Inside Dara
“มาช่า” โต้เกรดตกถูกลดค่าตัวเล่นหนัง ย้อนขาเม้าท์รู้ได้ยังไง

“มาช่า” โต้เกรดตกถูกลดค่าตัวเล่นหนังผี ยันได้เรทปกติ ก่อนย้อนขาเม้าท์รู้ได้ยังไง ส่วนกรณีไปเซอร์ไพร์ส “กฤษณ์” ในรายการแค่การทำงานไม่ได้จะรีเทิร์น เจ้าตัวบอกเฉยๆ ผลงาน “กาย” ไม่เปรี้ยง ปลอบเป็นเรื่องปกติที่ต้องใช้เวลา

หลังๆ ผลงานไม่ค่อยได้กระแสสักเท่าไหร่ ทำให้ม่ายยังสาว “มาช่า วัฒนพานิช” ถูกเม้าท์ว่ากระแสตก ล่าสุดเจ้าตัวรับเล่นภาพยนตร์ 3 มิติ “407 เที่ยวบินผี” ก็ถูกเม้าท์ว่าค่าตัวในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้ถูกปรับราคาต่ำกว่าเรทค่าจ้างเดิมที่เคยได้ โดนเม้าท์เรื่องระคายหูขนาดนี้ ทำเอาเจ้าตัวย้อนกลับขาเม้าท์นิ่มๆ ว่าไปรู้มาได้ยังไงเลยทีเดียว

“ค่าตัวปกติค่ะ ช่าเล่นอะไรก็เป็นเรทปกติที่ช่าเล่นค่ะ แต่ช่าว่าก็น่าจะส่วนตัวนิดนึงนะ แต่ไม่ได้มีอะไรผิดปกติหรือลดลงอะไรมากมาย เป็นเรทที่เป็นของเรา อยู่มาขนาดนี้ไม่ซีเรียสแล้วค่ะ ก็แค่อยากถามกลับว่าไปรู้มาได้ยังไง สร้างกระแสเหรอ”

เผยสัมพันธ์หลังหวนมาเจอหนุ่ม “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” ในรายการ “ล้วงลับตับแตกโชว์” ที่หลายคนจับตามองว่าเข้ากันได้ดีนั้น เจ้าตัวบอกไม่มีอะไรพิเศษ ตนสามารถร่วมงานกันได้ไม่มีปัญหา


“มันไม่มีอะไรเลยค่ะ ก็ไปถ่ายรายการธรรมดา ก็ดีค่ะ ไม่มีอะไรนะคะ ตอนนี้อย่างที่บอก ช่าอยู่อย่างนี้ก็โอเคแล้ว พยายามทำงานทำอะไรให้ดีที่สุด เพราะว่าอยากจะบอกว่าแต่ละชิ้นงานที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ยากขึ้นทุกวันค่ะ แล้วโดยเศรษฐกิจของประเทศเราเพิ่งผ่านเรื่องต่างๆ มา ช่าก็อยากให้ทุกคนมีความสุข เวลาทำอะไรแต่ละอย่างก็เต็มที่ แค่นี้ก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ ตอนนี้โนบอดี้ค่ะ อย่าไปเครียดกับเรื่องที่แล้วไปแล้วเลยค่ะ เรื่องที่แล้วไปแล้วก็แล้วไป มันไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้ช่ามองไปแต่ข้างหน้าว่าเราจะทำอะไรต่อไป เพราะโลกนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่มีอะไรที่แน่นอนค่ะ”

เมื่อถามถึงกระแสผลงานลูกชาย “กาย นวพล ลำพูน” ที่เล่นละครเรื่องแรกให้กับช่อง7 แต่กลับไม่ค่อยดังเท่าที่ควร เจ้าตัวเผยเป็นเรื่องธรรมดา ตนก็ใช้เวลาในวงการเป็นสิบๆ ปีกว่าจะมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้


