Inside Dara
‘สายไหมมณีรัตน์’นักแสดงคลื่นลูกใหม่

สายไหม มณีรัตน์” นักแสดงสาวหน้าใหม่ ที่ต้องยอมรับว่าน่าจับตามองอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเธอมีงานละคร 2 เรื่อง ที่ต้องจับตามอง “หัวใจปฐพี” ละครน้ำดีที่ตอนนี้กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง 3 และละครฟอร์มยักษ์ของทีวีซีน อีกเรื่องคือ “ข้าบดินทร์” ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ สายไหม ได้รับบทที่เรียกว่าโดดเด่นพอสมควร เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักเธอกันให้มากกันดีกว่า ซึ่งตอนนี้ สายไหม พร้อมอยู่แล้วที่จะมาพูดคุยกับเรา

สายไหมเข้าวงการมากี่ปีแล้ว และเข้ามาได้ยังไง ?

“เข้าวงการมา 2 ปีแล้วค่ะ คือจริง ๆ ไม่ได้อยากจะเข้าวงการ หรือว่ามีความฝันอยากจะเป็นดาราเลย เพราะสายไหมสอบเข้านิเทศฯ จุฬาฯ ก็เลือกเรียนทางสายการตลาด สายโฆษณา อยากทำเบื้องหลัง แต่บังเอิญว่ามีโอกาสได้ไปแคสโฆษณานมตราหมี แล้วก็ได้ไปเล่นกับพี่แอน ทองประสม พี่แอนก็เลยพาไปที่ช่อง 3 แต่ก่อนหน้านั้นที่บ้านรู้จักกับพี่ติ๊ก-กัญญารัตน์ พี่ติ๊ก ก็ชวนไปร่วมงานในรายการเซย์ไฮอยู่บ้างค่ะ แต่พี่แอนนี่เป็นเจ๊ดันตัวจริง ที่พาไปช่อง 3 แล้วเซ็นสัญญาเลยค่ะสำหรับการเข้าวงการจริง ๆ พ่อแม่ ไม่ค่อยจะสนับสนุนเรื่องเข้าวงการสักเท่าไร เพราะเขาไม่ชอบวงการบันเทิง เขาจะดูข่าวค่อนข้างเยอะ แต่พอดีคุณแม่เป็นแฟนคลับพี่แอน พี่แอนก็คุยให้ แม่ก็เปิดใจในระดับหนึ่ง ก็อนุญาตให้มาเซ็นที่ช่อง 3 ค่ะ”

เข้ามาปุ๊บ ข่าวว่าได้ลงละคร 2 เรื่องเลย ?

“ค่ะ ตรงนี้ผู้ใหญ่ให้โอกาส ต้องขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ แล้วละครที่ได้ลงก็เป็นละครน้ำดีหมดเลย คือ ข้าบดินทร์ กับ หัวใจปฐพี แต่ว่า ข้าบดินทร์ เปิดกล้องก่อน แล้วครั้งแรกที่เข้ากองถ่ายตื่นเต้นมาก เพราะไม่รู้อะไรเลย วันแรกก็เจอไป 10 ฉาก พีเรียด ยากมากจริง ๆ รวมทั้งภาษาด้วย แล้วพอได้มาเจอพี่ ๆ นักแสดงทั้งหมด เราก็แบบเกร็งมาก เพราะว่าทุกคนเป็นระดับแถวหน้าหมดเลย แล้วพอมา หัวใจปฐพี อีกก็เจอแต่คนเก่ง ๆ สายไหมก็ถือว่าตัวเองเป็นคนที่โอกาสดีมากที่ทางช่องให้โอกาส และทางอาปิ่น (ณัฐนันท์ ฉวีวงษ์ ) เชื่อที่จะให้เราเล่นทั้ง 2 เรื่องเลย ตรงนี้ก็ต้องกราบขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ แรก ๆ แอบกดดันมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าต้องมองกล้องตรงไหน มองยังไง จบตรงไหน คือทำการบ้านหนักมาก ทั้ง 2 เรื่องเลยค่ะ แต่ก็ผ่านมาได้ เพราะว่ามีโค้ชแอ๊คติ้ง คือพี่เต๋า- สโรชา มาเป็นโค้ชแอ๊คติ้งให้ ต้องขอบคุณพี่เต๋ามาก ๆ เลยค่ะ”

ตอนนี้หัวใจปฐพี ออกอากาศแล้วได้ดูตัวเองบ้างมั้ย ?

“เอาจริง ๆ ไหมอายมากไม่กล้าดูตัวเอง จะเขินมาก ถ้าจะต้องมานั่งดูพร้อม ๆ กับคนอื่น ๆ คือเพื่อน ๆ หรือว่าที่บ้านจะแซว ๆ เพราะว่าตัวละครที่เล่นไม่เหมือนตัวจริงไหมเลย แต่ไหมจะแอบมานั่งดูคนเดียว”

แล้วตัวจริงไหมเป็นคนยังไง ?

