“ศิรินทรา”ย้อนเล่าอดีตเคยถูกเหยียด โดนทำของหวิดตาย
กลับมาแล้ว "ศิรินทรา" ย้อนเล่าอดีตเคยถูกเหยียด โดนทำของหวิดตาย พระทักเป็นเมียน้อยจะรุ่ง งานนี้หลายคนฮือฮาในคำตอบหนักมาก
ห่างหายไปนานสำหรับอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ศิรินทรา นิยากร” ที่ล่าสุดได้มาเปิดใจผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม ถึงชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เคยถูกเหยียดเรื่องการศึกษาช่วงเข้าวงการใหม่ๆ แถมทำวงดนตรีขาดทุนเจ๊งไม่เป็นท่า อีกทั้งเป็นคนที่ไม่สมหวังเรื่องความรัก เคยโดนของเกือบหวิดตาย
ศิรินทรา เผยว่า “เรื่องหายหน้าไปคือที่หายไปเราไปทำหลายอย่างค่ะ หลักๆ เป็นคนที่ชอบเรียน ไม่ว่าจะเป็นทำอาหารทำขนม เพราะเราชอบเรียนชอบหาความรู้ให้ตัวเอง ไม่ชอบอยู่ว่างๆ อย่างก่อนหน้านี้ที่เราเรียนจบปริญญาตรี เรามีความตั้งใจแต่เด็กเลยว่าอย่างน้อยเราต้องเรียนให้จบนะ เพราะวันนึงที่เราเข้ามาวงการและเป็นวงการลูกทุ่ง คนส่วนใหญ่จะมองว่าคนวงการลูกทุ่งมักไม่มีการศึกษา สมัยก่อนคนชอบเหยียดพูดง่ายๆ มื่อย้อนกลับไป 30-40 ปี มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ พวกเราเหมือนอยู่ข้างหลังเลย จนมันเริ่มมีการยอมรับมากขึ้น และพอเราเรียนจบก็มันเริ่มทำให้คนยอมรับมากขึ้น เป็นตัวอย่างให้กับน้องๆ ด้วย ซึ่งทำให้คนที่เคยเหยียดวงการลูกทุ่งเริ่มยอมรับมากขึ้น เส้นทางชีวิตของเราครั้งหนึ่งเราเคยทำวงแล้วเจ๊ง เลยรู้สึกว่าเราต้องหาอะไรทำที่มันมั่นคงแล้ว อยากจะหาชีวิตที่ทำงานรูทีนเข้าเช้าเลิกเย็น อยากมีเวลาให้กับครอบครัว แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะเราไปเรียนก่อน สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เพราะว่าเราก็กลับมาทำงานในวงการเหมือนเดิม มาเป็นนักร้องอยู่ในวงการได้เกือบ 40 กว่าปีแล้ว เริ่มต้นจากการประกวดร้องเพลงลูกกรุงตั้งแต่อายุ 11 ขวบ พอเข้ามาในวงการบันเทิงก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเป็นนักร้อง และถูกจ้างให้ไปทำงานได้เงินเดือนครั้งแรกคือ 7,000 บาท”
“สมัยก่อนทำงานเยอะมากจนป่วยเลย คือใช้สังขารมาก ไม่ได้หยุดเลย 365 วัน สุดท้ายก็ป่วยเป็นช่วงที่แย่มากๆ คือวันที่ป่วยเราก็ยังไปร้องเพลงอยู่ จนคนดูเห็นยังรู้สึกได้และบอกให้เราหยุดร้องและกลับบ้านไปพักผ่อน ตอนแรกคิดว่าป่วยธรรมดา แต่ด้วยความรู้สึกเราคิดว่าโดนกระทำหรือว่าโดนของ คือตอนนั้นเรามีอาการที่เจ็บคอมากๆ คือกลืนอาหารไม่ได้ ทรมานมากเหมือนเราใกล้จะตาย ไปหาหมอก็หาสาเหตุไม่เจอ มาเจอตอนที่ไปหาพระท่านก็เลยทำพิธีให้ เพราะใบหน้าเรามีสีดำคล้ำเลย ในขณะที่ทำพิธีคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจมากๆ เพราะพระพยายามไล่ผีออกทีละตัวๆ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าใครทำ ไม่โทษใคร โทษตัวเราเองมากกว่า แต่ที่พระทักห้ามแต่งงาน ให้เป็นเมียน้อย เราถูกทักเรื่องนี้มาตลอด เขาบอกเป็นชีวิตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว เลยเป็นสาเหตุทำให้เราไม่กล้าแต่งงาน”...
