Inside Dara
‘แพท’ สาวแกร่งเกินร้อย ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว

หลายกระแสของผู้อ่าน “เดลินิวส์” อยากจะให้เราหาเวลาพูดคุยอัพเดทชีวิตของ นางเอกสาว แพท-ณปภา ตันตระกูล ที่หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชีวิตจริงของเธอยิ่งกว่าละคร สำหรับการเป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลคุณแม่ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ดูแลพี่สาวแท้ ๆ ที่พิการมาตั้งแต่เกิด รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับคนเดียว งานนี้ “ดาวต่างมุม” จึงนัดแนะสาวแพท มาพูดคุยหมดเปลือกถึงชีวิตทุกด้าน และแรงบันดาลใจที่ทำให้ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข

ผลงานละครเพิ่งจบไม่นาน ต่อไปมีผลงานไหนที่แฟน ๆ จะได้ชมบ้าง?

“ละครเรื่องต่อไปคือ “รถไฟ เรือเมล์ ลิเก กองถ่าย” อีกเรื่องเรื่อง “รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน” เล่นกับมาริโอ้ และ น้องแต้ว-ณฐพร เรื่องนี้หนักแต่บทดีมาก แพทเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ร้ายมาก แต่ร้ายของเรามีที่มาที่ไป ใช้พลังเยอะ แต่เราก็ได้เรียนรู้จากนางเอกมาเป็นนางร้าย ซึ่งแพทเล่นได้ทุกบท ถ้าเล่นร้ายจะต้องเล่นลึก ไม่ใช่แค่กรี๊ด ๆ แค่นั้น และมีงานพิธีกรรายการ พราวเสน่ห์ เน้นเรื่องความสวยความงาม แล้วก็รายการเสียงสวรรค์พิชิตฝัน ทางช่อง 8 วาไรตี้ค่ะ”

อยู่วงการมาปีนี้ปีที่เท่าไหร่แล้ว?

“ปีนี้ปีที่ 7 จะ 8 ปีที่อยู่กับช่อง 3 เราเข้าวงการตั้งแต่อายุ 18 ปี ปีนี้แพทอายุ 28 แล้ว เรียนรู้อะไรเยอะมาก เราอยู่ในยุคสมัยที่เข้าวงการเพราะโมเดลลิ่ง ไม่ใช่ยุคของผู้จัดการส่วนตัว ต้องไปแคสติ้งงานเยอะ ๆ ถึงจะได้เล่นละคร พอยุคนี้เป็นแนวผู้จัดการส่วนตัว หรือใครที่โดดเด่นในเฟซบุ๊ก ไอจี โซเชียลต่าง ๆ ก็สร้างตัวเองให้ดังจะแง่ดีหรือไม่ดีก็สามารถเข้าวงการได้”

คนยังแซวว่าเป็นนางเอกละครเย็นอยู่อีกมั้ย?

“ผู้ใหญ่ให้เปลี่ยนคำพูดตั้งนานแล้วนะ ตอนนี้ละครมี 3 ช่วง คือละครเย็น ละครไพรม์ไทม์หนึ่ง และไพรม์ไทม์สองคือหลังข่าว เพราะโปร ดักชั่นคุณภาพเหมือนกันทุกเรื่อง อยู่มานานจนเข้าใจ แต่เราทำงานมาตั้งแต่เด็กจะรู้สึกว่าการมีข่าวไม่ดี ก็คงไม่โอเคเท่าการมีฝีมือการแสดงที่ดี อย่าลืมว่าวงการบันเทิงหมุนเร็ว เด็กเข้ามาวงการเยอะ ไม่ใช่แค่เราเล่นละครดีแล้วจะรอด แต่ต้องมีคนรัก และต้นสังกัดรักเราหรือเปล่า ปัจจัยต่อมาคือการตลาด ว่าเราจะขายได้มั้ย ถ้ายังไหวงานก็จะมีต่อไปค่ะ”

มีช่วงนึงที่การทำงานของเรามีช่องว่าง เงียบหายไป?

