ดูเหมือนว่าช่วงนี้เทศกาลเจนนี่ จะเริ่มซาไปแล้ว เพราะหลายคนที่ดูไลฟ์ของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เริ่มเริ่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด บางวันเหลือแค่หลักเท่านั้นเอง จากที่เคยทำสถิติสูงสุดที่มีคนดู 1.2 ล้านวิว จนทำหลายคนสงสัยว่า อย่างนี้งานเฟสติวัล Live Market ของเจนนี่ ที่เคยให้คนเช่าบูธสินค้า บูธละ 1 ล้านบาท จะยังมีอยู่มั้ย
ล่าสุด นารา เครปกะเทย ก็ได้เป็นตัวแทนหมู่บ้าน ถามเจนนี่ว่า “คนอยากรู้ว่า ตลาดเจนนี่ยังไง จะมีอยู่มั้ย?”
ซึ่ง เจนนี่ ก็ตอบตรงๆ ว่า “ไม่ทำแล้ว เดี๋ยวกำลังจะ นี่พูดครั้งแรกเลยนะ แต่จริงๆ มีคุยหลังบ้านกับทุกแบรนด์แล้วประมาณ 50 กว่าแบรนด์ ที่รอทำ ซึ่งข้อที่ 1 ที่บอกพี่ๆ ว่าไม่ทำแล้ว เพราะว่าคนดูมันไม่ได้หลักแสนหลักหมื่นแล้ว ซึ่งแน่นอน ณ วันที่เราถ่ายงาน คนดูเราหลักแสน เรายังไม่รู้เลยว่ามันจะไปได้ถึงขั้นไหน แต่พอ ณ วันนี้มันเหลือหลักพันหลักหมื่น เรารู้สึกว่า ถ้าเราเป็นผู้ประกอบการ เราจัดเงิน 1 ล้านบาท แล้วคนดูเท่านี้ เรารู้สึกว่าเราไม่คุ้ม
ทีนี้เราเองไม่อยากสร้างศัตรู เราอยากเป็นพันธมิตรกับทุกแบรนด์ ก็เลยรู้สึกว่างั้นเราไม่ทำ แต่ถ้าแบรนด์ไหนที่อยากจะจ้างเรา เราก็เปลี่ยนจากงานมาเป็นเหมาไลฟ์ เหมาคลิปพี่ว่าคุ้มกว่า คือเราต้องพูดว่าทำอะไรแล้วแบรนด์คุ้ม คือจัดงานบูธ คนที่คุ้มน่ะคือยิวกับเจนนี่ แต่แบรนด์ไม่คุ้ม เลยรู้สึกว่าไม่เอา ถ้าคุ้มแล้วต้องคุ้มกันทุกคน ก็เลยเปลี่ยน เหมือนบางท่านก็เหมาคลิปเหมาไลฟ์ บางท่านก็มาจ้างปักตะกร้าแทน
เราขายโซเชียลเป็นหลัก มันอยู่ที่ยอดคนดู การจัดงานทั่วไป เราจัดได้อยู่แล้ว แต่ต้องไม่ใช่หลักล้าน นี่คือความเป็นจริง บางคนอคติก็มีมุมอคติอยู่ดี แต่นี่คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เราไม่สวนกระแส อย่างที่เจนนี่พูดว่าจ้างเราต้องคุ้ม อย่างคนถามทำไมรับงานเรต 30,000 เราต้องดูกระแสด้วย ณ ตอนนี้ไม่มี แต่อนาคตไม่แน่ ณ วันนั้นมีสิ่งที่อยากทำหลายอย่าง แต่สุดท้ายเราก็รู้กำลังตัวเองว่าทำได้ประมาณไหน ณ วันนี้กระแสมันเปลี่ยน เงินลูกค้าที่จ่ายมา เราต้องอย่าไปอยากได้ขนาดนั้น
ตอนนั้นคิดว่าเป็นตลาดได้ การที่มีคนดูหลักแสน หลักล้าน อยากทำอะไรได้หมดอยู่แล้ว อยู่ที่กระแสจะไปได้นานแค่ไหน ถ้างานที่จะจัดอยู่ในช่วง ต.ค.-พ.ย. ยังไงก็แมส ยังไงก็บูม ยังไงลูกค้าก็คุ้ม แต่ทำไม่ทัน ก็เลื่อนไป ม.ค.69 แต่ตอนนี้คนดูเรากลับมาเหมือนเดิม ไม่ใช่เทศกาล เป็นเจนนี่จริงๆ
เรารู้สึกว่าไม่อยากให้ลูกค้ารู้สึกเสียใจที่จ้างเรา คืนเงินกันดีกว่า หรือทำอย่างอื่นที่คุ้มกันดีกว่า หรือถ้าสมมติลูกค้าอยากทำอีก เดี๋ยวมาคุยกัน อนาคตอาจมี แต่ดูข้อเสนอกันใหม่ เพราะข้อเสนอที่เรายื่นไปวันนั้นคนดูหลักแสน เราจะมัดมือชกไม่ได้ว่าพี่จ่ายหนูแล้วล้านนึง มายกเลิกได้ไง หนูควบคุมกระแสไม่ได้ อย่างนี้เราสร้างศัตรู เราอยากสร้างพันธมิตร เพราะลูกค้าซื้อบูธ คนนึง 10 ล้าน คนนึง 5 ล้าน เราคิดว่านี่คือพันธมิตรที่เราควรจริงใจต่อกันไว้ เราควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน”
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012
