Inside Dara
เปิดตำนานรัก “แจ็ค เด็กแว้น” กับ “นางฟ้าแพท” รัก อยู่กินกัน เลิกเพราะสังคมดูถูก

“แจ็ค เด็กแว้น” เปิดตำนานรัก กับ “ นางฟ้าแพท” ยอมรับชีวิตเหมือนฝันจู่ๆ มีดารามาจีบ คุยกัน 3 เดือน ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่กินกันในบ้าน พูดแบบไม่อายแพทดูแลให้ทุกสิ่ง เผยรักแพทจริงๆ แต่ทนสายตาคนมองดูถูกไม่ไหว รู้ตัวไม่คู่ควรมาจากที่ต่ำ ตัดสินใจบอกเลิก

“แจ็ค ธนพล” เด็กแว้นสลัมตรอกจันทร์ ผู้สร้างตำนานสอยดาราคนสวย “แพท ณปภา” มาเป็นแฟน เปิดหมดใจถึงตำนานรักอื้อฉาวคาวมือตบ ยอมรับชีวิตเหมือนฝันจู่ๆ มีดารามาจีบ คุยกัน 3 เดือน ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่กินกันในบ้าน พูดแบบไม่อายแพทดูแลให้ทุกสิ่ง เผยรักแพทจริงๆ แต่ทนสายตาคนมองดูถูกไม่ไหว รู้ตัวไม่คู่ควรมาจากที่ต่ำ ตัดสินใจบอกเลิก โต้โมโหที่แพทไม่ซื้อบิ๊กไบค์ให้เลยขอเลิก วันนี้ขอเคลียร์ชัดๆ เปิดหน้าให้เห็นกันจะๆ เด็กธรรมดาบิดมอไซค์แว๊นๆ คนนี้แหละที่เคยครองใจนางเอกคนดัง

“จริงๆ ผมไม่อยากให้ใครมารู้จักผมแบบนี้ ไม่ได้อยากให้รู้จักในทำนองหลอกเขา เอาเงินมาเลี้ยงเบญ ผมไมได้อยากให้เขามองอะไรแบบนี้ ผมอยากออกมาพูดความจริงว่าเรื่องทุกอย่างผมไม่ได้หลอกเขา ผมเลิกกับเขาแล้วจริงๆ ถึงมาคบกับเบญ ไม่ใช่ผมไม่เคลียร์ตัวเองกับเขา เราเคลียร์กันทั้งคู่หลายรอบแล้วด้วย ผมคิดว่ามันจบไปแล้วด้วย ตอนที่ตีกันผมไม่คิดว่าเป็น

งงตอนแรก “แพท” ให้ข่าวว่า ตนคบกับหลานสาวแพท

“จนมีประเด็นจุดขึ้นมาว่าเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง ตอนแรกเขาให้ข่าวว่าผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ได้เอ่ยชื่อผม บอกว่าผู้ชายคนหนึ่งคบกับหลานสาวเขา มาหลอกหลานสาวเขา อย่างโน้นอย่างนี้ มาแกล้งทำดีให้ครอบครัวเขารัก ให้ครอบครัวไว้ใจ สุดท้ายก็มาหลอกหลานสาวเขา อ้าว...ก็กลายเป็นว่าผมไปคบกับนาฟแล้วทีนี้ ไปๆ มาๆ ก็เป็นข่าวว่าพอข่าวเริ่มตีมาเรื่อยๆ ความจริงเริ่มกระจ่าง เริ่มมีรูปผมหลุดว่าถ่ายรูปกับพี่แพท ผมก็งงว่าเอารูปไปได้ยังไง ผมถ่ายไว้นานแล้วครับ เป็นรูปที่คล้ายๆ ในโทรศัพท์ผม แต่ไม่รู้ใครเอาโทรศัพท์ผมไป ผมก็ไม่รู้ แล้วก็กลายเป็นว่าผมไปโพสต์ประจานเขา อยากให้เขาดูเสื่อมเสียว่ามาคบเด็กคนนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่ารูปหลุดไปได้ไง เพราะตลอดมาผมรักษาภาพพจน์พี่เขาไว้ ผมไม่ออกมาพูดอะไรเลย อย่างน้อยเราก็เคยคบกัน คุยกัน พี่เขาเป็นดาราดัง ไม่ได้อยากไปหักหน้า ไปหักเครดิตเขา และเซฟให้เขาด้วย แต่พอประเด็นมาว่าผมไปหลอก ผมก็แค่อยากออกมาพูดว่าผมไม่เคยคิดจะไปหลอกเงินเขา”

