนๆถูกใจ จากความหน้าใส อยากให้รีวิวด้านบิวตี้และสกินแคร์ โมเข้ามาเล่น Tiktok ได้ประมาณ 1 ปี จริงๆโมเป็นคนเจอเรื่องราวในชีวิตเยอะมาก แต่ไม่ได้หยิบมาเล่า อย่างเรื่องชอบมีปัญหาที่จอดรถมีมาตลอดในชีวิต จนเป็นเรื่องขำที่อยากมาแชร์ ยอมรับว่าการศึกษาอะไรใหม่สักอย่างมันยาก เราเล่นอินสตาแกรมมาตลอด แต่ Tiktok เป็นอีกแพลตฟอร์มที่ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

ส่วนรายการยูทูบ “MOMON happygirl” ก็ยังคงพาไปกินไปเที่ยว เป็นคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนทำอะไรที่โมชอบ โมไม่ได้คิดว่าต้องไปแข่งขันหรือทำให้โดดเด่นสู้กับอะไร เราก็ยังเป็นเราการอยู่กับโลกโซเชียลมีเดียที่มีการแสดงความคิดเห็นหลากหลาย เคยเจอแรงปะทะที่ทำให้ทุกข์ วันนี้ โม เผยว่า อาจจะไม่ได้ทำได้ดีที่สุด แต่วันนี้โมเข้าใจอะไรได้มากขึ้น และปล่อยได้เร็ว โมเรียนรู้แล้วว่าการที่เราแบก เรากำความทุกข์ไว้ คนที่ทุกข์คือเรา คนอื่นเค้าไปเรื่องอื่นแล้วแต่เรายังมาทุกข์ใจกับบางอย่าง โมอาจจะข้ามผ่านไปดีขึ้น อาจจะเพราะไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติ ธรรมมันช่วยได้ ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดกับคาแรกเตอร์สาวตัวเล็ก หน้าเด็ก สายชิกเปรี้ยว เซ็กซี่ได้ โม–มนชนก มองว่าเราสามารถมีคาแรกเตอร์ได้หลายแบบ ในเชิงงานก็ดีที่ทำให้เราได้รับบทบาทหลากหลาย อย่างแฟชั่นเซตที่ถ่าย “มาลัยไทยรัฐ” ได้เพื่อนโมมาทำสไตลิ่งให้ มีความเป็นโมอยู่แต่เป็นอีกเวอร์ชัน ถ้าถามถึงความเซ็กซี่ สำหรับโมก็มีลิมิตของโม ถ้าเป็นเรื่องงานก็ดูสถานการณ์

เรื่องหัวใจ ณ จุดนี้ก็แฮปปี้ “โม–มนชนก” เล่าถึงความรักครั้งนี้กับหนุ่มนอกวงการ ที่อายุเท่าๆกัน ที่โมยังให้ความเป็นส่วนตัวกับอีกฝ่าย โมเผยว่า แฮปปี้ ณ จุดที่เป็นอยู่ ไม่ได้คิดไกล เป็นคนไม่มีแพลนขนาดนั้นว่าถึงจุดไหนต้องเป็นอะไร ปล่อยไปตามธรรมชาติ ถามว่า “โม” เป็นคน “คลั่งรัก” มั้ย ยอมรับว่าก็เป็นบ้าง แต่ไม่ได้มาลงรูปอะไรเยอะ มีนานๆแค่โอกาสพิเศษจริงๆ ด้วยความที่เค้าเป็นคนนอกวงการโมก็มีความแอบเกรงใจเค้า อยากให้เค้ามีความเป็นส่วนตัว ซึ่งเค้าเข้าใจดี เพราะโมเองก็ไม่ได้ปิดบัง ไม่ได้บอกว่าโมไม่มีแฟน พอถึงวัยนี้ สิ่งหนึ่งที่โมเพิ่งเข้าใจเลย คือเราเปลี่ยนใครไม่ได้หรอก และเราก็ไม่ชอบให้ใครมาเปลี่ยนนิสัยเราด้วย คนที่เราอยากอยู่ด้วยหรือคนที่เราคบหา อย่างแรกเลยคือเค้าต้องยอมรับข้อเสียของเราให้ได้ก่อน และเราต้องรับข้อเสียของเค้าให้ได้ เรื่องงานเค้าก็ไม่มาก้าวก่ายเรา มีถามไถ่กันบ้างแต่ส่วนตัวโม โมรู้ลิมิตของโม ขอให้เชื่อใจโมว่ามันเป็นยังไง งานก็คืองานโมว่าทุกคนต้องยอมรับและเข้าใจก่อนว่าอาชีพเราคืออะไร ตัวเค้าก็มีงานโมก็เข้าใจในงานของเค้า เค้าก็ต้องเข้าใจเรา

เรียกว่าคนนี้เราเปิดให้เห็นตัวตนเลยว่าอันไหนรับได้ รับไม่ได้? “ใช่ค่ะ เปิดไปเลย ไม่งั้นมันเสียเวลาเราทั้งคู่ เราโตแล้ว”

พ่อแม่ห่วงเรื่องความรักของเรามั้ย? “พ่อแม่โมเค้าอะไรก็ได้ที่โมมีความสุข ที่บ้านน้องชายโมก็มีหลานให้คุณพ่อคุณแม่แล้ว”

เติมหวานยังไง เจอกันบ่อยมั้ย? “ถ้าว่างก็เจอกัน เพราะเราต่างคนต่างทำงาน เวลาว่างก็พยายามหาเวลามาเจอกัน”

ความรัก ณ วันนี้เปรียบ เหมือนเป็นอะไรในชีวิต? “ก็เป็นสิ่งที่ดี ต้องเล่าว่าก่อนหน้านี้ช่วงที่โมโสด โมได้อันล็อกอะไรบางอย่าง โมรู้สึกว่าคนเรามันต้องเริ่มที่รักตัวเองก่อน มันด้วยวัยหรือด้วยอะไรหลายๆอย่าง เราต้องมีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ก่อน แล้วเราถึงจะไปรักคนอื่น และมีชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ คนนี้เข้ามาในวันที่เราปลดล็อกแล้ว ซึ่งโมรู้สึกว่าความรักมันดีหมดไม่ว่าในรูปแบบไหน วันนี้มันดี วันหน้ามันอาจจะไม่ใช่ เราก็ต้องยอมรับมัน ณ วันนี้ มันดี เราก็ทำให้มันดีที่สุดก็พอ”

รักครั้งนี้มองถึงอนาคตมั้ย? “ก็มีค่ะ แต่ว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน”.

Makeup : แพรว-จรัสพิมพ์ อิทธิธนากร @wearqpraew

Hair : บอน-คันธรส แสนวงษ์ @ballnehair

Stylist : ฉัตร-ฤทธิ์วัตร อนันต์ลาภฤทธิ์ @richwath_

Photographer : ฉัตร-ฤทธิ์วัตร อนันต์ลาภฤทธิ์ @richwath_

Location : 360 Studio Society @360studiosociety