Inside Dara
‘พิตต้า’ สวย เซ็กซี่ เสน่ห์คงที่ ไม่เคยลด!?

ถ้าเอ่ยถึงนักแสดงสาวหน้าคม นัยน์ตาแขกสุดเซ็กซี่ยังไงก็ต้อง ยกให้ “พิตต้า ณ พัทลุง” ที่จะผ่านไปกี่ปีความสวยเซ็กซี่ก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนฝีมือการแสดงในบทนางร้ายสุดขีดในละครหลาย ๆ เรื่อง ก็ทำเอาผู้ชมถึงกับอยากมอบเปลือกทุเรียนให้ไม่น้อย วันนี้ “ดาวต่างมุม” เลยชวนสาวพิตต้ามานั่งพูดคุย สบาย ๆ ถึงการทำงานในวงการบันเทิงที่นับนิ้วไปมาก็เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ที่สำคัญความรักกับแฟนหนุ่มข้าราชการที่ชื่อ “อ๊อฟ” ก็คบหาดูใจกันมา 9 ปี หลายคนก็ลุ้นว่าเธอจะมีข่าวดีเรื่องวิวาห์หรือยัง ทั้งหมดนี้สาวพิตต้าเปิดใจให้ฟังทั้งหมดติดตามกันเลยจ้า

ย้อนถึงจุดเริ่มต้นเข้าวงการที่มาจากประกวดวีเจ แชนแนลวีไทยแลนด์ให้ฟังนิดนึง?

“ตอนนั้นต้าเพิ่งอายุ 19 ปีค่ะ (ยิ้ม) ไม่ได้อยากลองประกวดอะไรเลย เราไม่ใช่เด็กสายการแสดงออก แต่ว่าเพื่อนสนิทมาหาต้าที่บ้าน ให้ช่วยอัดวิดีโอให้เค้าจะส่งเทปนี้ไปประกวดวีเจที่แชนแนลวีไทยแลนด์เราก็ทำให้ สุดท้ายเค้าบอกให้ไปเป็นเพื่อน เราก็โอเคไปกัน 3 คน มีต้า เพื่อน และแฟนเค้า นั่งดูคนประกวดไปเตรียมสคริปต์มาอย่างดี มาเจอพี่วุ้นเส้น-วิริฒิพา ที่เค้าเป็นวีเจที่นั่นอยู่แล้ว คุณแม่เราเป็นเพื่อนกัน ก็ได้ทักทายกัน พี่เค้าก็บอกให้ลองดู เราก็ไม่เอาดีกว่า ไม่อยากประกวดสุดท้ายก็ใจอ่อน ไปทดสอบพูดกับกล้อง 10 นาที ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แบบไม่มี สคริปต์เลย แล้วก็เข้ารอบ 50 คน เหลือ 12 คน ไปเก็บตัวที่สิงคโปร์ เหลือ 6 คน แล้วก็ประกาศผลว่าเราชนะ แปลกใจมาก ชีวิตเปลี่ยนไปเลยหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา”

แต่จริง ๆ ต้าเรียนจบด้านไหนมา?

“ตอนอยู่เมืองไทยเรียนประถมที่โรงเรียนมาแตร์เดอี แล้วก็ไป เรียนมัธยมที่ออสเตรเลีย ค่อยกลับมาเรียนต่อแฟชั่นมาร์เกตติ้งที่เมืองไทย จนมาเจอโอกาสที่เข้าวงการ ถามว่าเราโอเคมั้ยที่ตัดสินใจเดินในเส้นทางบันเทิง โอเค ที่บ้านไม่เคยห้ามอะไร แค่ดูแลตัวเองให้ดี เค้าจะปล่อยให้ต้าคิดเอง ดูห่าง ๆ แต่ถ้ามีปัญหาก็จะเข้ามาคุย แต่ก่อนอยู่ออสเตรเลียก็เต็มที่ เหมือนฝรั่ง แต่กลับเมืองไทยเราก็ปรับตัว ตอนนี้เราโตขึ้นก็จริง แต่พ่อแม่ยังห่วงเหมือนเดิม 5 โมงเย็นปุ๊บคุณแม่ต้องโทรฯถามแล้วว่าอยู่ไหน ตอนนี้คุณพ่อก็เกษียณแล้ว แต่ยังดูแลสวนสัตว์ที่ชื่อ “เพื่อนเดรัจฉาน” อยู่นะคะ ที่ ซอยรามอินทรา 5 ไม่เปิดเป็นร้านอาหารแล้ว แต่ยังมีร้านกาแฟอยู่ไปได้นะคะ (ยิ้ม)”

ช่วงที่ตัดสินใจมาเป็นนักแสดงจากวีเจเป็นมายังไงบ้าง?