“ก็เป็นเรื่องธรรมดานะคะ ตอนช่าเล่นหนังเรื่องแรกในชีวิตก็ไม่ได้บูมอะไรมาก ก็คงต้องใช้เวลาค่ะ อยู่ที่ว่าต่อไปจะเจอเรื่องอะไร จะเป็นยังไงค่ะ ช่าเฉยๆ เพราะว่าของพวกนี้มันต้องใช้เวลา อย่างอัลบั้มกว่าช่าจะมีอัลบั้มที่ดังๆ ก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆ อัลบั้มเหมือนกัน”

“ที่ผ่านมาก็ทำงานเยอะขึ้นเลยมีเวลาเจอกันน้อยลงบ้าง ก็เอาเป็นว่าไม่ต้องซีเรียส ขอบคุณทุกคนมาก อะไรที่แล้วไปแล้วช่าว่าก็ให้เป็นแบบสบายๆ จบๆ ไป อย่าไปบีบคั้นชีวิตมันมากเลยเพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอนหรอก เราต้องเดินทางกันอีกเยอะ ทุกคนต้องเดินทางต่อไป เราอยู่ประเทศไทยเหมือนกันก็สนับสนุนกัน มองในสิ่งดีๆ ช่วยกันดีกว่า อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ”


สาวลูกครึ่งหัวใจไทย "น้องวัล" มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2012

กวาดรางวัลไปแทบจะครบทุกคุณสมบัตินางงาม ทั้งสวย หุ่นดี มีจิตอาสา และ สง่างามขณะเดินแบบ "มิสไทยแลนด์เวิลด์" คนล่าสุด น้องวัล น.ส.วัลเณซ่า เมืองโคตร หรืออีกหนึ่งชื่อเล่น น้องณฉัตร สาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 2 มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ขณะที่รองอันดับ 1 ได้แก่ น้องป๊อปปี้ น.ส.บุญยิสา จันทราราชัย นักศึกษาปี 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รองอันดับ 2 น้องเกรซ น.ส.ชวัลลักษณ์ อังเกอร์ โมกศิริ จบมัธยมศึกษาตอนปลาย International Bangkok School โดยมี น้องอูลี่ น.ส.อาทิติยา ฟอนซูร์มูห์เล็น นักเรียนชั้นมัธยมปลาย โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ คว้ารางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน

ไม่เพียงแต่จะสูง สวยสง่า งามระหง จนคว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2555 ไปครอง น้องวัล วัลเณซ่า ยังพ่วงด้วยรางวัลนางงามรูปร่างดี นางงามที่อุทิศตนเพื่อสังคม และนางงามที่มีทักษะด้านการเดินแบบ

แถมยังเรียกเสียงปรบมือท่วมท้นจากคำตอบที่ชนะใจกรรมการจากคำถามที่ว่า ถ้าคุณมีโอกาสเป็นครูสอนเด็กป.1 จะเลือกสอนวิชาอะไรด้วยเหตุผลอะไร


"วิชาพุทธศาสนาค่ะ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นต่อทุกคน และควรปลูกฝังตั้งแต่อายุยังน้อย ศาสนาพุทธสอนให้คนถือศีล 5 ซึ่งเป็นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน ดิฉันเองก็ถือศีล 5 ด้วยค่ะ" เป็นคำตอบจากน้องวัลเณซ่าก่อนคว้ามงกุฎและรางวัลรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

คนที่ดีใจสุดๆ ไม่น้อยไปกว่าเจ้าตัวเห็นจะเป็นคุณแม่ ปัทมาวดี เมืองโคตล

"ดีใจมาก อยากบอกลูกสาวว่าภูมิใจในตัวลูกมาก คาดหวังไว้เหมือนกันเพราะลูกสาวชอบแต่งตัวตั้งแต่เด็ก ชอบทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เป็นไทย

