Inside Dara
กอดครั้งสุดท้าย “กานต์-เสก” หย่าแล้ว! ฝ่ายหญิงร่ำไห้ กลั้นน้ำตาไม่อยู่

“กานต์-เสก” หย่าแล้ว! สิ้นสุดสถานะผัวเมียอย่างเป็นทางการ อวสานมหากาพย์คู่ชีวิตสุดฉาว เสกยินดีจ่าย 17 ล้าน ถอนฟ้องคดีความ 8 คดี ด้านฝ่ายหญิงถึงกับร่ำไห้ กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร็อกเกอร์ดังเผยไม่แต่งงานใหม่อีกแล้ว

จากกรณีที่ร็อกเกอร์ดัง “เสก โลโซ” เสกสรรค์ ศุขพิมาย และอดีตภรรยา “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” เปิดศึกน้ำลายกันมายาวนาน ทั้งการโพสต์ข้อความด่าทอในเฟซบุ๊ก รวมไปถึงการตกลงเรื่องสินสมรสที่ไม่ลงตัว ไกล่เกลี่ยล่มหลายครั้ง มีคดีความฟ้องร้องกันถึง 8 คดี ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (18 มิ.ย.) ก็ถึงเวลาสิ้นสุดสถานภาพชีวิตคู่อย่างเป็นทางการ โดยทั้งคู่ได้เดินทางไปจดทะเบียนหย่า ณ สำนักงานเขตบางเขน นักร้องดังเดินทางมาถึงเวลา 13.30 น. ในขณะที่อดีตภรรยาเดินทางมาถึงเวลา 14.15 น. เสกมีสีหน้าลั้ลลา ในขณะที่กานต์มีสีหน้าเรียบเฉย นอกจากนี้เสกได้นำเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อโลโซดีมาแจกจ่ายให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ชิมกันอีกด้วย พร้อมเซ็นเช็กจำนวน 17 ล้านบาทมามอบให้อดีตภรรยาตามข้อตกลง ต่างฝ่ายต่างถอนฟ้องคดีความทั้งหมด 8 คดี ยกเว้นคดีที่เสกฟ้อง “นายแพทย์อังกูร ภัทรากร” รองผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ เสกสามารถเจอหน้าลูกได้ทุกวันแต่พามานอนบ้านได้เดือนละ 8 วันเท่านั้น

สำหรับรายละเอียดจำนวนทรัพย์สินที่ดำเนินการหย่าครั้งนี้ ในส่วนที่เสก โลโซ มอบให้อดีตภรรยา ได้แก่ ค่าเลี้ยงดูลูก 3 คน คนละ 50,000 ต่อเดือน รวมเป็น 150,00 บาท เงินฝากให้ลูก 3 คน คนละ 100,000 บาทต่อปี คอนเสิร์ตที่ไปแสดงทุกครั้ง หักให้ลูกคนละ 7,000 บาท บ้านมูลค่า 8 ล้านบาท ค่าตกแต่ง 4 ล้านบาท ค่าเลี้ยงชีพให้กานต์ 3 ล้านบาท ค่าเลี้ยงดูลูกย้อนหลังช่วงที่แยกออกมา 2 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมด 17 ล้านบาท