“ในละคร ตัวละครที่เล่นจะออกหวาน ๆ นิดหนึ่ง แต่ตัวจริงไหมจะห้าว ๆ หน่อย อย่างไปเที่ยวจะเที่ยวแบบผจญภัย ไม่ชอบเที่ยวแบบหรูหรา อย่างล่าสุดที่ไปมาคือไปอินโดนีเซีย ไปปีนภูเขาไฟ สนุกมาก ไหมชอบเป็นคนค้นหาอะไรใหม่ ๆ ชอบอะไรที่แปลกตา แม้กระทั่งของกิน ก็ลองกินได้หมด ชอบที่จะลองอะไรใหม่ ๆ ทุกอย่างค่ะ เลยรู้ตัวค่ะว่าตัวเองไม่ใช่คนหวานเท่าไร”

ละครออกอากาศแล้ว ที่บ้านว่าไงบ้าง ?

“คุณแม่ก็ดูนะคะ แต่ที่บ้านไหมจะเป็นแบบไม่ค่อยจะอะไรมาก เขาจะไม่แสดงออก แต่แอบดู เราก็รู้ว่าเขาจะไปเห่อกับเพื่อน ๆ เขา แต่ต่อหน้าเราเขาก็จะสอนว่าการวางตัว การเดิน การยิ้ม เขาอยากให้ออกมาดี แต่คุณแม่ก็จะมีแบบหวง เวลาที่เป็นฉากเลิฟซีน เขาก็แบบทำไมจะต้องมีบทที่ใกล้กันขนาดนั้นด้วย ไหมก็จะแบบแกล้งแม่ อย่างนี้พอจะจิ้น กันได้ไหมแม่ เขาก็บอกก็พอได้ แต่ทำไมต้องใกล้กันขนาดนั้น แม่ก็หวงลูกสาวแม่นะ ตามสไตล์คุณแม่นั่นแหละค่ะ”

แล้วมีหนุ่ม ๆ บ้างไหมล่ะ ตอนนี้ ?

“ตอนนี้ไม่มีเลยค่ะ แต่ก่อนหน้านี้ก็มีแบบคุย ๆ กันบ้าง แต่ตอนนี้เขาหายไปแล้ว คือเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน คือไหมจะเป็นคนที่แบบถ้าจะคบกับใครก็จะเริ่มจากความเป็นเพื่อนก่อน แล้วค่อยพัฒนากันไป”

เป็นผู้หญิงเจ้าชู้มั้ย ?

“ไม่ค่ะ คบทีละคน เพราะว่าด้วยความที่เราเป็นคนสนุกสนาน ห้าว ๆ เราก็จะคบกับเพื่อนได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย”

เคยใช้คำว่าแฟนกับใครแล้วบ้างยัง ?

“เอาจริง ๆ เลยนะคะ ไม่เคยมีใครมาขอเป็นแฟนเลย ส่วนมากจะเป็นแบบคุย ๆ กันแล้วก็คบเป็นเพื่อนกัน แบบงง มึน ๆ คือความสัมพันธ์ไม่แน่ชัด แล้วก็หาย ๆ กันไป แต่เอาเข้าจริง ๆ ไหมเป็นคนไม่ซีเรียสเรื่องความรัก คือเฉย ๆ เพราะไหมอาจจะมีความสุขในการทำงานหรือว่าเที่ยวของไหมมากกว่า แต่ถ้าจะเข้ามาก็อาจจะเข้ามาเติมเต็ม แต่ถ้าจะมีความรักแล้ว ไหมก็จะไม่ให้อะไรในชีวิตของไหมหายไปนะ คือบางคนเขาพอมีความรักแล้ว บางอย่างในชีวิตหายไป แต่ไหมไม่นะ”

เคยมีความฝันหรือว่าวางแพลนเรื่องแต่งงานไว้บ้างมั้ย ?

“ไม่มีเลยค่ะ ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย แต่จะเป็นแบบถ้าทำอะไรก็จะมุ่งมั่นทำอย่างนั้นอย่างเดียว แต่ไม่ได้มีเรื่องแพลน แต่งงานมีลูกไม่เคยคิดเลยค่ะ”

งั้นขอถามสเปกผู้ชายหน่อย ไหมชอบแนวไหน ?