ได้ให้กำลังใจ บอกให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง คิดสร้างสรรค์ด้วยตัวเอง ศึกษาจากรุ่นพี่ น้องวัลยังชอบกินเจทุกวันพระด้วย นิสัยส่วนตัวเป็นคนขี้สงสารคนอื่น จิตใจดี ชอบการประกวดนางงามจึงได้สนับสนุนมาตลอด


หากจะเข้าวงการบันเทิงก็คงตามใจ ถ้าสิ่งไหนที่น้องคิดว่าดีก็อยากให้ทำ ก่อนมาประกวดน้องวัลค่อนข้างกังวลเรื่องการใส่ชุดทูพีซ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าร่วมประกวดจนกระทั่งได้ตำแหน่ง คุณแม่ปัทมาวดีกล่าวถึงลูกสาวคนสวย

ก่อนแย้มให้ฟังด้วยว่า สาววัลเณซ่าคนนี้ชอบกินอาหาร รสจัด โดยมีอาหารโปรดเป็นส้มตำปูปลาร้า

ทันทีที่ลงจากเวที น้องวัลเณซ่า มิสไทยแลนด์เวิลด์ ตรงเข้าไปหาคุณแม่ปัทมาวดีพร้อมก้มลงกราบที่ตัก ก่อนที่คุณแม่และคุณลูกจะหอมแก้มกันด้วยความดีใจกับค่ำคืนแห่งความสุขนี้

"ดีใจมากๆ ค่ะ ดีใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำไป ความพยายามของวัลได้ผลจริงๆ วินาทีที่ประกาศตำแหน่งเหมือนฝันว่าใช่หรือไม่ เงินรางวัลที่ได้ส่วนหนึ่งจะเอาไปเรียนต่อ มอบให้คุณแม่ และบริจาคให้ศูนย์เด็กเล็กค่ะ" น้องวัลเผยความรู้สึกแรกหลังลงจากเวทีพร้อมมงกุฎ

ก่อนจะกล่าวต่อว่า "สิ่งที่คิดว่าชนะใจกรรม การคือความตั้งใจและความเป็นตัวของตัวเอง ในการมาประกวดครั้งนี้ตัดสินใจอยู่นานเพราะกังวลเรื่องการสวมใส่ชุดบิกินี แต่คิดว่าโอกาส มีครั้งเดียวจึงกล้าที่จะทำโอกาสนี้ ที่ผ่านมาได้ไปไหว้พระขอพรที่วัดฉลอง จ.ภูเก็ต ที่จ.พระนคร ศรีอยุธยา และเพชรบุรีค่ะ"

เส้นทางการก้าวเข้าสู่เวทีนางงาม น้องวัล เผยว่าเริ่มจากเวทีไทยซูเปอร์โมเดลปี 2008 ซึ่งยังไม่ได้รับรางวัล จึงกลับมาพัฒนาตัวเองและกลับเข้าเวทีประกวดอีกครั้งในปี 2011 ติด 1 ใน 10 ไทยซูเปอร์โมเดล

"การประกวดครั้งล่าสุดนี้มีคุณแม่เป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือในการประกวดมาตลอดค่ะ"

ผ่านทั้งเวทีประกวดนางแบบและนางงามอย่างนี้ชอบอย่างไหนมากกว่ากัน

"วัลว่านางแบบและนางงามแตกต่างกันนะคะ นางงามต้องสวยและมีไหวพริบ ส่วนนางแบบต้องมีความมั่นใจ ซึ่งวัลเป็นได้ทั้ง 2 แบบค่ะ"

ตอบอย่างนี้ถ้าอยู่บนเวทีคงเรียกเสียงปรบมือเกรียวกราว

น้องวัลเผยด้วยว่าเธอฝันอยากเป็นนางแบบ แต่ความตั้งใจจริงแต่แรกคืออยากเปิดร้านอาหารไทย