“คนชอบมองว่ามีช่องว่าง แต่แพทน่ะทำงานทุกวัน บางเรื่องรอออกอากาศ ไม่มีละครสต๊อก ฉะนั้นช่วงที่หายหน้าไปก็ถ่ายเรื่องอื่นนี่แหละ ไม่ก็มีอีเวนต์ต่างจังหวัด พิธีกร และงานที่บ้านซึ่งไม่ได้หยุดเลย แต่อาชีพนักแสดงคืออาชีพหลัก แต่ก็มีธุรกิจคลินิกความงามของตัวเอง เพราะขนาดคลื่นลูกใหม่ที่เข้ามาเยอะ แต่เล่นละครไม่ดี สักพักก็อาจหายไป เพราะมีคนต่อคิวรอโอกาสต่อจากเค้าเยอะเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เราที่ต้องกลัว”

ตอนนี้ชีวิตอยู่ในจุดที่เข้มแข็งแล้ว?

“ใช่ค่ะ แพทเหมือนเป็นวัยกลางคนค่ะ เป็นวัยเก็บตังค์ไม่หวือหวา ทำงานสร้างอนาคต ไม่ต้องการให้มีกระแสตลอดเวลา ทุกวันนี้ทำงานไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง แต่ทำให้ได้งานและมีเงิน ไม่ต้องการให้คนมานั่งกรี๊ด แพท-ณปภา แต่ต้องการพิสูจน์ว่าเรามีฝีมือจนเขาอยากจ้างไปทำงาน แพทเหนื่อยนะคะ แต่แฮปปี้ที่ได้ทำเพราะเราเป็นคนรักครอบครัวมาก กับการที่ต้องหาเลี้ยงทั้งครอบครัว ทั้งคุณแม่ที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ พี่สาวที่พิการ หลานอีก ภาระเยอะแต่เรายังโชคดีที่ยังมีงานในวงการบันเทิงดี ๆ แบบนี้ ซึ่งคนที่แย่กว่าเรามีเยอะในสังคม”

หลายคนให้กำลังใจเรื่องคุณแม่เยอะมาก?

“เยอะมากจริง ๆ ค่ะ ที่ผ่านมามันไม่จำเป็นเลยที่เราจะเอาเรื่องที่บ้านมาบอกว่าแม่เราเป็นอะไร เรื่องส่วนตัวก็เป็นส่วนตัว ไม่อยากเรียกร้องความสนใจให้คนมาสงสารชีวิตเรา แต่มันเกิดจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาเวลาคนติดต่อเราให้ไปร่วมงานวันแม่แพทต้องปฏิเสธงาน ก็กลัวคนจะว่าเราเรื่องมาก จนต้องบอกว่าแม่เราป่วยจึงเป็นข่าวขึ้นมา แพทเลยไม่แปลกใจที่ใครรู้ข่าวแพทก็เปลี่ยนความคิด หลายครั้งเวลาอ่านคอมเมนต์ในไอจีแล้วชื่นชม รักเรา ซึ่งนี่คือตัวเรา ไม่แอ๊บ พูดอะไรตรง ๆ ไม่รู้ดีกับคนอื่นมั้ย แต่ดีกับตัวเราที่ไม่ต้องเฟค”

แพทต้องดูแลแม่ และพี่สาวยังไงบ้างในแต่ละวัน?

“แพทต้องไปทำงานทุกวันเลยไม่ได้อยู่กับแม่ตลอดทั้งวัน แต่เรามีน้องช่วยดู ช่วงเช้าเราจะออกไปตักบาตรและซื้อกับข้าวเข้าบ้าน น้องก็มาป้อนข้าว เช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพอร์ส แม่ แต่ถ้าวันไหนเรามีงานบ่าย แพทก็จะเป็นคนดูแม่ช่วงเช้าก่อนแล้วค่อยออกไปทำงาน”

ช่วงที่รู้อาการคุณแม่บ่อยเป็นยังไง?