“ชอบสูง ๆ ดูดี ไม่ได้ชอบหล่อเป๊ะ ชอบเซอร์นิดหนึ่ง ชอบตี๋ แต่ต้องเป็นคนไทย ต้องพูดภาษาไทยได้นะ คือไม่ชอบฝรั่ง เพราะว่าเราเป็นคนตลก เลยชอบคนที่ตลกเหมือนกัน แล้วถ้าเวลาที่เรายิงมุกกัน ถ้าเป็นคนไทย หรือว่าคนที่พูดภาษาไทยได้ ก็จะขำกับเรา แต่ถ้าเป็นฝรั่ง หรือว่าคนที่ไม่เข้าใจภาษาไทย มันก็จะไม่ขำ ไม่สนุก เลยคิดว่าถ้าจะมีแฟนสักคนก็ขอคนที่พูดจาภาษาเดียวกันดีกว่า คุยกันรู้เรื่อง เล่นมุกตลก ๆ ขำ ๆ กันได้ คือถ้าเป็นเอเชีย เหมือนกันโอเคนะคะ แต่ว่าเขาต้องมาเรียนภาษาไทย เราจะได้คุยกันรู้เรื่อง หัวเราะกันได้”

พอเข้ามาวงการบันเทิงเต็มตัวแล้ว เป็นยังไง ?

“ไหมยังไม่ได้เข้าถึงจุดที่พี่เขาเจอกันนะคะ เพราะว่าเรายังใหม่มาก ๆ แต่ว่าตอนนี้พอละครออกอากาศแล้ว ก็เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น แต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่กับงานที่เข้ามา และรู้สึกดีมาก ๆ เวลาที่มีคนเข้ามาบอกว่าชอบงานของเรา”

แล้วชอบไหมเวลาที่มีคนมาทักทายเยอะ ๆ ?

“คือโดยส่วนตัว ไหมเองเป็นคนที่ไม่ได้รักสันโดษอะไรมาก แต่ก็ติสต์บ้างบางที แต่ไม่มีปัญหากับการอยู่กับคนมาก ๆ เพราะว่าตอนเด็กไหมอยู่โรงเรียนประจำ และที่บ้านก็เป็นครอบครัวใหญ่ ญาติ ๆ ก็อยู่บ้านติดกัน ไหมออกแนวมีเหงาด้วยซ้ำเวลาที่ไม่มีใคร ถ้ามีคนเยอะ ๆ จะแฮปปี้ชอบ”

แพลนงานในวงการไว้ยังไง ?

“อยากจะเหมือนพี่แอน พี่แอนเขาเป็นผู้จัดในดวงใจคนหนึ่งเลยนะ เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก ๆ เวลาที่พี่เขาทำงานทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ก็อยากจะเอาพี่แอนเป็นตัวอย่าง แต่ไหมก็จะมีเรื่องเรียนต่อเข้ามาด้วย ก็อยากจะเรียนการตลาดต่อ เพราะว่าไหมชอบ ชอบทางนี้จริง ๆ คือนั่งดูโฆษณาตั้งแต่เด็กแล้วนะ คือรู้สึกว่ามันเท่ดี คือเราจะทำยังไงที่จะสื่อสารกับคนดูให้รู้เรื่องภายใน 15 วินาที ไหมเตรียมตัวมาตั้งนานว่าจะเรียนทางนี้ ทุ่มเทกับมันมาเยอะ 7-8 ปี ซึ่งพอโอกาสในวงการบันเทิงเข้ามาก็น่าที่จะรับไว้ แต่กับงานที่เราอยากจะทำและทุ่มเทมาก็จะไม่ทิ้ง เพราะว่าอยากจะทำงาน 2 อย่าง มีคนบอกว่าวงการบันเทิงมีขึ้นมีลง ไม่มีอะไรแน่นอน มีคลื่นลูกใหม่เกิดขึ้นมาตลอดเวลา ไหมเองก็เป็นคนใหม่ แต่วันหนึ่งไหมก็จะเป็นคนเก่า คือตอนนี้คิดเผื่ออนาคตเอาไว้แล้วค่ะ อีกอย่างเราเองก็ไม่ได้หน้าสวย หน้าเป๊ะ ที่จะเป็นนางเอกได้ตลอดกาล ก็ต้องวางแผนดี ๆ กับอนาคตในวงการนี้ ”

เป็นคนคิดเยอะเหมือนกันนะ ?

“ค่ะ เป็นคนคิดเยอะในเรื่องอนาคต แต่ก็เป็นคนปล่อยวางได้เหมือนกัน เพราะถ้าเรื่องไหนที่รู้สึกว่า ไม่รู้จะคิดไปทำไม แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยวางเลยค่ะ ไม่เก็บมาคิด แต่ถ้าเรื่องไหนที่ซีเรียส จริงจังอย่างเรื่องอนาคตของเรา ก็จะคิดเผื่อไว้เลย”

สวยใส ไม่ไร้อนาคต ต้องจับตาเธอกันให้ดี กับอนาคตในวงการบันเทิง ซึ่งเราเชื่อแน่ว่า เธอคนนี้มีอนาคตที่สดใส เป็นดาวดวงใหม่ที่สุกสดใสอีกดวงแน่นอน.