"เพราะวัลเป็นคนชอบทำอาหารไทย เช่น แกงส้ม น้ำพริกกะปิ แกงเขียวหวาน อาหารโปรดคือน้ำพริกกะปิ และส้มตำปลาร้ารสจัดค่ะ"

ความทรงจำที่น้องวัลมีต่อคุณพ่อซึ่งจากไปเมื่อเธออายุเพียง 6 ขวบ เธอเล่าว่า "คุณพ่อเป็นคนขยันชอบอ่านหนังสือมาก มีคนบอกว่าคุณพ่อเป็นคนฉลาด ที่บ้านก็ยังมีห้องอ่านหนังสือด้วย วัลเองก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนคุณพ่อ ทั้งหนังสือนิทาน นิยาย และธรรมะ

หลังจากนี้จะสร้างความมั่นใจในการประกวดมิสเวิลด์ให้มากๆ เพราะการแข่งขันค่อนข้างสูง ส่วนเรื่องเรียนจะใช้วิธีอ่านหนังสือที่บ้านแล้วไปสอบค่ะ"

สาวสวยใบหน้าลูกครึ่งคนนี้เผยด้วยว่าชอบรำไทยและศิลปะไทย ทุกอย่าง ชอบลวดลายของไทยซึ่งเป็นสิ่งที่วิเศษมาก

และสิ่งที่จะนำไปประกวดมิสเวิลด์ที่มองโกเลียคือความเป็นไทย โดยเฉพาะนิสัยของคนไทยที่รักกัน และการแสดงพื้นเมือง รวมถึงชุดไทยที่มีเอกลักษณ์

"วัลมั่นใจว่าจะทำให้คนไทยมีรอยยิ้มและได้รางวัลกลับมา แม้หน้าของวัลจะเป็นลูกครึ่ง แต่ใจของวัลมีความเป็นไทยค่ะ"

“ชมพู่-พลอย” เดือด แย่งซีนแข่งกันเลิศคาแคทวอล์ค

"พลอย เฌอมาลย์" กับ "ชมพู่ อารยา" สองซูเปอร์สตาร์คนดัง เดินแบบประชันกันในงานเปิดคอลเลคชั่น F&F งานนี้ก็เลยเกิดการแย่งซีนกันบนเวที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พลอยเดินแบบสะบัดผมอย่างแรง พอถึงคิวชมพู่นางก็ไม่ยอมแพ้ใช้มือสองข้างสะบัดเกทับกันไปเลย พอพลอยเดินไปเต้นไป ชมพู่ก็เต้นส่ายหน้าอกหน้าเวทีมั่ง เรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่น

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการเปิดตัวคอลเลคชั่นซัมเมอร์ 2012 ของแบรนด์ F&F โดยได้จัดงานขึ้นอย่างอลังการที่รอยัลพารากอน ออลล์ สยามพารากอน ภายในงานดีดาราและนางแบบมาร่วมเดินแฟชั่นโชว์อย่างมากมาย แต่ที่เป็นไฮไลท์ของงานเห็นจะเป็นการปะทะกันระหว่างซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “ชมพู่ อารยา เอฮาร์เก็ต” กับ “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” สองสาวถือว่ามีดีกรีความดังกินกันไม่ลง ด้านชมพู่ก็โด่งดังสุดๆ ในบทเรยา และกำลังมาแรงในช่อง 3 เรียกว่ากำลังจะขึ้นแท่นนางเอกเบอร์ 1 ของช่องทั้งที่พึ่งจะย้ายมาสังกัดช่อง 3 ได้ไม่นาน ด้านพลอยก็ครองใจผู้ชมมานานผลงานละครแต่ละเรื่องที่ออกมาก็ล้วนได้รับความนิยม เมื่อสองคนดังมาประชันกันงานนี้ก็เวทีแตกสิค้า

