Inside Dara
‘พรีม’อยู่โยงมายา 9 ปี มองสถานะนางเอกไม่ตายตัว : อาทิตย์ใส

‘พรีม’อยู่โยงมายา 9 ปี - แป๊บๆ อยู่วงการมา 9 ปีแล้ว สำหรับนางเอกสาวสังกัดวิก 3 ‘พรีม’ รณิดา เตชสิทธิ์ ล่าสุดกำลังร่ายบท ‘มินตรา’ ในละครดัง “ผมอาถรรพ์” ทางช่อง 3 เพื่อนรักของ ‘เกศินี’ นางแบบสาวที่ถูกฆาตกรรม แสดงโดย ‘น้ำตาล พิจักขณา’

วันนี้จังหวะดีที่นางเอกสาวแวะมาเยี่ยมเยียน เลยคว้าตัวมาพูดคุย

★ ฟีดแบ็กละคร “ผมอาถรรพ์” เป็นยังไงบ้าง?

พรีม - “ดีค่ะ โดยรวมทุกคนชอบมาก อย่างซีจีคนก็ชื่นชม บางคนไม่กล้าดูเพราะเห็นเป็นเรื่องผีๆ แต่ตอนนี้ทุกคนอินกับการพยายามเดาว่าใครเป็นฆาตกร ส่วนตัวละคร ‘มินตรา’ ช่วงต้นเรื่องจะเป็นคนไม่ค่อยมีเหตุผล คนดูเลยจะหงุดหงิดนิดหนึ่ง อินมากถึงขั้นด่าตัวละคร คือตลกดีค่ะ ไม่ซีเรียสอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าช่วงต้นนางเอกจะต้องเป็นคนแบบนี้ เราเลยเตรียมพร้อม แต่พอช่วงหลังเริ่มเห็นความจริงมากขึ้น นางเอกจะโอเคขึ้น ก็ดีใจที่คนชอบค่ะ”

★ ทำการบ้านเยอะไหม?

พรีม - “เยอะเหมือนทุกเรื่องค่ะ เพราะแต่ละเรื่องต่างกัน แต่เรื่องนี้มีการสิงของผีเกศินีในตัวเรา บางคนอาจมองว่าพรีมเคยเล่นละครที่โดนสิงร่างมาแล้วในละคร ชั่วโมงต้องมนต์ เรื่องนั้นริชชี่เป็นเหมือนสาวประเภทสอง ลักษณะท่าทางค่อนข้างชัดเจน แต่พอ ผมอาถรรพ์ จะเป็นผู้หญิงกับผู้หญิงสิงกัน การจะแยกออกมันก็ยาก บวกกับคนที่มาสิงเราเป็นผีอาฆาตแค้น ทุกอย่างต้องเป๊ะ ทั้งสายตาและอารมณ์ข้างใน โชคดีที่เล่นกับพี่น้ำตาล (พิจักขณา) เลยทำให้การบ้านไม่หนักมาก เพราะพี่น้ำตาลเป็นคนเปิดใจเยอะ มีอะไรก็แชร์กัน บางซีนพรีมต้องเล่นเป็นตัวเกศินีซึ่งเล่นก่อนที่พี่น้ำตาลจะเล่นอีกด้วยซ้ำ เราก็ต้องถามพี่เขาว่าจะเล่นประมาณนี้ พี่น้ำตาลว่ายังไง เพราะที่สุดมันคือ คาแร็กเตอร์ของเขา ต้องยึดตามเส้นที่เขาเล่นไว้ บางซีนถ้าเขาอยู่ในกอง เขาก็จะมาเล่นให้ดู เราจะได้วางไลน์ตัวเองถูก โชคดีที่ได้บัดดี้ที่ดี”

★ ก่อนละครจะออกอากาศแอบหวั่นใจไหม ความที่เป็นละครเกี่ยวกับผี บางคนอาจกลัว ไม่กล้าดู?

