Inside Dara
"ก้อย รัชวิน" รักที่ลงตัว "พี่ตูน" ไม่ค่อยแสดงออก แต่เข้าใจความรู้สึกกันและกัน

มีโมเมนต์หวานๆ ให้แฟนคลับได้ชื่นใจอยู่ตลอด สำหรับคู่รักคู่บุญ ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ และ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคลิปวีดีโอที่ฝ่ายหญิงนำมาโพสต์ลงบนอินสตาแกรม ขณะนำช่อดอกทานตะวันช่อใหญ่ไปมอบให้กับหวานใจก่อนขึ้นเวทีคอนเสิร์ต จนคนโสดอิจฉาตาร้อนกันทั่วทั้งประเทศ

ล่าสุดบรรดาสื่อได้มีโอกาสเจอกับ ก้อย รัชวิน ในงาน Umay+ Money Fitness จึงต้องขอเข้าไปสอบถามความรู้สึกของเจ้าตัวถึงโมเมนต์หวานดังกล่าว รวมถึงอัปเดตความพร้อมสำหรับโปรเจคต์ใหญ่ที่งานโตเกียวมาราธอนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งสาวก้อยได้เล่าให้เราฟังว่า

คลิปวีดีโอที่เราเอาดอกไม้ไปเซอร์ไพรส์พี่ตูนทำเอาหลายคนฟินมาก ?

"ในฐานะที่เราเห็นเขาซ้อมตลอดหลายเดือนก็รู้สึกดีใจแทนเขาค่ะ มันเป็นภาพที่น่าประทับใจ เป็นคอนเสิร์ตที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดคอนเสิร์ตหนึ่งในเมืองไทย ที่ก้อยเคยดูคอนมาเลยค่ะ (ยิ้ม) สำหรับดอกไม้ที่นำไปมอบให้เขา จริงๆ โดยปกติเวลาเขามีคอนเสิร์ตใหญ่ ก้อยก็จะให้ดอกไม้เขาอยู่แล้ว ซึ่งดอกทานตะวันที่ก้อยมอบให้ มันสื่อถึงพลังงานดีๆ ที่ก้อยอยากให้กับเขาค่ะ มีทั้งหมด 17 ดอก หมายถึง 17 ปี บอดี้สแลม"

"ส่วนแคปชั่นที่เขียนแซวว่าเขาทำหน้านิ่งๆ ตอนรับดอกไม้ อันนั้นก็คือเขาจะทำหน้านิ่งๆ ตลอด ทั้งหน้าดีใจ หน้าเสียใจ เขาไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา แต่เขาก็คงดีใจบ้างแหละเนอะ (หัวเราะ) ถามว่าก้อยชิ้นไหม ชินมากๆ ค่ะ (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องตลกไปแล้ว ซึ่งจังหวะนั้นเราเข้าไปด้วยความคาดหวังว่าเขาจะต้องดีใจไง แต่เขาก็จะแบบ เอ่อ...มีดอกไม้ด้วย คือมันเป็นอะไรที่ปกติมากๆ สำหรับเรา"

ถึงเขาไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่ก็เห็นว่าเขากอดเราเบาๆ ?

"ใช่ค่ะ อย่างที่บอกเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออก แต่ว่าเราเข้าใจกัน เรารู้กันว่าต่างคนต่างรู้สึกยังไง แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องเยอะมาก"

เห็นว่ามีแพลนจะไปวิ่งด้วยกันที่ต่างประเทศ ?

"ใช่ค่ะ ไปวิ่งที่งานโตเกียวมาราธอน เดี๋ยวก็จะต้องเดินทางแล้ว เพราะวิ่งวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ ถามว่าพร้อมขนาดไหน จริงๆ ก็เตรียมตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วนะคะ ทั้งซ้อมวิ่ง ลงรายการวิ่งมาเรื่อยๆ และก็เข้าคอร์สเทรนหนักๆ อีกสามเดือน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังความตื่นเต้นอยู่ดี เพราะเราดันประกาศลงอินสตาแกรมว่า 'จะวิ่งให้ได้ภายใน 4 ชั่วโมง' มันก็เลยกลายเป็นความกดดันของตัวเองว่าจะทำได้ไหม เพราะปกติถ้ามีเป้าหมาย จะไม่ค่อยบอกใครแต่จะเก็บไว้ในใจมากกว่า"

จากการซ้อมที่ผ่านๆ มา เราคิดว่าสามารถได้ตามที่คาดหวังไหม ?

“ไม่รู้เลยจริงๆ ค่ะ เพราะเวลาลงไปอยู่ในสนามมันจะมีปัจจัยหลายอย่างมากๆ มันก็เลยไม่สามารถบอกได้ว่าจะทำได้ไหม แต่ถ้าเราเตรียมตัวมาดี ก็จะไม่กังวล คือทำได้หรือไม่ได้ มันก็อีกเรื่อง ต้องไปวัดกันในสนาม ส่วนร่างกายและจิตใจคิดว่าตัวเองค่อนข้างพร้อมค่ะ"