Inside Dara
ไขรายได้แต่ละปีของ “ฟ่านปิงปิง” นักแสดงหญิงที่รวยที่สุดในเอเชีย

ย้อนประวัติทางการเงินในแต่ละปีของ นักแสดงหญิงที่รวยที่สุดในเอเชีย “ฟ่านปิงปิง” เธอรับทรัพย์มากขนาดไหน จึงถูกเพ่งเล็งเกี่ยวกับภาษี

สัปดาห์นี้ข่าวบันเทิงต่างประเทศที่มีคนพูดถึงทุกวันก็คือ เรื่องราวของซูเปอร์สตาร์แดนมังกรที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี “ฟ่านปิงปิง” เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้มีการเปิดเผยจากสื่อท้องถิ่นว่า เธอหายเข้ากลีบเมฆไปกว่า 3 เดือนแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเพื่อสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องภาษีจากการที่มีคนในวงการบันเทิงออกมาเปิดเผยเรื่องสัญญาหยิน-หยาง ซึ่งเป็นสัญญาที่ใช้หลีกเลี่ยงภาษี (ทำสัญญาขึ้น 2 ฉบับ ในราคาค่าตัวที่แตกต่างกัน โดยเลือกใช้ฉบับที่จ่ายค่าตัวน้อยกว่าในการเสียภาษี อีกฉบับหนึ่งเป็นสัญญาใต้โต๊ะที่รับเงินไปแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย) และมีการให้ข้อมูลว่าเธออาจจะเป็นหนึ่งในนั้น เป็นเหตุให้เธอถูกตรวจสอบในเวลาต่อมา

ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เธอไม่มีความเคลื่อนไหวเลยทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ สร้างความตื่นตระหนกให้กับบรรดาแฟนคลับที่นิยมชมชอบเธอ มีเพียงต้นสังกัดที่ออกมาปฏิเสธลูกเดียวโดยขาดเหตุผลประกอบ บอกแต่เพียงว่าให้เรื่องเป็นไปตามกระบวนการเท่านั้น ทำให้เหล่าแฟนคลับยิ่งไม่สบายใจ ขณะที่ทุกๆ วันก็มีข่าวลือผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างเมื่อไม่กี่วันก่อนก็มีภาพของ “ฟ่านปิงปิง” ถูกใส่กุญแจมือออกมา แต่ผลปรากฏว่าภาพดังกล่าวคือภาพจากผลงานละคร/ภาพยนตร์ชิ้นหนึ่งของเธอนั่นเอง

ปัจจุบันยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการออกมาว่า เธออยู่ในคุกอย่างที่สำนักข่าว Securities Daily รายงาน เพราะในเวลาต่อมาก็ได้มีการลบข่าวนี้ออกไปแล้ว

“ฟ่านปิงปิง” เป็นนักแสดงสาวที่พัฒนาตัวเองตลอดเวลา เธอเริ่มงานแสดงจากบทเล็กๆ ต่อมากลายเป็นนักแสดงนำ หลังจากนั้นเธอก็ขึ้นมาเป็นนางเอกแถวหน้า ความมุ่งมั่นของเธอไม่หยุดแค่นั้นเพราะเธอหวังที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางฮอลลีวู้ดแน่นอนว่าเธอทำสำเร็จ เธอได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ดัง X-Men: Days of Future Past,Iron Man 3 กระทั่งล่าสุดเธอได้รับบทเด่น 1 ใน5 สาวจากภาพยนตร์เรื่อง 355 แสดงร่วมกับ เพเนโลเป ครู๊ซ,มารียง กอตียาร์,เจสสิก้า แชสเทน ชื่อเสียงที่ดี โอกาสที่ดี เงินทองที่เข้ามาก็ต้องดีตามไปด้วย มีการเปิดเผยว่า “ฟ่านปิงปิง”มีรายได้มากมายมหาศาลในทุกๆ ปี จนปัจจุบันเธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่รวยที่สุดในเอเชีย

อ้างอิงจาก “นิตยสารฟอร์บส์ ไชน่า” ระบุว่าในปี 2012 ดาราที่ทำรายได้มากที่สุดคือ “โจวเจี๋ยหลุน” รองลงมาก็คือ “หลิวเต๋อหัว” อับดับ 3 ก็คือ“ฟ่านปิงปิง” ทำรายได้สูงถึง 483,293,689 บาท ($100.9 million/CNY)

ในปี 2013 เธอได้มีโอกาสไปร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่อง “Iron Man 3” รายได้ก็ขยับเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยอยู่ที่ 479,461,826 บาท ($110 million/CNY) แต่ทว่าอันดับของเธอกลับขึ้นนำเป็นที่ 1 ตามด้วย “โจวเจี๋ยหลุน” และ “หลิวเต๋อหัว” แชมป์เก่า

อีกหนึ่งปีที่ดีของ “ฟ่านปิงปิง”ก็คือ 2014 เธอได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ดัง “X-Men: Days of Future Past” เธอทำรายได้มากถึง 749,608,150 บาท ($156.5 million/CNY) ทิ้งห่างคนดังอื่นๆ ไปไกล

2015 ถึงจะไม่มีผลงานในต่างประเทศแต่การรับบท “หยางกุ้ยเฟย” ในภาพยนตร์ “Lady of the Dynasty” ก็ส่งให้เธอมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปีนั้นเธอทำรายได้ไป 613,098,040 บาท ($128 million/CNY) และเมื่อจัดลำดับร่วมกับนักแสดงระดับอินเตอร์แล้ว เธออยู่ในลำดับที่ 4 มากกว่า เจนนิเฟอร์ อนิสตัน,จูเลีย โรเบิร์ตส์,แอนเจลีนา โจลี,แอน แฮทธาเวย์,คริสเตน สจ๊วร์ต

ในการจัดอันดับนักแสดงหญิงจากทั่วโลกปี 2016 “ฟ่านปิงปิง” ทำรายได้เป็นลำดับที่ 5 557,996,762 บาท ($17 million) โดยลำดับ 1 เป็นของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”, “เมลิสซา แม็กคาร์ธี”, “สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน”, “เจนนิเฟอร์ อนิสตัน” ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามในปี 2017 ที่ผ่านมา เธอกอบโกยรายได้ไปแบบก้าวกระโดด ด้วยเงินถึง 1,433,434,098 บาท ($300 million/CNY) ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุให้ดาราสาวคนนี้เผชิญกับปัญหาใหญ่ในขณะนี้

ทั้งนี้เมื่อเดือนมกราคม 2018 “ฟ่านปิงปิง” ได้โดดมารับงานที่เมืองไทย เพื่อเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับการปรับโฉมใหม่ของ คิง เพาเวอร์ ให้เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของกรุงเทพฯ ด้วยงบลงทุนที่ใช้ไป 2,500 ล้านบาท ล่าสุด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชี้แจงว่า ขณะนี้สัญญาที่ คิง เพาเวอร์ จ้าง ฟ่านปิงปิง มาเป็นแบรนด์เแอมบาสเดอร์ได้สิ้นสุดไปแล้ว ซึ่งเป็นการหมดสัญญาก่อนที่ทาง ฟ่านปิงปิง จะมีข่าวดังกล่าวเกิดขึ้น