โดยก่อนทั้งคู่จะเซ็นใบหย่าได้ใช้เวลาพูดคุยเจรจากันในห้องนายทะเบียนอยู่นานกว่า 2 ชม.จึงสามารถตกลงกันได้และออกมาให้สัมภาษณ์คู่กัน ซึ่งพอถูกถามถึงความรู้สึกที่ต้องหย่าขาดสิ้นสุดความเป็นผัวเมีย กานต์ถึงกับร่ำไห้ออกมาจนเสกต้องเอามือไปลูบศีรษะปลอบใจอดีตภรรยา โดยเสกเผยด้วยอาการน้ำตาซึมว่าเสียใจที่มีวันนี้ แต่ว่าจะดูแลลูกและกานต์ต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องค่าเลี้ยงดูลูก ค่าเล่าเรียน ค่าเลี้ยงดูกานต์ทุกอย่างตนพร้อมรับผิดชอบทั้งหมด บอกที่ผ่านมาไม่เคยโกรธกานต์ เพราะกานต์เป็นผู้หญิง มีแต่พวกคนใกล้ชิดที่ยุยง ดีแล้วที่หย่ากันได้เพราะจะได้ไม่ต้องมีปัญหากันต่อไป ไม่ต้องมีคนอื่นมาวุ่นวาย ส่วนกานต์บอกอย่าไปโทษคนใกล้ตัวตน มีแต่คนใกล้ตัวเสกเสกที่มีปัญหา

เสก : “วันนี้ก็เสียใจเป็นธรรมดาครับ แต่ที่น่าจะเสียใจที่สุดก็คงจะเป็นลูกของเรา สำหรับตัวผมเองก็จะดูแลพวกเขาอย่างดี เมื่อวานก็เจอกับลูก อันนี้ก็จะบอกว่าเราเองก็จะดูแล ลูกๆ เขาก็เข้าใจ เพราะมันเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันมานานแล้ว ซึ่งหย่ากันเป็นเรื่องดีแล้ว เพราะไม่งั้นก็ไปด่ากัน แล้วมีคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องจะเสียหายมากกว่านี้ นอกจากเสียหายทางด้านเรื่องกฎหมายแล้วก็อาจจะมีคนเจ็บตัวมากขึ้น เพราะเราเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน”

“ที่เข้าไปคุยกันนานเมื่อกี้ก็เพราะมีการไกล่เกลี่ยเรื่องต่างๆ ในเรื่องทรัพย์สินอื่นๆ เราก็มีการแก้ไขในเรื่องของคำบ้าง ซึ่งเราก็ตกลงกันด้วยดี เดี๋ยวก็ไปจัดการกันอีกทีหนึ่ง เราทำตามที่ศาลบอกทุกอย่าง เพราะทุกอย่างต้องอยู่ที่ศาล เรื่องฟ้องก็ถอนฟ้องกันหมดเรียบร้อยแล้ว เหลือคดีกับไอ้หมอ(หมออังกูร) ยังไม่ถอน ไอ้หมอนี่โดนผมแน่”

กานต์ : “ถามว่าเสียดาย 23 ปีที่ผ่านมาไหม ไม่เสียดาย แต่ที่เสียน้ำตาคงเพราะเครียดมั้ง แต่ถามว่าพอใจกับข้อตกลงไหม ก็ระดับหนึ่ง”

เสก : “คือผมจะบอกว่าเรื่องทุกเรื่องมันเป็นเรื่องของทางกฎหมาย แต่ถามว่าจะมีรีเทิร์นอีกไหม ไม่มีแล้ว (หัวเราะ) สองรอบแล้ว พอแล้ว คือไม่แต่งงานกับใครอีกแล้ว และเดี๋ยวผมดูแลเขาเองไม่ต้องห่วง สถานะตอนนี้ก็คือเป็นเพื่อนกัน แล้วก็ช่วยกันเลี้ยงลูก ที่เคยทะเลาะกัน ผมไม่โกรธเขาหรอก ผมโกรธไอ้พวกที่มันมาเสี้ยมเขานั่นแหละ ไอ้พวกนั้นน่ะโดนหนัก เพราะเขาเป็นผู้หญิง ไอ้พวกที่อยู่รอบข้างเขาเนี่ยสำคัญมาก”

กานต์ : “น่าเกลียด อย่าไปว่าคนรอบข้าง ไปพาดพิงทำไม คนรอบข้างตัวเองแหละคอยหาเรื่อง”

เสก : “อ่าๆ ก็เป็นความเข้าใจของผมแล้วกัน (หัวเราะ)”