พรีม - “ทุกวันนี้ก็ยังมีนะคะ แต่ก็พยายามบอกทุกคนว่าไม่น่ากลัว (หัวเราะ) พรีมเข้าใจ เพราะตัวเองไม่ดูหนังผี แต่ก็มาเล่น ความที่ละครไม่ได้มีแต่น่ากลัว ยังมีกุ๊กกิ๊กในพาร์ตมินตรากับกวิน (มาสุ จรรยางค์ดีกุล) แล้วก็มีพาร์ตบาปกรรม อยากให้ลองเปิดใจดูค่ะ”

★ ทำการบ้านเยอะไหม?

พรีม - “เยอะเหมือนทุกเรื่องค่ะ เพราะแต่ละเรื่องต่างกัน แต่เรื่องนี้มีการสิงของผีเกศินีในตัวเรา บางคนอาจมองว่าพรีมเคยเล่นละครที่โดนสิงร่างมาแล้วในละคร ชั่วโมงต้องมนต์ เรื่องนั้นริชชี่เป็นเหมือนสาวประเภทสอง ลักษณะท่าทางค่อนข้างชัดเจน แต่พอ ผมอาถรรพ์ จะเป็นผู้หญิงกับผู้หญิงสิงกัน การจะแยกออกมันก็ยาก บวกกับคนที่มาสิงเราเป็นผีอาฆาตแค้น ทุกอย่างต้องเป๊ะ ทั้งสายตาและอารมณ์ข้างใน โชคดีที่เล่นกับพี่น้ำตาล (พิจักขณา) เลยทำให้การบ้านไม่หนักมาก เพราะพี่น้ำตาลเป็นคนเปิดใจเยอะ มีอะไรก็แชร์กัน บางซีนพรีมต้องเล่นเป็นตัวเกศินีซึ่งเล่นก่อนที่พี่น้ำตาลจะเล่นอีกด้วยซ้ำ เราก็ต้องถามพี่เขาว่าจะเล่นประมาณนี้ พี่น้ำตาลว่ายังไง เพราะที่สุดมันคือ คาแร็กเตอร์ของเขา ต้องยึดตามเส้นที่เขาเล่นไว้ บางซีนถ้าเขาอยู่ในกอง เขาก็จะมาเล่นให้ดู เราจะได้วางไลน์ตัวเองถูก โชคดีที่ได้บัดดี้ที่ดี”

★ ก่อนละครจะออกอากาศแอบหวั่นใจไหม ความที่เป็นละครเกี่ยวกับผี บางคนอาจกลัว ไม่กล้าดู?

พรีม - “ทุกวันนี้ก็ยังมีนะคะ แต่ก็พยายามบอกทุกคนว่าไม่น่ากลัว (หัวเราะ) พรีมเข้าใจ เพราะตัวเองไม่ดูหนังผี แต่ก็มาเล่น ความที่ละครไม่ได้มีแต่น่ากลัว ยังมีกุ๊กกิ๊กในพาร์ตมินตรากับกวิน (มาสุ จรรยางค์ดีกุล) แล้วก็มีพาร์ตบาปกรรม อยากให้ลองเปิดใจดูค่ะ”

★ เคยเล่นแนวผีมาบ้างไหม?

พรีม - “ไม่เคยเป็นผีอย่างนี้ เรื่องนี้คือผีจ๋า ผีจริงจังเรื่องแรก ถ้าพอจำกันได้พรีมเคยเล่นหนังผีเรื่อง ‘SCHOOL TALES เรื่องผีมี อยู่ว่า’ แต่หนังจะคนละมู้ดแอนด์โทน เต็มที่ก็เล่นอย่างใน ชั่วโมงต้องมนต์ ซึ่งจะคอมเมดี้ หรือถ้าเป็น เพลิงนาคา ก็จะแฟนตาซีมากกว่า”

★ บอกว่าเป็นคนไม่ดูหนังผี พอต้องมาเล่นไม่กลัวเหรอ?