“ประมาณ 10 ปีที่แล้วเลย ต้าไม่ได้คิดเลยว่าเราจะมาเป็นนักแสดง มีโอกาสมาให้เราลองทำ ตอนนั้นต้าเล่นเป็นนางเอกคู่รอง มีพี่นก-ฉัตรชัย, พี่จอย-ศิริลักษณ์ ไม่มีพื้นฐานใด ๆ แต่ตอนนั้นเราพยายาม แต่ยังไม่เชื่อในการแสดง ก็หยุดเล่นไปพักหนึ่ง แล้วบังเอิญว่ามีละครเวทีที่พี่คริส หอวัง ติดธุระมาแสดงไม่ได้หนึ่งวัน พี่เปิ้ล-หอย-วิลลี่ โทรฯมาชวนต้าบอกว่าอยากให้มาเล่นแทนพี่คริสวันนึง ละครเวทีเราไม่เคยลอง เลยตัดสินใจลองดูปรากฏว่าชอบมาก รู้สึกว่าสนุก สามารถร้องไห้จนทำให้ทุกคนอินตามได้ ไม่คิดว่าตัวเองจะเล่นอะไรที่มีอินเนอร์ได้ขนาดนั้น หลังจากเล่นละครเวทีครั้งนั้น กลับมารับงานละครก็ชอบการแสดงและเข้าใจมากขึ้นค่ะ”

เรียกตัวเองว่าเป็นนักแสดงเต็มตัวแล้วหรือยัง?

“ต้าไม่กล้าใช้คำนั้นเลย แต่เรารักการแสดงแล้ว ฉะนั้นอนาคตในการทำงานขอให้แล้วแต่โอกาสที่จะเข้ามา ต้าเชื่อว่านักแสดงทุกคนอยากเล่นบทดี ๆ ต้าก็เป็นหนึ่งในนั้น ไม่ต้องเป็นนางเอก แต่บทไหนรับเล่นทำให้เรารู้สึกสนุกมากกว่า บางคนก็บอกว่าเราน่าจะเป็นนางเอกมากกว่า แต่ทำไมชอบเล่นร้าย ต้าดีใจที่ทุกคนพูดแบบนั้น แต่การได้เล่นหลากหลาย เราได้เรียนรู้เยอะ ซึ่งก็มีบางบทที่ต้าไม่เคยเล่นอย่าง ละครย้อนยุค ไม่เคยเลย อยากลองเล่นมาก แต่แอบกลัวศัพท์คำพูดยาก ๆ แต่ถ้ามีโอกาสอยากลองดูเหมือนกัน บู๊ แอ๊คชั่นก็ไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่เล่นบทเป็นผู้หญิงมีเงินรวย อยู่ในเมือง (หัวเราะ) ไม่ค่อยเข้าป่า เรื่องที่วิ่งในป่าที่สุดคือเรื่อง “ดาวเรือง” ที่ทุกคนบอกเราว่าเธอไม่เคยเข้าป่านี่ ก็เฮฮากันไป เป็นประสบการณ์ที่สนุกดีค่ะ”

งานด้านไหนที่เราอยากลองทำอีก?

“ต้าอยากลองเล่นหนังค่ะ ซึ่งยังไม่มีโอกาสเลย เคยมีคนมาทาบทาม แต่บทยังไม่โดนใจ ถ้ามีโอกาสจะลอง แต่ตอนนี้ยังถ่ายละครอีก 2 เรื่องคือ “เล่ห์รักกลลวง” ของเอ็กแซ็กท์ แล้วก็จะถ่ายเรื่อง “แรงตะวัน” ทางช่อง 3 เราเป็นนักแสดงอิสระ ถ้าเป็นค่ายอื่น ๆ ติดต่อมาก็จะปรึกษา อาจิ๋ม-มยุรฉัตร ก่อนค่ะ เพราะต้าเริ่มเล่นละครที่ค่ายของอาจิ๋ม”

ภาพนักแสดงของเรามักรับแต่นางร้ายเซ็กซี่โอเคเหรอ?

