Inside Dara
ไก๋ รับคุยอนาคตกับ อาร์บี แฮปปี้สุด พ่อแม่ฝ่ายชายเอ็นดูไม่น้อย...

เก๋ไก๋ รับคุยอนาคตกับ อาร์บี ครอบครัวฝ่ายชายย้ายมาไทยถาวร แฮปปี้สุด พ่อแม่เอ็นดูไม่น้อย ลุยเรียนภาษาหวังใช้สื่อสาร เน้นคุยทุกวันช่วยได้

วันที่ 17 พ.ย.2568 เก๋ไก๋ สไลเดอร์ มาร่วมงานแถลงข่าว “ช่อง 3 มีอะไรใหม่ Channel 3 Update” ณ ตึกมาลีนนท์ โดยอัปเดตชีวิตรักแฟนหนุ่ม ที่ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะตัวติดกันเป็นพิเศษ ขนาดงานนี้ยังตามมาให้กำลังใจกันถึงที่...

ช่วงนี้เป็นไงบ้าง?

เรียนเพื่อที่จะคุยกับเพื่อนคุยกับอาร์บี...

ตัวติดกันหรอคะก็ไม่ได้ตัวติดกันอะไรเลย แต่ว่าช่วงนี้อ่ะมีคุณพ่อคุณแม่ของอาร์บี เขาย้ายมาอยู่ที่ไทยแล้วถาวร เราก็จะแยกย้ายทำกิจกรรมที่เราอยากทำ”

ปกติเวลาเราไปทำงานเขาก็จะตามมาให้กำลังใจด้วยใช่ไหม?...

“ก็มีค่ะ เพราะว่าส่วนมาก เราจะรับงานในออนไลน์แล้วก็ทำงานแล้วก็ถ่ายคอนเทนต์ลงด้วยกันไม่ว่าจะไปเล่นสวนสนุกหรือว่าอะไรเราก็จะไปด้วยกัน เพราะว่าทำงานด้วยกัน เราจะทำเทนต์ด้วยกัน เน้นเป็นคลิปน่ารักน่ารักใน TikTok ใน YouTube เขาก็คือเป็นอินฟลูท่านหนึ่ง จากที่ไม่เคยคิดอยากจะถ่ายคลิปถ่ายรูปภาพ เขาไม่เคยลงรูปภาพ แต่ว่า ช่วงนี้เริ่มๆแล้ว ช่วงนี้เขาปรับตัวได้แล้ว คือเขาก็เป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นไม่ได้นึกถึงว่าคนไทยชอบดูอะไร ก็ลองทำคอนเทนต์ด้วยกันอย่าง เช่น เต้นใน TikTok ก็คือต่างประเทศเขาก็เต้นกัน เต้นเป็นคู่น่ารักๆ“

แล้วเจอครอบครัวเขาหรือยัง?

“เจอค่ะ ครอบครัวเขาก็น่ารักมากๆ คุณพ่อคุณแม่อายุ 64 ปีแล้วแต่ว่ายังสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพราะว่าคุณแม่เขาชอบมีกิจกรรมไปเดินเขา ซึ่งหนูว่าเขาน่ารักมากๆ แม่ยังชอบทำอาหารให้ ”...

คุณพ่อคุณแม่เขาเอ็นดูเราไหม?

“เราไม่ได้คุยกันเป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่าคุณแม่ เราจะคุยกับอาบีเป็นหลัก เวลาเจอกัน เขาจะแบบโอ้มายเลิฟอะไรแบบนี้ เราก็จะบอกว่ามามี้เลิฟยูจุ๊บจุ๊บ คือหนูไม่รู้ว่าเขายังไงนะคะ แต่ว่าหนูคิดว่าหนูน่ารักและเขาน่ารักกับหนู แต่ส่วนอันอื่นหนูก็ไม่ได้คิดถึง”

มีโอกาสเป็นไกด์พาเที่ยวบ้างหรือยัง?

“มีค่ะ เราไปเที่ยวเกาะล้าน ก็เอารถบ้านไปขับเล่น”

หลายคนก็แซวว่าทริปนั้นเซ็กซี่?

“คือไปทะเลก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ถามว่ารู้สึกยังไงที่หลายคนบอกมาเดี๋ยวนี้เก๋ไก๋ แต่ก่อนไม่เคยเห็นหนูลุกส์นี้ ก็มีให้เห็นช่วงต้นปี กลางปีท้ายปี ปีละไตรมาส เพราะว่าไม่ค่อยได้ไปทะเลบ่อย”...

