“แม่เป็นอีกความรับผิดชอบหนึ่งของชีวิต ที่เราได้รับมอบหมายมาแล้วต้องเป็นไปตลอดชีวิต ซึ่งลูกมาเติมเต็มชีวิตของแหม่มให้สมบูรณ์ขึ้น”
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรอคอย และคิดถึงผลงานของ แหม่ม-คัทลียา กระจ่างเนตร์ ที่วันนี้ตัดสินใจกลับมารับงานแสดงอีกครั้งในซิทคอม “เพราะมีเธอ” ซึ่งออกอากาศทางช่องวัน ทุกวันพุธเวลา 19.30-20.00 น. “ดาวต่างมุม” วันนี้ เลยขอนัดคุณแม่คนสวยมาพูดคุยถึงเรื่องนี้ รวมไปถึงบทบาทของการเป็นแม่ของลูก ๆ ทั้งสามคน “แมค คิน เนซซี่” ซึ่งวันนี้เธอได้ควงลูกสาวคนเล็กมาอวดความน่ารักน่าชัง ต้อนรับเทศกาลวันแม่ที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย
ถามถึงซิทคอมเรื่อง “เพราะมีเธอ”?“เพราะมีเธอ เป็นซิทคอมครึ่งชั่วโมงค่ะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักที่แต่งงานกัน แต่แล้วต้องเลิกกัน แต่ยังต้องทำร้านอาหารด้วยกัน แหม่มอยากให้ลองติดตามดูว่าคนเราที่เลิกกันแล้ว หย่ากันแล้ว แต่ต้องทำงานร่วมกันอยู่ จะใช้ชีวิตกันยังไง เรื่องนี้ได้กลับมาเจอกับพี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่แหม่มเจอกับพี่แท่งก็ 16 ปีแล้ว ถ้านับจากเรื่องแรกที่เล่นด้วยกันคือ “เพื่อเธอ” ก็ 20 ปีแล้ว พี่บอย-ถกลเกียรติ บอกว่า เราเป็นคู่ที่เล่นด้วยกันแล้วน่ารัก มีคนที่รอคอยอยากเห็นแหม่มกับพี่แท่งกลับมาเล่นด้วยกันอีก แหม่มก็ขอบคุณมาก ๆ จากใจที่ยังรอคอย ยังคงให้เกียรติแหม่มมีโอกาสได้เล่นละคร”
คนยกให้ แท่ง-แหม่ม เป็นคู่จิ้นในตำนาน?“เรายังได้ใช้คู่จิ้นอยู่ใช่ไหม (หัวเราะ) คือสมัยก่อนเขาจะเรียกว่าคู่ขวัญ แต่สมัยนี้ศัพท์วัยรุ่นเป็นคู่จิ้น อาจจะเป็นเพราะคนดูอิน แล้วอยากให้เราสองคนกลับมาเล่นคู่กันอีก พอละครออกอากาศแล้วเราก็ตื่นเต้นนะคะ เหมือนเราเข้าวงการมาใหม่ เราก็บอกพี่แท่งว่าฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ เพราะว่าพี่แท่งเป็นผู้เชี่ยวชาญซิทคอมและละครด้วย พี่แท่งก็บอกว่าถ้าจะฝากเนื้อฝากตัวต้องเชื่อฟังนะ บอกอะไรก็ต้องทำตาม เขาก็จะคอยบอก คอยแนะนำ”
นอกจากงานละครแล้ว ยังมีงานพิธีกรรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้”?“แหม่มเป็นพิธีกรทำประจำอาทิตย์ละ 1 วัน ค่ะ ไปเป็นส่วนหนึ่งของช่วง “ครอบครัวบันเทิง” ที่มี น้องเบนซ์-พรชิตา น้องโอ๋-ภัคจีรา น้องจอย-รินลณี ก็สนุกดีนะคะ เป็นการอ่านข่าวบันเทิงและเป็นรายการสดด้วย ยังแอบเสนอพี่ยุทธเลยว่าขออ่านข่าวต่างประเทศด้วยได้ไหม ค่อย ๆ เริ่มทีละนิด อยากจะลองดู ตอนนี้เรามาทำงานไม่ได้เหมือนสมัยสาว ๆ ที่อยากทำงานเก็บเงิน แต่ ณ วันนี้ แหม่มทำเพราะมีความสุขอย่างเดียวเลย เราไม่ได้ทำเพราะเราอยากได้เงินหรือมีชื่อเสียงมาก ไม่ใช่จุดนั้นแล้ว”