ยอมรับอยู่กินกัน 8 เดือน ที่ผ่านมาปกปิดว่าคบกัน ทำตัวเหมือนคนขับรถ ไม่เคยเดินจูงมือหรือเปิดเผย เพราะรู้สึกอายที่ตัวเองด้อยกว่ามาคบกับดารา และไม่อยากให้ “แพท” เสียชื่อเสียง

“ผมยอมรับว่าผมอยู่กินกับเขาจริงตลอดระยะเวลา 8 เดือนผมอยู่กับเขาจริง ของทุกอย่างเขาซื้อให้ผมจริง แต่บางอย่างที่เขาซื้อให้ ผมก็เคยปฏิเสธแล้วว่าผมไม่อยากได้ เสื้อผ้าผมใส่อะไรก็ได้ ผมมาจากที่ต่ำเลย ผมไม่ได้คิดว่าไต่ขึ้นมาให้ดูดี ดูสูง ระยะเวลาคบกัน 7-8 เดือน ผมก็ไม่เคยพูดหรือโพสต์รูปคู่ของเราออกสื่อว่าเราคบกัน ผมอยู่เงียบๆ ผมอยู่เบื้องหลังเขาตลอด ขับรถไปไหนมาไหน ไม่เคยประกาศให้ใครรู้ว่าผมเป็นแฟนกับเขานะ ผมนั่งคอยในรถ เขาไปถ่ายทำ หรือเวลาผมไปห้างก็ไม่เคยเดินจูงมือให้ใครเห็น ไม่เคยประกาศให้ใครรู้ว่าผมคบกับเขา ผมเดินตามเขาเหมือนบอดี้การ์ด คนขับรถธรรมดา ผมไม่ได้แคร์เลย”

“เราคบกัน ผมก็ไม่ได้อยากให้ใครรู้ ผมก็อายตัวเองเหมือนกันเพราะเราเป็นเด็กธรรมดา มันก็ดูเด็กคนนี้อะไร มาเดินกับดารา มาจับมือ ซึ่งในใจผมก็กลัวเขาเสียชื่อเสียงด้วย อะไรวะ เป็นถึงดาราดังช่อง 3 มาคบกับเด็กที่ไหน หัวนอนปลายตีนที่ไหนไม่รู้ ใครที่ไหนไม่รู้มาเดินจับมือกัน เขาก็พูดว่าเขาไม่อาย เขาไม่อายไม่เป็นไร แต่ผมอายแทนพี่เขาเหมือนกัน เราไม่อยากเปิดตัวอะไรมากมาย ก็อยู่กันอย่างนี้แหละ ใครรู้ก็รู้ไป บางทีคนเห็นไปไหนมาไหน ซ้อนมอเตอร์ไซค์ ใครจะรู้ก็รู้ แต่ผมไม่เคยป่าวประกาศ ขนาดกับเพื่อนผม ผมยังโกหกถึงที่สุด จนเพื่อนผมมันรู้ ผมก็ไม่เป็นไร”