“อัลไซเมอร์หนักตรงที่อารมณ์เหวี่ยง ถ้าออกจากบ้านจะจำอะไรไม่ได้ คนเป็นอัลไซเมอร์จะเป็นช่วง ๆ บางทีจำได้ บางทีหงุดหงิดว่าทำไมตัวเองจำไม่ได้ ช่วงจำได้แต่อดีตก็จะพูดแต่อดีต ช่วงเวลาเป็นเด็กก็จะเอาแต่ใจ ร้องไห้ แล้วก็ช่วงไม่สนใจอะไรจะอยู่บ้านอย่างเดียว โรคอัลไซเมอร์ไม่หนักมาก แต่ตอนนี้คุณแม่หกล้มจนเดินไม่ได้ ก็มีภาระมากขึ้นที่ต้องอุ้มอาบนํ้า ป้อนข้าว ก็ต้องดูแลไป”

กับคำว่าชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เรารู้สึกยังไง?

“แน่นอนค่ะ ชีวิตจริงนี่แหละที่สุดแล้ว นอกจากคุณแม่ป่วย แพทยังต้องดูแลพี่สาวที่พิการแต่กำเนิด ปีนี้เค้าอายุ 40 ปีแล้วยังเหมือนเดิมทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นมีคนที่เดินไม่ได้อยู่ที่บ้าน 2 คน เช้าอุ้มพี่สาวอาบนํ้า อุ้มนั่งเก้าอี้ทานข้าว แล้วก็ดูแม่แบบนั้นเหมือนกัน แต่คนที่เราต้องดูแลก็ไม่ใช่คนอื่น เป็นคนที่แพทรักทั้งคู่เลยไม่ได้รู้สึกเหนื่อย หรือมองว่าเป็นภาระ กำลังใจเราคือแม่ ดูแลเขาดีแค่ไหนความสุขเราก็อยู่ตรงนั้น ยิ่งหาเงินได้มากเท่าไหร่ ก็มีความสุขทุกคนในบ้านได้กินดีอยู่ดี แพทก็โอเค”

เราเคยร้องไห้กับโชคชะตาหนัก ๆ ของครอบครัวเราบ้าง มั้ย?

“เคยนะคะ แม่ดูแลเราเป็นผู้จัดการเรามาตั้งแต่เข้าวงการ แม่เก่งมากเป็นคนสนับสนุนเราทุกเรื่อง จนวันนึงเขาป่วยเรากลายมาต้องคิดจัดการเองทุกเรื่องในชีวิต เพราะพี่คนโตทำงานเมืองนอก พี่คนที่สองมีครอบครัวไปทำงานต่างจังหวัดไม่กลับมาเลย คนที่สามอยู่เมืองนอก 6 เดือนกลับมาที คนที่สี่พิการ เหลือแพท คุณพ่อมีครอบครัวใหม่ เหลือเราคนเดียวจริง ๆ เพราะน้องสาวก็ต้องพึ่งเรา มาดูบ้าน ดูแลแม่ช่วยเรา คิดเองทุกเรื่องก็เหนื่อยแต่โอเค แต่ทำให้เราโตเร็ว นิ่งขึ้นเยอะ”

คำสอนของแม่ที่จดจำแล้วนำมาใช้เสมอ?

“ทุกอย่างเลยค่ะ เด็ก ๆ แพทเคยอยากเปลี่ยนแม่นะ ทำไมต้องว่าต้องดุ แต่พอวันนี้แพทบอกกับตัวเองเลย ถ้าแพทมีลูกจะเลี้ยงเอง และจะเลี้ยงให้เหมือนแม่เลี้ยงแพท ลูกต้องได้ดีเท่าที่จะทำได้ การที่เป็น แพท-ณปภา ยืนอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะคุณแม่ ถึงตอนนี้แม่จะไม่สามารถจำได้ทุกเรื่องของเรา แต่แม่คือกำลังใจในทุกวันของแพทเสมอค่ะ”

ความรักของแพทตอนนี้ล่ะ?

“แพทเป็นคนเซ้นซิทีฟเรื่องครอบครัวและความรัก ที่ผ่านมาเจอคนหลายรูปแบบมาก สุดท้ายยังไม่รู้เลยต้องคนแบบไหน เจอทั้งคนมีเงิน คนที่ทุกคนพยายามเรียกเค้าว่าไฮโซ คนธรรมดาหาเช้ากินคํ่าไม่ได้รํ่ารวยมาก เจอแม้แต่คนไม่มีอะไรเลย แต่สิ่งนึงที่คิดได้คือ เวลาเราหวังอะไรจะต้องเหนื่อยทุกครั้ง พังทุกครั้ง แต่ถ้าไม่หวังทุกอย่างจะเรื่อย ๆ”

แสดงว่าคนเข้ามาพูดคุยบ้างเหมือนกัน?

