Inside Dara
คันปากอยากเมาท์ : กระโถนลูกทุ่ง!

สัปดาห์นี้ก็จะพาทุกคนไปพูดถึงเรื่องราวที่สายเผือกสายเมาท์ต่างพากันหาคำตอบรัวๆ จนทำให้เรื่องราวซวยๆ ดันไปตกที่นักร้องลูกสาวอารมณ์ดีอย่าง “จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย” กับข่าวเมาท์ "นักร้องลูกทุ่งสาวโลก 2 ใบ".....

มาแล้วค่า มาแล้ว กลับมาพบกับพวกเรา “ชาวบ้าน 1/4” อีกเช่นเคยนะคะ พื้นที่ที่จะพาทุกท่านมาเมาท์เรื่องราวของวงการบันเทิง และสังคมไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์นี้ก็จะพาทุกคนไปพูดถึงเรื่องราวที่เรียกได้ว่าสายเผือกสายเมาท์ต่างพากันหาคำตอบรัวๆ จนทำให้เรื่องราวซวยๆ ดันไปตกที่นักร้องลูกสาวอารมณ์ดีอย่าง “จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย” ที่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เธอกันอย่างหนักหน่วง ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องของเธอ และไม่เกี่ยวกับเธอเลย จนส่งผลให้เธอนั้นมีอาการ “เครียด” และ “โรคแพนิค” ของเธอก็กำเริบขึ้นมาด้วย

โดยต้นเรื่องของเรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นจากเพจดังในโลกออนไลน์ออกมาใบ้ว่ามี “นักร้องลูกทุ่งสาวโลก 2 ใบ” สับรางเก่งไม่ไหว แต่สับไปสับมา กลับมีปัญหารถไฟปะทะกันจนเกิดเรื่องอีรุงตุงนัง เกือบถึงขั้นลงไม้ลงมือด้วยปืน งานนี้ชาวเน็ตสายเผือกก็ทำงานกันตามหาว่านักร้องสาวคนดังกล่าวเป็นใครกันแน่ จนสรุปท้ายหวยดันมาตกที่จ๊ะ กลายเป็นว่าเธอต้อง “รับจบเรื่องนี้” ซึ่งชาวเน็ตหลายคนก็ต่างพากันออกมาอัดคลิปใบ้ว่าจ๊ะแน่นอน แถมยังมีคนเข้าไปวิจารณ์ “สุมไฟ” กันอย่างสนุกสนาน แรงถึงขั้น “พูดหยาบ เสียๆ หายๆ” ด้วย

งานนี้ทำเอาจ๊ะสุดจะทนเพราะไม่ว่าจะมี “ข่าวนักร้องลูกทุ่งเสียๆ หายๆ” เมื่อไรก็ถูกโยงไปที่เธอทุกครั้ง โดยเธอได้ออกมาไลฟ์สดเปิดใจทั้งน้ำตาระหว่างขายของว่า “นักร้องลูกทุ่งสาวมีโลก 2 ใบไม่ใช่เธอ และตั้งแต่จ๊ะเลิกกับอดีตแฟนหนุ่ม “แจ๊ค ธนพล” ก็ไม่มีโลกซักใบเลย” นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาแชร์คลิปจ๊ะที่นั่งคุยโทรศัพท์กับแม่ โดยที่มีสภาพเครียดอย่างเห็นได้ชัด จ๊ะ ระบายความรู้สึกของเธอกับคุณแม่ว่า “อะไรมันก็เป็นหนูไปหมด เขาก็เฉลยแล้วว่ามันเป็นใคร แต่ก่อนที่จะเฉลย อะไรก็เป็นเราไปหมดหนูก็เลยเบื่อ แถมโรคแพนิคหรือโรควิตกกังวลที่จ๊ะเป็นอยู่และต้องกินยาทุกวันกำเริบขึ้นด้วย เพราะจ๊ะเครียดทั้งเรื่องงานเยอะ แถมพอมีข่าวนักร้องลูกทุ่งมีโลก 2 ใบก็เข้าไปอ่านคอมเมนต์ ทำให้จ๊ะมีความรู้สึกเครียดขึ้นมาอีก”

