Inside Dara
แตกหักเพราะเงินหลายร้อยล้าน? หมอเต๋า เลิกยุ่งเกี่ยวกับ เนย โชติกา

ชาตินี้พอแล้ว ทางใครทางมัน ร่วมงานกันไม่ได้อีกแล้ว ยังไม่ได้คิดจะฟ้องร้อง ระหว่างนางร้ายหน้าแจ่ม เนย โชติกา กับคุณหมอเต๋า นายแพทย์ประยุทธ พู่ทอง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการลดน้ำหนัก ก่อนหน้านี้ทั้งสองร่วมกันทำธุรกิจยาลดน้ำหนักยี่ห้อหนึ่ง ทำด้วยกันอย่างดี ช่วงระยะเวลากว่า 2 ปี โกยเงินไปหลายร้อยล้าน ดูเหมือนจะดีต่อไปได้เรื่อยๆ แต่แล้วก็ต้องถึงทางตัน ต้องแตกหักกันไป

คุณหมอทะเลาะกับเนย เลยไม่ได้ทำธุรกิจต่อด้วยกัน? "ไม่ได้ทะเลาะกันครับ ต่างคนต่างทำโปรดักส์ใหม่" จากกันด้วยดี "ก็...(ยิ้ม) ก็ไม่มี...อะไร ต่างคนต่างทำธุรกิจกันใหม่นั่นแหละ โห ที่ผ่านมาข่าวเต็มไปหมด ทั้งจริงและไม่จริง" กำลังรวบรวมหลักฐานกะจะฟ้องเนย จริงหรือไม่? "ตอนนี้ยังไม่มีนะ (หัวเราะ) ไม่มีแล้วมั้ง" ร่วมงานกับเนยมา 2 ปี? "ใช่ครับ" ช่วงที่ร่วมงานกันดีๆ เนยเป็นคนยังไง? "ก็...น่ารักครับ พูดเพราะ เล่นละครเก่ง (ยิ้ม) ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากนะ" แบ่งเงินกันไปหลายร้อยล้าน ลงตัวดี? "ไม่ถึงมั้ง ไม่ถึงหรอก ไม่รู้เหมือนกัน ต้องไปดูบัญชีก่อน มันเยอะ"

ตอนนี้สินค้าเพื่อความงามในรูปแบบต่างๆ จากดารามีมากมายหลายแบบ ทั้งที่ควักเงินลงทุนทำเอง โดนสินค้าจ้างมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็เยอะ คุณหมอจะแนะนำผู้บริโภคอย่างไรดี? "เดี๋ยวนี้ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งฉลาดขึ้นแล้ว แยกออกว่าผลิตภัณฑ์ไหนน่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์ไหนที่ดีจริง ผมคิดว่าดาราที่ทำผลิตภัณฑ์แนวนี้ออกมา ไม่ได้ซัสเซส (ประสบความสำเร็จ) ไปทุกคน เพราะผู้บริโภคเริ่มเข้าใจแล้วว่า โมเดลธุรกิจเป็นยังไง" คุณหมออยากบอกให้ประชาชนรู้เท่าทันดาราที่ขายของได้อย่างไร? "จะพูดยังไงดีแหละ...มันตัดสินใจยากนะ ต้องดูดีๆ ตอนนี้มีคนสองประเภท คนที่เชื่อมั่นดารา วิ่งเข้าหาดารา ถ้าสินค้าดีก็ดีไป กับคนอีกประเภทหนึ่งที่ไม่เชื่อมั่นดารา อย่างดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์แป้ง คนก็รู้ว่าจริงๆ ดาราไม่ได้ใช้แป้งยี่ห้อนั้นๆ หรอกนะ ชอบใครรักใครก็เลือกเอาอันนั้นก็แล้วกัน (ยิ้ม) สังเกตมั้ยแต่ก่อนเป็นช่วงเฟื่องฟูที่ดาราเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเครดิตของดารา คนมีชื่อเสียงใช้ได้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว รู้สึกมั้ย"