เขาไม่ห้ามใช่ไหมหรือว่าเขาชอบ?

“ปกติมากค่ะชุดว่ายน้ำ ไม่ห้ามแล้วแม่ก็จะบอกว่าเวรี่กู๊ด สวยอะไรแบบนี้ เขาก็จะพูดภาษาเขาที่แปลว่าอร่อย ก็ประมาณว่าชมว่าแซ่บ(เสริมความมั่นใจให้กับเรา?) คือเราอ่ะก็มั่นใจอยู่แล้ว แต่เขาก็มองเป็นเรื่องปกติ”

คิดว่าเราจะพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่านี้ไหม?

“ในอนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ว่าเราก็มีคุยกันบ้างว่าอนาคต ถ้า 60 ปี เขาก็จะบอกว่า เราจำโมเมนต์นี้ไว้นะ มันน่าจะเป็นโมเมนต์ที่ตลกมากๆเรายังอยู่ในอายุที่เท่ากับพ่อกับแม่เขา หนูคิดว่าผู้หญิงทุกคนก็จะคิดเรื่องนี้อยู่แล้วว่าในอนาคต เหมือนว่าเราก็วางแผนระยะยาว มีคิดบ้างมีแฟน ก็ต้องมีบ้างคิดบ้าง

แต่เราไม่ได้ไปกดดันตัวเองหรือว่าตัวใคร หรือตัวเขาด้วยค่ะ ช่วงนี้โฟกัสอันไหนที่เรามีความสุข ไปออกกำลังกาย ช่วงนี้ที่เราอินกับการกินอาหารดี เฮลตี้ดูแลเรื่องสุขภาพ เรื่องความสวย คือมันใกล้เข้าเลขสามแล้วก็เลยอยากดูแลตัวเองช่วงนี้

ถามว่าลงตัวกันหรือยัง คือหนูรู้สึกว่าทุกคนไม่มีใครที่มันลงตัวเป๊ะมันก็เป็นเรื่องปกติ อย่างเรื่องภาษาเขาเป็นภาษาอังกฤษเรายังต้องเรียนรู้อยู่ ก็ต้องใจเย็น เราก็ต้องค่อยๆอธิบาย หนูรู้สึกว่าติดเรื่องของภาษานิดนึงที่อยากฝึกอยู่ ก็เลยไปเรียนเพิ่มด้วย...

คือตอนเด็กอ่ะเราไม่ได้อยากจะคุยภาษาเก่งเราไม่ได้คิดว่าเราจะตั้งใจเรียนด้านนี้เพราะเราไม่ได้คิดว่าเราจะมีแฟนเป็นเขา แต่พอเราตั้งใจเรียนน่ะอย่างน้อยเราก็รู้แกรมม่า แต่ตอนนี้โอเคไม่เป็นไรค่อยๆ เราไปเรียนให้ได้แกรมม่า แต่สิ่งที่ชินคือต้องพูดบ่อยๆ

แล้วช่วงเวลาที่หนูดูรายการที่เขาสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษรู้สึกว่ามันได้อะไร มันเป็นอีกภาษาหนึ่งอีกชาติหนึ่งก็รู้สึกว่าดีเหมือนกัน เราเป็นเด็กนิเทศเราต้องมีศิลปะในการสื่อสาร แล้วถ้าเราพูดได้อีกภาษาจะเป็นยังไง เก๋ไก๋ที่ใกล้เก่งมันก็จะได้เก่งขึ้นจากการที่เราใช้ฟาสแทร็ก เพราะว่าเรามีแฟนช่วยในการพูดคุยทุกวัน มันก็ช่วยได้จริงๆ ทำให้เราอยากเรียน

ถ้าเรารู้ว่าอนาคตอยากเราจะมีแฟนเราเรียนตั้งแต่ประถมมัธยมแล้ว คือคนที่อยากจะพูดเป็นน่ะมันมาจากสิ่งที่อยากจะสื่อสาร แต่ตอนเด็กเราไม่อยากสื่อสารก็ไม่รู้ว่าเราจะฝึกไปทำไม ความรักทำให้เราอยากเรียนรู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนอยากพัฒนาตัวเอง ก็ไม่ได้ถึงขั้นเนทีฟ แค่สื่อสารได้แล้วก็รู้สึกว่าเราฟังไปเรื่อยๆไม่ต้องโปรเฟสชั่นแนลขนาดนั้น”...