Inside Dara
เจ๊ม้า "อรนภา" ของขึ้น! สับเละ "ทราย เจริญปุระ"

รุ่นใหญ่ "ม้า อรนภา" ปรี๊ดแตกหลัง "ทราย เจริญปุระ" วิพากษ์วิชานาฏศิลป์ไทยล้าหลังไม่ต้องเรียนก็ได้ เจ้าตัวบอกเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ลั่นเป็นวิชาที่ต่อยอดได้และทำให้รู้กำพืดตนเอง บอกพวกชอบของนอกก็แค่เปลือกๆ กันทั้งนั้่น พร้อมถามใครไม่พอใจในรากเหง้าของตนเองมาทนหน้าด้านอยู่ทำไม ทำไมไม่ย้ายไปประเทศอื่น

ทำเอาคนบันเทิงรุ่นใหญ่อย่าง "ม้า อรนภา" ถึงกับอกอาการปรี๊ดแตกกันเลยทีเดียวในส่วนของนักแสดงหญิง "ทราย เจริญปุระ" กรณีที่เจ้าตัวได้ไปร่วมออกอากาศรายการ "Divas Cafe" ทางช่อง Voice TV ร่วมกับ มนทกานติ รังสิพราหมณกุล, พรรณิการ์ วานิช พร้อมวิจารณ์ถึงวิชานาฏศิลป์ไทย ที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาหลังมีข่าวว่าจะไม่ถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรพื้นฐานโดยระบุว่าเป็นวิชาที่ล้าหลัง ไม่สามารถทำมาหากินได้จริง และสมควรที่จะถูกถอดไปได้แล้ว

ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวก็ทำเอาทางด้านของนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เรียนจบจากวิทยาลัยนาศิลป์มาโดยตรงถึงกับอดรนทนไม่ได้โพสต์ขึ้นอินสตาแกรมส่วนตัว โดยบอกไปยังนักแสดงรุ่นน้องว่าโดยส่วนตัวตนเชื่อว่าวิชานาฏศิลป์เป็นวิชาที่สามารถต่อยอดต่อไปได้ พร้อมยกตัวอย่างตนเองที่เรียนจบจากทางด้านนี้มา และการเรียนวิชานี้ก็ไม้ได้หมายความว่าจะบังคับให้ทุกคนต้องมาเป็นครู แต่เรียนเพื่อให้คนรุ่นหลังไม่โง่และจะได้เข้าใจในรากเหง้าของตนเอง

นอกจากนี้เจ้าตัวยังบอกไปยังคนที่ไม่พอใจกับเรื่องในทำนองนี้ว่าหากไม่พอใจทำไมไม่ย้ายไปอยู่ประเทศอื่น หน้าด้านมาอยู่ประเทศไทยที่มีรากเหง้าของตัวเองทำไม พร้อมบอกเสียใจมากเพราะตนเองรู้จักผู้ร่วมรายการอีก 2 คนเป็นอย่างดี ซึ่งถ้ามีโอกาสตนก็อยากจะจับเข่าพูดคุยในเรื่องนี้ด้วย

"@itr นี่คือพี่ม้าเองค่ะ ฟังหนูพูดในรายการ Diva. หนูคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องการเรียนนาฏศิลป์ จึงพูดออกมาอย่างไม่รู้เท่าถึงการ หรือมีคนสั่งให้พูดเพื่อให้เรื่องมันยืดเยื้อออกไปอีก พี่เป็นคนหนึ่งที่จบนาฏศิลป์ชั้นสูงมา เคยใช้ทำมาหากินอยู่ช่วงหนึ่งของชีวิต แล้วก็เลิกลาไป พี่เชื่อว่าการเรียนของพี่มันต่อยอดให้พี่ ทำเรื่องอื่นได้ดีจนถึงทุกวันนี้ ที่หนูเห็นอยู่นั่นแหละ ในขณะที่อายุปาเข้าไป 60 แล้ว ฝรั่งก็ได้ เทรนด์ไหนมาก็ได้ เพราะมีบอดี้ ที่เฟรกซิเบลล์ การเรียนไม่ได้หมายบังคับว่าต้องมารักรำ และมีอาชีพรำ หรือแค่เป็นครู แต่มีไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังไม่โง่ เข้าใจอะไรผิดๆแล้วนำไปตีความ นาฏศิลป์รวมทั้งของไทยและฝรั่ง เรียนให้เข้าใจ โตขึ้นจะได้ไม่โง่ ไม่ได้หมายถึงให้ยึดเป็นอาชีพ และที่สำคัญที่สุด รู้และรักกำพืดอันเป็นรากเหง้าของเราในความเป็นไทย สมัยนี้ไม่ชอบของไทย ชอบของนอก แต่ก็ไม่นอกเท่ากับพี่ แค่เปลือกๆกันทั้งนั้น ทั้งพูดทั้งแสดงออก แต่พี่มีความสำเหนียกของความเป็นไทยเสมอ อยู่ในสายเลือดเลยล่ะ ไม่พอใจกันทำไมไม่ไปอยู่ประเทศอื่น หน้าด้านอยู่ในประเทศไทยที่มีรากเหง้าของตัวเองทำไม ก็เพราะไม่กล้าไง เห็นไหม เปลือกชัดๆ เขียนมายาวคงเข้าใจขึ้นนะคะ แล้วไปบอก เบียร์และแขก ด้วย ซึ่งพี่เสียใจมากเพราะรู้จักดีมากๆ ทั้ง 2 คน มีโอกาสจะจับเข่าพูดให้ใจ จาก คนไทยแท้ๆ ที่รักความเป็นไทย"