“แพท” เป็นฝ่ายมาจีบ คุยกัน 3 เดือนย้ายไปอยู่ในบ้านแพท

“เริ่มรู้จักกันคือผมบังเอิญไปเจอพวกเขากำลังจะไปทำบุญ พวกพี่เขาทำกับข้าวห่อข้าว จะเอาไปให้คนจรจัดพวกไม่มีบ้าน จังหวะนั้นไปเจอเขาพอดี ผมกำลังจะเข้าปั๊มน้ำมัน และในกลุ่มนั้นก็มีเพื่อนผมอยู่ เขาเลยชวนผมไปด้วย ผมก็โอเค เพราะผมก็ว่าง ก็เลยไปด้วย ก็เห็นแล้วว่ามีพี่แพทอยู่ เราก็เฮ้ย...เราก็แกล้งถามเพื่อนว่ามีดาราด้วยเหรอ ซึ่งผมก็ตื่นเต้นมาก เราก็แบบเฮ้ย...ดาราจริงเปล่า เพื่อนบอกจริง ก็ไปด้วยกัน”

“จนเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็มีโทรศัพท์มาถึงผม นาฟเป็นคนโทรมา ถามว่านี่ใช่แจ๊คหรือเปล่า นี่นาฟเอง ผมก็บอกว่า ว่าไง เขาบอกมีคนอยากคุยด้วย ยังโสดอยู่หรือเปล่า ผมก็บอกว่ายังโสดครับ เขาบอกมีคนอยากคุยด้วย จะคุยมั้ย ผมก็ถามใครครับ เขาบอกพี่แพท เราก็โอ้ ไม่ใช่แล้ว(หัวเราะ) นาฟอย่าอำผมเลย ผมไม่เชื่อหรอก เขาก็โทรมาเรื่อยๆ นะ แล้วบอกว่าเขาพูดจริงๆ สักพักเหมือนพี่แพทมาคุยเองว่าอยากคุยด้วยจริงๆ ไม่ได้แกล้ง ผมปฏิเสธอยู่หลายวันว่าไม่เอาหรอกพี่ ไม่เอาดีกว่า พี่อย่ามาแกล้งผมเลย”

“ผมก็โทรหาเพื่อนว่ามึงให้เบอร์กูกับพี่เขาให้มาปั่นกูทำไมเนี่ย เขาก็บอกว่าไม่มีใครให้เลย เขาเอาเบอร์จากเพื่อนผมอีกคนหนึ่ง คือเพื่อนผมมีน้องสาว แล้วนาฟเป็นเพื่อนน้องสาวเขา นาฟเลยไปถามเนย เนยเลยไปถามเพื่อนผมแล้วเอาเบอร์มา ต่อจากนั้นก็คุยกัน หรือไลน์ตลอด คุยมาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในบ้านเขาทันทีนะครับ คุยกันสองสามเดือนก็ถึงได้เข้ามาอยู่บ้านเขา ก็ได้เจอหน้าเขา แต่ไม่ได้ไปทำงานด้วย คุยกันตลอด”

“เจอหน้าครั้งแรกก็ตื่นเต้นนะ เจอที่บ้านเขานี่แหละ คุยกันว่ากลับบ้านหรือยัง ถ้ากลับเดี๋ยวไปรอที่อพาร์ทเม้นต์นะ ผมก็ไปนั่งเล่นกับเพื่อน ไปนั่งคอยเขากลับมา ก็พิมพ์คุยกัน(หัวเราะ) ผมก็ตื่นเต้นนะ เพื่อนก็ถามว่าเขาคุยกับมึงจริงเหรอ ตอนแรกก็บอกว่ากูก็ไม่รู้ ผมไม่มั่นใจว่าเขาคุยกับเราจริงๆ เพราะถ้าเขาคุย ผมก็คุย ถ้าไม่คุยก็ไม่ได้อะไร คุยอย่างนี้มาเรื่อยๆ จนได้ไปอยู่ในบ้านและเริ่มได้ใช้ชีวิตด้วยกันไปไหนมาไหนด้วยกัน ผมก็ไม่ได้ทำงาน ผมก็บอกว่าผมขอตามไปได้ไหมเพราะผมไม่ได้ทำงาน ให้ผมไปขับรถ ตามไปช่วยอะไรก็ได้ ให้ผมไปไหนผมก็ไป ให้ไปช่วยพี่ได้ไหม เพราะผมก็ว่างงาน แล้วพี่เขาก็ถามว่าเหนื่อยไหมไปด้วยกัน ผมก็บอกว่าผมไม่เหนื่อยผมไปได้เรื่อยๆ ไปไหนก็ได้”