แฟนคลับแหม่ม ครม. (คนรักแหม่ม) ยังเหนียวแน่นมาก?“ครม.เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แหม่มมีวันนี้นะ เราเคยคิดนะว่าพอแต่งงาน มีลูกชีวิตเปลี่ยนไป คงไม่ได้กลับมาเล่นละครแล้ว แต่สามีแหม่มเขาจะพูดเสมอว่ามันไม่แฟร์นะ ถ้ามีคนที่อยากดูแหม่มอยู่ แล้วเราจะไม่เล่นละคร หรือทำอะไรเลย ถึงแม้จะเป็นกลุ่มคนน้อยนิด แต่เขาก็มีสิทธิจะได้ดูผลงานของแหม่ม เรามาได้ถึงวันนี้ก็เพราะ ครม. เขาทำให้แหม่มยืนอยู่ได้อย่างแข็งแรง และเดินหน้าใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เราใช้คำว่า ครม. ทุกคนก็จะบอกว่าอ๋อ...คือแฟนคลับเหรอ แต่ว่าเขาไม่ใช่แฟนคลับแล้ว เขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแหม่ม ทุกวันนี้เราต้องคอยเปิดไลน์ดูกรุ๊ป ครม.ว่าวันนี้จะส่งรูปอะไรดี นอกจากครอบครัวแล้ว ครม. ก็เหมือนเป็นครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งที่เราต้องดูแล ที่สำคัญเขาก็ดีกับแหม่มมาก และไม่เคยทิ้งเราเลย”
กลับมารับงานเยอะแบบนี้ แบ่งเวลาให้เด็ก ๆ ยังไงบ้าง?“โชคดีที่ซิทคอมไม่ได้ใช้เวลามาก ถ่ายทำอาทิตย์ละ 2 วัน อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เดือนหนึ่งจะใช้เวลาแค่ 4 วัน ไม่ได้เหมือนละครยาว ส่วนพิธีกรเรื่องเล่าเช้านี้ก็จะทำแค่อาทิตย์ละ 1 วัน และงานผู้บริหารที่ลักษ์ก็อยู่ตัวมา
ระดับหนึ่งแล้ว เราอาจมีไปประชุมบ้าง ไปหาลูกค้าบ้าง ไปคุยกับเอเจนซี่บ้างนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็ดูลูกเป็นหลัก ซึ่งอีกหน่อยตารางเวลาก็คงจะดีขึ้น หลังจากเด็ก ๆเข้าโรงเรียนกันครบหมด ตอนนี้เหลือคนเล็กเท่านั้นเอง ปีหน้าก็อาจจะได้เห็นอะไรมากขึ้น”
มีคนบอกว่าชีวิตของคนเป็นแม่ไม่มีวันหยุด?“คนเป็นแม่ไม่มีวันหยุดจนตาย ไม่มีวันหยุดเลย แต่เป็นหน้าที่ที่เรามีความสุขและเต็มใจ ถามว่าเหนื่อยไหม ก็เหนื่อยอยู่แล้ว แม่ทุกคนต้องเหนื่อย แต่เราเหนื่อยกาย ไม่ได้เหนื่อยใจ นอนพักตื่นเช้ามาก็หายแล้ว แหม่มว่าเป็นความเหนื่อยที่มีความสุข ตอนนี้แหม่มเป็นแม่มาจะ 9 ปีแล้ว เร็วมาก ข้อเสียของคนเป็นแม่คือเราจะแก่ไปเรื่อย ๆ (หัวเราะ) แต่เราภูมิใจที่เรามีลูก มีครอบครัวที่น่ารักสามคน เราตั้งใจและเต็มที่ที่สุด ที่จะเป็นแม่ที่ดีให้ได้ เราไม่รู้หรอกว่าดีที่สุดคืออะไร แต่เราจะทำให้ดีที่สุด”
9 ปีที่ผ่านมากับบทบาทแม่ของแหม่ม เป็นอย่างไรบ้าง?“ชีวิตเปลี่ยนไปมากที่สุดในล้านโลก เปลี่ยนไปเลยค่ะ แม่เป็นอีกความรับผิดชอบหนึ่งของชีวิต ที่เราได้รับมอบหมายมาแล้วก็ต้องเป็นไปตลอดชีวิต ซึ่งลูกมาเติมเต็มชีวิตของแหม่มให้สมบูรณ์ แหม่มเคยบอกว่าชีวิตเราก็จะขาว ๆ เทา ๆ สีธรรมดา แต่ลูกเป็นคนมาป้ายสีรุ้งให้กับบ้าน ให้กับชีวิต สีฟ้า สีชมพู สีเขียว สีแดง เลยทำให้ครอบครัวเรามีความสุข”