“ต้าโอเคนะคะ ถ้าเป็นบทที่น่าสนใจ เล่นร้ายสนุกนะคะ ได้สวมบทบาทที่เราไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริง การเลือกรับบท ของต้าจะอ่านบทดูก่อนว่าตัวเราชอบคาแรกเตอร์นี้มั้ย แต่ส่วนใหญ่ต้าเล่นกับ “อาจิ๋ม-มยุรฉัตร” โอเคหมดอยู่แล้วเพราะ พี่เจ็ท-ณัฐพงศ์ ก็ดูบทดี ๆ ให้เราอยู่แล้วค่ะ”

อยู่ในวงการเป็นปีที่เท่าไหร่แล้ว ได้เรียนรู้อะไรจากการทำงานในวงการบ้าง?

“10 ปี กำลังจะเข้าปีที่ 11 แล้วเร็วมาก (หัวเราะ) อย่างที่ทราบต้าไม่ได้เป็นนักแสดงตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มจากการเป็นวีเจ จนมางานละครซึ่งเป็นอีกสายงานที่ ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้เลย วงการบันเทิงทำให้เราเรียนรู้เยอะ ระมัดระวังตัว คิดก่อนทำ เราต้องดูแลตัวเองนะ แต่ไม่ใช่เพื่อภาพลักษณ์สวยงามไร้ที่ติแบบนั้น แต่เพื่อความเหมาะสมในการทำงานตรงนี้ ใจเย็นมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะต้าเป็นคนใจร้อนมาก วินัยการเป็นนักแสดง ทำงานกับคนหมู่มากต้องมีความเคารพซึ่งกันและกัน มีมารยาท อ่อนน้อม เจอใครต้ายังยกมือไหว้หมดไม่ว่าจะเป็น ตากล้อง ช่างไฟ ต้องให้เกียรติกันและกันค่ะ”

อยู่วงการมาเคยมีช่วงเจอข่าวลือแรง ๆ จนทำให้เราท้อบ้างมั้ย?

“ก็มีบ้างค่ะ เป็นธรรมชาติของวงการ แต่หลาย ๆ ข่าวไม่จริงเลย ต้าก็ไม่สนใจเพราะเราไม่ได้ทำ ส่วนมากเรื่องเกี่ยวกับความรัก แต่ไม่ถึงกับเสียใจหรือมีน้ำตา อาจจะแค่ตกใจในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ อะไรที่เราทำเราจะยอมรับ ถ้าไม่ได้ทำก็ชี้แจงไปตรง ๆ ต้าเชื่อว่าคนรอบข้าง คนที่รักและแคร์เราเค้ารู้ดีว่าอะไรคือเรื่องจริง เราไม่สามารถไปบอกทุกคนให้เชื่อได้อยู่แล้ว เราเป็นคนมองโลกแง่ดีนะ ไม่ได้มองโลกสีดำเทาอะไร คิดมากก็มีบ้าง แต่จะพยายามให้ผ่านไป แบบนี้จะสบายใจ เพราะถ้าคิดมากทุกเรื่องสุขภาพจิตเราจะเสียเอาเปล่า ๆ ค่ะ”

ในแง่ฝีมือการแสดงเห็นข้อบกพร่อง หรือจุดอ่อนอะไรที่อยากแก้ไขหรือเปล่า?

“ต้ารู้คนติเรื่องพูดไม่ชัดเยอะ โดยเฉพาะ ส. เยอะมาก จริง ๆ ส. ต้องออกเสียงไปข้างหน้า แต่ต้าไปออกเสียง ส. ข้างปาก(หัวเราะ) ต้ายอมรับพูดให้ชัดไม่ได้เลย อาจจะเพราะเราเคยจัดฟันตอนเด็ก ๆ และพูดภาษาอังกฤษช่วงเรียนเมืองนอกด้วย แต่ต้าจะไปฝึกแล้วนะคะ ปรึกษาผู้ใหญ่แล้วว่าจะทำยังไงให้พูดให้ชัด เพราะรู้ว่าคนฟังจะรำคาญ เราก็ไม่อยากให้เค้ารำคาญเราหรอกค่ะ เห็นคอมเมนต์ตั้งแต่สมัยเป็นวีเจเลย แล้วแต่ก่อนเป็นคนพูดไม่ค่อยอ้าปาก ตอนนี้พยายามพูดอ้าปาก จะทำให้พูดได้ชัดขึ้น พยายามพูดช้าลง ฉะนั้นถ้ามีโอกาสแก้ไขให้ถูกต้อง เราอยากทำค่ะ”

พิตต้าหน้าคม ๆ แต่ชื่อนามสกุลไทยมากหลายคนก็สงสัยเป็นลูกครึ่งหรือเปล่า ?