พรีม - “ไม่ดูหนังผี แต่เชื่อเรื่องวิญญาณค่ะ ซึ่งเวลาเล่นละคร พรีมจะไม่ได้คิดว่าตัวเองอยู่ในเรื่องผีอยู่นะ แต่คิดว่าเป็นคนธรรมดาที่เพื่อนเสียไป แล้วอยู่ๆ เพื่อนก็กลับมาหา คิดแค่นั้น อีกอย่างตัวพรีมไม่ได้เล่นเป็นผี แค่โดนสิง เราแค่คิดว่าเหมือนประสบการณ์ชีวิตคนคนหนึ่งที่เจอผีแค่นั้น แต่ในชีวิตจริงไม่เคยเจอนะคะ ไม่อยากเจอด้วย”

★ ผลงานอื่นๆ ตอนนี้?

พรีม - “มีละครที่คุยไว้อยู่ แต่ยังไม่ได้ฟิตติ้ง ต้องรออีกนิด ขออุบไว้ก่อนค่ะ เท่าที่คุยไว้ยังมีอยู่แค่เรื่องเดียว”

★ ช่วงนี้ดูสวยขึ้นมาก ไปทำอะไรมาหรือเปล่า?

พรีม - “เรียนจบนี่แหละค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ เป็นจังหวะที่เราโตขึ้น เริ่มเป็นสาวเต็มตัว รูปร่างหน้าตาเริ่มเข้าที่ของมันเอง อย่างตอนที่เรียนอยู่เราจะให้ความสำคัญกับการเรียนแล้วก็การถ่ายละคร ต้องตื่นไปถ่ายละครให้ได้ ตอนนั้นเครียดหลายอย่าง ทำให้ไม่ได้ดูแลตัวเองเท่าที่ควร ด้วยเวลาอะไรหลายอย่างบางทีเราต้องเลือกที่จะนอนมากกว่า หรือเลือกจะต้องมีแรงไว้ก่อน พอเรียนจบก็มีเวลามากขึ้น นอกจากทำงานแล้วคือดูแลตัวเองทั้งอาหารการกินและออกกำลังกาย ก่อนหน้านี้ที่เป็นภูมิแพ้บ่อยก็เริ่มดีขึ้น ไม่ได้คิดว่าต้องลดน้ำหนักต้องโน่นนั่นนี่ แค่คิดว่าดูแลตัวเองยังไงให้ดีที่สุด เลยทำให้เราดูดีขึ้น ถ้าข้างในเราดี ข้างนอกก็จะดีเอง”

★ สวยขนาดนี้ หัวใจยังว่างอยู่อีกเหรอ?

พรีม - “เรียกว่าว่าง แต่ก็มีคนคุยๆ บ้าง (หัวเราะ) แต่ยังไม่มีใครที่เรียกว่าเป็นแฟน ด้วยนิสัยพรีมเป็นคนไม่ได้ตั้งความหวังเรื่องความรัก ถ้ามีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร ส่วนช่วงนี้แค่มีกำลังใจดีๆ เข้ามาบ้างแค่นั้น เหมือนอยู่ในวงจรเพื่อนอยู่แล้ว เลยจะไม่ได้มีสถานะอะไร เมื่อก่อนทุกคนซีเรียสกับการเรียน พอเริ่มมีพื้นที่ว่างก็โอเค งั้นแบบเป็นกำลังใจที่ดีต่อกันก็ไม่ได้เสียหายอะไร”

★ อาจเพราะเป็นคนที่ทำงานมาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า เลยไม่ได้โฟกัสเรื่องความรัก?