“แมค คิน เนซซี่” บุคลิกต่างกันหมดเลย?“ตรงนี้เราเข้าใจเลย ที่เขาบอกว่าเลี้ยงลูกเหมือนกันทำไมนิสัยไม่เหมือนกัน แหม่มรู้เลยว่าจริง ๆ ไม่ใช่หรอก ทุกบ้านเลี้ยงลูกเหมือนกัน แต่เด็กเขาจะมีตัวตนที่ติดมาตั้งแต่กำเนิดว่าคนนี้มีคาแรกเตอร์แบบนี้ สามคนก็จะไม่เหมือนกัน แต่หลัก ๆ เราโชคดีที่เขารักกันมาก อาจมีทะเลาะกันบ้างปกติ ทะเลาะกันแป๊บ ๆ เหมือนแหม่มกับพี่วิลลี่ แต่ลึก ๆ คือมีความห่วงหาอาทร ห่วงใยกันสุดฤทธิ์ สมมุติคุณพ่อทำเป็นแกล้งแมค แล้วแมคแกล้งตะโกนว่า คิน เนซซี่ ช่วยพี่ด้วย เท่านั้นแหละ ทุกคนก็จะหยุดทุกอย่างแล้ววิ่งมากระโจนใส่พ่อ หรือบางทีพ่อมาแกล้งแม่ สามตัวนี้ไม่รู้อยู่ตรงไหนก็จะวิ่งมารุมพ่อ เขาจะแทคทีมกัน แล้วแหม่มเคยแอบถามแมค ว่าเราไปเที่ยวกันเองไหม สามคนพ่อแม่ลูก เพราะเขาเคยอยู่คนเดียวมาตลอด แล้วอยู่ ๆ มีน้องมา ต้องแชร์ ต้องแบ่ง ต้องเสียสละ แมคก็ร้องไห้ บอกไม่ได้ ๆ ต้องเอาคินกับเนซซี่ไปด้วย หรือสมมุติถ้าพี่แมคหายไปไหนเนซซี่เขาก็จะเดินหาแล้ว ส่วนคินกับเนซซี่ เขาจะติดกันมาก อาจเพราะว่าวัยใกล้เคียงกันด้วย ห่างกันแค่ 2 ปี สมมุติวันไหนเนซซี่ไม่สบาย แล้วให้คินไปเรียนว่ายน้ำคนเดียว คินก็ไม่ไปนะ ยังไงก็ไม่ยอม”
เนซซี่เป็นขวัญใจชาวอินสตาแกรม?“อาจเพราะเขาเป็นผู้หญิงด้วย อย่างคนที่ติดตามแหม่ม จะเห็นเนซซี่เป็นเหมือนก๊อบปี้ของแม่ เป็น “มินิแหม่ม” อย่างลูกผู้ชายคนก็เอ็นดูเหมือนกัน แต่มีความไม่เหมือนที่เขาเป็นผู้ชาย แต่เนซซี่จะเหมือนตัวแทนของเรา เหมือนน้องวินเป็นตัวแทนของพี่วิลลี่ พอมาเป็นเนซซี่คนก็จะมองว่าเหมือนแม่มาก เด็ก ๆ เราหน้าแบบนี้ไหม เราก็ขอบคุณที่คนเอ็นดูลูก ๆ ทั้งสามคน เข้ามาคอมเมนต์ เข้ามาชม ขอดูรูป ขอดูคลิป เราก็พยายามถ่ายคลิปเด็ก ๆ อยู่เรื่อย ๆ แต่ถ้ามาใช้ชีวิตอยู่กับเขาจะเข้าใจได้ว่านางไม่อยู่นิ่งเลย ตื่นตา ตื่นใจ ไม่กลัวคนเลยจริง ๆ”
เด็ก ๆ เริ่มมีความฝันหรือยังว่าอยากเป็นอะไร?“ยังดูไม่ออกนะคะ แต่ดูสิ่งที่เขาสนใจ เด็กผู้ชายจะชอบกีฬา ชอบต่อสู้ ชอบเล่นตลกเหมือนลุงวิลลี่ (หัวเราะ) อย่างวันก่อนแมคบอกแหม่มว่า แม่ถ่ายคลิปเราหน่อย เดี๋ยวเราจะเต้น เราก็ถ่ายวิดีโอปกติ แต่พอมาดูอีกทีแมคไปโพสต์ในอินสตาแกรมเราแล้ว ตอนนี้เริ่มแก่นแล้ว พ่อเขาก็แซวว่าแมคเถียงเก่ง ต้องชี้แจง ต้องมีเหตุผล แมคไปเล่นการเมืองไหม ส่วนคินจะเป็นเปาบุ้นจิ้นของบ้าน คอยเป็นห่วงคนโน้น คนนี้ เราก็คิดหรือคินจะเป็นหมอดี ส่วนคุณนายเนซซี่ยังดูไม่ออก แต่ไม่อยู่นิ่งเลยค่ะ”