“เขาก็ถามว่าอยากออกไปหางานทำไหม ตอนนั้นในใจอยากช่วยเขาเต็มที่ เห็นเขาไปไหนมาไหนเป็นผู้หญิง ผมไปไหนบางทียกของหรือถุงกระเป๋าเครื่องสำอางเต็มไปหมด เขาเป็นตัวผู้หญิงตัวคนเดียว ให้ผมไปช่วยยกของดีกว่า ไปคนเดียวของพะรุงพะรัง เขาบอกว่าเขาไหว ผมก็ยืนยันว่าให้ผมไปช่วยแล้วกัน ผมอยากช่วยจริงๆ เขาก็ให้ผมไปทำงาน อยากมีเงินใช้ไปหางานทำนะ เพราะอยู่กับพี่ไม่ได้ตังค์นะ ผมก็บอกว่าโอเค ไม่ได้ตังค์ไม่เป็นไร ผมอยากช่วย เราอยู่ด้วยกันก็อยากช่วย ผมก็บอกแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาคิดกับผมในฐานะอะไร อยากอยู่ใกล้ชิด อยากดูแลกันครับ”

รับ “แพท” เป็นฝ่ายซัพพ

“และพี่เขาดูแล ผมพูดตรงๆ ไม่อายเลย เงินผมไม่ได้ควักสักบาท อยู่กับเขาผมกล้าพูดเลย กินอยู่กับเขา เงินไม่ได้ควักสักบาท เขาซัพพอร์ตเราทุกอย่าง ผมพูดมาแล้วว่าผมไม่มีตังค์ ผมเคยพาพี่เขาไปดูบ้าน ว่าบ้านผมเป็นแบบนี้นะ อยู่กับแม่สองคน พาเขาไปดูทุกอย่าง แต่พี่เขาบอกว่าไม่เป็นไร เราไม่ได้คิดอะไร คิดในใจตลอดว่าถ้าวันไหนเขาบอกเลิกขึ้นมาเราคงทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่มีอะไรติดตัวมาเลย(หัวเราะ) โอเค เราเอาเท่าที่ได้ อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”

“และตอนแรกเข้าไปอยู่ผมไม่กล้าช่วยอะไรพี่เขาเลย เขาจะมีพี่คนใช้ที่คอยดูแลน้องสาวของพี่เขา แล้วพี่แพทช่วยกัน ผมก็เลยถามว่าผมต้องทำยังไงบ้าง ผมอยากช่วยบ้าง ผมก็เลยขอลองเปลี่ยนแพมเพิร์สและช่วยอุ้มคุณแม่ เวลาทานข้าว ผมก็ขอลองป้อน(ยิ้ม) เพราะผมอยากช่วยจริงๆ ผมไม่ได้มีเจตนาอะไร ไม่ได้อยากสร้างภาพ ไม่ได้อยากทำดี จะให้นั่งกินนอนกินคงไม่ได้ ผมบริสุทธิ์ใจจริงๆ มีอะไรช่วยได้ผมก็ช่วย วันไหน พี่เขาตื่นเช้ามาถ้าพี่เขาอยากใส่บาตรก็ไปด้วยกัน ใส่บาตร ออกไปทำงานตอนเช้า แต่ก็แล้วแต่ละวัน”

“ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยไปไหนเลยนะ ผมพูดตรงๆ ผมเป็นเด็กธรรมดา ไม่เคยไปไหน พี่แพทเขาพาผมไปทุกที่เลยนะ พาไปเจอที่ใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ เซ็นทรัลมาเดินยังตื่นเต้นเลย เพราะไม่เคยมาเดิน ไม่เคยออกไปไหน อยู่แต่บ้าน พี่เขาพาผมไปเปิดหูเปิดตา ดีใจคบกับพี่เขาได้เจออะไรใหม่ๆ ได้เจออะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเสื้อผ้าใหม่ๆ เขาก็ซื้อให้ ชุดที่เราเคยมองก่อนไม่มีตังค์ ได้ใส่ได้อะไรหมดเลย ผมก็ดีใจอย่างมีกางเกงยี่ห้อหนึ่งตัวเกือบหมื่น เขาถามว่าอยากได้ไหม ผมบอกว่าไม่เอา ไปซื้อตลาดนัดดีกว่า ตัวสองสามร้อย ผมใส่ยีนส์ธรรมดา และที่ผมใส่ปัจจุบันมันซีด พี่เขาก็บอกว่าขามันเต่อแล้ว เวลาใส่อะไรก็ให้ดูดีหน่อยเวลาไปไหนมาไหน ผมยังไงก็ได้แล้วแต่พี่ ซึ่งมันแพงด้วย ผมใส่เสื้อผ้าอะไรชิลๆ อยู่แล้ว และที่ผ่านมาผมเจียมตัวมากๆ แต่เขาก็มองว่าเรามาหลอกเขาสารพัด”

เป็นแฟนกับดารามันยิ่งกว่าฝัน

“การมีแฟนเป็นดารามันยิ่งกว่าฝันอีก แรกๆ ที่คุยกับพี่เขา ผมนอนไม่หลับ คิดว่ามันจริงหรือเปล่า หรือมาหลอกให้เราฝันมาคุยกับเรา แต่ดีใจที่ได้คบกัน ซึ่งผมก็ถามพี่เขานะครับ ว่าทำไมถึงมาเลือกคบกับเรา เขาบอกว่าเห็นผมเงียบๆ น่ารักดี เขาชอบ อยากลองคุยดู พอคุยไปซักพักเขาบอกว่าผมนิสัยดี เขาก็บอกว่าเขาไม่เป็นไร เขาไม่ได้ชอบความหรูหรา ก็ถามว่าพี่มีหน้าตาในวงการทำไมไม่ลองไปคบกับคนในวงการดู เขาก็ให้เหตุผลว่าเขาไม่ได้ชอบคนในวงการ ไม่ได้ชอบคนมีฐานะ เขาชอบคนดี รักครอบครัวเขา รักเขา รักแม่เขา ซึ่งผมไม่ได้สร้างภาพให้ตัวผมดีไง ผมก็ทำตามที่ผมเคยเป็น มีอะไรก็ต้องช่วย”

“เราต่างคนต่างมากันคนละระดับกับพี่เขา ซึ่งไปถามเพื่อนๆ ผมได้เลย เพราะขนาดเพื่อนระแคะระคาย เจอหน้าผมแซวทุกคนเลย แซวกระจุย ประมาณว่าเฮ้ย...คบกับดาราไม่บอกเลย ดังแล้วอย่าลืมกู ผมก็ปฏิเสธทุกคน จนตอนหลังเขารู้กันหมด ผมไม่ได้ปิดอะไรแล้วไง รู้ก็รู้ไป ก็บอกว่ารู้แล้วก็อย่าพูดไป เดี๋ยวพี่เขาจะอาย และครั้งหนึ่งเขาเคยพาไปในกลุ่มเพื่อนที่เป็นดารา โหย...ผมทำตัวไม่ถูกเลย ผมเจอดาราหลายคนมาก เจอมาเยอะมาก”

เริ่มมีปัญหาเพราะ “แจ็ค” เริ่มออกไปหาเพื่อนๆ โต้ข่าว “แพท” ไม่ซื้อบิ๊กไบท์ให้เลยบอกเลิก

“ปัญหาที่ทำให้เราเริ่มระหองระแหงกันตรงที่ว่าผมแค่อยากเจอเพื่อน ผมออกมาหาเพื่อนทุกครั้งจะมีปัญหากับพี่เขาตลอด ผมก็บอกกับเพื่อนว่ากูไม่ได้เจอพวกมึงนะเว้ย เพราะออกมาปุ๊บ กูมีปัญหากับพี่เขาตลอด บางทีก็เข้าใจว่าผมติดเพื่อนไม่หาย เขาก็ให้เหตุผลว่าเวลาออกมาไม่เคยโทรหา ไม่เคยโทรมาบอกว่าจะกลับกี่โมง เวลาผมอยู่กับเพื่อน ผมก็จะลืมทุกคนเลยนะ ผมลืมไปเลยและมีหลายครั้ง ผมขอไปนั่งบ้านเพื่อน กินเบียร์แล้วไหลเลยตามเลย ไม่ได้บอกเขา แล้วเราก็ทะเลาะกัน นับไม่ถ้วนเลยที่บอกเลิกกัน”