โดยพลอยกับชมพู่เดินแบบเป็นเซ็ทสุดท้าย ทั้งคู่ปรากฏตัวเดินแบบออกมาพร้อมกันเล่นเอาช่างภาพปวดหัวเพราะไม่รู้จะจับภาพไปที่ใครดี วันนี้พลอยอยู่ในชุดสีดำ ชมพู่อยู่ในชุดสีขาว ในการเดินแบบรอบแรกทั้งคู่ก็มาในมาดเข้มเดินจิกสุดฤทธิ์ตามสไตล์นางแบบ ก่อนจะมาโพสต์ท่าตรงหน้าทีเวทีและเดินกลับไปพร้อมกัน จากนั้นพลอยก็เดินฉายเดี่ยวกลับมาอีกรอบและมาหยุดโพสต์ที่หน้าเวทีพร้อมกับสะบัดผมสุดแรง และไปหยุดรอชมพู่กลางเวที ต่อไปก็เป็นคิวของชมพู่เดินโชว์ความสวยแบบคนเดียวบ้าง และพอมาถึงหน้าเวทีชมพู่ก็หยุดโพสต์และใช้มือทั้งสองข้างสะบัดผมอย่างแรงเช่นกันเกทับเลยว่างั้น เรียกเสียงกรี๊ดไปทั่ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นการเขียนสคริปท์ให้จงใจทำเหมือนกัน จนเหมือนการแข่งกันแย่งซีนหรือไม่

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินกลับไปหลังเวทีพร้อมกัน ก่อนจะเดินออกมาอีกครั้งพร้อมกับเหล่ากองทัพนายแบบนางแบบ โดยพลอยเป็นคนเดินนำขบวนตามมาด้วยชมพู่และเหล่านายแบบนางแบบ ซึ่งวันนี้พลอยดูคึกคักอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เดินแบบไปเต้นไปโยกตัวไปตามจังหวะ ด้านชมพู่ก็โบกไม้โบกมือไม่น้อยหน้าเช่นกันแต่ยังไม่เต้นหรือโยกไปโยกมาเหมือนพลอย แต่พอถึงหน้าเวทีในจุดที่ต้องโพสต์ท่าปรากฏชมพู่ก็เปิดฉากเต้นส่ายหน้าอกเรียกเสียงกรี๊ดดังลั่น ส่งผลให้นายแบบนางแบบคนอื่นๆ คึกคักพากันเต้นตามไปด้วย

พอเดินแบบเสร็จทุกคนก็หยุดอยู่กลางเวทีเพื่อโพสต์ท่าให้ช่างภาพถ่ายรูปกัน พลอยก็เปิดฉากเต้นรำสนุกสนาน ด้านชมพู่ก็เต้นส่ายสะโพกสู้ตายด้วยเช่นกัน ด้านนายนางแบบคนอื่นๆ ก็พากันโยกย้ายตามจังหวะ งานเดินแบบครั้งนี้จบลงแบบสนุกสนานเฮฮาท่ามกลางความสงสัยของคนดูว่า นี่คือการเขียนสคริปท์บนเวที รู้สึกอินในการเดินแบบ หรือเป็นการแข่งขันแย่งซีนกันเกิดบนเวทีกันแน่ !?

