Inside Dara
พิงกี้ รับเพื่อนน้อย โต้อึดอัดสามีตีกรอบชีวิต ยันไม่เสียตัวตน

พิงกี้ สาวิกา รับห่างหายจากงานอีเวนต์ไปนานมาก เพราะฟีดตัวเองไปทำเบื้องหลังและทำธุรกิจส่วนตัวกับสามี แพลนมีลูกพร้อมทุกวันแต่ยังไม่มี ใกล้ครบรอบงานแต่งงาน 12 ก.ย. อาจจะมีของเซอร์ไพรส์ ไม่อึดอัดถูกมองตีกรอบชีวิต บอกเป็นเรื่องดีที่มีสามีช่วยสอนบทเรียนชีวิต ยืนยันไม่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง...

นานจะได้มีโอกาสเห็นหน้าสาว พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช มาร่วมงานอีเวนต์สักที เพราะหลังจากแต่งงานออกเรือนไป สาวพิงกี้ก็เริ่มที่จะค่อยๆ เฟดตัวออกจากวงการบันเทิงไป แล้วหันไปทำธุรกิจกับสามี เพชร อิทธิ ชวลิตธำรง โดยมีสามีเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวคอยช่วยสอนงานให้ ล่าสุดได้มีโอกาสเจอสาวพิงกี้มาร่วมงานเปิดตัวร้าน "แหลมเกต อินฟินิท (Laemgate Infinite)" ณ ร้านแหลมเกต อินฟินิท ชั้น 2 อาคารเอสเจ อินฟินิท ทาวเวอร์ เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่า

“วันนี้มาร่วมงานแหลมเกตนะคะ มาแสดงความยินดีกับพี่โค้ก รู้จักกัน เป็นงานที่อลังการมาก ย้ายจากสาขาอารีย์มาอยู่ที่นี่ ยิ่งใหญ่มาก” นานๆ จะรับงานที? “ใช่ค่ะ มาทั้งทีหัวใหญ่มากเลย” ทำไมเราถึงตัดสินใจรับงาน? “รู้จักกันกับพี่โค้กค่ะ เค้าอยากให้มาร่วมงานและมาเดินแบบด้วย ก็เลยตบปากรับคำค่ะ” ส่วนใหญ่งานอีเวนต์ก็จะไม่ค่อยได้รับ? “ไม่ค่อยได้รับนานแล้วค่ะ ล่าสุดเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว และห่างหายมา 2 ปีค่ะ” คิดถึงงานในวงการไหม? “คิดถึงนิดนึงค่ะ แต่ว่าก็มาให้หายคิดถึงค่ะ” สาเหตุสำคัญที่ทำไมถึงไม่รับ? “สาเหตุสำคัญคือไม่มีเวลา ถ้าเกิดมางานแบบนี้มาได้ค่ะ แต่ว่าถ้างานแบบยาวๆ ก็คงไม่ได้รับค่ะ” มีงานติดต่อไปเยอะไหม? “มีค่ะมี” นอกจากไม่ได้รับงานแล้ว ไมค่อยเห็นไปไหนมาไหนกับเพื่อนเลย? “ไปค่ะ แต่ว่าเพื่อนส่วนใหญ่ตอนนี้เค้าทำธุรกิจกันเยอะ อย่างเพื่อนๆ แก๊งกี้ก็จะมี 5-6 คน แล้วต่างคนก็ช่วงนี้ทำงานไม่ค่อยได้เจอค่ะ เจอกันก็เจอแถวบ้าน คือไม่ได้ปาร์ตี้หรือออกไปสังสรรค์กลางคืน คือไม่ได้ไปเลยจริงๆ” แต่ก็ยังสนิทกัน? “อ๋อ สนิทค่ะ เดี๋ยวไปงานแต่งค่ะ” หรือว่าเราไม่ค่อยได้ออกไปไหน? “ออกไปค่ะ แต่ไม่ได้อยู่บ้านแบบเป็นแม่บ้านนะคะ เราทำบริษัทก็เลยต้องใช้เวลาอยู่กับบริษัทให้มากที่สุดค่ะ”