“มีคนเข้ามาคุยเยอะ ไม่ได้อวยตัวเองนะ บางคนถ้าคบแล้วแต่งงานด้วยชีวิตจะสบายไปเลย แต่ไม่เอาเราขอใช้ชีวิตไปก่อน ตอนนี้อะไรก็ได้ที่ทำให้มีความสุข เราเป็นหัวเรือใหญ่ดูแลบ้าน ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามาขอคนที่พร้อมดูแลเราและครอบครัว ไม่รังเกียจที่จะช่วยเราอุ้ม เปลี่ยนแพมเพอร์สแม่ แพทจะเอาแม่ไปไหนแล้วต้องช่วยเข็นรถ ช่วยอุ้มแม่ ไม่ต้องรวยล้นขอแค่เข้าใจ มุมมองความรักเปลี่ยนไปตั้งแต่เรามีครอบครัวที่เป็นแบบนี้ ขอคนที่รักเราและรับครอบครัวเราที่เป็นครอบครัวบ้าน ๆ แบบนี้ได้จะดีกว่า”

มีคนที่จะพัฒนาไปเป็นคนรักหรือยัง?

“มีค่ะ เหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า อ่อนกว่าแพท 8 ปี เขาเพิ่งอายุ 20 ปี แต่เราเป็นเพื่อนกันมากกว่าระบุสถานะ เขาไม่ได้เด็กเหมือนอายุ ยังไม่ใช่แฟน เราเป็นเพื่อนกันไปก่อนดีกว่า ไม่อยากผูกมัด เราไม่สามารถแบ่งเวลาให้ความรักได้มากเท่าการดูแลแม่และทำงาน ไม่รู้คนเป็นแฟนจะเข้าใจมั้ย ซึ่งคนที่คุยตอนนี้ก็ไม่เรียกร้องอะไรค่ะ”

เรื่องแต่งงานมีคิดบ้างมั้ย?

“คงไม่คิดแล้วค่ะบอกกับที่บ้านแล้ว ตอนแรกคิดว่าการแต่งงานคืออยากเจอใครสักคนที่เวลาเราล้มก็ช่วยได้ แต่พอคบมาก็ไม่เห็นมีใครสามารถเป็นแบบนั้น เลยคุยกับพี่สาว น้องสาวว่าไม่หวัง แต่ถ้าเจอคนที่ใช่ก็อาจจะแต่งเลย แต่ตอนนี้คงยาวไม่คิด อยู่กันไปแบบนี้ดูแลกันเองแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ หน่อยที่เค้าคอยให้กำลังใจและติดตามผลงานเรามาตลอด?

“ขอบคุณมากค่ะ อ่านไอจี ในไลน์แล้วมีแต่กำลังใจส่งมาให้กัน รู้สึกดีจังเลยมีคนให้กำลังใจเยอะไปหมด ทำให้เรามีพลัง มีคนรักเราเยอะเหมือนกัน แพทอยากเป็นกำลังใจให้คนที่มีคนที่ต้องดูแลแบบแพท แพทเข้าใจการเป็นหัวหน้าครอบครัวมันเหนื่อยมาก อยากให้คิดว่าสิ่งที่เราทำคือดีและถูกต้อง อย่าไปท้อถอย เรามีความสุขในสิ่งที่ทำก็พอแล้ว คนที่แย่และเหนื่อยกว่าเรามีตั้งเยอะสู้กันต่อไปและติดตามผลงานและให้กำลังใจเราต่อไปด้วยนะคะ”

หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะได้ข้อคิดหลายอย่างจากชีวิตของ “แพท-ณปภา” คอยสนับสนุน ให้กำลังใจแพทด้วยการติดตามทุก ๆ ผลงานต่อไปด้วยนะจ๊ะ...