โหวตแผ่ว"สต๊อป"ตกรอบเดอะสตาร์8 "แกงส้ม-สมาย"ยืนปากเหว

ผลการโหวตประจำสัปดาห์ที่ 4 เดอะสตาร์ 8 ผู้ที่ตกรอบเป็น "สต๊อป-วริษฐา จตุรภุช" กลายอีก 1 สาวที่ไม่ได้ไปต่อ ขณะที่ "แกงส้ม-สมาย" ยืนปากเหว โดยเวลานี้เหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 5 คน และมีผู้หญิงเหลือคนเดียว... เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2555 เวทีการประกวดเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 8 ผลการโหวตคะแนนเสียงประจำสัปดาห์ที่ 4 หลังจากที่ผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้าย The Star ค้นฟ้าคว้าดาวปี 8 ประกอบ ด้วยหมายเลข 1 โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม หมายเลข 2 ฮั่น อิสริยะ ภัทรมานพ หมายเลข 4 แคน อติรุจ กิตติพัฒนะ หมายเลข 5 สต๊อป วริษฐา จตุรภุช หมายเลข 6 สมาย โสรญา ฐิตะวชิระ หมายเลข 8 แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ ต้องมาขับเคี่ยวกันในโจทย์เพลงลูกทุ่ง ที่แต่ละคนต้องร้องเพลงของเพลงของศิลปินลูกทุ่งชื่อดัง สำหรับโจทย์เพลงที่แต่ละคนได้มีดังนี้


หมายเลข 1 โดม ร้องเพลง "คิดถึงพี่ไหม" ศิลปิน ก๊อท จักรพันธ์
หมายเลข 2 ฮั่น ร้องเพลง "รักคุณยิ่งกว่าใคร" ศิลปิน ก๊อท จักรพันธ์
หมายเลข 4 แคน ร้องเพลง "อย่าปล่อยให้เธอลอยนวล" ศิลปิน ก๊อท จักรพันธ์
หมายเลข 5 สต๊อป ร้องเพลง "ดาวเรืองดาวโรย" ศิลปิน เปาวลี พรพิมล
หมายเลข 6 น้องสมาย ร้องเพลง "ตั๊กแตนผูกโบว์" ศิลปิน เปาวลี พรพิมล
หมายเลข 8 แกงส้ม ร้องเพลง "มอเตอร์ไซค์ทำหล่น" ศิลปิน ก๊อท จักรพันธ์

บรรดาผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างงัดเอาลีลาการร้อง ลูกคอ และการเต้น มาเรียกคะแนนจากผู้ชมทางบ้าน โดยหนุ่มแคนโชว์ลูกคอเหลือรับประทานทำคะแนนโหวตจาก 100 คะแนนเสียงจากผู้ชมในห้องส่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ไปถึง 43 คะแนน ฮั่น 21 คะแนน โดม 19 คะแนน แกงส้ม 9 คะแนน ขณะที่ผู้เข้าแข่งขัน 2 สาวที่เหลืออยู่ สต๊อปได้ไป 4 คะแนน และ สมาย ก็ได้ไป 4 คะแนน เช่นเดียวกัน สำหรับผู้ที่ได้ไปต่อในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แคน ฮั่น โดม ขณะที่ สต๊อป สมาย และแกงส้ม ยืนปากเหว แต่ว่า สมาย แม้ผลงานไม่ประทับใจกรรมการทั้ง 3 คน แต่คนไทยทั้งประเทศยังโหวตคะแนนให้เธอได้ไปต่อ ขณะที่สต๊อป และแกงส้มต้องยืนลุ้นระทึก และผู้ที่ได้ไปต่อคนสุดท้ายในสัปดาห์นี้ คือ แกงส้ม และคนที่ต้องตกรอบไม่ได้ไปต่อ คือ สต๊อป โดยเธอได้เลือกเพลง "พรุ่งนี้อาจไม่มีฉัน" ของ ปาล์มมี่ เป็นเพลงขอบคุณแฟนคลับ และผู้ชมในห้องส่ง ก่อนต้องอำลาเวทีเดอะสตาร์ไปในสัปดาห์นี้


ประวัติ สต๊อป เดอะสตาร์8
นางสาววริษฐา จตุรภุช (สต๊อป)
อายุ 19 ปี เกิดเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2535
สูง 161 ซม. หนัก 45 กก.เป็นชาวจังหวัดปทุมธานี
กำลังศึกษา ชั้นปีที่ 1 สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ IT มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นักแสดงที่ชอบ ณเดช คูกิมิยะ แอน ทองประสม เนย โชติกา และ ญาญ่า อุรัสญา
ศิลปินที่ชอบ เลดี้ กาก้า ปาล์มมี่ คริสติน่า อากีลาร์ บียอนเซ่
แนวเพลงที่ชอบ เพลงบัลลาด ฮิป-ฮอป และ อาร์แอนด์บี