ตอนนี้เราทำอะไรบ้าง? “ก็ทำหลายอย่าง ทั้งบริษัทสามีและเราก็มีธุรกิจด้วยกัน 2 คน เดี๋ยวปลายปีคงจะได้เห็นกัน หลายๆ อย่างก็คงจะได้เห็นตอนปลายปี” เป็นธุรกิจสื่อไหม เพราะเรามาจากสื่อ? “สื่อมั้ย อาจจะมีในสายนี้ด้วยค่ะ” เรื่องน้อง เราพร้อมมีไหม? “พร้อมทุกวันเลยค่ะ(ยิ้ม) แต่ว่าไม่มี” ใกล้จะครบรอบวันแต่งงานแล้ว? “วันที่ 12 ค่ะ ใช่ค่ะก็จะครบ 2 ปีแล้วค่ะ” จะมีข่าวดีวันนั้นเลยไหม? “ข่าวดีก็คือเราต้องขยัน คือเราไม่ค่อยแอคทีฟเท่าไหร่” หรือว่าสุขภาพเราไม่ค่อยเต็ม 100? “จริงๆ แล้วก่อนมีลูกเราต้องไปตรวจคุณหมอเนอะ แต่ว่าเราธรรมชาติมากจนกระทั่ง 2 ปีก็ยังไม่มีสักที คนรอบข้างก็บอกให้เราไปตรวจสุขภาพ จะได้ตรวจดูว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยแอคทีฟนี่แหล่ะ เลยไม่มีค่ะ” พี่เพชรเค้าไม่แอคทีฟเหรอ? “ไม่ หนูเอง(ยิ้ม) หนูทำงานเกี่ยวกับบริษัท กลับบ้านก็เหนื่อยแล้ว ขี้เกียจ” มองไว้ว่าจะพึ่งวิทยาศาสตร์เลยไหม? “ตอนแรกเราคิดว่าเราอยากมีนะคะ แต่ว่าตอนนี้คือน้องเค้ายังไม่มา และรู้สึกว่าเราไม่เร่งรีบ คนรอบข้างจะบอกให้เรารีบไปหา อย่างน้อยก็ไปตรวจดูบ้างค่ะ แต่เราเป็นคนไม่ไปเอง” ครบรอบ 2 ปีจะไปหาคุณหมอเป็นเรื่องเป็นราวเลยไหม? “ใช่ค่ะ พี่เพชรก็พูดหลายรอบให้ไป เราก็ไม่ยอมไปสักที” อาจจะเป็นเพราะสุขภาพเราหรือทางเค้า? “กี้ว่าบางทีเราทำงานหนักมาก่อน จริงๆ แล้วบางคนอาจจะไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ต้องไปดูระบบนิดนึง อาจจะมีอะไรบางอย่าง ถ้าคุณหมอดูปุ๊บอาจจะโอเคก็ได้ค่ะ”

มีนอยด์ตัวเองไหม กลังวลว่ากลัวจะมียากกว่านี้ไหม? “ไม่นอยด์ค่ะ รู้สึกว่าตอนแรกพยายามมีแล้วมันไม่มี พอมาถึงจุดหนึ่งแล้วยังไม่มีสักที เราก็เลยรู้สึกสบายๆ แล้ว ไม่กดดัน เร่งรีบอะไร” พี่เพชรอยากมีไหม? “พี่เพชรเค้าก็อยากมีค่ะ ช่วงนี้คือ 2 คนต้องช่วยกันทำมาหากินกันก่อน(ยิ้ม) ตอนนี้ยังไม่หวังมีน้องค่ะ” แล้วเรามีแพลนจะไปสวีตไหม? “พี่เพชรเค้าก็บอกว่า วันนี้ได้ค่าตัวก็เอาไปเลี้ยงด้วย เดี๋ยวเค้ามีของมาเซอร์ไพรส์” คาดหวังว่าจะเป็นอะไร? “ก็ยังไม่รู้เลยค่ะ ว่าเป็นอะไร” แต่ว่าไม่มีทริปไปเที่ยวไหนกัน? “เดี๋ยวไปเดือนหน้าค่ะ ไปทำรายการต่างประเทศที่รัสเซียค่ะ” แล้วแพลนสวีทสองคน? “สวีตเยอะแล้วอ่ะ ไปทุกประเทศแล้ว เลยอยากทำธุรกิจให้มันสำเร็จหลายๆ อย่างก่อนค่ะ” ทุกวันนี้ก็สวีตกันมาก? “ก็เบาๆ เหมือนคนทั่วไปแหล่ะ” พี่เพชรก็ยังหวงเราเหมือนเดิม? “แรกๆ หวงค่ะ หลังๆ ต้องถามเอาเอง ถ้ามีงานก็ถามเค้าว่าหวงรึเปล่า” มีคนห่วงว่าเราโดนขีดกรอบให้อยู่ในกรอบตลอดเวลา เป็นอย่างนั้นรึเปล่า? “ไม่ตีกรอบนะคะ แต่ว่าพี่เพชรเค้าค่อนข้างจะเป็นคนที่สอนเรา และค่อนข้างที่แบบว่าถ้าเราทำธุรกิจเราไม่สามารถปลีกตัวมาทำในวงการได้เต็มที่ เพราะอยู่ในขั้นที่บริษัทกำลังสร้างอยู่ค่ะ ก็เลยต้องใช้ในการเรียนรู้และสอนมากกว่า พิงกี้คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะว่าไม่มีสามีคนไหนที่มาสอนเราทุกอย่างในขั้นตอนการเรียนรู้ธุรกิจค่ะ”