“ทุกครั้งกล้าพูดเลยว่าผมไม่เคยเอ่ยปากขอเลิก มีครั้งล่าสุดที่ผมเอ่ยปากแล้วผมขอเลิกก่อน ประมาณวันที่ 20 ธค. ผมก็ขอเลิก ผมไม่ไหว เขาก็ถามว่าเป็นอะไร เพราะอะไร มีช่วงหนึ่งผมคุยกับเขาเรื่องมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ผมแกล้งแซวเขาเล่น ผมดูในเฟซบุ๊ก บิ๊กไบค์เท่ห์ดี ผมก็เลยแกล้งแซวว่าอยากได้บิ๊กไบค์ เวลาไปไหนจะได้ไปต่างจังหวัดด้วยกัน ซื้อให้หน่อยสิ แต่ใจผมก็คิดว่าสองแสนมันเยอะมากเลยนะครับ ผมไม่กล้าขอเขาหรอก ผมแกล้งแซวเล่นๆ เท่านั้น ผมไม่คิดว่าอยากจะซื้อให้จริงๆ นะ แต่ผมไม่เคยไปเซ้าซี้เลยนะ เขาปฏิเสธก็บอกว่าไม่เอาหรอก มันแพง ไว้มีเงินค่อยไปซื้อ ผมก็เลยโอเค ไม่ได้ไปเซ้าซี้ว่าซื้อให้หน่อย จนเขามาพูดว่าผมไม่ได้ของที่ต้องการเลยเลิก ซึ่งผมบอกแล้วว่าแค่แซวขำๆ แต่ถ้าจะซื้อให้จริงๆ คงไม่เอา เพราะเงินตั้งสองแสน ถ้าผมยืมเงินเขามาซื้อจริงๆ ผมจะมีปัญญาที่ไหนไปคืนเขา มันก็เลยกลายเป็นประเด็นจนเป็นข่าวว่าผมขอเลิกเพราะไม่ได้ของที่ต้องการ”

“พี่เขาไม่ได้ตามง้อเลยครับ ระยะเวลาสองอาทิตย์ ไม่ตามผมเลยจนถึงปีใหม่ ผมคิดว่าเราเข้าใจกันแล้ว ทีนี้ระหว่างนั้นผมเห็นเฟสเบญ ก็เลยแกล้งทักไปหาเบญ คุยว่าอยากกลับไปคุยกันเหมือนเดิมได้ไหม เขาก็ตอบตกลง เราจึงกลับมาคบกัน เพราะเบญเขาก็ไม่ได้มีใคร เหมือนเราเคยผูกพันมาก่อน เราคบมา 2 ปีกว่าๆ เลิกแล้วหายกันไป เราเป็นแฟนเก่า ต่างคนต่างโสด แล้วเราอยากกลับมาคบกันใหม่ ในส่วนของพี่เขา ผมคิดว่าเราขาดกันจริงๆ แล้วเพราะต่างคนต่างอวยพรกัน เขาก็อวยพรผมว่าขอให้ผมเจอคนดีๆ ผมก็บอกว่าผมขอบคุณพี่มากที่ให้ทุกอย่างกับผม ให้ทุกอย่างที่ไม่เคยเจอ ไม่เคยมี ขอบคุณพี่มาก ขอให้พี่เจอคนดีๆ นะ”