พรีม - “อาจจะด้วยค่ะ ด้วยคุณแม่ก็เป็นคนเก่ง ทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด พรีมก็ถูกสอนว่าเราทำเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาใคร ไม่ว่าจะเป็นทางใจหรือทางกาย ส่วนตัวเป็นคนชอบพึ่งตัวเอง ถึงบอกว่าถ้ามีใครเข้ามาในชีวิตก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็อยู่ได้ มีก็เป็นกำไร เพราะชีวิตเราสมบูรณ์อยู่แล้ว จริงๆ พอพรีมเป็นคนแบบนี้เลยดูเหมือนเป็นคนปิดตัวเอง แต่ไม่ได้ปิด แค่ตามมาให้ทันแล้วกัน (หัวเราะ) พอเราทำอะไรเองได้ก็ไม่ได้นั่งรอให้ใครมาเทกแคร์ ฉะนั้นถ้าใครจะเข้ามาก็อาจจะต้องตามเราให้ทันหน่อย ไม่ได้ปิด แต่คุณวิ่งมาทันหรือเปล่าเท่านั้นเอง”

★ แล้วมีสเป๊กผู้ชายแบบไหนไหมที่รู้สึกว่าเดี๋ยวจะวิ่งชะลอๆ ให้ก็ได้?

พรีม - “(หัวเราะ) ชอบๆๆ แบบวิ่งชะลอๆ หน่อยเพื่อให้ตามทันงี้เหรอ ถ้าพูดเรื่องรูปร่างหน้าตาจะพูดยาก พอเราโตขึ้นจะเริ่มรู้แล้วว่าสเป๊กไม่สำคัญเท่ากับการที่หัวใจเราต้องเท่ากัน เท่ากันในเชิงที่ว่ามองอะไรไปในทิศทางเดียวกัน ให้ความสำคัญอะไรเหมือนๆ กัน เช่นเรื่องครอบครัว การงาน อะไรแบบนี้ถึงจะไปกันได้ ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตาลักษณะ ภายนอกพรีมจะชอบคนสูงๆ นิสัยกวนๆ ไม่ชอบคนหวานโรแมนติก คือเป็นคนไม่ชอบความเพอร์เฟ็กต์ แต่ต้องมีความเป็นเพื่อนอยู่ในนั้น อย่ามาทรีตเราเป็นตุ๊กตาอย่างเดียว ไม่ต้องขี่ม้าขาวมาหาเรา แบบนั้นไม่เอา (หัวเราะ) สำหรับอายุไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ อย่างเราเป็นคนที่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก มีความคิดเป็นผู้ใหญ่สูงหน่อย แน่นอนอยู่แล้วว่าคนที่เราจะอยู่ด้วยได้ต้องเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน อาจจะอายุน้อยก็ได้ แต่ขอความคิดเป็นผู้ใหญ่ค่ะ”

★ ใฝ่ฝันอยากแต่งงานบ้างไหม?

พรีม - “หลังๆ พอเห็นรุ่นพี่หลายคนแต่ง เวลาไปร่วมงานก็มีจินตนาการบ้าง แต่ด้วยเราไม่ได้เป็นคนตั้งความหวังกับเรื่องพวกนี้ไว้กับใคร จะคิดเองเออเองเล่นๆ คนเดียว ว่าแบบงานแต่งงานของฉัน ไม่ใช่งานแต่งงานของเรา (หัวเราะ) มีภาพงานแต่งเรียบร้อย แต่ยังไม่เห็นหน้าเจ้าบ่าวค่ะ คือเป็นคนค่อนข้างยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง”

★ นิยามความรักคืออะไร?

พรีม - “ความรักเป็นเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งที่เอาแต่ใจ ซน จะทำอะไรก็ได้ หน้าที่ของเราคือต้องคอยให้ ทะนุถนอม พยายาม ประคับประคองเด็กน้อยคนนี้ไปให้ได้ แล้วต้องโตไปด้วยกันค่ะ”

★ ถามถึงเรื่องการดูแลคนในครอบครัวที่หลายคนชื่นชม?