แม้ว่าสุดท้ายแล้วทางเพจต้นเรื่องที่ออกมาเปิดเผยเรื่องจะมาเฉลยแล้วว่าไม่ใช่จ๊ะ แต่เป็นนักร้องลูกทุ่งคนอื่นแทน แต่สิ่งที่จ๊ะเจอ มันไม่ใช่แค่ว่า “พอไม่ใช่ทุกอย่างก็จบ” แต่มันเป็นเรื่องของ “ความรู้สึก” และ “ผลกระทบ” ที่ตามมาทั้งเรื่องภาพลักษณ์ จิตใจ รวมไปถึงร่างกายของเธอด้วย สิ่งเหล่านี้ต้อง “วนอยู่กับเธอ” ติดตามตัวไปอีกสักพักใหญ่ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน ส่วนคนที่ออกมาใบ้ ออกมาคอมเมนต์นั้น พอไม่ใช่จ๊ะก็แค่จบไป ไม่ได้มีผลกระทบอะไร แค่ “กลับไปใช้ชีวิต” ปกติอย่างมีความสุข

เอาเป็นว่าเรื่องนี้ถ้าเรามี “สติ” ในการคอมเมนต์ หรือวิจารณ์ใครก็แล้วแต่สักนิดหนึ่ง หรือมีความรู้สึก “เอ๊ะในใจ” บ้างว่าสิ่งที่กำลังจะทำลงไป มันจะ “ส่งผลกระทบ” ต่อใคร หรือด้านใดบ้าง เราทุกคนอย่าลืมเลยว่า หลายๆ สิ่งบนโลกนี้ที่เราทำแล้วไม่สามารถเรียกกลับคืนมาให้เหมือนเดิมได้ 2 สิ่งนั้นก็คือ “คำพูด และ ความรู้สึก” ตัวเราเองอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่ฟังนั้น “อาจจะจำ หรือต้องอยู่กับมันจนวันตาย”

เพราะฉะนั้นการใช้โซเชียลแต่ละครั้ง บางทีต้องมี “ความเกรงใจ” กันบ้าง อย่างที่เสมอไม่ใช่เห็นว่าเป็น “ดาราคือคนสาธารณะ” แล้วจะไปว่าหรือต่อว่าแบบรุนแรงได้ทุกครั้ง และที่สำคัญแม้ว่า จ๊ะ จะเป็นสาวตรงไปตรงมาและสาวสายฮา แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะเป็นที่ระบาย หรือเป็น “กระโถน” ที่ให้คนเฮมาต่อว่าหรือ “สาดเทความผิด สิ่งเสียๆ” ใส่เธอได้ง่ายๆ ในทุกๆ เรื่อง เอาเป็นว่าไม่ว่าเรื่องเมาท์ในวงการจะเป็นเรื่องของใคร “ก็ไม่ควรไปถล่มหรือต่อว่าหรือมีอารมณ์ร่วมในข่าวขนาดนั้น” เพราะสุดท้ายแล้ว เพื่อนรัก เพื่อนสนิท มิตรสหายที่กดไลก์และซัพพอร์ตคุณอยู่ อาจจะไม่ได้ยืนจับมือเคียงข้างคุณในวันที่ยืนอยู่ “หน้าบัลลังก์ศาล” นะคะ แต่เอาจริงๆ เรื่องนี้แบบไม่ต้องให้บอก เพราะมีตัวอย่างให้เห็นเกลื่อนกลาดทั่วโลกออนไลน์แล้ว สุดท้ายเราอาจจะถูกคนอื่นเอาไปเมาท์ได้ว่า “ไหว้สวย รวยกระเช้า” แทนนะคะ