“ส่วนในวันที่เกิดเรื่อง ผมกลับมาวันที่ 1 มค. ประมาณ 3 ทุ่ม พอขับรถจอดหน้าบ้านเพื่อน ผมเห็นรถเขาแล้วจอดอยู่หน้าบ้านแต่ไม่แน่ใจว่าใช่รถเขาจริงหรือเปล่า ผมเปิดประตูปุ๊บ แม่ของน้องนาฟก็เดินมาบอกว่า แจ๊คเอ็งไม่ต้องลงจากรถนะ ผมก็ไม่เข้าใจ ผมก็บอกว่าผมง่วงแล้ว ผมอยากกลับบ้าน ผมก็ไปคุยกับเพื่อนผม สักพักแม่น้องก็เดินมาหาบอกว่าเอ็งจะลงมาทำไม ข้าบอกไม่ให้เอ็งลงมา ผมก็งงหนัก ทำไมผมจะลงมาไม่ได้ เขาบอกว่าพี่แพทเห็นผมแล้ว เอ็งไปเคลียร์กับพี่แพทเลย เขาไม่ยอมนะ ผมก็งงหนัก เขาไม่ยอมเรื่องอะไร ก็เรียกไปคุยบนรถ”

“พี่เขาก็ถามเลยว่าที่อยากเลิกกับเขาเพราะอยากไปเที่ยวปีใหม่กับเพื่อนใช่ไหม รู้ว่าติดเพื่อนแต่ทำไมกล้าบอกเลิกผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่มีความผูกพัน ไม่สนใจเลยเหรอ ผมเลยบอกว่ามันไม่ใช่มันหลายๆ เรื่องผมคิดดีแล้ว ทุกคนเขามอง เวลาไปไหนมาไหนคนก็พูดว่าเด็กคนนี้ใคร สายตาคนมอง ผมก็กดดันตัวเอง มันไม่คู่ควรหรือเปล่า ยืนข้างเขาดูไม่คู่ควรแน่เลย ก่อนบอกเลิกกับเขา ผมก็นอนคิดคนเดียวหลายวันเลยครับ ผมก็นอนคิด เอาไปคิดคนเดียวว่ามันไม่ใช่เปล่า”

เครียดคิดหนักโดนดูถูกไม่คู่ควร “แพท” เป็นชนวนเหตุให้ยุติความสัมพันธ์

“และสิ่งที่ทำให้ผมคิดหนักก็คือประมาณว่าผมเดินผ่านไป แล้วมีคนเข้ามาคุยกับพี่แพทว่า คนนี้คือใคร พี่แพทเขาก็บอกว่าแฟนเขา ทุกคนก็มองด้วยสายตาเหมือนดูถูก และเขาบอกใช่เหรอแพท ทำไมไม่เลือกหน่อย เลือกคบบ้าง คือคำพูดนี้บั่นทอนจิตใจผม ตัวพี่แพทเองเขาก็พูดว่าเขาไม่ได้แคร์ใครหรอก เขาแคร์ผมคนเดียว แต่ตัวผมเอง เข้าใจไหม ถ้าเกิดระยะเวลาคบกันไปนานมากกว่านี้ ผู้ใหญ่ในวงการมอง แล้วเขาไปขุดคุ้ยว่าผมมาจากไหน มีฐานะยังไง ซึ่งผมก็ไม่รู้เขาจะไปขุดคุ้ยไหมนะ แต่ผมคิดเยอะ คิดมาก คิดถึงเรื่องยังไม่เกิด ผมมานั่งคิด ไม่อยากเป็นขี้ปากของสังคม”