“อ๋อ...คุณตา เป็นคนเยอรมันแท้ คุณยายนามสกุลคือ “บุนนาค” เลยมีเชื้อแขกเปอร์เซีย อิหร่าน แต่คุณพ่อจะไทยแท้ เลยผสมไปผสมมาค่ะ มีคนถามเยอะเหมือนกันว่าเราชื่อไทย แต่หน้าออกแขกนี่แหละค่ะที่มา (ยิ้ม)”

ลุคภายนอกเป็นสาวเซ็กซี่ตัวตนจริง ๆ เราเป็นคนยังไง?

“ต้าเป็นคนลุย ๆ ชอบกิจกรรม ชอบผจญภัย ดำน้ำ ชอบมาก ๆ ให้ไปลุย ๆ นี่ได้หมด เราไม่ใช่สาวหวาน หรือสวยตลอดเวลา แต่ภาพในการเล่นเป็นนางร้าย มีเงิน รวย ในละคร ทำให้คนมองว่าเราต้องชิค ๆ แต่จริง ๆ ต้าเป็นคนลุย ๆ นะคะ”

เคล็ดลับการดูแลตัวเองให้หุ่นแซ่บ แล้วสีผิวแทน ๆ ที่มีเสน่ห์?

“ดูแลเรื่องอาหาร ไม่ทานแป้งมาก ลดอะไรที่ไขมันเยอะ หรือน้ำหวาน พยายามออกกำลังกายสม่ำเสมอค่ะ ส่วนผิวแทนเพราะต้าชอบตากแดดค่ะ ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่กลัวแดด ไม่มองว่าขาวแล้วคือสวย ผิวแทนเนียน ๆ สุขภาพดีก็สวยได้ มันอาจจะเหมาะกับต้ากว่าผิวขาว ๆ ค่ะ”

ความรักตอนนี้ล่ะแฮปปี้ดีมั้ย เหมือนคบกันมาหลายปีแล้วเหมือนกัน?

“ปีนี้ 9 ปีแล้วที่คบกันมากับ “อ๊อฟ” นานมาก (หัวเราะ) คู่เราไม่ได้หวานเหมือนเป็นเพื่อนสบาย ๆ ต้าไม่คิดเหมือนกันว่าเราจะคบกันนานขนาดนี้ ต้ารู้จักเค้ามา 17 ปี เค้าเป็นพี่ชายเพื่อนสนิท เจอกันตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ต่างคนต่างไปเรียนต่อเมืองนอก คุยได้พักเดียวก็ห่างไป เวลากลับมาก็เจอกับกลุ่มเพื่อนเดียวกัน แต่ยังสวนกันไปมา จนกลับมาอยู่ไทยถาวรก็คุยกันเยอะขึ้น คุยกันมาเรารู้สึกได้ว่าเค้าเป็นคนจิตใจดีค่ะ (ยิ้ม)”

การแต่งงานล่ะ มีคิดไว้บ้างหรือยัง?

“เมื่อก่อนเด็ก ๆ เคยคิดนะอายุ 30 ปี ชั้นจะแต่งงาน แต่ตอนนี้ไม่คิดเลย เมื่อไหร่เมื่อนั้น เพราะเราต่างคนก็ต่างทำงานให้เต็มที่ก่อน แต่ถามว่าตอนนี้เค้าคือคนที่เรามองอนาคตร่วมด้วยมั้ย คนนี้ก็โอเค อนาคตข้างหน้าเราก็ตอบไม่ได้จะยังไง แต่วันนี้ทุกอย่างดีแล้วค่ะ”

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานเรามานานบ้าง?

“ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคน ล่าสุดเพิ่งมีคนทำอินสตาแกรมแฟนเพจให้ด้วยดีใจมากค่ะ ต้าจะพยายามเรื่องการแสดงให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะออกเสียง ส. จะทำให้ชัดขึ้นแน่นอน (หัวเราะ) แล้วฝากละครอีกสองเรื่อง “เล่ห์รักกลลวง” ของเอ็กแซ็กท์ แล้วก็เรื่อง “แรงตะวัน” ทางช่อง 3 ที่จะได้ชมในปีนี้ด้วย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจมาเสมอด้วย ค่ะ (ยิ้ม)”

การพูดคุยในครั้งนี้เราหวังว่าแฟนคลับของ “พิตต้า” จะถูกใจกับบทสัมภาษณ์ที่สัมผัสถึงตัวตนของเธออีกมุมที่นอกเหนือจากความสวย เซ็กซี่ หรือภาพนางร้ายในละคร ก็หวังว่าทุกคนจะติดตามผลงานและให้กำลังใจสาวสวยคนนี้ต่อไปนาน ๆ จ้า