พรีม - “หมายถึงพี่ชายใช่มั้ยคะ ทุกวันนี้ก็ยังดูแลเหมือนเดิม ตราบใดที่เรายังมีแรงทำงานก็ยังมีแรงดูแลทุกคนได้ พี่ชายเป็นดาวน์ซินโดรม เป็นโรคทางพันธุกรรม ไม่มียารักษา เราก็แค่คอยกระตุ้นพัฒนาการเขาด้วยทุกอย่างรอบตัว ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหนังสือ พาไปเที่ยว เวลาเจออะไรก็จะสอนเขา เพื่อให้เขาได้เปิดโลก แค่นี้ก็ช่วยกระตุ้นเขาได้เยอะแล้ว”

★ ความน่ารักที่คนชื่นชม คือไม่อายที่จะพาพี่ชายไปไหนด้วย?

พรีม - “นี่คือสิ่งที่ครอบครัวเราทำกันปกติ พรีมเชื่อเรื่องการเปิดโลก ต้องไปเจอคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่คนในครอบครัว แล้วก็ไม่เคยอายค่ะ แต่เราจะรู้ว่าบางอย่างสำหรับเขาอาจลำบาก ต้องใช้เวลา อย่างไปสนามบิน แล้วต้องสแกนนิ้ว เขาอาจต้อง ใช้เวลานานกว่าคนอื่น แต่ความที่เราอยู่กับสิ่งนี้มาตลอดก็ จะชิน บางครั้งอาจเจอคนอื่นมองด้วยสายตาที่มีคำถาม ในใจ แต่คุณแม่ก็เป็นคนที่พร้อมจะอธิบาย”

★ พี่ชายรู้ไหมว่าพรีมเป็นนางเอก?

พรีม - “อธิบายง่ายๆ เขาเหมือนเด็กคนหนึ่ง รู้ว่าพรีมอยู่ในทีวี รู้ว่าเวลาพรีมไปกองคือถ่ายทำหน้ากล้อง เขาก็เคยไปกองและชอบมากด้วย แต่คำว่าดาราหรือนางเอกเขาอาจจะยังไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่เขารู้ว่าการทำงานของพรีมคือจะเจอได้ในทีวีหรือตามป้ายโฆษณา เอาจริงๆ พี่ชายพรีมชื่นชอบดาราเหมือนกันนะ เขาชอบพี่เบิร์ด (ธงไชย) พี่บี้ (เดอะสตาร์) ชอบสายนักร้อง เพราะเขาชอบ ร้องเพลง”

★ อยู่วงการมากี่ปีแล้ว มองคำว่านางเอกไว้ยังไง?

พรีม - “9 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่อยู่วงการมาพรีมเห็นการเปลี่ยนแปลงของละครและบทบาทไปเยอะมาก กลายเป็นว่านางเอกมันไม่ตายตัวแล้ว ฉะนั้นพรีมจะมองที่บทบาทมากกว่า ว่าบทบาทที่เราเล่นสำคัญยังไงกับเรื่องนี้ หรือให้คุณค่าอะไรกับคนดูได้บ้าง ทุกวันนี้นางเอกเผลอๆ จะร้ายกว่านางร้ายด้วยซ้ำ ทุกอย่างกลมไปหมด เลยมองว่าเดี๋ยวนี้บทบาทสำคัญที่สุด พรีมอยากเล่นบทที่ทันคนสู้คน แบบที่คนในสังคมจริงๆ เป็นกัน ไม่มีคำว่าร้ายหรือดี แต่แค่ว่าถ้าโดนกระทำมาก็ต้องสู้กลับอยู่แล้ว ถ้าได้เล่นแบบนั้นน่าจะสนุกดีค่ะ”

★ เหลือสัญญากับช่อง 3 อีกกี่ปี?

พรีม - “น่าจะ 2-3 ปีค่ะ ยังไม่มีความคิดที่จะเป็นนักแสดงอิสระ ณ ตอนนี้ค่อนข้างพอใจกับการอยู่ที่ช่อง 3 ซึ่งเป็นครอบครัวเรามาตลอด เราไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง ทำปัจจุบันและมีความสุขกับปัจจุบันก็พอแล้วค่ะ”