แมค คิน เนซซี่ เคยทำอะไรเซอร์ไพร้ส์คุณแม่บ้างไหม?“คงยังไม่ถึงขั้นทำเองหรือคิดเองได้ แต่มีวันแม่อยู่ปีนึง ป้าหมาย พี่เลี้ยงที่อยู่กับแมคมาตั้งแต่เล็ก ๆ เขาแอบเตรียมพวงมาลัยมาให้ ซึ่งแหม่มไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว เราก็นั่งเล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสือ สักพักหนึ่งเขาก็เดินมายื่นให้แล้วพูดว่า อะ” แต่นี่คือมากสุดของเขาแล้วไง เราก็รู้สึกดีใจจังเลย ว่าเราเป็นแม่เหมือนกัน ได้ดอกไม้เหมือนกัน แต่ว่าเด็ก ๆ เขาก็น่ารักในทุก ๆ วันอยู่แล้ว วันดีคืนดีคินก็เดินเข้ามากอดแล้วพูดว่า “คุณคินรักแม่มาก” อย่างแมคเริ่มโตเขาก็จะไม่แสดงออกมาก ถ้าให้กอดแบบซึ้ง ๆ ก็คงไม่ทำ ก็เลยทำเป็นกอดแน่น ๆ ทำให้แม่หายใจไม่ออก แต่แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว”
แหม่มกับบีบี๋แบ่งหน้าที่ในการดูแลเด็ก ๆ ยังไงบ้าง?“เราไม่ได้ตั้งกติกาไว้นะคะ ว่าแหม่มต้องดู 70 เปอร์เซ็นต์ บีบี๋ต้องดู 30 เปอร์เซ็นต์ แต่โดยสัญชาตญาณแม่ก็จะดูเป็นหลักแหละค่ะ เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ แต่วันไหนเราทำอะไรอยู่ เราก็บอกเขาได้ว่า แหม่มอาบน้ำให้เนซซี่อยู่ บีบี๋พาผู้ชายสองคนไปอาบน้ำหน่อย เขาก็ทำได้หมด ซึ่งแหม่มถือว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น แล้วได้สามีที่น่ารัก ทุกวันนี้เขามีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นคนเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนแหม่มดูแลครอบครัวและลูกในฐานะภรรยา เขาไม่เคยคิดว่าแหม่มจะต้องออกมาช่วยหาเงิน แต่เหตุผลที่เขาให้ออกมาทำงานเพราะเขารู้ว่าเป็นสิ่งที่แหม่มรัก เป็นสิ่งที่แหม่มมีความสุข เขาก็สนับสนุนเต็มที่ วันไหนที่แหม่มออกมาทำงาน เขาจะช่วยดูแลลูกให้ แล้วก็คอยดู คอยติ เป็นคอมเมนเตเตอร์ให้ด้วย (หัวเราะ)”
คำสอนอะไร ที่แหม่มพยายามสอนหรือปลูกฝังลูก ๆ?“แน่นอนเราต้องสอนให้เขาเป็นคนดี ถ้าเราทำดีแล้ว เราไม่ต้องกลัวอะไร ที่สำคัญเราต้องทำให้เขามีความเชื่ออย่างนั้นด้วย เราไม่อยากให้เขาเป็นคนจ๋องในสังคม แต่ก็ไม่อยากให้เขาเป็นคนกร่าง ต้องรับผิดชอบหน้าที่เรา สัญญาอะไรแล้วต้องรักษาคำพูด ตรงนี้แหม่มว่าแต่ละบ้านคงสอนคล้ายกัน ๆ และเราก็จะพยายามบอกเขาว่าไม่มีอะไรให้นะ อย่าคิดว่าพ่อแม่จะมีสมบัติ คือถ้ามีเราให้อยู่แล้ว แต่เราไม่ได้อยากบอกเขาตั้งแต่ต้น เราจะบอกเขาว่าสิ่งที่สำคัญคือการเรียนหนังสือ เราเชื่อว่าการศึกษาและความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เขาไปอยู่ตรงไหนแล้วเอาตัวรอดได้ อย่างตอนนี้แมคเริ่มถามแล้วว่าทำไมต้องเรียนหนังสือ เราขอหยุดได้ไหม แหม่มก็บอกว่าไม่ได้ เพราะวันหนึ่งที่แมคเรียนหนังสือจบ แมคสามารถเอาวิชาไปประกอบอาชีพ หาเงิน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อของเล่นได้ โดยไม่ต้องแบมือขอเงินพ่อแม่”
หลังจากได้คุยกับ “แหม่ม-คัทลียา” วันนี้ ทำให้เราเห็นหัวใจของผู้หญิงที่ทำทุกอย่างด้วยความรักจริง ๆ เพราะรักจึงกลับมาเล่นละคร เพราะรักจึงทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด...
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012