ที่ผ่านมารัก “แพท” จริงๆ ไม่ได้หลอก ถ้าคิดว่าหลอกของที่ซื้อให้จะเอาไปคืนให้หมด

“ผมก็รู้สึกแย่ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้นะ ทุกคนก็มองว่าโง่ฉิบหายเลย ที่ทิ้งดาราไปหาเบญ แต่ผมไม่รู้จะพูดยังไงกับทุกคน ผมกับเบญก็ต้องการพื้นที่ในสังคม ไปไหนมาไหน ก็ถูกคนประณาม ถ้าวันนี้ผมไม่ได้ออกมาพูดความจริง ทุกคนก็จะประณามผมกับเบญจนอยู่กันไม่ได้ ส่วนพี่แพท ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ผมอยากให้เขาพูดความจริงว่าผมไปหลอกเขาตรงไหน ถ้าของทุกอย่างที่หลอกจริง ผมคืนให้ทุกอย่างเลย ผมไม่เคยคิดอยากเอาของเลย ผมอยู่กับเขา ผมรักเขาจริงๆ เงินทองผมไม่เคยอยากได้ ผมรักเขาจริงๆ ของทุกอย่างพี่ซื้อให้ ผมก็เก็บไว้ ถือว่ารักษาน้ำใจกัน โอเคผมก็เก็บไว้ แต่ถ้าวันนี้พี่จะมองว่าผมหลอกลวงพี่ ผมจะคืนให้พี่ทุกอย่างเลย จะเอาไปคืนให้หมดเลยครับ”

“ผมกับเบญไปหลอกลวงเขาตรงไหน ระยะเวลาผมคบกับเบญ ยังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์เลยพี่ แต่ผมเลิกเขามาได้สักพักหนึ่งแล้ว ระหว่างนั้นผมกับเบญเจอกันแค่สองครั้ง ครั้งแรกกินข้าวด้วยกัน ครั้งที่สองไปดื่มเหล้าด้วยกัน ตอนออกมาไม่มีเงินติดตัวสักบาท อย่างครั้งแรกไปเจอเบญ แล้วไปกินข้าวกัน เบญยังเลี้ยงผมเลยครับ (ยิ้ม) ซึ่งของที่ได้ก็จะมีเสื้อผ้าเพราะเงินทองผมไม่ได้เอามาเลยสักบาท เสื้อผ้า แหวนทองเดี๋ยวคืนให้เขาหมดเลย คืนให้ทุกอย่าง แค่อย่าให้สังคมมองว่าผมไปหลอกเขา ผมไม่ใช่ผู้ชายที่ไปเกาะผู้หญิงกิน ผมยืนยันเลยครับ”

ยอมรับนาทีนี้มีแต่คนอยากเห็นหน้าว่า เด็กแว๊นที่ไหน ถึงได้มาคบกับดารา

“โหย... (หัวเราะ) ผมไม่ได้หล่อไม่ได้อะไร ผมเข้าใจว่าใครๆ ก็อยากจะรู้ว่าไอ้คนนี้มันคือใคร ผมก็แค่แว๊นท์ที่อยู่แถวๆ ถนนจันทร์ ผมไม่อยากให้ใครเห็นหน้าด้วย แต่เรื่องมันเลยเถิดมาแล้ว ก็ไม่เป็นไรครับ จะว่าก็ว่าไป ผมไม่ได้หล่อไม่ได้อะไร ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เริ่มแรก หน้าตาผมตั้งแต่คุยกับพี่แพทก็เป็นอย่างนี้ ไม่ได้ไปเสริม ไม่ได้อะไรเลย และตอนนี้ใจผมอยากอยู่สงบๆ อยากเงียบ ไม่อยากออกมาอะไรแบบนี้ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง ถ้าเขาเป็นคนธรรมดาก็คงจบ แต่นี่เขาเป็นดารา”

“ตั้งแต่มีเรื่องมา เฟซบุ๊กผมคนแอดมาสองพันกว่า ผมไม่รู้แอดมาทำไม แต่ผมไม่รับ ผมไม่ได้อยากดัง ถ้าอยากดังผมต้องเปิดเผยตัวว่าผมคบพี่แพท ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา ไปค้นหาได้เลยครับ รูปในเน็ตไม่มีเลย ไปค้นหาได้เลย ไม่เคยป่าวประกาศ เพราะผมอยากอยู่อย่างนี้ ถ่ายรูปไว้ดูแค่ส่วนตัว แต่ผมไม่เคยไปอวดใคร ว่าผมถ่ายรูปกับดารา ผมเก็บไว้ในโทรศัพท์ผม รูปที่หลุดไปผมก็ไม่รู้”