"ต้นหอม"ปัดเกาเหลา"กาละแมร์"

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ดีเจ.สาว ′ต้นหอม′ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ให้สัมภาษณ์ในงาน "เปิดประสบการณ์ความว้าว!! กับนุ่มฮิต พิซซ่า" ที่ พิซซ่าฮัท สีลม ถึงกรณีมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับพระเอกเครางาม ′บอย′ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พร้อมโต้ข่าวเกาหลาพิธีกรปากกล้า ′กาละแมร์′พัชรศรี เบญจมาศ เหตุแย่งพระเอกหนุ่ม

โดย ′ดีเจ.ต้นหอม′ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของตนกับบอย คือ เป็นคู่หูกัน ไม่มีอะไรเกินเลย หลังจากมีข่าวได้คุยกันตลอด แต่ไม่ได้ซีเรียสกับข่าวเพราะรู้เองว่าทำอะไรอยู่ โดยธรรมชาติของคนก็เป็นไปได้ที่จะมีเพื่อนเป็นเพศตรงข้าม แต่บังเอิญเพื่อนใหม่ของตนดันเป็น′บอย-ปกรณ์′ เลยทำให้มีข่าวอยู่ 2 เดือน ทั้งที่ไปดูหนังครั้งเดียว

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าข่าวแรงถึงขั้นว่ากินกันเลย ดีเจ.สาวตอบว่า ผู้หญิงคนอื่นอาจซีเรียส แต่ตนมองเรื่องนี้ขำๆ ภาพลักษณ์ตนอาจดูแรง ส่วนเรื่องดูหนังเสร็จแล้วไปกินกันต่อบอกเลยไม่ใช่นิสัย ยังมีความเป็นหญิงไทยอยู่

ต่อข้อซักถามที่ว่าหลายคนมองเกาะกระแส ′บอย-ปกรณ์′ "ถ้าคนจะคิดแบบนั้นก็คิดได้ เพราะมีดาราที่ใช้เรื่องพวกนี้เป็นกระแสจริงๆ และยืนยันเลยว่าไม่มีครั้งไหนที่ต้นหอมต่อยอดข่าว ทำให้มันจบก็จบได้ แต่มันก็ยังสามารถเป็นข่าวได้อีก เช่นเดียวกับข่าวที่ว่าเกาหลากัลพี่กาละแมร์(พัชรศรี) เพราะแย่งบอย เป็นไปไม่ได้เลย หนึ่งคือทั้งต้นหอมและพี่แมร์ไม่มีใครเป็นแฟนบอย สองคือคนอย่างพี่แมร์หรือต้นหอมคงไม่มาแย่งผู้ชายกันแน่นอน

ส่วนตัวรู้จักพี่แมร์ ตอนแรกที่มีข่าวไม่ได้คุยเรื่องข่าวเลยเพราะรู้สึกว่าไร้สาระ แต่ข่าวมีเป็นเดือนๆ ต้นหอมก็เลยอินสตาแกรมไปหาพี่แมร์ว่าเล่นตามน้ำกันมั้ย พี่แมร์ก็ตอบกลับมาว่ารับอีเว้นต์คู่มั้ยล่ะ(หัวเราะ) หลังจากอีเว้นต์เข้าเยอะมาก ไม่ได้เข้าทางต้นหอมนะคะ แต่เข้าทางบอย-ปกรณ์ อยากให้เฉลี่ยกันบ้าง ไหนๆ ก็มีข่าวแล้วก็แบ่งๆ งานกันสิ" ′ดีเจ.ต้นหอม′ กล่าวทิ้งท้าย