กานต์ : “ก็คงไม่มีอะไรพูดถึงเขาอีก ไม่ได้ห่วงอะไร ต่อไปเราก็คงดูแลลูกๆ งานอะไรที่เราอยากจะทำก็คงทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่บอก”

เสก : “เรื่องลูกเราแบ่งกันดูแล และผมเป็นคนเลี้ยงดู เรื่องเงินเรื่องทองเรื่องเลี้ยงดูผมเป็นคนรับผิดชอบหมด รวมถึงตัวเขาด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง”

กานต์ : “อย่ามาพูดว่าจะเลี้ยงดูอะไร เพราะ 9 เดือนมานี้ไม่ได้จ่ายอะไรเลย”

เสก : “ก็เพิ่งจ่ายไปนี่ไง 2 ล้าน(หัวเราะ)”

กานต์ : “แค่ 2 ล้าน จ่ายอย่างอื่นไปเกือบ 10 ล้าน”

เสก : “ก็เดี๋ยวพี่ขายเครื่องดื่มได้ก็เอาไปอีก (หัวเราะ) มาช่วยกันค้าขายก็ได้”

กานต์ : “17 ล้านก็ไม่ได้เยอะเลย บ้านนันทวันมีมูลค่ามากกว่า 17 ล้านหลายเท่า แต่กลายเป็นว่าต้องยกให้เสกเป็นผู้อยู่อาศัย แต่เขาต้องซื้อให้เราใหม่หลังหนึ่ง เพื่อที่เราจะได้มีที่พำนัก ก็คือถือว่าเสียเปรียบอยู่”

เสก : “ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับว่าเซ็นเป็นมรดกให้ลูกน่ะ เราสร้างมาพอเสร็จก็ยกให้ลูกก็ไม่เห็นเป็นไร อย่างที่บ้านใหม่เนื่องจากกานต์มีชื่อที่อยู่ในบ้านนี้ด้วย ฉะนั้นเราก็ไปซื้อบ้านให้เขา เบ็ดเสร็จแล้วก็คงไม่ใช่เป็นเงินสดทั้งหมด เพราะตอนหย่ากันมาแล้วรอบหนึ่งก็ให้เงินไปแล้วรอบหนึ่ง ทีนี้เมื่อตอนที่จดทะเบียนแต่งใหม่เมื่อปี 55 เราก็จ่ายค่าเลี้ยงดูในส่วนนี้ไป ฉะนั้นที่เราต้องจ่าย 150,000 บาทก็คือจ่ายให้ลูกด้วย เพราะเขาก็สามารถอยู่กันได้ เพราะผมจะได้เลี้ยงดูลูกมาอยู่กับผม 8 วันที่บ้าน แต่วันอื่นก็มาได้นะ แต่ผมมีสิทธิดูแลเขาอยู่ 8 วัน หลังจากนั้นเขาไปอยู่ที่โน่นผมก็เลี้ยงดูอีก”

“ดังนั้นในส่วนค่าเทอมทุกอย่างผมดูแลหมด เขาไม่ต้องจ่ายอะไรเลย เขาเองก็เอาเงินไปไว้ใช้ ถามว่าลูกๆ เข้าใจไหม ผมว่าอย่างนี้ดีกว่า ลอนดอนเขายังไม่รู้เรื่อง แต่น้องกวางเขารู้ รู้สึกว่าเมื่อวานนี้พบเขาแล้วเขาดีกว่าที่เรายังสงสัยกันอยู่ ฉะนั้นการที่เรายังสงสัยและไปด่ากันไปมา อันนั้นเป็นเรื่องที่เขาเจ็บปวดมากกว่า เพราะฉะนั้นวันนี้ก็จบแล้ว และอยากให้ทุกคนจบด้วย ถ้าไม่จบคราวนี้สวยแน่ (ยิ้ม) สุดท้ายผมก็ขอขอบคุณทุกคนนะครับ และไม่ต้องห่วงกานต์หรอก กานต์เขาโอเคอยู่แล้ว”