อึดอัดไหม? “ไม่อึดอัด แต่รู้สึกบางทีเราทำงานอีกสายงานหนึ่ง เราจะรู้สึกเครียดค่ะ เพราะไม่เหมือนงานที่เราทำ แต่ตอนนี้เรียนรู้หลายอย่าง และรู้สึกว่ามันมีอะไรอีกเยอะที่เรายังไม่เรียนรู้” เรายอมรับในจุดนั้นที่ต้องไปทำธุรกิจ? “ใช่ค่ะ แต่ว่าสามีก็ชอบในงานบันเทิงเหมือนกัน เค้าชอบถ่ายรูป เดี๋ยวเราจะทำรายการด้วยกันค่ะ ก็ยังอยู่ในวงการบันเทิงนะ เป็นเบื้องหลัง ไม่หายไปไหน ก็ยังวนเวียนอยู่ในสายงานนี้ค่ะ แต่ว่าอาจจะไม่ได้เล่นละครค่ะ” บอกความเป็นตัวเองของเราหน่อย ว่าคู่เราเป็นยังไง? “เป็นคู่รัก มองการไกลค่ะ คือไม่ได้มองแค่วันต่อวัน แต่เรามองไป 5-10 ปีข้างหน้าค่ะ” ตอนนี้งานละครก็ไม่เอาเลย? “แรกๆ มีคนติดต่อมาตลอด พอเราปฏิเสธเค้าก็รู้ว่าช่วงนี้เราทำงาน แต่เค้าก็บอกว่าถ้าเกิดพร้อมเมื่อไหร่มาเล่นกันนะ”

แฟนคลับเค้าก็เป็นห่วง กลัวว่าเราจะสูญเสียความเป็นตัวเอง? “ไม่นะ จริงๆ แล้วเราไม่ได้ออกงานเยอะ คนเลยคิดว่าเราหายไปไหน ก็ยังทำงานอยู่ค่ะ คือเวลาคนเหนื่อยงานและทำงานในทางนั้น ไม่มีเวลาจะโพสต์ถ่ายรูป แต่ถ้ามีก็ช่วงเวลาว่างจริงๆ เสาร์-อาทิตย์” เราดูไม่มีเพื่อนเลย แต่ก่อนยังมี? “ก็เพราะว่าเราไม่ได้ออกงานบ่อยๆ เลยอาจจะไม่ได้เห็นเราเฮฮาสังสรรค์ แต่เราก็ยังติดต่ออยู่นะ เพื่อนหนูเองส่วนใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มเราก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เค้าจะอยู่กับคู่รักเค้าบ้าง หรืออีกคนก็ทำธุรกิจของเค้า” เราไม่ค่อยมีเพื่อนในวงการ? “ในวงการไม่ค่อยได้เจอจริงๆ เอาเป็นว่าไม่มีนะคะ เพราะว่าเราไม่ได้อยู่กลุ่มสังสรรค์ในวงการ ส่วนมากจะนอกวงการมากกว่า เพราะเราไม่ได้เล่นละคร มันจะห่ายหายไป” แต่เราก็ไม่ได้สูญเสียความเป็นตัวเอง? “ไม่สูญเสียค่ะ แต่รู้สึกดีซะมากกว่าที่ได้เรียนรู้อะไรในชีวิตมาก” เพื่อนรักเรายังเป็น เอ็ม ไอซ์ อยู่รึเปล่า? “มีเอ็ม มีฟ้ารุ่งอะไรอย่างนี้ค่ะ เพื่อนไม่เยอะค่ะ แต่เพื่อนมีคุณภาพ”.