"คือผลิตภัณฑ์ที่ดีต้องปลอดภัย มันปลอดภัยหรือเปล่า กินแล้วมีผลข้างเคียงหรือเปล่า ถ้ามีผลข้างเคียงก็ไม่ควรไปกิน ได้ผลจริงหรือไม่ ผู้บริโภคเสียเงินแล้วมันไม่ได้ผล ตัวอย่างเช่น บอกกินแล้วขาว แต่แล้วไม่ขาว กินแล้วผมขึ้นแต่ผมมันไม่ขึ้น มันก็ไปหลอกเขาอ่ะ สินค้าส่วนใหญ่โอเวอร์เคลม (พูดเกินจริง) และต้องไม่มีผลข้างเคียง ผมว่าผู้บริโภคต้องเลือกให้ดี ก็มีหลายคนโทรมาถามว่าสินค้าตัวใหม่ของเขา (เนย) ดีมั้ย ผมบอกเลยว่าอย่ามาถามผมอีก ผมไม่รู้ ผมไม่ทราบจริงๆ ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยนะกับยาตัวใหม่ของเขา เราไม่ได้ทำด้วยกันอีกแล้ว คือเขาก็ดีนะ เขาไม่ได้ว่าผมให้ดูแย่ แต่เดี๋ยวผู้บริโภคก็คงรู้แหละ ว่ามีการแยกกันแล้วจริงๆ"

อยากผอมสวย แบบไม่ต้องกินยาที่วางขายเกลื่อนตลาดได้มั้ย? "จริงๆ การลดน้ำหนักมันต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อน ต้องเริ่มที่อยากลดก่อน ต้องกำหนดเป้าหมายในเชิงน้ำหนักและระยะเวลาที่ชัดเจน หลักๆ คือควบคุมอาหารที่ดี เลือกกินใช้สติ ค่อยๆ ปรับตัว พอน้ำหนักตัวลดเราจะรู้สึกดี และค่อยๆ อยากจะออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งเราก็ต้องออกกำลังกายให้พอเพียงด้วย ไม่ต้องกินยาก็ได้ครับ ถ้าจะลดน้ำหนักน้อยๆ สัก 4-5 กิโล แต่ถ้าจะลดน้ำหนักเยอะๆ ก็ต้องมีตัวช่วยด้วย ความล้มเหลวของการลดน้ำหนักคือ คุณไม่มีเป้าหมาย คุณไม่มีการวางแผน คุณนึกอยากจะลด ก็อดข้าวเย็นมื้อนั้นเลย โดยไม่ได้คิดเลยว่า พรุ่งนี้จะทำได้หรือเปล่า"

ทางฝั่งเนยมีการพูดถึงคุณหมอด้วยในบ้างประเด็น? "เหรอ เขาพูดว่าอะไร ผมไม่เคยได้ยินเลย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ (ยิ้ม)" ชัดเจนแล้วตอนนี้ ไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกับเนยอีกแล้ว? "ใช่ ผมเข้าใจแหละ ในทางธุรกิจเขาก็อยากจะเติบโต" มีหลายเสียงเม้าท์ว่า ที่ต้องแตกหักกัน เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน เคลียร์ไม่ลงตัว? "(ยิ้ม) ต้องถามคุณเนยครับ" เคลียร์บัญชีกันเรียบร้อยแล้ว? "ยังๆ ยังครับ ยังต้องเคลียร์บัญชีกันอีกอยู่ กำลังตรวจๆ กัน" ต่อไปนี้จะไม่ลงทุนร่วมกับดาราอีกแล้วหรือเปล่า? "(ถอนหายใจ) ผมก็ดีใจนะที่เคยได้เจอเขา คือมันไม่ขาดทุนก็โอเคๆ ไม่ขาดทุน ก็ดีครับที่เคยได้เจอกัน ก็ไม่แน่ครับต่อไปถ้าเจอพาร์ตเนอร์ที่ดีที่น่ารัก ก็ไม่แน่อาจจะทำร่วมกันอีกก็ได้"

ด้านเนย โชติกา บอกสั้นๆ กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะติดงานยุ่งมากๆ ถึงมากที่สุด จึงให้ผู้จัดการส่วนตัวตอบสั้นๆ แทนว่า "ก็แยกจากกันด้วยดี เคลียร์กันแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะ